ตอนที่ 51 บาร์ตันปรากฎตัว!
ตอนที่ 51 บาร์ตันปรากฎตัว!
ในฐานะมหาเศรษฐี เอริคไม่จำเป็นต้องเข้างานตามเวลาเหมือนคนทั่วไป ดังนั้นเขาจึงมีเวลามากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่กับลูกสาวบุญธรรมของเขา เอริคพาสกายไปกินอาหารเต็มที่ที่ร้านอาหารระดับมิชลิน จากนั้นพาไปสนุกสุดเหวี่ยงในสวนสนุก และปิดท้ายด้วยการไปช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า
ตลอดทาง สกายดูเก็บตัวและสงวนท่าที แม้เธอจะยังเด็ก แต่ประสบการณ์ชีวิตที่ไม่ธรรมดาทำให้เธอมีความคิดที่โตเกินวัย เธอรู้ดีว่าเธอได้รับชีวิตที่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่มีทางได้สัมผัส ทำให้ตอนนี้ในใจของเธอจึงมีความกังวลมากกว่าความสุขเสียอีก
ระหว่างการเดินทาง สกายเหมือนหุ่นเชิดที่ไม่แสดงความเห็นใด ๆ เธอปล่อยให้เอริคเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง ไม่ว่าจะไปที่ไหน เธอก็ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทำให้เอริครู้สึกหนักใจ
จนกระทั่งเดินผ่านหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์ สกายก็เริ่มแสดงปฏิกิริยาบ้าง ก่อนที่เธอจะหยุดยืนที่หน้าประตู มองไปที่โปสเตอร์ขนาดใหญ่บนกำแพงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอยากได้
“สกาย อยากได้คอมพิวเตอร์ไหม?” เอริคมองโปสเตอร์แล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย บนโปสเตอร์มันเขียนเอาไว้ว่า ‘ประมวลผลเร็ว 8M ฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ 340M รองรับฟลอปปีดิสก์ 5.25 และ 1.44’
‘นี่เรียกว่าคอมพิวเตอร์เหรอเนี่ย?’ เอริคพึมพำในใจ ‘แค่เล่นหมากรุกก็ค้างแล้ว!’
แต่เมื่อเอริคสังเกตเห็นแววตาเปล่งประกายของสกาย เขาก็ก้มตัวลงและเกลี่ยผมยาวดำเงาของเธออย่างอ่อนโยน “สกาย ถ้าอยากได้ก็บอกสิ”
สกายเม้มปากเล็กน้อย ก่อนพูดเบา ๆ “เอริค . . . บ้านของคุณโจนส์ก็มีคอมพิวเตอร์ค่ะ หนู . . .”
“เข้าใจแล้ว ถ้าอยากได้ ก็ซื้อเลย!” เอริคพูดด้วยรอยยิ้ม และอุ้มตัวสกายขึ้นมาเดินตรงเข้าศูนย์คอมพิวเตอร์ โดยไม่สนใจพนักงานขายที่รีบเข้ามาเสนอสินค้า
“ฉันต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในร้านคุณ!” เอริคพูดกับผู้จัดการร้านด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำให้สกายมองเอริคด้วยความตกตะลึง ไม่ทันไรรถขนส่งสิบคันก็ลำเลียงคอมพิวเตอร์ทั้งหมดไปที่คฤหาสน์ของเขา
ณ คฤหาสน์
“ขอบคุณค่ะ เอริค แต่หนูไม่ต้องการเยอะขนาดนี้ แค่เครื่องเดียวก็พอแล้ว” สกายพูดเสียงเบาพลางดึงชายเสื้อเอริคเบา ๆ เธอคิดว่าในอนาคตคงต้องระมัดระวังไม่แสดงออกว่าอยากได้อะไรอีก เพราะพ่อบุญธรรมของเธอคงทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้อีกแน่ ๆ
เอริคหัวเราะเบา ๆ พลางลูบผมของสกายด้วยความเอ็นดู “สกาย ไม่ต้องกังวล เราไม่ได้ขาดเงิน เพราะงั้นอยากได้อะไรก็แค่ซื้อ!”
“เอริค!” สกายถอยหลบจากมือเขา และมองเอริคตาขวาง
“อะไรเหรอ? อ๋อ โอเค ๆ เข้าใจแล้ว ฉันจะเก็บเครื่องที่ดีที่สุดไว้ให้เธอ ส่วนที่เหลือฉันมีแผนจะใช้มันทำอย่างอื่น เดี๋ยวเธอจะได้รู้เอง” เอริคพูดพลางเลือกคอมพิวเตอร์ที่มีสเปกดีที่สุดและยกไปไว้ในห้องนอนของสกาย
“โอเค ตอนนี้ไปพักผ่อนก่อน บ่ายนี้เราจะออกไปซื้อเสื้อผ้ากัน”
. . .
หลังจากสกายหลับสนิท เอริคก็เริ่มลงมือปรับแต่งคอมพิวเตอร์ในกองที่เพิ่งขนมา เขามีความตั้งใจแน่วแน่ว่าในเมื่อเขาอุปการะสกายแล้ว เขาจะต้องทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด ถ้าเธอต้องการอะไร เขาจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ
ถึงแม้ว่าตอนนี้เทคโนโลยีของโลกจะดูเหมือนล้าหลัง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับไม่ใช่เลย วาคานด้าสามารถปิดตัวเองจากโลกภายนอกมาได้หลายร้อยปี ฮาเวิร์ด สตาร์คสร้างสร้างต้นแบบเครื่องปฏิกรณ์อาร์คได้ตั้งหลายทศวรรษก่อน หรือแม้แต่ชีลด์ที่กำลังสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินลอยฟ้าอยู่ขณะนี้ ซึ่งนี่ยังไม่ได้รวมถึงห้องทดลองใต้ดินของเอริคที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าของในตลาดถึง 20 ปี
แต่เทคโนโลยีที่คนทั่วไปใช้งานอยู่นั้นยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วไป เพราะในความเป็นจริงแล้วระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรขนาดใหญ่สามารถพัฒนาได้รวดเร็วหลายเท่าตัวภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่กลับไม่มีการนำมาปรับใช้ในวงกว้าง
ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของผู้คน หรืออาจเป็นเพราะองค์กรลับบางแห่งต้องการรักษาเทคโนโลยีเหล่านี้ไว้เป็นความลับ . . .
ดังนั้นเอริคที่ต้องการอัพเกรรดคอมพิวเตอร์ของสกายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่เขาก็ไม่สามารถทำให้มันล้ำยุคเกินไปได้ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องดัดแปลงด้วยชิ้นส่วนที่มีอยู่เหล่านี้เท่านั้น
. . .
เมื่อสกายตื่นขึ้นจากการงีบ เธอก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ห้องทำงานข้างห้องนอนของเธอที่เคยมีชั้นวางหนังสือเต็มไปหมด ตอนนี้กลับถูกแทนที่ด้วยโต๊ะเล็กที่พอดีกับความสูงของเธอ และตรงข้ามกับโต๊ะที่ควรจะเป็นกำแพงเปล่า แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดเต็มทั้งผนัง!
“เอริค นี่มันอะไรกันคะ?” สกายถามด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย
“ฉันอัพเกรดคอมพิวเตอร์ให้เธอ ลองใช้ดูสิ” เอริคยิ้มพลางหยิบแป้นพิมพ์สีชมพูขนาดเล็กน่ารักออกมาให้ ซึ่งสกายสังเกตเห็นว่าแป้นพิมพ์นี้มันไม่มีสายเชื่อมต่อแม้แต่เส้นเดียว!
“เทคโนโลยีไร้สายง่าย ๆ น่ะ” เอริคยักไหล่ก่อนจะพาสกายไปที่โต๊ะทำงานและให้เธอนั่งลง
“ดูนี่สิ กดตรงนี้เพื่อเปิดคอมพิวเตอร์ . . . ฉันอัพเกรด CPU และฮาร์ดดิสก์ของเธอแล้ว . . . แล้วยังอัพเกรดโปรแกรมระบบทั้งหมดให้ด้วย . . .”
เอริคพูดอย่างนุ่มนวล ขณะที่สกายเริ่มสนใจและหลงใหลในคอมพิวเตอร์ ทำให้เธอวางความสับสนไว้ชั่วคราวแล้วตั้งใจเรียนรู้คอมพิวเตอร์ตรงหน้า
ทันใดนั้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ก็เริ่มมีโค้ดปรากฏขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อมกับไฟล์ที่ถูกเปิดและปิดเป็นระยะ . . .
. . .
หลังจากปล่อยให้สกายสนุกกับของเล่นใหม่ของเธอ เอริคก็เดินออกไปเงียบ ๆ เพราะเขาเพิ่งได้รับสายโทรศัพท์ที่หลังจากใช้เวลากว่าหนึ่งปี ในที่สุดโมลที่เขาส่งไปหาข่าวของบาร์ตันก็ได้ข้อมูลกลับมาสักที
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เอริครู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เขาเคยคิดว่าการตามหาบาร์ตันไม่น่าจะยากเย็นขนาดนี้ แต่มันกลับต้องใช้เวลาหนึ่งปีถึงจะได้ข้อมูลของเขามา
ที่บาร์ซิสเตอร์มาร์กาเร็ต โมลยิ้มแหย ๆ ขณะพูดกับเอริคหลังถูกตั้งคำถาม
“อย่ามาโทษฉันนะที่ทำงานช้า! เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าเขาไปทำให้ใครโกรธเข้า ถึงได้ไปหลบอยู่ในห้องใต้ดินของเศรษฐีตั้งปีหนึ่ง ถ้าหากเพื่อนของฉันไม่เผลอตกลงไปโดยบังเอิญ เราก็คงหาเขาไม่เจอเหมือนกัน!”
“ห้องใต้ดิน? หลบอยู่เป็นปี?” เอริคทำหน้าฉงน “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ใครมันจะบีบบังคับฮอว์คอายในอนาคตจนต้องทำขนาดนี้? แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน?”
“เขาหนีไปแล้ว!” โมลตอบพลางยักไหล่พร้อมทำหน้ายอมจำนน “เขามีฝีมือเก่งมาก เพื่อนฉันสู้ไม่ไหว แถมยังถูกทำให้สลบอีก”
เอริคกลอกตาด้วยความเหนื่อยใจ “แล้วนายจะเรียกฉันมาทำไม?”
“อ้อ พอดีเพื่อนฉันติดเครื่องติดตามไว้กับเขาน่ะ!”
“ห๊ะ? เครื่องติดตาม? เพื่อนนายพกของพวกนี้ติดตัวด้วย?” เอริคหรี่ตามองด้วยรอยยิ้ม “แล้วเขาไปทำอะไรแถวห้องใต้ดินของเศรษฐี?”
“เอ่อ คือว่า . . . เขา . . .” โมลเริ่มพูดติดอ่างอย่างตอบไม่ถูก
“ช่างเถอะ อย่าคิดมาก” เอริคตบบ่าของโมล “บอกเพื่อนของนายด้วยว่าอย่ามายุ่งกับบ้านฉัน! ฉันไม่อยากให้เขาตกลงไปในห้องใต้ดินของฉันเหมือนกัน!”
“เอ่อ ได้ครับ ฮ่า ๆ ได้เลย” โมลพยักหน้ารับอย่างเร่งรีบ
“เอาล่ะ ส่งตำแหน่งของบาร์ตันมา แล้วเดี๋ยวจะมีคนโอนเงินที่เหลือไปให้!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …