ตอนที่แล้ว80 - ทำชั่วแล้วได้ออกจากเมืองหลวง?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป82 - เสด็จปู่ ท่านก็สนใจธุรกิจของอาหกหรือ?

81 - ก้าวหน้าไปพร้อมกับก่อเรื่อง!


81 - ก้าวหน้าไปพร้อมกับก่อเรื่อง!

"ข้าให้โอกาสเจ้าแก้ไขข้อผิดพลาด!" จูหยวนจางกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา

จูจวินรีบคุกเข่าลงแล้วคำนับ "พระบิดา บุตรมิได้คิดว่าตนเองทำผิด

ในทางกลับกัน คนที่ผิดคือพวกเขา

บุตรพาเจ้าพวกนั้น ไม่สิ พาเด็กพวกนั้นไปเคาะประตูบ้านเพื่อทวงหนี้ ก็เพื่อให้พวกเขารับรู้ถึงความยากลำบากของการหาเงิน

พร้อมทั้งเตือนสติถึงพิษภัยของการพนัน เพื่อให้พวกเขาได้ตระหนักไว้

และยังเป็นการลงโทษคนที่ไร้ซึ่งคำสัตย์!

หากพวกเขาคิดว่าการรวมตัวกันจะสามารถเปลี่ยนขาวเป็นดำได้ ถ้าอย่างนั้นก็ให้เป็นตามพวกเขา

ได้โปรดลงโทษบุตรอย่างหนักหน่วงเถิด ให้คัดลอกคำสอนของไท่จู่ก็ได้

หากเบาเกินไป อีกหน่อยพวกเขาก็จะกล่าวหาว่าพระบิดาปกป้องบุตรตนเอง

ดังนั้น ได้โปรดอนุญาตให้บุตรย้ายไปประจำตำแหน่งในเมืองห่างไกล ริมทะเลอันหนาวเหน็บเถิด"

จูจวินเชิดคอขึ้นอย่างท้าทาย ท่าทางที่เห็นทำให้ใครก็อยากลุกขึ้นมาตบหน้าเขา

จางหลงและคนอื่นๆ ต่างหัวเราะด้วยความโมโห

ก่อนหน้านี้รู้ว่าเจ้าบ้าจูสติไม่ดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะพูดโกหกหน้าตาย และไร้ยางอายถึงเพียงนี้

"อาหก ท่านอย่าดื้อเลย!" จูอิงสงถึงกับร้องไห้ออกมา

จูหยวนจางทั้งโกรธและขำในเวลาเดียวกัน "เจ้านี่นิสัยเสียเกินเยียวยา หากเจ้าเห็นว่าตนเองไม่ผิด ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจได้"

"ฝันไปเถอะ!" จูหยวนจางเคาะโต๊ะอย่างแรง "ข้าเคยบอกแล้วว่า เจ้าทำตัวเยี่ยงนี้ เจ้าเหมาะสมกับตำแหน่งเช่นนั้นหรือ?

ข้าขอบอกเลยว่า เว้นแต่เจ้าจะมีพัฒนาการ มิฉะนั้น ต่อให้ข้าต้องเลี้ยงเจ้าไปชั่วชีวิตอยู่ที่อิงเทียน ข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้าไปประจำตำแหน่ง เจ้าเลิกหวังได้เลย!"

จูจวินรู้สึกท้อแท้อย่างมาก นี่เป็นครั้งที่สองที่ถูกบิดาของตนบอกว่า "ไม่เหมาะสม"

ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก

พี่ชายคนรองและคนสาม พออายุถึงเกณฑ์ก็ถูกส่งไปยังดินแดนประจำตำแหน่ง

ทำไมถึงเป็นเขาที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคเหมือนต้องผ่านทัณฑ์สวรรค์?

นี่มันไม่ถูกต้อง คนที่ถูกโปรดปรานควรจะถูกเหนี่ยวรั้งไม่ใช่หรือ?

หรือเป็นเพราะเขายิ่งไม่น่ารัก ก็ยิ่งไม่ถูกปล่อยตัว?

ดูเหมือนเขาต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่

เขาจะก้าวหน้าต่อไป พร้อมกับพาหลานชายไปก่อเรื่อง น่าจะไม่มีปัญหากระมัง?

แบบนี้ปลอดภัยและมั่นคงกว่า การทำทั้งสองทางควบคู่กันไปเท่านั้นที่จะทำให้เขาได้ออกไปประจำตำแหน่ง

อย่างไรเสีย หลานชายยังเด็ก เด็กก็ชอบเล่นสนุกเป็นธรรมดา...

สิ้นปีนี้เขาก็จะถึงเกณฑ์อายุครบ หากถึงตอนนั้น ทุกคนคงต้องช่วยกันเกลี้ยกล่อมท่านพ่อให้ปล่อยเขาไป

"ฝ่าบาท โปรดคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม..."

"พอได้แล้ว ทุกคนออกไปได้!" จูหยวนจางโบกมือ "เรื่องการประจำตำแหน่งค่อยว่ากันเมื่อข้าได้พบกับไท่จื่ออีกครั้ง"

เมื่อจูหยวนจางเริ่มใช้เล่ห์ลากเวลา ทุกคนก็ได้แต่ทำใจ

ขณะนั้น เจิ้งหยวนกล่าวขึ้นว่า "ฝ่าบาท เพื่อให้ไท่ซุนดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง กระหม่อมเห็นว่าไม่ควรให้ไท่ซุนไปคบหากับอู่อ๋องอีกต่อไป"

"เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าต้องการให้ข้ากับหลานชายเกิดความร้าวฉานหรือ? เจ้ากำลังยุยงให้ข้ามีปัญหากับพี่ชายของข้า?

แล้วทำไมไม่ลองยุยงให้ข้ากับถ้าบิดามีปัญหากัน? ให้พ่อลูกมองหน้ากันไม่ติด จนท่านพ่อสังหารข้า พ่อผู้ผมขาวส่งลูกผู้ผมดำลงนรก?"

จูจวินโกรธจนตัวสั่น "นี่มันจะไม่มากเกินไปหรือ ไม่มีหลานชายข้าแล้วจะย้ายตำแหน่งยากเย็นแค่ไหนรู้หรือไม่?"

เจิ้งหยวนโดนคำพูดเสียดสีจนหน้าขึ้นสีแดงจัด "เจ้ามันเลอะเทอะเหลือเกิน!"

"นี่เรียกว่าความสัมพันธ์ในครอบครัว เจ้าจะไปรู้อะไร พวกข้าครอบครัวเดียวกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะมาพูดพล่าม!" จูจวินโกรธจัด

คำพูดนี้ทำให้จูหยวนจางที่เป็นฮ่องเต้ที่มาจากชนชั้นสามัญชนรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่ง เพราะสิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุดคือความสัมพันธ์ในครอบครัว

หลานชายคนโตกับบุตรชายคนที่หก ทั้งสองคนต่างเป็นดวงใจของมารดา

"เจ้าตัวแสบ ใครสอนให้เจ้าพูดจาหยาบคายเช่นนี้? หลี่เอี้ยนซีใช่หรือไม่?" จูหยวนจางกล่าวพลางลุกขึ้นแล้วเตะเขาไปหนึ่งที

จูจวินกุมสะโพกพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงน้อยใจ "ท่านพ่อ เขากำลังยุยงให้เกิดรอยร้าวระหว่างพวกข้า ทั้งพ่อลูก พี่น้อง และอาหลาน!"

จูหยวนจางถลึงตาใส่เขา แล้วหันไปกล่าวกับคนอื่นๆ ว่า "ทุกคนออกไปได้ หลานชายคนโตอยู่ในสายตาข้า หากเขากล้าทำตัวเหลวไหล ข้าจะจัดการเอง!"

จูอิงสงหดคอด้วยความตกใจ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา "เสด็จปู่ไม่ต้องห่วง หม่อมฉันจะไม่ทำตัวเหลวไหลแน่นอน!"

ทุกคนมองหน้ากันไปมา ต่างรู้สึกว่าที่พากันมาร้องเรียนครั้งนี้จบลงด้วยการถูกจูหยวนจางตำหนิแบบอ้อมๆ

จูจวินถูกลงโทษเพียงแค่คัดลอกคำสอนของไท่จู่สิบรอบ แต่เงินของพวกเขา กลับไม่ได้คืนแม้แต่เหรียญเดียว

แถมเงินเหล่านั้นยังถูกนำไปให้ไท่ซุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย และซื้อใจผู้คนอีกด้วย

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ทุกคนรู้สึกเหมือนถูกหักหลังจนปวดไปทั้งใจ

หลังจากออกมาจากตำหนักเฟิ่งเทียน จางหลงกล่าวอย่างโกรธจัด "เจ้าบ้านี่ไม่เพียงทำให้คนอื่นเดือดร้อน ตอนนี้ยังทำให้ลูกหลานของพวกข้าลำบากอีก อย่างไรข้าก็ต้องหาทางให้เขาไปประจำตำแหน่งให้ได้!"

ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน

หานอี้กล่าวว่า "รอให้ถึงประชุมใหญ่ครั้งหน้า ข้าจะต้องกดดันให้ฝ่าบาทกำหนดเวลาที่แน่นอนสำหรับการประจำตำแหน่งของเขา!"

...

ในตำหนักเฟิ่งเทียน จูหยวนจางมองดูเงินก้อนนั้น ความโกรธของเขาเริ่มลดลงไม่น้อย อย่างน้อยจูจวินก็รู้จักเก็บเงินเข้าบ้าน ไม่ใช่แจกจ่ายออกไปเหมือนเมื่อก่อน

นี่ก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้า!

"เจ้าเด็กดื้อ เจ้าคิดจะทำให้ข้าตายเพราะโกรธใช่ไหม?"

"ท่านพ่อ ข้าผิดตรงไหน?" จูจวินกล่าวพลางเชิดคอ

"เจ้ากล้าพูดว่าเจ้าไม่ผิดอีกหรือ? เจ้าพาหลานชายคนโตไปเคาะประตูบ้านร้องไห้ทวงหนี้ ข้าเสียหน้าหมด!" จูหยวนจางโกรธจนแทบจะยกเท้าขึ้นอีกครั้ง

จูอิงสงรีบเข้ามากอดเขาไว้ "เสด็จปู่ อาหกทำเพื่อพวกเขาจริงๆ!"

"ทำเพื่อพวกเขาบ้าบออะไร! เจ้าเองก็ถูกเขาชักจูงไปแล้วใช่ไหม? หลายวันนี้ ห้ามเจ้าออกจากวัง ได้ยินไหม?"

"หา?" จูอิงสงทำหน้ามุ่ย "มันน่าเบื่อมากเลยนะ!"

เมื่อเห็นหน้าบึ้งของจูอิงสง จูหยวนจางโมโหจนตบหัวจูจวิน "เจ้านี่แหละตัวปัญหา เล่นกับหลานข้าจนดื้อด้านไปหมด!"

จูจวินกุมศีรษะ พลางกล่าวด้วยความน้อยใจ "ท่านพ่อ นั่นเป็นธรรมชาติของเด็ก!"

"เจ้าก็สงบสติอารมณ์หน่อย อีกไม่กี่วันพี่ใหญ่ของเจ้าก็จะกลับมาแล้ว เจ้าจงไปรับเขาข้างนอก!" จูหยวนจางกล่าว

"เข้าใจแล้ว!" จูจวินพยักหน้า พลางคิดถึงพี่ชายที่หน้าตาคล้ายกับตนเองถึงเจ็ดส่วน

ฮ่องเต้พระบิดาไม่ค่อยมีเวลาให้ เขาจึงถูกเลี้ยงดูมาโดยพี่ใหญ่มาตั้งแต่เด็ก

ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั้งสองลึกซึ้งมาก

ทั้งสองเดินมายังสำนักกว๋อจื่อเจียน จูเติ้งและจูถังรีบออกมาต้อนรับ "คำนับพี่หก!"

"อืม ดีมาก เข้าใจอะไรได้เร็ว!" จูจวินตบไหล่ของทั้งสอง

ขณะนั้นเอง จูถังโบกมือให้พรรคพวกคนอื่นๆ ลุกขึ้นพร้อมกัน "คารวะท่านอาหก!"

บรรยากาศทำให้จูจวินรู้สึกเหมือนหัวหน้ากลุ่มเด็กอนุบาล

"อืม!" จูจวินพยักหน้าแล้วเดินกลับไปนั่งประจำตำแหน่งของเขา

ทันใดนั้น คนอื่นๆ ก็เริ่มขยับตัว

มีคนยกน้ำชาให้ มีคนบีบนวดไหล่และขา แม้แต่ตำราก็มีคนช่วยหยิบและเปิดให้

"พี่หก สบายดีไหม?" จูเติ้งถามพลางยิ้ม

จูจวินมองเขาอย่างเฉยเมย "ว่ามา มีอะไร?"

"ได้ยินมาว่าพี่หกเปิดร้านขายสลาก กำไรมากมาย!" จูเติ้งถูมือด้วยความเกรงใจ "พวกเราทุกคนต่างเป็นพี่น้องกัน พอจะให้ข้าได้ร่วมทำธุรกิจด้วยได้ไหม?"

จูถังเองก็ตั้งใจฟังด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง

จูจวินยิ้ม "ให้เจ้าร่วมธุรกิจได้ แต่ห้ามมือเปล่าเอากำไร!" (แปลว่าไม่ลงทุนรอแต่แบ่งปันผลกำไร)

…………….

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด