ตอนที่ 44 ฉันจะกลับมาในเร็ว ๆ นี้!
ตอนที่ 44 ฉันจะกลับมาในเร็ว ๆ นี้!
เครื่องขยายคลื่นสมอง เป็นหนึ่งในความลับสำคัญของโรงเรียนเซเวียร์สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ ทำให้ภายใต้สถานการณ์ปกติแทบไม่มีคนนอกคนใดมีโอกาสได้เห็นมันอย่างละเอียด
แต่วันนี้ เอริค ผู้ซึ่งถูกจัดว่าเป็น ‘คนนอก’ กลับได้ตรวจสอบเครื่องนี้ทุกซอกทุกมุม!
เครื่องขยายคลื่นสมองในตอนนี้ดูราวกับแม่ยายผู้อ่อนแอไร้ทางสู้ที่กำลังมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาและวิงวอนขอความเห็นใจ แต่เอริคกลับไม่สนใจความรู้สึกของมันเลยแม้แต่น้อย เขา ‘ถอด’ ชิ้นส่วนมันออกจนเปลือยเปล่า แถมยังคิดจะ ‘ถอด’ ลึกลงไปถึงชั้นผิวและโครงสร้างอย่างโหดเหี้ยมอีกด้วย . . .
นี่คือภาพที่แฮงก์ ช่างเทคนิคอัจฉริยะในร่างสัตว์ กำลังจินตนาการอยู่ในหัว
“แฮงก์! ทำไมยืนมองอยู่แบบนั้นล่ะ! ไปช่วยเขาหน่อยสิ!” ศาสตราจารย์เอ็กซ์เร่งเร้า
“ขอโทษครับศาสตราจารย์ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” แฮงก์พยักหน้าเล็กน้อย เขารู้ดีว่าหน้าที่หลักของเขาไม่ใช่การช่วย แต่คือการจับตาดูเอริคเพื่อป้องกันไม่ให้เขาแอบทำอะไรมิดีมิร้าย
เอริคเหลือบมองแฮงก์และเข้าใจความคิดของพวกเขาได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็ทำเพียงยิ้มและส่ายหัวเล็กน้อยโดยไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย
“แฮงก์ ช่วยหาวัสดุอย่างอะลูมิเนียม เหล็ก เงินเล็กน้อย และสังกะสีให้ฉันที”
“ต้องการให้แปรรูปเป็นอะไร? ห้องแล็บของผมสามารถจัดการได้ทุกอย่าง”
แฮงก์ในตอนนี้ยังไม่รู้พลังของเอริค ทำให้เอริคยิ้มพลางส่ายหัว ก่อนที่เขาจะอ้าแขนออกกว้างพร้อมกับร่างของเขาที่ค่อย ๆ ลอยตัวขึ้น “ไม่จำเป็น แค่หาวัสดุมาให้ก็พอ”
“คุณก็เป็นมนุษย์กลายพันธุ์เหมือนกันเหรอ!” แฮงก์อุทานด้วยความตกใจ
“ไม่ใช่ มนุษย์กลายพันธุ์หรอก” ศาสตราจารย์เอ็กซ์พูดขึ้นอย่างเรียบ ๆ
“แล้วเขาเป็นตัวอะไร?” แฮงก์ถามต่อ ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานเขาจะรู้ตัวว่าพูดผิดไป “อ่า ขอโทษ ผมหมายถึงเขาเป็นเผ่าพันธุ์อะไร ทำไมถึงบินได้?”
“แฮงก์ ฉันทำได้มากกว่าบินอีกนะ!” เอริคตอบขณะลอยตัวอยู่เหนือศีรษะของทั้งสอง และรู้สึกเพลิดเพลินเป็นอย่างมากที่มีคนกำลัง ‘เงยหน้า’ ขึ้นมองเขาแบบนี้
“คุณเอริค พลังของคุณสืบทอดมาจากครอบครัวหรือเปล่า? ผมเคยอ่านรายงานเกี่ยวกับคุณ พ่อของคุณ ชาร์ลส์ แลนเซอร์ก็มีพลังนี้ด้วยใช่ไหม?” คำถามของแฮงก์ทำเอาเอริคแทบควบคุมการลอยตัวของตัวเองไม่อยู่
‘ตอนนั้นฉันจะต้องเมาอยู่แน่ ๆ ที่ใช้ชื่อนี้ตั้งชื่อพ่อของตัวเอง! ใช่ ฉันต้องเมาอยู่แน่ ๆ! หรือบางที มันเป็นความผิดของแม็กนีโตทั้งหมดต่างหาก!’ เอริคกัดฟันบ่นในใจ และรีบลงมือทำงานทันทีหวังเบี่ยงเบนความสนใจของแฮงก์
อย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อเอริคใช้พลังแยกแผ่นเหล็กจากเครื่องขยายคลื่นสมองด้วยมือเปล่า และหั่นแผ่นเหล็กออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ด้วยนิ้วของเขา แฮงก์ก็ตะลึงจนลืมเรื่อง ‘พ่อชาร์ลส์’ ไปจนหมด
“นี่เป็นพลังจิต หรือว่า . . .”
“ไม่ใช่ มันคือพลังแม่เหล็กไฟฟ้า” ศาสตราจารย์เอ็กซ์ตอบ เขาคุ้นเคยกับพลังของเอริคจากการต่อสู้ครั้งก่อนเป็นอย่างดี
“พลังแม่เหล็กไฟฟ้า! จะเป็นไปได้ยังไง?” แฮงก์พูดพลางขมวดคิ้ว “แต่ว่า . . . ชื่อ 'เอริค แลนเซอร์' นี่มันจะบังเอิญไปไหม? หรือว่า . . .”
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาเป็นใคร แต่เขายอมรับด้วยตัวเองว่าเขาไม่ใช่ร่างโคลน”
“ศาสตราจารย์ ทำไมคุณไม่ดูความทรงจำของเขาล่ะ? เผื่อว่า . . .”
“ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา . . .” ศาสตราจารย์เอ็กซ์พูดขึ้นมาด้วยหน้าตาเรียบเฉย
แฮงก์เบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที
“แฮงก์ หาวัสดุที่ฉันบอกเจอหรือยัง?” เอริคถามขัดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้แต่เขาเองก็ได้ยินบทสนทนานี้ชัดเจน และเมื่อศาสตราจารย์เอ็กซ์ยอมรับว่า ‘ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา’ เอริคก็แทบหลุดหัวเราะออกมา
“อ๊ะ ขอโทษที ผมจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้!”
. . .
“แผ่นเหล็กนี้มีรังสีคอสมิกปนเปื้อนอยู่เยอะมาก เอาออกไม่ได้และใช้งานต่อไม่ได้แล้ว ฉันจะเปลี่ยนให้ใหม่”
“สายเคเบิลเส้นนี้ใช้มากี่ปีแล้ว? มันไหม้จนเกือบขาดแต่นายยังใช้อยู่อีก นายไม่กลัวไฟไหม้หรือไง?”
“หม้อแปลงตัวนี้มีความจุน้อยไป แฮงก์ มีตัวใหญ่กว่านี้ไหม?”
“ไม่มี? ไม่เป็นไร งั้นเตรียมทองแดงมา ฉันจะสร้างให้ใหม่เดี๋ยวนี้เลย!”
ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงของศาสตราจารย์เอ็กซ์ เอริคได้อธิบายว่าสิ่งที่เขาทำเป็นผลจากการใช้พลังพิเศษของเขา แต่ศาสตราจารย์เอ็กซ์และแฮงก์กลับไม่เชื่อคำพูดนั้นเลยแม้แต่น้อย
เวลาไม่ถึงชั่วโมงต่อมา เครื่องขยายคลื่นสมองก็กลับมาในสภาพเหมือนใหม่ ไม่เพียงแต่ซ่อมแซมความเสียหายในครั้งนี้ แต่ยังจัดการซ่อมแซมจุดบกพร่องเล็ก ๆ ที่สะสมมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอีกด้วย ทำให้ตอนนี้ เครื่องขยายคลื่นสมองจึงอยู่ในสภาพเหมือนเพิ่งออกจากโรงงานไม่มีผิด
แน่นอนว่าแฮงก์เองก็สามารถซ่อมแซมเครื่องนี้ได้เช่นกัน แต่เขาไม่ได้มีพลังพิเศษแบบเอริค จึงทำได้เพียงแก้ไขทีละส่วน เปลี่ยนทีละชิ้น และถ้าหากให้เขาทำทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ คงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามถึงห้าเดือน
เมื่อศาสตราจารย์เอ็กซ์นั่งที่คอนโซลและสวมหมวกควบคุมด้วยสองมือ แฮงก์ยืนอยู่ทางซ้ายของเขา ส่วนเอริคยืนอยู่ทางขวา มือของศาสตราจารย์ก็สั่นเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้ เพราะภาพนี้ชวนให้เขานึกถึงช่วงหลายสิบปีก่อน ตอนที่แม็กนีโตกับแฮงก์ร่วมกันสร้างเครื่องขยายคลื่นสมองนี้
ตอนนี้ทุกอย่างดูราวกับย้อนกลับไปในอดีต . . .
“ศาสตราจารย์ . . .” เอริคเอ่ยเรียบ ๆ เพื่อดึงสติชาร์ลส์กลับมาสู่ปัจจุบัน
ศาสตราจารย์เอ็กซ์ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเปิดทำงานเครื่องขยายคลื่นสมองพร้อมกับภาพต่าง ๆ ปรากฏขึ้นบนผนังด้านในของเครื่องขยายคลื่นสมอง
ภาพเหล่านี้คือบุคคลที่ศาสตราจารย์เอ็กซ์เคยพบเจอมาก่อน และผู้คนส่วนใหญ่ในภาพเหล่านี้ก็เป็นสีเทาและโปร่งใส ซึ่งหมายถึงคนธรรมดา ส่วนบุคคลที่มีสีแดงเด่นนั้นคือมนุษย์กลายพันธุ์
ศาสตราจารย์เอ็กซ์เริ่มค้นหาอย่างละเอียดตามข้อมูลที่เอริคให้มา ไม่นานนักเขาก็พบเป้าหมาย นั่นก็คือเด็กหญิงคนหนึ่ง อายุประมาณหกหรือเจ็ดขวบ ภาพของเธอเป็นสีเทา แสดงว่าเธอเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์
“ไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์เหรอ? แปลกมาก!” ศาสตราจารย์เอ็กซ์พึมพำ บางทีนี่อาจจะเป็นเพราะทุกครั้งที่เขาใช้เครื่องขยายคลื่นสมองมักเกี่ยวข้องกับมนุษย์กลายพันธุ์เสมอ ดังนั้นการที่เขาต้องค้นหามนุษย์ธรรมดาทำให้เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อย
“เดี๋ยวนะ . . . นั่นมันอะไรกัน?” ศาสตราจารย์เอ็กซ์สังเกตเห็นความผิดปกติในตัวเด็กหญิง ก่อนที่เขาจะใช้พลังจิตวินไปรอบตัวเด็กหญิงสองครั้ง และในขณะที่กำลังจะถอนตัวออก เขากลับพบแสงสีฟ้าจาง ๆ ซ่อนอยู่ในร่างของเด็กหญิง ซึ่งแสงเหล่านี้คล้ายกับดวงดาวเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกที่สุด ทำให้ถ้าหากไม่สังเกตอย่างละเอียดคงไม่มีทางเห็นมันอย่างแน่นอน
‘สมกับที่เป็นเป้าหมายของเอริค ไม่มีทางที่จะเป็นคนธรรมดา!’ ศาสตราจารย์เอ็กซ์จดตำแหน่งของเด็กหญิงไว้ก่อนจะเปลี่ยนไปค้นหาเป้าหมายต่อไป นั่นก็คือ แดร็กคูลา
การหาแดร็กคูลานั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากกว่าการตามหามนุษย์กลายพันธุ์ซะอีก เนื่องจากจิตใจที่มืดมิดและชั่วร้ายของแดร็กคูลานั้นโดดเด่นเหมือนกองสิ่งปฏิกูลที่ส่งกลิ่นเหม็นในโลกจิตวิญญาณ ศาสตราจารย์เอ็กซ์จึงใช้เวลาเพียงหนึ่งนาทีก็พบเขาแล้ว
“เจอแล้ว แดร็กคูลาอยู่ในอังกฤษ ฉันจะส่งพิกัดให้คุณ” ศาสตราจารย์เอ็กซ์ถอดหมวกออกและเมื่อลืมตาขึ้นเขาก็เห็นว่าแฮงก์กำลังรินกาแฟให้เอริคพอดี
“อ๊ะ ศาสตราจารย์ ผมคิดว่าคุณจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ซะอีก” แฮงก์รีบรินกาแฟอีกแก้วให้ศาสตราจารย์
“หลังจากเอริคซ่อมแซมเครื่องขยายคลื่นสมองก็ดีขึ้นกว่าก่อนมาก ทั้งครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง เอริค ฉันขอขอบคุณอีกครั้ง!”
“ไม่เป็นไร ฉันเต็มใจช่วย แดร็กคูลาอยู่ที่อังกฤษใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปที่นั่นทันที” เอริควางแก้วกาแฟที่เพิ่งรับมา และทำท่าจะออกเดินทางทันที
“เอริค ดื่มกาแฟก่อนสิ!” แฮงก์รีบห้าม
เอริคเหลือบมองแฮงก์ ก่อนที่เขาจะโบกแขนเสื้ออย่างสง่างาม “เก็บกาแฟไว้ก่อน ฉันจะกลับมาในเร็ว ๆ นี้!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …