บทที่ 193 ฟ้องครู
บทที่ 193 ฟ้องครู
คนเมืองไห่ตงสูบบุหรี่ลี่ฉุนกันทั้งนั้น แล้วทำไมไอ้หมอนี่ถึงมีจินหลิงเสวียนเฮ่อเหมินอยู่ในกระเป๋า? (ปล.เป็นยี่ห้อบุหรี่หมดเลยนะครับ โผล่มาแค่บทนี้แหละไม่ต้องไปจำชื่อกันเน้อ)
ทนไม่ไหวแล้ว ต้องไปฟ้องครูสักหน่อย
โรงเรียนนี้เข้มงวดกับการสูบบุหรี่มาก ก่อนหน้านี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างก็ไล่ออกไปหนึ่งคนที่มาแอบ "จุดธูป" ในห้องน้ำ
นักเรียนที่ย้ายมาเรียนพวกนี้เป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ของโรงเรียน ค่าธรรมเนียมการย้ายเข้าเรียนอย่างต่ำก็ห้าหมื่น ถือว่าสูงมาก
แต่มันก็ทำให้วัฒนธรรมของโรงเรียนเสื่อมลง
แต่เรื่องนี้โทษคุณเหอทั้งหมดไม่ได้ เขาเพิ่งเข้ามาดูแลโรงเรียนหมายเลข 11 อย่างเต็มตัวเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง เขาก็ยกเลิกระบบนักเรียนย้ายเข้า
เด็กม.ปลายพวกนั้นถือเป็นนักเรียนย้ายเข้ารุ่นสุดท้าย เป็นปัญหาที่หลงเหลือมาจากคุณหาน
เรื่องนี้พูดยาก
โรงเรียนหมายเลข 11 เดิมไม่ใช่โรงเรียนที่ดีมาก เพิ่งจะมาเป็นโรงเรียนมัธยมต้นแบบเมื่อไม่นานมานี้เอง
คุณเหออยากจะไล่นักเรียนพวกนี้ออกไปให้หมด
ถึงแม้ว่าทะเบียนนักเรียนของพวกเขาจะไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนหมายเลข 11 ต่อให้สอบได้คะแนนไม่ดีก็ไม่ส่งผลต่ออัตราการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ถ้าสอบได้คะแนนดี ก็สามารถเอาไปอวดได้หน่อย ๆ ว่าแม้แต่เศษไม้ผุ ๆ ยังกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้ที่โรงเรียนหมายเลข 11 ยิ่งควรสมัครเข้าเรียน
แต่ "เหอหงเทา" เป็นคนที่รักษาภาพลักษณ์มาก เขาเลียนแบบโรงเรียนหมายเลข 4 เรียกได้ว่าลอกมาทั้งหมด ดังนั้นในเรื่องวัฒนธรรมของโรงเรียน เขาก็หวังว่าจะไปให้ถึงระดับของโรงเรียนหมายเลข 4 หรืออย่างน้อยก็แปดสิบเปอร์เซ็นต์
ดังนั้น ภายใต้การปกครองของคุณเหอ นักเรียนพวกนี้จึงค่อนข้างเก็บตัวอยู่ในโรงเรียน
แต่ถึงอย่างนั้น การกลั่นแกล้งก็ยังคงเกิดขึ้น
พวกเขาพนันว่าคนที่ถูกกลั่นแกล้งไม่กล้าบอกครูและผู้ปกครอง
และแน่นอนว่า มีบางคนที่ถูกกลั่นแกล้งก็ไม่กล้าพูดจริง ๆ
หลัวเชาคนนี้ บ้านรวยยังโดนกลั่นแกล้ง ยิ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาในนิสัยของเขา
ฟู่ฟู่นั้นต่างออกไป เธอถูกโดดเดี่ยว ไม่ได้รุนแรงเท่าเขา
หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จ เฉินหยวนก็รูดซิปกางเกงแล้วเดินออกไป
กำลังจะออกไปก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เตี้ยกว่าตัวเองสิบกว่าเซนติเมตรมาขวางเอาไว้ แววตาคมกริบ ราวกับว่าจะเข้ามาหาเรื่องในวินาทีถัดไป
ตอนนี้ บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น
ลูกน้องสองคนที่อยู่ข้าง ๆ เจิ้งฉีก็เริ่มประหม่า
พวกเขารู้เรื่องของเฉินหยวนกับซูเฉิน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ดีว่า ถ้าสู้กันตัวต่อตัว พวกเขาไม่มีทางสู้เฉินหยวนที่เล่นเอาสมาชิกทีมโรงเรียนพิการได้
แต่ความมั่นใจของพวกเขามาจากเจิ้งฉี
คน ๆ นี้ บ้าดีเดือดจริง ๆ
และข้างนอกก็มีคนใหญ่คนโตที่รู้จักเยอะแยะ แค่ตามเขาไป ก็กลั่นแกล้งใครก็ได้
แต่สำหรับเฉินหยวนคนนี้ พวกเขาก็ยังกลัวอยู่บ้าง...
คนแบบนี้ชอบแสดงออก ถ้าเรียนไม่เก่ง คงโดนพวกอันธพาลในโรงเรียน "เกณฑ์" หรือโดนรังควานไปนานแล้ว แต่เฉินหยวนไม่เหมือนคนอื่นตรงที่
เขาเป็นผู้ประกาศภาษาอังกฤษของสถานีวิทยุ
เขาเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิก ส่งก่อนเวลาแล้วยังได้คะแนนสูง
เขาสอบกลางภาคพัฒนาขึ้นแปดร้อยอันดับอย่างน่าตกใจ
หลังจากสืบดูแล้ว พวกอันธพาลทั่วไปก็เลยเลี่ยงที่จะยุ่งด้วย
ในประเทศจีน สถานที่ที่ให้ความสำคัญกับความรู้แบบนี้ เด็กเรียนเก่งไม่มีทางโดนกลั่นแกล้ง
คนที่กล้ากลั่นแกล้ง โดนไล่ออกไปหมดแล้ว
แต่เจิ้งฉีคนนี้มันบ้า ความคิดของเขามันต่างจากคนทั่วไป...
แล้วไงล่ะ?
คนที่ขวางหน้าเฉินหยวนอยู่น่ะ เต้าเจี้ยงฮุ่ยเมี่ยน!
แต่หลังจากเหลือบมองอันธพาลหน้าตาดุร้ายคนนี้แล้ว เฉินหยวนก็เลือกที่จะเดินเลี่ยงเขาไปอีกทาง
แล้วเจิ้งฉีก็พอใจ
ตอนนี้แค่ยอม ก็จะทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต
ชอบทำเท่ห์ต่อหน้าโจวฟู่อยากทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม?
เตือนแล้วนะ ถ้ายังกล้าทำเท่ห์อีก ก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน
หลังจากเฉินหยวนออกจากห้องน้ำไป ลูกน้องสองคนของเจิ้งฉีก็ยังคงซ้อมหลัวเชาต่อไป
เขาจำใจต้องควักเงินออกมา แม้กระทั่งแบงค์แดง
แล้วพอหยิบออกมา ก็ถูกแย่งไปทันที
"หลัวเชาใจกว้างจัง ขอบใจนะ"
"กินมื้อใหญ่ได้เลย เลิกเรียนไปด้วยกันนะ"
"ไม่ ไม่เป็นไร"
หลังจากที่เงินในกระเป๋าของหลัวเชากว่าร้อยหยวนถูกแย่งไป เขาก็ก้มหน้าเดินออกจากห้องน้ำ
ตอนนี้ พวกรุ่นพี่ข้างหลังก็ไม่สนใจเขาแล้ว หยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟ พ่นควันกันอย่างเมามัน
เขาโดนรังแกมาตลอด
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะโชคร้ายมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นเพราะว่าตอนมีคนรังแกเขา คนอื่นเห็นเข้าก็คิดว่าเขารังแกง่าย ก็เลยรุมรังแกเขาด้วย
ตอนประถมกับมัธยมต้นก็เป็นแบบนี้
ตอนเข้ามัธยมปลายก็ยังดี เพราะโรงเรียนหมายเลข 11 มีวัฒนธรรมที่ดี โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครคิดร้ายกับเขา
แต่ไม่นึกเลยว่า ที่นี่เขาจะได้เจอกับคนที่เคยแย่งเงินเขาตอนมัธยมต้นอีก
ตอนมัธยมต้น เขาไม่รู้ว่าข่าวมันรั่วออกไปได้ยังไง คนอื่นคิดว่าเขารวย ก็เลยมาขอยืมเงิน ยืมแล้วก็ไม่คืน หลัง ๆ ก็เลยกลายเป็นว่า คนต่างห้อง รุ่นพี่ ก็มา "ขอยืมเงิน" เขาด้วย
เรื่องแบบนี้ คนรู้เยอะแยะ แต่ไม่มีใครช่วยบอกครู
เขาก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้ควรจะบอกครูเอง...
แต่ครูก็แค่ดูแลในโรงเรียนได้ คงจับทุกคนไม่ได้หรอก เลิกเรียนก็ยังโดนรังแกอยู่ดี
อย่างมากก็แค่ตามผู้ปกครองมา
แต่หลัวเชากับผู้ปกครองของเขา เดือนนึงก็แทบจะไม่ได้คุยกัน
เฮ้อ...
ได้แต่รอให้คนพวกนี้เรียนจบ
หลังจากพวกเขาเรียนจบ ชีวิตฉันก็จะดีขึ้น
หลัวเชาเดินออกจากห้องน้ำด้วยท่าทางอิดโรย แล้วก็เห็นเด็กผู้ชายร่างสูงคนนั้นเมื่อกี้ จู่ ๆ ก็โอบไหล่เด็กผู้ชายที่หน้าห้องน้ำ อีกฝ่ายก็ตกใจ ทำหน้าเหมือนกับเขาแทบจะเป๊ะ
หา?
"แกเป็นใคร..."
"ในกระเป๋ามีอะไร ให้ฉันดูหน่อย" เฉินหยวนยังคงใช้กำลังกอดคอเขาเดินไปข้างหน้า พร้อมกับถามขึ้น
คำถามนี้ ทำให้เด็กผู้ชายคนนั้นถึงกับอึ้งไป รีบเอามือปิดกระเป๋าโดยไม่รู้ตัว แล้วโพล่งออกมาด้วยความร้อนรนว่า "แกจะทำอะไรวะ!?"
เด็กมัธยมอันธพาลไม่ได้โง่ พวกเขาฉลาดมาก
เวลาสูบบุหรี่ สามคนจะอยู่ในห้องน้ำ อีกคนจะคอยดูต้นทางข้างนอก พอครูมา ก็รีบวิ่งเข้าไปบอก โยนบุหรี่ลงโถส้วมแล้วกดน้ำ จากนั้นก็เคี้ยวหมากฝรั่งคนละอัน ไล่กลิ่นในปาก แล้วก็เดินออกจากห้องน้ำไปตามปกติ
ต่อให้มีครูเข้าไป ได้กลิ่นบุหรี่ แต่ตอนนั้นพวกเขาก็วิ่งหนีไปแล้ว ปกติครูประจำวิชาจะไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้หรอก
แน่นอนว่า ฝ่ายปกครองต้องจัดการแน่
แต่ฝ่ายปกครองไม่ค่อยใช้ห้องน้ำที่สนาม
ดังนั้น พวกนี้ โดยพื้นฐานแล้วก็รอดจากการตรวจสอบได้ทุกครั้ง
ดังนั้น เฉินหยวนจึงต้องจัดการที่ต้นเหตุ
"แก ปล่อยฉัน..."
เด็กผู้ชายคนนั้นกำลังจะดิ้น ก็ถูกบีบไหล่อย่างแรงจนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วก็ถูกพาตัวเดินต่อไปข้างหน้า
เขามีแรงเยอะมาก และรูปร่างก็ต่างจากฉันโดยสิ้นเชิง
ต่อยกับเขา ไม่มีทางชนะเลย
เขาคือเฉินหยวนใช่มั้ย?
บ้าเอ๊ย เด็กม.5 ทำเท่ห์แบบนี้ ต้องการอะไร?
ในขณะที่เขากำลังงุนงง ก็เห็นครูคนหนึ่ง หัวหน้าสวี่ฝ่ายปกครอง!
แล้วเฉินหยวนก็พาเขาตรงไปที่นั่น
ดิ้นไม่หลุดเลย
เฉินหยวนจะไปฟ้องว่าฉันสูบบุหรี่เหรอ?
แย่แล้ว
บุหรี่อยู่ในกระเป๋า ฉันซวยแน่!
ในขณะที่เขาตกใจจนคอแห้งผาก แทบจะหายใจไม่ออก เฉินหยวนที่เดินเข้าไปหาหัวหน้าสวี่ ก็เรียกอีกฝ่ายว่า "คุณครูสวี่ครับ"
"อ้อ มีอะไรเหรอ?" หัวหน้าสวี่จำเฉินหยวนได้ จึงหยุดเดินแล้วถามขึ้น
ก่อนหน้านี้เขาเคยจัดการเรื่องของซูเฉินเลยจำเฉินหยวนได้
แต่ทำไมเขาถึงลากเด็กผู้ชายคนนี้มาแบบนี้ล่ะ? พวกเขาสนิทกันมากเหรอ?
"ครูครับ มีคนสูบบุหรี่ในห้องน้ำ" เฉินหยวนพูดอย่างจริงจัง
"..."
พอได้ยินแบบนี้ เด็กผู้ชายข้าง ๆ ก็แทบจะหยุดหายใจ
เขาเข้าใจแล้วว่า "เฉินหยวน" กำลังไล่เขาไป แล้วจะไปจัดการกับสามคนที่กำลัง "จุดธูป" อยู่ในห้องน้ำทีเดียว!
"มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ?!" หัวหน้าสวี่เบิกตากว้าง พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ครับ มี" เฉินหยวนตอบ
"ดี" หัวหน้าสวี่ที่ถือหนังสืออยู่ในมือรีบเดินก้าวฉับ ๆ ไปทางห้องน้ำทันที เด็ดขาดจริง ๆ
ตอนนี้ เฉินหยวนก็ปล่อยมือเด็กผู้ชายคนนั้น แล้วยิ้ม
"แกซวยแล้ว แกซวยจริง ๆ "
เด็กผู้ชายคนนั้นมองเฉินหยวนด้วยความโกรธแค้น แต่เพราะในกระเป๋ายังมีบุหรี่อยู่ จึงได้แต่พูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ว่า “เจิ้งฉีต้องเล่นงานแกแน่ คอยดู!”
"ช่างเถอะ ก่อนหน้านั้น มันจะโดนเล่นงานก่อน"
สีหน้าของเฉินหยวนไม่มีความหวั่นไหว แต่ในใจกลับรู้สึกโล่ง กำลังจะกลับไปที่ห้องเรียน แต่ตอนนั้นเองเขาก็เห็นเด็กผู้ชายที่โดนกลั่นแกล้งมองมาที่เขา
แต่หลังจากสบตากันแล้ว เขาก็หันหน้าหนี แล้วเดินจากไปเงียบ ๆ
...
"ไม่นึกเลยว่ามันจะพกเงินสดติดตัว"
"แต่ไอ้บ้านั่นรวย มีเงินเยอะ คงไม่สนใจเงินแค่นี้หรอก"
เจิ้งฉีไม่ได้เข้าร่วมบทสนทนาของคนทั้งสอง ยังคงคิดถึงเฉินหยวนอยู่
หลังจากสะบัดน้ำปัสสาวะเสร็จ เขากำลังจะดับบุหรี่แล้วโยนลงโถ ทันใดนั้น ก็มีคนพุ่งเข้ามาจากข้างนอก
ในวินาทีนั้น หัวใจของทั้งสามคนแทบหยุดเต้น
ชายคนนั้นรีบเดินเข้ามาพร้อมกับหนังสือในมือแล้วชี้ไปที่หัวของทั้งสามคน ปัง! ปัง! ปัง! เสียงจากการโดนตบแรงขึ้นทีละครั้ง และเสียงก็ดังก้องไปทั่วทั้งโถส้วม...