“ฝึกงานช่วงปิดเทอม ที่ไหนโดดเด่นที่สุด? กองถ่าย แสงดาบ คือคำตอบ ฝึกงานช่วงปิดเทอมยังสามารถสร้างรายได้ กองถ่ายแสงดาบสามารถออกใบรับรองการฝึกงานให้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ”

หลังจบช่วงนี้ วิดีโอเข้าสู่ส่วนที่สาม

“ถ้าปิดเทอมแล้วเบื่อ ปิดเทอมแล้วอยากผ่อนคลาย ปิดเทอมแล้วอยากฝึกงาน มาเข้าร่วมกองถ่าย แสงดาบ สิ เพียงส่งเรซูเม่และรูปถ่ายของคุณมาที่อีเมล ก็มีโอกาสเข้าร่วมกับเรา!”

ในวิดีโอ ทุกครั้งที่สวี่เย่พูดจบหนึ่งประโยคโฆษณา เขาจะอ่านบัญชีอีเมลของกองถ่ายเแสงดาบซ้ำทุกครั้ง วนซ้ำไปซ้ำมา

เมื่อวิดีโอมาถึงตอนจบ สวี่เย่ยืนอยู่ตรงกลางจอ

เขาตะโกนว่า “นักแสดงสมทบที่ไหนดีที่สุด?”

ทันใดนั้น วิดีโอแสดงภาพของสวี่เย่นับไม่ถ้วน

เสียงของสวี่เย่ดังซ้อนกัน “กองถ่ายแสงดาบคือที่สุด! กองถ่ายแสงดาบยินดีต้อนรับคุณ!”

วิดีโอจบลงตรงนี้

หลังดูวิดีโอจบ ฉุยข่ายมีแต่ประโยคเดียวในหัว

“นักแสดงสมทบที่ไหนดีที่สุด? กองถ่ายแสงดาบคือที่สุด!”

โฆษณานี้ช่างติดหูเสียจริง

เขาดูอีกครั้ง!

หลังจากดึงข้อมูลสำคัญจากวิดีโอออกมา ฉุยข่ายหยุดวิดีโอและครุ่นคิดเกี่ยวกับประโยคโฆษณา พบว่าสิ่งที่สวี่เย่พูดมันจริงทุกประการ

นี่ไม่ใช่การโฆษณาเกินจริงเลย

การไปเป็นนักแสดงสมทบในกองถ่าย ก็เหมือนกับการเข้าร่วมเกมสวมบทบาทในสถานที่จริง

และเกมสวมบทบาทนี้ยังเป็นฉากจริง อุปกรณ์ก็ไม่ใช่ของคุณภาพต่ำแบบในร้านเกมทั่วไป

ยิ่งไปกว่านั้น ใบรับรองการฝึกงานดูเหมือนจะสำคัญสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยบางคน

ส่วนเรื่องอาหารฟรี การรับส่งฟรี และค่าแรงวันละ 80 หยวน ฉุยข่ายไม่ได้ใส่ใจเลย

แค่เกมสวมบทบาทคุณภาพแบบนี้ ต่อให้คุณอยากจ่ายเงินเล่นก็ยังหาโอกาสไม่ได้

และนี่คือละครสงครามต่อต้านญี่ปุ่น มีทั้งปืนและปืนใหญ่ การมีส่วนร่วมในสถานที่จริงต้องมันส์มากแน่ ๆ

“พอดีช่วงปิดเทอมฉันว่างพอดี งั้นสมัครไปเล่นดีกว่า จะได้ไม่ต้องอยู่บ้านให้แม่จ้องหน้าหงุดหงิด”

ฉุยข่ายแชร์วิดีโอนี้ลงในกลุ่มชั้นเรียนพร้อมถามว่า “พวกเธอ กองถ่ายแสงดาบรับสมัครนักแสดงสมทบนะ มีใครอยากไปด้วยกันไหม?”

ไม่นานกลุ่มชั้นเรียนก็ครึกครื้นขึ้นมา

“เพิ่งรู้เหรอ? ฉันส่งเรซูเม่ไปแล้วนะ หน้าตาแบบฉันยังไงก็ต้องได้เป็นนายทหารใหญ่สักตำแหน่งแน่ ๆ!”

“ฉันเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาแล้ว ฉันว่าฉันมีคุณสมบัติจะเล่นเป็นทหารญี่ปุ่นนะ!”

“พวกนาย เราเรียนเอกวิศวกรรมอัตโนมัติไม่ใช่เหรอ นายไปเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“พวกนายไปเล่นเป็นทหารญี่ปุ่นกันไป ฉันจะเล่นเป็นทหารจีนแล้วฆ่าพวกนาย!”

“ไสหัวไปเลย ฉันเพิ่งดูมาว่ารับนักแสดงสมทบจำนวนจำกัด พวกนายไปหมดแล้วจะคัดเลือกครบได้ไง!”

เห็นข้อความของเพื่อนคนสุดท้าย ฉุยข่ายถึงกับตาสว่าง

“แย่แล้ว ฉันอาจไม่ได้ถูกเลือกด้วยเหมือนกัน! แบบนี้ลำบากแล้ว!”

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ ทุกคนก็ไม่ได้คิดจะติดต่อสวี่เย่เพื่อขอเส้นสาย

การไปแข่งขันเพื่อเป็นนักแสดงสมทบ แต่กลับขอเส้นสายจากสวี่เย่ นักศึกษาเหล่านี้ยังรู้จักรักษาหน้าอยู่

เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ

วิดีโอรับสมัครนักแสดงสมทบที่สวี่เย่ถ่ายไว้นี้ กลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ตทันที โดยเฉพาะประโยคโฆษณาที่ชวนติดหู ดึงดูดความสนใจของทุกคน

“นักแสดงสมทบ? ผิดแล้ว ต้องเรียกว่าเกมสวมบทบาทในสถานที่จริง!”

“วิดีโอนี้ต้องเป็นไอเดียของสวี่เย่แน่ ๆ กองถ่ายแสงดาบไม่มีทางจะบ้าขนาดนี้!”

“ฉันจะขำตายอยู่แล้ว จำได้ว่าการถ่ายทำละคร แสงดาบ นี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ฉันอยากรู้ว่าผู้นำกองทัพจะคิดยังไงเมื่อเห็นวิดีโอนี้?”

“พูดเลย ถ้าฉันไม่ได้อยู่ในอันเฉิง ฉันก็อยากไปเหมือนกัน”

“อิจฉานักศึกษาในอันเฉิงจริง ๆ!”

ด้วยการแชร์จากชาวเน็ต วิดีโอรับสมัครนี้จึงยิ่งเป็นที่นิยม กระทั่งนักศึกษาต่างชาติยังได้เห็นวิดีโอนี้

“อะไรกัน ฉันกลับไปไม่ได้ นายส่งมาให้ฉันดูทำไมเนี่ย!”

“นักศึกษาในอันเฉิงนี่โชคดีเกินไปแล้ว!”

“ฉันอยากเล่นมาก!”

จนกระทั่งวันต่อมา หัวข้อการรับสมัครนักแสดงสมทบของกองถ่าย แสงดาบ กลายเป็นกระแสฮิตบนเวยป๋อ

ด้วยการสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นจากนักศึกษา กระแสความนิยมก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย

ที่ชิงเหนียวเอนเตอร์เทนเมนต์ ซ่งเจิ้งฉีที่ได้รับข่าวนี้ถึงกับอึ้ง

เขานั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ คิดอยู่ครึ่งวันก็ยังไม่เข้าใจ

“สละเวลาวันหยุดไปทำงาน นักศึกษาเหล่านี้ยังอยากมีส่วนร่วมขนาดนี้?”

วันละ 80 หยวน ต่อให้ทำงานหนึ่งเดือนก็แค่ 2,400 หยวนเท่านั้น เงินไม่มากเลย

งานที่ได้เงิน 2,400 หยวนพวกเขาไม่อยากทำ แต่กลับกระตือรือร้นกับการเป็นนักแสดงสมทบที่ได้เงินเท่ากัน แบบนี้คืออะไร?

ไม่เพียงแต่ซ่งเจิ้งฉีเท่านั้น วงการบันเทิงทั้งหมดก็ถูกแผนการของสวี่เย่ทำให้งงงวยไปตาม ๆ กัน

ใครจะไปคิดว่าการเปลี่ยนการรับสมัครนักแสดงสมทบให้กลายเป็นเกมสวมบทบาทในสถานที่จริง จะดึงดูดความสนใจได้มากขนาดนี้?

อย่างไรก็ตาม วงการบันเทิงยังคงจับตาดูอยู่

ตอนนี้เป็นแค่กระแสความนิยม เรื่องจริงคือจะสามารถรับสมัครคนได้หรือไม่ และนักศึกษาที่รับเข้ามาจะทำได้ดีแค่ไหนยังเป็นคำถาม

ที่เมืองภาพยนตร์แปดสุ่ย

ผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดงและทีมงานของเขายุ่งจนหัวหมุน

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า หลังจากปล่อยวิดีโอเมื่อวานนี้ ภายในวันเดียวจะมีเรซูเม่ส่งเข้ามาในอีเมลกว่า 1,000 ฉบับ

ทุกคนต้องทำงานล่วงเวลาอย่างหนักเพื่อคัดกรองเรซูเม่เหล่านี้

โชคดีที่ในวิดีโอของสวี่เย่มีการระบุข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนในรูปแบบโฆษณาเฮฮา แม้จะมีนักศึกษาบางคนที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขพยายามหลุดรอดเข้ามา แต่ก็เป็นส่วนน้อย

ผู้กำกับการคัดเลือกนักแสดงรู้สึกมีความสุขจนพูดไม่ออก

ปัญหานักแสดงสมทบถูกแก้ไขได้ง่าย ๆ แบบนี้

สามวันต่อมา บัญชีทางการของ แสงดาบ และสตูดิโอใหญ่ประกาศปิดการรับสมัครนักแสดงสมทบ ผลการคัดเลือกจะประกาศภายในสองวัน

ผู้ที่ส่งเรซูเม่เข้ามา ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่อาศัยอยู่ในอันเฉิง ซึ่งจำนวนนี้ไม่ใช่น้อยเลย

อีกสองวันต่อมา ฉุยข่ายที่ยังอยู่ในโรงเรียนได้รับข้อความหนึ่ง

“เรซูเม่ของคุณผ่านการตรวจสอบแล้ว ยินดีต้อนรับเข้าร่วมกองถ่าย แสงดาบโปรดมาที่…”

เมื่อเห็นข้อความนี้ ฉุยข่ายรีบแคปหน้าจอส่งเข้าไปในกลุ่มชั้นเรียนทันที

“ฉันผ่านการคัดเลือกแล้ว มีใครอีก?”

หลังจากเขาส่งไป มีเพื่อนสองคนในกลุ่มส่งข้อความเข้ามาว่าพวกเขาได้รับการคัดเลือกเช่นกัน

สิ่งนี้ทำให้เพื่อนในกลุ่มที่เหลืออิจฉาจนแทบระเบิด

“เธอได้ทุนฉันไม่ว่า แต่เธอได้เข้ากองถ่ายฉันอิจฉาสุด ๆ!”

“ฉุยข่าย นายอย่ามัวแต่สนุกนะ ระหว่างถ่ายทำอย่าลืมถ่ายวิดีโอมาแชร์ให้พวกเราดูด้วยว่าเขาถ่ายทำกันยังไง!”

“ใช่เลย ฉันอยากรู้อยู่พอดี!”

“ถ่ายมาเยอะ ๆ นะ ถ้าเจอดาราก็ขอลายเซ็นมาฝากพวกเราด้วย!”

ฉุยข่ายตอบในกลุ่มว่า “เอางี้แล้วกัน ฉันจะโพสต์ชีวิตในกองถ่ายลงในแอปโต่วโส่ว ถ้าผู้กำกับอนุญาตให้แชร์ได้ ทุกคนไปติดตามบัญชีฉันแล้วกัน”

เขาส่งบัญชีโต่วโส่วของเขาเข้าไปในกลุ่ม

วันที่ 20 มกราคม ฉุยข่ายกลับถึงบ้านช่วงปิดเทอมเช้าตรู่ เขาแบกกระเป๋าเป้เดินทางไปยังจุดที่กองถ่ายกำหนดไว้

เมื่อเขาไปถึงจุดรวมตัว ก็พบว่ามีรถบัสสิบกว่าคันจอดเรียงรายอยู่ รถบัสเหล่านี้มีป้ายติดว่า “รถบัสรับส่งนักแสดงสมทบของกองถ่าย แสงดาบ”

ฉุยข่ายอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

“สวี่เย่โฆษณาเก่งเกินไป แม้แต่โฆษณาบนรถบัสก็ไม่เว้น”

เมื่อฉุยข่ายมาถึง มีเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรประชาชนของเขาก่อนจะให้เขาขึ้นรถบัส

เมื่อรถบัสคันหนึ่งเต็ม ก็ออกเดินทางไปยังเมืองภาพยนตร์ทันที

ในเวลาเดียวกัน ที่เมืองภาพยนตร์ ผู้กำกับตู้ฉงหลินและทีมงานกองถ่ายยืนรออยู่ที่ทางเข้า ไม่นานนัก รถผู้จัดการก็จอดลง และสวี่เย่ก็ลงมาจากหลังรถ

คนที่อยู่ตรงนั้นต่างคุ้นเคยกับสวี่เย่อย่างดี พอเห็นเขาลงมาจากรถก็รู้สึกโล่งใจ

ในกลุ่มคนยังมีชายวัยกลางคนยืนอยู่ บุคลิกโดดเด่น นั่นคือนักแสดงเจียงหลินเย่ ผู้รับบทเป็นหลี่หยุนหลง

หลังจากทุกคนทักทายกันเสร็จ ก็พากันเดินไปยังสถานที่ถ่ายทำ

ตู้ฉงหลินยิ้มพลางพูดว่า “สวี่เย่ ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีนักศึกษามาสมัครเป็นนักแสดงสมทบมากขนาดนี้ คราวนี้ประหยัดงบประมาณไปได้เยอะเลย”

การรับสมัครนักแสดงสมทบโดยตรงของกองถ่าย ทำให้ไม่ต้องผ่านนายหน้า งบประมาณจึงถูกลดลงไปอย่างมาก

และที่สำคัญคือความรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็เสร็จเรียบร้อย

ตู้ฉงหลินพูดอย่างกังวลว่า “แต่ไม่รู้ว่านักศึกษาเหล่านี้จะเล่นได้ดีแค่ไหน”

“ไม่ต้องห่วง ทุกคนต้องทำได้ดีแน่ ๆ” สวี่เย่ตอบพร้อมรอยยิ้ม

นี่ไม่ใช่คำพูดลอย ๆ ของสวี่เย่ ในโลกนี้มีคนเก่งอยู่ทั่วไป ในโต่วโส่วก็มีนักแสดงสมัครเล่นที่ฝีมือดีกว่าดาราเสียอีก

การเป็นนักแสดงไม่ได้หมายความว่าจะต้องแสดงเก่ง

ดาราดังเล่นละครเพื่อเงิน แต่นักศึกษาที่มาเล่นเพราะตั้งใจแสดงจริง ๆ

คนที่ตั้งใจแสดง ต่อให้เล่นไม่ได้เรื่องแค่ไหน ก็ยังเพียงพอสำหรับการเป็นนักแสดงสมทบ

สวี่เย่มาที่นี่วันนี้เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การถ่ายทำ และพูดคุยสอนเทคนิคการแสดงให้นักศึกษาที่เป็นนักแสดงสมทบเหล่านี้

ระหว่างที่คุยกัน รถบัสหลายคันก็มาถึงสถานที่ถ่ายทำทีละคัน

เมื่อฉุยข่ายลงจากรถพร้อมกระเป๋าเป้ เขาก็มองดูสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ด้วยความสนใจ

ที่นี่ถูกตกแต่งฉากถ่ายทำไว้เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว อุปกรณ์ประกอบฉากต่าง ๆ ก็วางเรียงรายอยู่ มีทั้งปืนใหญ่และปืนประกอบฉาก ทำให้ฉุยข่ายรู้สึกตื่นเต้นมาก

“นี่มันสุดยอดมาก!”

เขาจินตนาการถึงภาพตัวเองในชุดทหารแปดเส้นทาง กำลังต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นในสนามรบ

ขณะนั้นเอง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ขวางเขาไว้แล้วพูดว่า “ขอดูบัตรประชาชนหน่อยครับ”

หลังจากที่ฉุยข่ายยื่นบัตรประชาชนให้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากรายชื่อในมือแล้วพูดว่า “ไปที่ห้องแต่งตัวหมายเลข 5 เพื่อแต่งหน้าและเปลี่ยนชุดครับ”

ฉุยข่ายถามด้วยความสงสัย “พี่ครับ ผมได้บทอะไรเหรอ?”

เจ้าหน้าที่ตอบทันทีว่า “นายได้เล่นเป็นทหารญี่ปุ่น”

ฉุยข่ายถึงกับอึ้ง

“ผมหน้าตาแบบนี้ ทำไมต้องเล่นเป็นทหารญี่ปุ่นด้วยล่ะครับ?”

“พี่ครับ ทำไมผมถึงได้เล่นเป็นทหารญี่ปุ่นล่ะครับ ผมว่าเล่นเป็นทหารจีนยังไงก็ไหวอยู่แล้วนะครับ”

เจ้าหน้าที่หัวเราะแล้วพูดว่า “คนที่อยากเป็นนักแสดงสมทบมีเยอะมาก ถ้าเป็นละครเรื่องอื่นนายอาจมีโอกาส แต่สำหรับ แสงดาบ นายยังไม่ถึงขั้น หน้าตาดีเกินไปน่ะ”

ฉุยข่ายถึงกับพูดไม่ออก

หลังจากเขาเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าเสร็จในห้องแต่งตัวแล้ว เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอ

“วันแรกที่มากองถ่าย แสงดาบ ผมต้องเล่นเป็นทหารญี่ปุ่น มีความไม่พอใจเล็กน้อย หวังว่าพ่อแม่จะไม่ตัดผมออกจากทะเบียนตระกูลนะครับ”

0 0 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด