ตอนที่แล้วตอนที่ 48 ในที่สุดฉันก็พบเธอจนได้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 50 อีเทอร์นอล และ เอบีนอร์มอล!

ตอนที่ 49 สัญญา 10 ปี!


ตอนที่ 49 สัญญา 10 ปี!

“สกาย นี่จะเป็นบ้านของเธอตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป! เป็นยังไงบ้าง? สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ!” เอริคยืนอย่างภาคภูมิใจอยู่หน้าคฤหาสน์ของเขา พร้อมอวดบ้านใหม่ให้ลูกสาวบุญธรรมดู

ตอนนี้สกายกำลังตกตะลึงอย่างแท้จริง เธอเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่จำความได้ ครอบครัวอุปถัมภ์สองครอบครัวก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงชนชั้นกลางธรรมดา ๆ ทำให้ในช่วงชีวิตสั้น ๆ เจ็ดหรือแปดปีของเธอ คฤหาสน์หรูเช่นนี้เธอเคยเห็นเพียงในทีวีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้จะตกตะลึง สกายก็ยังคงไม่มีสีหน้าดีใจ เพราะในใจเธอคิดว่าไม่นานเธอก็คงจะถูกส่งคืนอีกครั้ง เหมือนสินค้าที่ไม่มีใครต้องการ . . .

เอริคไม่รู้ว่าลูกสาวบุญธรรมของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่เขาจะพาสกายเดินชมรอบ ๆ คฤหาสน์อย่างกระตือรือร้น บอกเธอว่าไหนคือห้องหนังสือ ไหนคือห้องบันเทิง และไหนคือห้องอาหาร . . .

“ดูนี่สิ! นี่คือความภาคภูมิใจของตระกูลแลนเซอร์! อ้อ แล้วจากนี้ไป นามสกุลของเธอจะเปลี่ยนเป็นแลนเซอร์นะ สกาย แลนเซอร์!” เอริคพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมมอบนามสกุลให้เธออย่างตั้งใจ แต่สกายดูเหมือนจะไม่สนใจมันมากนัก เพราะสายตาของเธอกำลังจับจ้องสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอยู่

ซึ่งนั่นก็คือห้องนั่งเล่นที่ใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร ที่ภายในห้องเอริคได้สร้างรางรถแม็กเลฟลอยฟ้าขนาดจิ๋วเอาไว้ด้านใน

รางของรถไฟนั้นกว้างเพียงฝ่ามือ แต่ทอดยาวไปทั่วทั้งห้องนั่งเล่น มีทั้งทางตรง ทางโค้ง ทางลาดชันขึ้นลง และเชื่อมโยงกันเป็นวงจรปิดทั่วห้อง บนรางนั้น มีรถไฟขนาดเล็กวิ่งด้วยความเร็วสูงจนแทบเป็นภาพลาง ๆ

“นี่คือความก้าวหน้าที่ตระกูลแลนเซอร์มอบให้กับโลก รถไฟแม็กเลฟ!” เอริคเดินมาหาสกาย และวางมือลงบนไหล่ของเธออย่างอ่อนโยน “โมเดลนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด ตามทฤษฎีแล้ว มันสามารถวิ่งได้ต่อเนื่องถึงเจ็ดสิบปี จนกว่าวัสดุจะเสื่อมสภาพ”

“มันให้คนขึ้นได้ไหมคะ?” คำถามแรกที่สกายเอ่ยออกมา ทำให้เอริครู้สึกดีใจมาก เพราะเขารู้แล้วว่าวิธีดึงดูดความสนใจของเด็กที่มีโลกส่วนตัวสูงเช่นนี้ คือการนำเสนอสิ่งที่เธอสนใจ

“เกรงว่าจะไม่ได้ มันเล็กเกินไปและเร็วเกินไป ไม่มีใครขึ้นไปได้อย่างปลอดภัย” เอริคย่อตัวลงชี้ไปที่รถไฟที่วิ่งผ่านด้วยความเร็วสูง “ความเร็วของมันสามารถทำได้ถึง 2 มัค ซึ่งมันเร็วกว่ากระสุนปืนเสียอีก!”

สกายดูผิดหวังเล็กน้อย และเธอก็ไม่เข้าใจว่าความเร็ว 2 มัคมันคืออะไร เธอรู้เพียงแค่ว่ารถไฟตรงหน้ามันเป็นเพียงแค่ของประดับเล่นที่เธอสัมผัสหรือใช้งานจริงไม่ได้ . . .

เมื่อเอริคเห็นสีหน้าเสียใจของลูกสาวบุญธรรมเขาจึงรีบพูดปลอบใจทันที “ไม่ต้องห่วงนะสกาย ตอนนี้เรากำลังสร้างเส้นทางรถไฟแม็กเลฟลอยฟ้าจริง ๆ สองสาย ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานภายในอีกสามปี! ในอนาคต เส้นทางเหล่านี้จะถูกสร้างทั่วทั้งอเมริกาและทั่วโลก! เดินทางได้เร็วกว่าเครื่องบินแน่นอน!”

สกายเม้มปากไม่พูดอะไร

เอริคเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าลูกสาวบุญธรรมคนนี้ปิดกั้นตัวเองไว้อย่างแน่นหนามาก

“เอาล่ะ สกาย วันนี้เป็นวันแรกที่เราเจอกัน ดังนั้นฉันจะให้ของขวัญเธอหนึ่ง บอกฉันสิว่าเธอต้องการอะไรมากที่สุด?”

สกายยังคงนิ่งเงียบ มองรถไฟที่วิ่งผ่านด้วยสายตาเหม่อลอย

เอริคขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่วิธีที่ควรจะเป็นเพราะมันไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ เลย! ด้วยเหตุนี้เองเอริคจึงจับไหล่ของสกายแน่น และจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ “ฟังนะ สกาย! ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไรมากที่สุด!”

สกายเบิกตากว้างทันที เพราะเธอไม่เชื่อคำพูดของเอริค

“เธออยากเจอพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอใช่ไหม?”

ดวงตาของสกายเบิกกว้างยิ่งขึ้นแสดงความปรารถนาและความกลัวอย่างลึกซึ้ง

“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่โทษเธอหรอก ไม่มีเด็กกำพร้าคนไหนที่ไม่คิดถึงพ่อแม่ของตัวเอง” เอริคลูบหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน แล้วจัดผมที่ปกปิดใบหน้าเธอ “ฉันรู้ว่าพ่อแม่ของเธออยู่ที่ไหน!”

คำพูดของเอริคเหมือนฟ้าผ่าที่ผ่าลงกลางใจของเธอ ทำให้เธอตัวสั่นไปทั้งร่าง และคว้าแขนของเอริคเอาไว้แน่น มือเล็ก ๆ สั่นระริก ริมฝีปากพยายามจะพูด แต่ไม่อาจเปล่งคำใดออกมา

“ขอโทษนะ สกาย พ่อแม่ของเธอพิเศษมาก ฉันจึงบอกตอนนี้ไม่ได้ แต่สิ่งที่ฉันบอกเธอได้ก็คือ พวกเขายังมีชีวิตอยู่!” เอริคอุ้มสกายขึ้นอย่างง่ายดาย ตัวเล็ก ๆ ของเธอแทบไม่มีน้ำหนักเลยสำหรับเขา

“เอาแบบนี้ดีไหม? เรามาทำข้อตกลงกัน เธออายุแปดขวบแล้ว อีกสิบปี เมื่อเธอโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันจะบอกเรื่องพ่อแม่ของเธอ ตกลงไหม?”

“สิบปี?!” สกายยกมือกำหมัดเล็ก ๆ ของเธอขึ้นมาจนเกือบจะชกหน้าของเอริค

“เฮ้! ใจเย็น ๆ เด็กน้อย! ถึงฉันจะบอกเธอตอนนี้ เธอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เธอต้องโตขึ้นก่อนอย่างน้อย ต้องมีพลังพอที่จะไปหาพวกเขาเองได้! ดังนั้น สิบปี ตกลงไหม?” เอริคพูดด้วยรอยยิ้มพลางจับหมัดเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้

“ตกลง! วันเกิดครบสิบแปดของหนู คุณต้องบอกหนู!” ดวงตาของสกายเต็มไปด้วยความหวังและความมุ่งมั่น

“แน่นอน ฉันรักษาคำพูดเสมอ! แต่มีเงื่อนไขนะ!”

ร่างของสกายแข็งทื่อขึ้นมาทันที “หมายความว่าไงคะ? เงื่อนไขอะไร?”

ริมฝีปากของเอริคยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เอาแบบนี้ดีไหม เธอต้องพูดกับฉันอย่างน้อยวันละสิบประโยคตลอดสิบปีนี้ โอเคไหม?”

“สิบประโยคต่อวัน?” ดวงตาของสกายเบิกกว้างอีกครั้ง เธอไม่เคยคิดเลยว่าเอริคจะตั้งเงื่อนไขแบบนี้

“ใช่ แค่สิบประโยคต่อวัน รวมแล้วก็ประมาณสามร้อยประโยคต่อเดือน ถึงฉันจะไม่อยู่ แต่ตัวเลขนี้ต้องสะสมให้ครบ ต้องครบสามร้อยประโยคทุกเดือน และเธอต้องพูดกับฉันเองโดยสมัครใจ โอเคไหม?” เอริคพูดด้วยสีหน้าที่ดูคล้ายจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

สกายกำหมัดแน่น ก่อนจะเอียงศีรษะมองเขานิ่ง ๆ อยู่นาน จนกระทั่งในที่สุดเธอก็คลายมือออกอย่างอ่อนแรง “ได้ค่ะ สิบประโยคก็สิบประโยค!”

เอริคหัวเราะออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะอุ้มสกายขึ้นไปยังห้องนอนขนาดใหญ่บนชั้นสอง แล้ววางเธอลงบนเตียงแบบเจ้าหญิง “วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ หลับให้สบายนะ พรุ่งนี้เช้าเราจะออกไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เธอกัน และอีกอย่างเธอจะเรียกฉันว่าเอริคก็ได้ แต่ถ้าเธออยากเรียกฉันว่าพ่อ ฉันก็ไม่ขัดหรอกนะ!”

“โอเคค่ะ” สกายลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เอริค”

เอริคยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ แล้วเดินออกไปปิดประตูห้องให้เธอ

ทันทีที่ประตูปิดลง เอริคก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ก่อนที่เขาจะแบมือขวาออก บนมือของเขาในตอนนี้มีเส้นผมเส้นบาง ๆ นอนนิ่งอยู่บนฝ่ามือ “เอาล่ะ ลองดูสิว่าจะได้ผลหรือเปล่า!”

. . .

ในตอนที่คฤหาสน์หลังนี้ถูกสร้างขึ้น เอริคได้ขอให้วิศวกรออกแบบโครงการป้องกันนิวเคลียร์ใต้ดินไว้ด้วย ซึ่งนี่เป็นเรื่องปกติของมหาเศรษฐีอเมริกันทั่วไป

พื้นที่ป้องกันนิวเคลียร์ใต้ดินแห่งนี้มีขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล เอริคได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็นศูนย์วิจัยและทดลองทางวิทยาศาสตร์ โดยมีนักวิจัยกว่า 100 คนจากไฮดราที่เขาพากลับมาจากอาร์กติกกำลังซ่อนตัวทำงานอยู่ที่นี่

สิ่งที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ชั้นใต้ดินที่ป้องกันนิวเคลียร์นี้ได้ไม่มีทางเข้าออกที่มองเห็นได้ และทางเดียวที่จะเข้าถึงได้คือผ่านห้องทำงานของเอริค

ใต้พื้นห้องทำงานนี้ถูกสร้างด้วยแผ่นเหล็กหนาถึงสองเมตร เอริคยืนอยู่ในห้องทำงานก่อนจะยกมือขึ้นเบา ๆ ไปทางพื้น ทันใดนั้นแผ่นเหล็กที่หนาแน่นเหล่านั้นก็ดูราวกับกำลังละลายและยุบตัวลง เผยให้เห็นช่องทางแคบ ๆ สู่ด้านล่างที่ค่อย ๆ เปิดออกมา

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด