ตอนที่แล้วตอนที่ 37 ถ้าหากทำพลาด ก็ต้องรับผลที่ตามมา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 พายุสุริยะ!

ตอนที่ 38 ถึงเวลาแล้ว!


ตอนที่ 38 ถึงเวลาแล้ว!

ในจักรวาลจักรพรรรดิธานอสไม่มีแวมไพร์หรือเบลด ดังนั้นผลกระทบของอุปกรณ์ป้องกันรังสียูวีต่อแวมไพร์จึงเป็นสิ่งที่เอริคไม่ได้คำนึงถึงตั้งแต่แรก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วการเสียใจในสิ่งที่ผ่านไปย่อมไร้ความหมาย เพราะงั้นสิ่งที่ควรทำในตอนนี้ก็คือหาทางแก้ไขและชดเชยโดยเร็วที่สุด

ในช่วงเวลายี่สิบวัน อลิซ อินดัสตรีส์ ได้ใช้ความสัมพันธ์กับหน่วย กองงานยุทธวิธีจัดระเบียบกำลังพิเศษแห่งมาตุภูมิ (ชีลด์) ในการจัดซื้อเงินบริสุทธิ์จำนวนมาก และนำไปผสมในกระสุนสำหรับเจ้าหน้าที่ทั้ง 20,000 นาย พร้อมกับอาวุธระยะประชิดที่ถูกเปลี่ยนเป็นวัสดุเงินทั้งหมด ส่วนเงินที่เหลือก็ถูกเก็บเอาไว้และนำไปให้โดยเอริค ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาจะเอาไปทำอะไร

นอกจากอาวุธเงินแล้ว ตอนนี้เอริคกำลังเร่งพัฒนาอาวุธรังสียูวีอย่างเร่งด่วน เขารู้ดีว่าเมื่อมีอุปกรณ์ป้องกันรังสียูวี ประสิทธิภาพของอาวุธชนิดนี้จะลดลงเกือบเป็นศูนย์ แต่เขายังคงพัฒนามันต่อไป เพราะอุปกรณ์นี้เป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้น เขาจึงรู้วิธีทำให้มันใช้งานได้ และก็รู้วิธีที่จะทำให้มันใช้ไม่ได้เช่นกัน

เริ่มจาก ระเบิดยูวี ซึ่งใช้แหล่งพลังงาน ไดโอด ผงเรืองแสง และแผงควบคุม ผสมผสานกันจนกลายเป็นระเบิด บวกกับไม่ต้องพิจารณาเรื่องอานุภาพของการระเบิด ดังนั้นเอริคจึงทำให้มันเล็กที่สุดขนาดเท่าลูกลำไยเพื่อให้เจ้าหน้าชีลด์สามารถหยิบหลายสิบลูกได้ในคราวเดียว และไม่มีปัญหาที่จะติดตัวเอาไว้หลายร้อยลูก

ต่อมาก็คือ กระสุนยูวี ซึ่งบรรจุสารประกอบพิเศษสองชนิดไว้ในกระสุน เมื่อกระสุนชนเข้ากับวัตถุแข็ง สารทั้งสองจะผสมกันและปลดปล่อยรังสียูวีออกมาในปริมาณมาก

และสุดท้ายก็คือ เกราะยูวี เอริคเคลือบเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่แต่ละคนด้วยวัสดุพิเศษ เมื่อเปิดใช้งานพลังงานที่ติดตั้งไว้ เจ้าหน้าที่แต่ละคนจะกลายเป็นแหล่งกำเนิดแสงยูวีที่สว่างไสว ทำให้แวมไพร์ตาบอดชั่วคราว!

ซึ่งการรอคอยยี่สิบวันทำให้เบลดแทบจะทนไม่ไหว เขาต่อสู้กับแวมไพร์ทุกวัน และเห็นมนุษย์จำนวนมากกลายเป็นเหยื่อของพวกมัน นี่คือความทรมานที่เกือบทำลายความอดทนของเขา

แต่เขาก็ต้องรอ เพราะในอีก 20 วัน จะเกิดพายุสุริยะขนาดมหึมาที่กวาดผ่านโลก และนี่ก็คือของขวัญชิ้นใหญ่จากพระเจ้าที่มอบให้เหล่าแวมไพร์อย่างแท้จริง

. . .

ยี่สิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เอริคมองดาวเคราะห์สีฟ้าสดใสตรงหน้าพลางถอนหายใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกจากโลกหลังจากมายังจักรวาลนี้ ดาวเคราะห์สีฟ้านี้ไม่ว่าจะอยู่ในจักรวาลใดก็ยังคงเปล่งประกายงดงาม และเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม

เอริคสูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนจะกระทืบเท้าเบา ๆ ทันใดนั้นยานอวกาศชั่วคราวของเขาก็สลายกลายเป็นอนุภาคสีเงินเหมือนมังกรเงินที่ล่องลอยไปในอากาศ

ใช่แล้ว ยานทั้งลำทำจากเงินบริสุทธิ์! ภายใต้พลังพิเศษของเอริค ยานนี้ไม่ต้องการระบบนำทางหรือระบบขับเคลื่อนใด ๆ มันเป็นเพียงเปลือกเงินที่ใช้เพื่อปิดบังสายตาผู้อื่น

เอริคควบคุมมังกรเงินให้กระจายตัวไปอย่างเป็นระเบียบ โดยมีสองตัวลอยวนอยู่ด้านหลังเขา

หลังจากนั้นเอริคก็ควบคุมพวกมันให้เปลี่ยนร่างเป็นกรวยขนาดใหญ่ โดยให้ปากกรวยหันไปทางดวงอาทิตย์ มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างหลายร้อยไมล์ ส่วนปลายกรวยมีโครงสร้างซับซ้อนที่หันกลับมาทางเอริค

นี่คืออุปกรณ์รวบรวมพลังงานที่เอริคคิดค้นขึ้นแบบเร่งด่วน มันสามารถรวบรวมพลังงานจากพายุสุริยะ แปลงสภาพ และส่งต่อพลังงานให้กับเอริค เพิ่มพูนพลังพิเศษของเขาอย่างมหาศาล

พายุสุริยะเป็นปรากฏการณ์รุนแรงที่เกิดจากการปะทุบนดวงอาทิตย์ ปล่อยรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าและอนุภาคที่มีประจุออกมาจำนวนมาก ทำให้พลังของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจึงแข็งแกร่งเป็นพิเศษในช่วงที่เกิดการปะทุขึ้น!

ในขณะเดียวกันมังกรเงินที่เหลอืก็ค่อย ๆ หมอบคลานอยู่ตรงเท้าของเอริครอคอยคำสั่งของราชาอย่างเงียบ ๆ

. . .

แสงแดดส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้า

นิวยอร์กยังคงคึกคักเช่นเคย แสงแดดอันอบอุ่นช่วยขจัดความหนาวเหน็บของฤดูหนาว ชาวนิวยอร์กออกจากบ้านเพื่อเพลิดเพลินกับอากาศดี ๆ ที่หาได้ยาก แต่ในมุมมืดปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ก็กำลังเริ่มเปิดใช้อุปกรณ์เล็ก ๆ คล้ายไฟแช็ก พลางเผยรอยยิ้มโชว์เขี้ยวอันแหลมคม

เบลดยืนอยู่บนหลังคาตึกสูง และยังคงแต่งตัวด้วยชุดดำสนิท ปืนพกเหน็บที่เอว ดาบซามูไรเงินสองเล่มพาดอยู่บนหลัง เขามองลงไปยังถนนที่เต็มไปด้วยรถและผู้คนด้วยสายตาเย็นชา

“เอริคหายไปไหน?” ฟิวรี่ที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังเบลดอดถามขึ้นมาไม่ได้

“เขามีงานที่สำคัญกว่าต้องทำ” เบลดตอบเรียบ ๆ แต่สายตากลับเหลือบขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไม่รู้ตัว น่าเสียดายที่ฟิวรี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ได้สังเกตเห็นมันเลย

“ฉันไม่เข้าใจเลย พวกเราสองคนเป็นคนผิวดำเหมือนกัน ฉันรู้จักเขามาสองปี ส่วนนายเพิ่งเจอเขาครั้งแรก ทำไมเขาถึงเชื่อนายมากกว่าฉัน?” ฟิวรี่กอดอกบ่นพึมพำไม่หยุด

เบลดหันหน้ากลับมามองฟิวรี่จนทำให้ใบหน้าของสองชายผิวดำแทบจะแนบชิดกัน “เพราะฉันไม่พูดมาก!”

. . .

“หัวหน้า เราจะทำแบบนี้จริง ๆ เหรอครับ? เขาเป็นถึงวุฒิสมาชิก!” โคลสันพูดขึ้นขณะที่หมอบอยู่ในพุ่มไม้หน้าแมนชั่นสุดหรู ตอนนี้เขาสวมชุดต่อสู้พร้อมปฏิบัติการ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเป้าหมายซึ่งเป็นบุคคลระดับสูง เขาในฐานะน้องใหม่กับดูลังเลอยู่ไม่น้อย

“โคลสัน! ตอนนี้เราคือทหาร สิ่งที่เราต้องทำคือปฏิบัติตามคำสั่ง! ถ้านายอยากสั่งใครก็รอจนกว่านายจะได้เป็นผู้อำนวยการ! ตอนนี้หุบปากและรอคำสั่ง!” การ์เร็ตต์กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

โคลสันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่เขาจะเดินถอยกลับไปและบ่นพึมพำในใจ “เมื่อไหร่ฉันได้เป็นผู้อำนวยการ ฉันจะทุบตีนายจนแม่จำไม่ได้แน่นอน!”

. . .

แปดนาทีสิบวินาทีเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก เวลานี้อาจจะเพียงพอแค่ให้ใครบางคนกินฟาสต์ฟู้ดหนึ่งมื้อหรืออ่านหนังสือพิมพ์ได้เพียงครึ่งหน้า แต่แปดนาทีสิบวินาทีในตอนนี้นี้กลับเป็นเวลาที่แสงโฟตอนพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์เดินทางมาถึงพื้นโลกได้

เมื่อโฟตอนตัวแรกมาถึงโลก เอริคซึ่งนั่งหลับตาพักผ่อนอยู่นานก็พลันลืมตาขึ้นทันที พร้อมกับมังกรเงินที่อยู่ใต้เท้าของเขาที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้าและส่งเสียงคำรามไร้เสียง

“ถึงเวลาแล้ว!”

. . .

“ถึงเวลาแล้ว! เปิดอุปกรณ์! ไป! ไป! ไป!” การ์เร็ตต์ตบที่หน้าอกตัวเองเพื่อเปิดอุปกรณ์ที่ซ่อนอยู่ มันคือเครื่องรบกวนสนามแม่เหล็กที่พัฒนาโดยเอริค ซึ่งสามารถแทรกแซงการทำงานของอุปกรณ์ป้องกันรังสียูวี ทำให้สนามแม่เหล็กของอุปกรณ์เสียสมดุลและไม่สามารถป้องกันรังสียูวีได้อีกต่อไป

โคลสันก็เปิดใช้อุปกรณ์ของเขาเช่นกัน ก่อนจะเดินตามการ์เร็ตต์ไปพร้อมกับปืนในมือ

. . .

“เริ่มแล้ว อีกห้านาทีพายุสุริยะจะถล่มโลก วิทยุสื่อสารจะใช้งานไม่ได้ เราต้องลุยกันแล้ว!” ฟิวรี่โยนวิทยุสื่อสารในมือทิ้ง ก่อนจะดึงปืนพกออกจากเอวและหันไปตะโกนบอกเบลด

เบลดหันมามองฟิวรี่อย่างเย็นชาพลางแสดงสีหน้าดูถูก ก่อนจะกระโดดพุ่งตัวลงไปจากตึกทันที

“ไอ้เวรเอ้ย . . . คิดว่าตัวเองเก่งนักใช่ไหมที่มีพลังพิเศษ!” ฟิวรี่มองดูเบลดที่หมุนตัวกลางอากาศและลงสู่พื้นอย่างมั่นคงพร้อมกับสบถออกมา แต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำได้แค่สบถ และสุดท้ายเขาต้องขึ้นลิฟต์ลงไปเอง เพราะตึกนี้สูงถึง 25 ชั้น ต่อให้เขามีขาเพิ่มอีกสิบข้างก็ไม่กล้ากระโดดลงไปเหมือนเบลดแน่

. . .

ในเวลาเดียวกัน ทีมทหารที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีก็บุกเข้าสู่บ้านพักของบรรดาขุนนางและเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั่วโลกอย่างเงียบเชียบ พวกเขาไม่ทำอันตรายคนธรรมดา แต่พุ่งเป้าโจมตีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือหัวหน้าครอบครัวโดยตรง ผู้ที่ถูกยิงด้วยกระสุนของพวกเขาต่างกรีดร้องอย่างเจ็บปวดก่อนจะสลายกลายเป็นเถ้าธุลี ปลิวหายไปในอากาศราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด