ตอนที่แล้วบทที่ 82 สู้จนสลบ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 84 ทักษะการขับรถของมือใหม่!

บทที่ 83 คนแปลกหน้าผู้มีพิรุธ!


ช่วยดูหน่อยว่าสำนวนเป็นอย่างไร ผิดตรงไหนช่วยแจ้งหน่อย ผมจะ ขยันแปลล่ะ  แจ้งก่อนเรื่องนี้คนเขียนมันหยุดเขียน ไปนาน แล้วครับ

--------------------------------------------------------------

หลินซินหรูหลับไปตั้งแต่บ่ายสองโมง ตื่นอีกทีก็หกโมงเย็นแล้ว

ทันทีที่ลืมตาขึ้น เธอก็ยังทำท่าระแวงเล็กน้อย มองซ้ายมองขวา จนกระทั่งเห็นเฉินโม่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงได้ผ่อนคลายลง

“พี่โม่ กี่โมงแล้วคะ?” เธอถามพลางขยี้ตา มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นฟ้าเริ่มมืดแล้ว

“หกโมงเย็นแล้ว ตื่นได้แล้ว เราออกไปกินข้าวกัน แล้วฉันจะไปซื้อรถด้วย” เฉินโม่บอก

“ซื้อรถ? จะซื้อรถอะไรเหรอ?” หลินซินหรูถามอย่างสนใจ

“เธอชอบรถแบบไหนล่ะ? ฉันไม่ค่อยได้ขับรถอยู่แล้ว ซื้อมาให้เธอขับ” เฉินโม่ยิ้ม

“เชื่อตายล่ะ” หลินซินหรูส่ายหัว “ฉันเพิ่งสอบใบขับขี่ได้เอง ยังไม่เคยขับจริงจังเลยนะ ไม่กลัวฉันขับรถใหม่เป็นรอยเหรอ?”

“รถเป็นรอยไม่เป็นไร ขอแค่เธอไม่เป็นอะไรก็พอ”

เฉินโม่ยิ้ม แล้วลุกขึ้นอุ้มหลินซินหรูเข้าห้องน้ำ ทั้งคู่ “ต่อสู้” กันอีกยก หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เตรียมตัวออกจากบ้าน

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเฉินโม่ก็สั่น มีข้อความเข้ามา

เป็นข้อความจากมู่ซีเยว่ เธอถามว่าเฉินโม่มีธุระตอนเย็นรึเปล่า เธอกำลังทำอาหารเย็นอยู่ที่บ้านจ้าวเยว่ ถ้าเฉินโม่จะมาก็จะได้ทำเผื่อ

เฉินโม่คิดว่ายังไงก็ต้องออกไปข้างนอกอยู่แล้ว ก็เลยตอบกลับไปว่าไม่ไป จะไปกินข้าวข้างนอก

หลินซินหรูเห็นข้อความจากมู่ซีเยว่ ก็เลยถามขึ้น “พี่โม่ นี่รุ่นพี่ที่เราเจอเมื่อวานรึเปล่าคะ?”

“อืม”

“พี่โม่นี่ฮอตจริงๆ เลยนะคะ” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่หลินซินหรูก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้

ถึงจะตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลกระทบจากเหตุการณ์เฉียดตายรึเปล่า ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวและผูกพันกับเฉินโม่มากขึ้น กลัวว่าจะเสียเขาไป

“หึงเหรอ?” เฉินโม่เห็นท่าทางของหลินซินหรู ก็ยิ้ม แล้วตีเบาๆ ที่ก้นเธอ

“ถ้าฉันบอกว่าหึงล่ะ?” หลินซินหรูยิ้ม แล้วคว้าแขนเฉินโม่ไว้

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ต่อไปนี้ยังมีเรื่องให้หึงอีกเยอะ” เฉินโม่หัวเราะ

“โห ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่โม่เจ้าชู้ขนาดนี้นะเนี่ย” หลินซินหรูหยิกแขนเฉินโม่

“ก็ต้องดูว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนด้วย” เฉินโม่ยิ้ม

โลกกำลังจะถึงวันสิ้นโลกแล้ว อีกไม่นานคนคงจะล้มตายเป็นเบือ อาจจะตายไปสองในสามของประชากรโลกเลยก็ได้

ถึงตอนนั้น ประชากรก็จะลดลง ความคิดเรื่องการมีลูกมีหลานก็คงจะเปลี่ยนไป เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ

วันสิ้นโลกมาถึง เฉินโม่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะช่วยโลกได้ ตามที่ระบบบอก ทั้งไวรัสระบาด ทั้งดาวปีศาจ มนุษย์คงจะลำบาก เขาคงช่วยได้แค่คนใกล้ตัวเท่านั้น

หลินซินหรูไม่เข้าใจความหมายของเฉินโม่ เธอคิดว่าที่เฉินโม่พูดถึงโลกที่ต่างออกไป หมายถึงตอนนี้เฉินโม่มีสถานะที่สูงขึ้น ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตในสมาคมเสื้อคลุมเหลืองและสมาคมชิง กลายเป็นคนในแวดวงไฮโซไปแล้ว

แต่เธอก็ไม่ได้คิดมาก ยังไงตอนนี้เฉินโม่ก็ยังเป็นของเธอ

ที่บ้านจ้าวเยว่ เห็นมู่ซีเยว่ทำหน้าเศร้าหลังจากอ่านข้อความในโทรศัพท์ จ้าวเยว่ก็ยิ้มแล้วถามว่า “ไอ้เด็กนั่นไม่มากินข้าวเย็นด้วยเหรอ?”

“ค่ะ เขาบอกว่าจะไปซื้อของกับเพื่อน แล้วก็กินข้าวข้างนอกเลย”

“เสียดายจัง อดกินของอร่อยเลย” จ้าวเยว่หัวเราะ “แต่เธอก็ต้องตั้งใจทำอาหารนะ อย่าทำให้อาหารไม่อร่อยเพราะไอ้เด็กนั่นไม่มาล่ะ”

“ไม่มีทางหรอกค่ะ พี่เยว่” มู่ซีเยว่ยิ้ม

“เฮ้อ ไอ้เด็กบ้า ไม่กี่วันมานี้ทำไมถึงมีแต่สาวๆ มารุมล้อมนะ

ทั้งหลิวฉินหลาน ทั้งเสี่ยวยว่ ทั้งตู๋จื่อซี แถมยังมีน้องใหม่คนนี้อีก” จ้าวเยว่มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเฉินโม่เดินมากับหลินซินหรู ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย

เฉินโม่พาหลินซินหรูมารอที่หน้าหมู่บ้าน เพราะเขาไม่รู้เรื่องรถ ก็เลยโทรหาตู๋จื่อซีให้มาช่วยเลือก

ระหว่างที่รอ ก็มีรถและคนเดินผ่านไปมา มีผู้ชายคนหนึ่งใส่หน้ากากอนามัย ดูเหมือนจะไม่ค่อยสบาย เดินมาจากฝั่งตรงข้ามอย่างช้าๆ

ตอนแรกก็ดูเหมือนคนธรรมดา ไม่มีอะไรน่าสนใจ

หลินซินหรูก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ

ส่วนเฉินโม่ เขามองออกทันทีว่าผู้ชายคนนั้นป่วยหนัก แต่ก็คิดว่าคงเป็นแค่คนป่วยธรรมดาๆ คนหนึ่ง

แต่จมูกของเขากลับได้กลิ่นแปลกๆ

พอมองไปที่ผู้ชายคนนั้นใกล้ๆ กลิ่นก็ยิ่งแรงขึ้น

ถ้าเป็นคนธรรมดา คงไม่ได้กลิ่นอะไร เพราะกลิ่นมันจางมาก

แต่เฉินโม่ไม่ใช่คนธรรมดา หลังจากที่หลอมรวมกับสายเลือดมนุษย์หมาป่า ประสาทสัมผัสของเขาก็ดีขึ้นมาก เขาได้กลิ่นบางอย่างที่ไม่ควรจะอยู่ในตัวคนป่วย

กลิ่นดินปืน!

คนป่วยธรรมดา จะพกดินปืนทำไม?

เฉินโม่รู้สึกแปลกๆ ก็เลยใช้แว่นตาส่องทะลุ มองทะลุเสื้อผ้าของผู้ชายคนนั้น

เขาก็เห็นทันที ว่าผู้ชายคนนั้นพกระเบิดแสวงเครื่องไว้ในเสื้อ

คนปกติที่ไหน จะพกระเบิดแสวงเครื่องไว้กับตัว ยิ่งเป็นคนป่วยหนักด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้

เฉินโม่รู้ทันทีว่า มีอันตราย

ไม่ใช่อันตรายกับตัวเขา แต่อันตรายกับหลินซินหรู ถ้าระเบิดที่นี่ เขาไม่เป็นไร แต่หลินซินหรูคงไม่รอด

แต่แถวนี้คนเยอะ เขาไม่สามารถลงมือได้ ถ้าเดินหนี ผู้ชายคนนั้นอาจจะวิ่งตามมา แล้วจุดระเบิด

คนแถวนี้ก็คงจะซวยไปด้วย

คนที่เดินผ่านไปมาแถวนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้านหรู รู้จักกับเฉินโม่ บางคนก็สนิทกัน

เฉินโม่ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาเดือดร้อนเพราะเขา

เขารีบหยิบยันต์ป้องกันที่ได้จากกล่องสุ่มระดับสามดาวออกมา แล้วยัดใส่มือหลินซินหรู

“พี่โม่ นี่อะไรคะ?” หลินซินหรูถามอย่างสงสัย มองยันต์แปลกๆ ในมือ

“เครื่องราง พี่ไปขอมา ลืมให้” เฉินโม่ยิ้ม

“พี่ยังเชื่อเรื่องแบบนี้อีกเหรอ?” ถึงจะแปลกใจ แต่หลินซินหรูก็รู้สึกดีที่เฉินโม่เป็นห่วงเธอ เธอก็เลยเก็บยันต์ไว้ในเคสมือถือ

หลังจากนั้น เฉินโม่ก็บอกหลินซินหรูว่า “รอตรงนี้นะ พี่ไปดูอะไรหน่อย”

ทันใดนั้น ก็มีรถหรูขับมาจอด เป็นรถของตู๋จื่อซี

ส่วนผู้ชายใส่หน้ากากอนามัย ก็เดินเข้ามาใกล้แล้ว

“เฉินโม่ จะซื้อรถเหรอ?”

ตู๋จื่อซียังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยทักทายเฉินโม่ตามปกติ แล้วก็เห็นหลินซินหรูที่ยืนอยู่ข้างๆ

“จื่อซี มาแล้วเหรอ”

พอเห็นตู๋จื่อซี เฉินโม่ก็แกล้งทำเป็นเดินไปหาเธอ จริงๆ แล้วเขากำลังคำนวณระยะห่างระหว่างเขากับผู้ชายใส่หน้ากากอนามัย

เขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะจุดระเบิดเมื่อไหร่ ก็เลยถอดสร้อยคอป้องกันระดับ A ออก แล้วยื่นให้ตู๋จื่อซี “ฉันเพิ่งได้จี้มาน่ะ สวยไหม?”

ตู๋จื่อซีรับสร้อยจากเฉินโม่ ถึงจะแปลกใจว่าทำไมเฉินโม่ถึงให้สร้อยเธอ แต่เธอก็รับมาดู

ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนมีลมพัดผ่าน

เฉินโม่หายไปแล้ว

ตอนนี้มือของเฉินโม่ที่สวมแหวนมิติ กำลังจับที่ระเบิดแสวงเครื่องของผู้ชายคนนั้น เขาคิดในใจ ระเบิดก็ถูกเก็บเข้าไปในแหวนมิติทันที

ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นถึงได้รู้ตัว มองเฉินโม่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วยความตกใจ

“ใครส่งแกมา?”

เฉินโม่ถาม พร้อมกับใช้เทคนิคอ่านใจ

เขารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของตระกูลถัง ที่จ้างคนมาลอบสังหารเขา เฉินโม่ก็ได้แต่ถอนหายใจ ตระกูลถังนี่มันร้ายกาจจริงๆ ใช้วิธีแบบนี้ได้ยังไง

หาคนป่วยหนัก ใกล้ตาย มาเสี่ยงตาย ถ้าเขาไม่ทันสังเกต ก็คงโดนระเบิดไปแล้ว

ถึงเขาจะไม่กลัวระเบิด แต่ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วย ก็คงไม่รอด

เฉินโม่คงไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

ถึงจะไม่สำเร็จ แต่ก็ทำให้เฉินโม่เจ็บใจ ได้แก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ

แต่ตอนนี้เขามีของป้องกันเยอะแยะ มียาฟื้นคืนชีพด้วย ก็เลยไม่ค่อยกลัวว่าคนรอบข้างจะเป็นอันตราย

แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เขารู้สึกว่า มันอันตรายมาก

“ต่อไปนี้ต้องระวังคนรอบข้างให้มากขึ้น ถึงจะเป็นคนธรรมดา ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ ตระกูลถังจะเล่นงานฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”

จริงๆ แล้ว เรื่องมันไม่น่าจะใหญ่โตขนาดนี้ แค่เรื่องที่เขาไปขัดขวางการดูตัว ตระกูลถังคงแค่สั่งสอนเขา มีจ้าวเยว่คอยช่วยอยู่ ตระกูลถังคงไม่กล้าทำอะไรมาก

แต่เฉินโม่ดันไปช่วยหลิวหยวนจงกับตู๋เหรินหยวน ทำให้แผนการของตระกูลถังพังไม่เป็นท่า ตระกูลถังก็เลยอยากจะกำจัดเฉินโม่ให้พ้นทาง

“การที่แกป่วย มันเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่มันไม่ใช่ข้ออ้างให้แกมาทำร้ายคนอื่น!

ฉันรู้ว่าแกทำเพื่อหาเงินให้ครอบครัว แต่แกจะทำลายครอบครัวคนอื่น เพื่อครอบครัวของแกเองไม่ได้!

ถ้าฉันเห็นแกทำแบบนี้อีก ฉันจะฆ่าแกทั้งครอบครัว!

ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ ไสหัวไปซะ!”

ผู้ชายคนนั้นเป็นแค่คนธรรมดา ระบบไม่ได้ติดป้ายอะไร ฆ่าไปก็ไม่ได้แต้ม

เฉินโม่ก็เลยขี้เกียจฆ่า คนป่วยใกล้ตายแบบนี้ การมีชีวิตอยู่ มันทรมานยิ่งกว่าการตายซะอีก

ที่เฉินโม่พูด ก็แค่ขู่ไปอย่างนั้นเอง

พอได้ยินเฉินโม่ขู่ แถมระเบิดก็หายไป ผู้ชายคนนั้นก็ตกใจกลัว รีบวิ่งหนีไปทันที

เฉินโม่ไม่ได้สนใจ ปล่อยให้เขาวิ่งไป แล้วก็เดินกลับไปหาตู๋จื่อซีและหลินซินหรู

“ขอโทษที เจอคนรู้จักน่ะ คุยกันหน่อย”

ตู๋จื่อซีกับหลินซินหรูเห็นผู้ชายคนนั้นวิ่งหนีไป ก็เลยถามว่า “เขาวิ่งทำไม?”

“เหมือนจะลืมปิดแก๊สที่บ้านน่ะ” เฉินโม่หันไปมอง แล้วยิ้ม

ตู๋จื่อซีกับหลินซินหรูก็ได้แต่อึ้ง แล้วก็ไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นอีก

“จี้นี่ทำมาจากอะไรเหรอ? ฉันดูไม่ออกเลย” ตู๋จื่อซีสนใจสร้อยที่เฉินโม่ให้มากกว่า

เฉินโม่รับสร้อยคืน แล้วยิ้ม “ฉันช่วยเจ้านายคนหนึ่งไว้ เขาเลยให้มา สวยดี กะจะให้เธอดูให้ แต่ดูเหมือนเธอจะดูไม่ออกเหมือนกัน”

“คงเป็นของหายาก น่าจะเป็นของดี ไม่งั้นคงไม่เอามาเป็นของตอบแทนบุญคุณหรอก” ตู๋จื่อซียิ้ม

แล้วเธอก็หันไปถามหลินซินหรู “นี่ใครเหรอ?”

“นี่รุ่นน้องฉัน หลินซินหรู เรียกว่าเสี่ยวหรูก็ได้”

“สวัสดีค่ะน้องหรู ฉันตู๋จื่อซี เรียนมหาลัยเดียวกัน เป็นรุ่นพี่เธอนะ”

“ตู๋จื่อซี?” หลินซินหรูรู้สึกคุ้นๆ กับนามสกุลนี้

“นี่ลูกสาวท่านประธานตู๋แห่งสมาคมชิงนะ เสี่ยวหรู ทำตัวดีๆ ล่ะ” เฉินโม่แซว

หลินซินหรูถึงได้นึกออก ว่าตู๋จื่อซีเป็นลูกสาวของตู๋เหรินหยวน

เธอก็เลยไม่กล้าเสียมารยาท รีบค้อมหัว “สวัสดีค่ะรุ่นพี่จื่อซี”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะน้องหรู อย่าไปฟังเขาพูด ไม่ต้องคิดมากเรื่องฐานะฉันหรอก” ตู๋จื่อซียิ้มอย่างเป็นมิตร

หลินซินหรูแปลกใจที่คุณหนูแห่งตู้หยวนกรุ๊ป พูดจาดีขนาดนี้

เธอก็ชอบคนแบบนี้ ก็เลยยิ้มและพยักหน้า

“เย็นแล้ว เราไปกันเถอะ จื่อซี เธอดูหน่อยสิ ว่ามีรถอะไรที่เหมาะกับเสี่ยวหรูบ้าง เราจะไปที่นั่น”

หลินซินหรูนั่งเบาะหลัง ได้ยินเฉินโม่พูดแบบนั้น ก็มองเฉินโม่ที่นั่งเบาะหน้าอย่างงงๆ

ตอนอยู่ที่บ้าน เฉินโม่บอกว่าจะซื้อรถให้เธอ เธอคิดว่าเขาพูดเล่น

ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง

ตู๋จื่อซียิ้มมองเฉินโม่ “คุณหมอเฉินนี่ทุ่มทุนสร้างเพื่อจีบสาวจริงๆ เลยนะคะ”

เฉินโม่ยิ้ม “ก็ฉันไม่ค่อยได้ขับ ชอบนั่งมากกว่า”

“ชอบสบายจริงๆ นะ มีแววเป็นเจ้านาย” ตู๋จื่อซีหัวเราะ

(จบตอน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด