ตอนที่แล้วบทที่ 429 พระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 431 นี่แหละ...อังกฤษ

บทที่ 430 การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์


บทที่ 430 การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์

ชาร์ลยอมรับว่าตนประเมินพระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 ต่ำเกินไป

ก่อนหน้านี้ ชาร์ลรู้เพียงว่ามีกองโจร เขาติดต่อกับพวกเขาผ่าน "สตรีชุดขาว" และวางแผนปฏิบัติการร่วมกัน ทั้งยังทราบว่ากองโจรบางส่วนร่วมมือกับกองทัพฝรั่งเศสในการรักษาความสงบ และบางส่วนเข้าร่วมการรบโดยตรง

แต่เขาไม่ทราบว่ากองโจรมีกำลังพลเท่าไร อยู่ที่ใดบ้าง และหากมีการสู้รบก็ไม่สามารถสั่งการพวกเขาได้

หลังจากพระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 เสด็จมา พระองค์ทรงรวบรวมกองโจรที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ มาอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาเดียวกันได้ทันที

...

เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ชาร์ลกำลังคำนวณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างละเอียดกับพลจัตวาเทียรีในกองบัญชาการป้อมปราการ พวกเขากำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้รถถังสามารถลาดตระเวนในเมืองได้ พร้อมกับเก็บน้ำมันสำรองไว้ด้วย

ชาร์ลมีความคิดอยากให้พระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 จัดการให้กองโจรขนน้ำมันจากภาคประชาชน ไม่เพียงแค่ในแอนต์เวิร์ปเท่านั้น แต่รวมถึงพื้นที่โดยรอบด้วย ให้ขนน้ำมันเชื้อเพลิงของประชาชนในรัศมีหลายสิบกิโลเมตรมารวมกัน อาจช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของกองพลยานเกราะได้

แต่นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดี

นั่นเท่ากับเป็นการบอกกองทัพเยอรมันอย่างชัดเจนว่ากองกำลังของชาร์ลขาดแคลนน้ำมัน จากนั้นพวกเขาก็จะวางใจที่จะถอนกำลังผ่านช่องโหว่หนีไป

ดังนั้น ชาร์ลจึงต้องปฏิเสธความคิดนี้

ในตอนนั้นเอง พระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 เสด็จเข้ามา พระองค์ถือแฟ้มเอกสาร พระพักตร์ซีดเซียวด้วยความเหนื่อยล้า แต่ยังเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

เบื้องหลังพระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 มีนายทหารในเครื่องแบบทหารเบลเยียมตามมาผู้หนึ่ง

ขณะที่ชาร์ลกำลังสงสัย พระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 ทรงหันพระวรกายแนะนำว่า "นี่คือพันเอกอีเดน พลจัตวา ข้าตัดสินใจให้เขารับผิดชอบกองโจรในแอนต์เวิร์ป หากท่านมีคำสั่งใด สามารถสั่งการเขาได้โดยตรง"

ชาร์ลพิจารณาพันเอกอีเดนอย่างถี่ถ้วน เป็นทหารอายุราวสี่สิบกว่า ไว้หนวดทรงพระจันทร์เสี้ยว ที่แปลกคือบนเครื่องแบบมียศพันตรี

จากนั้นชาร์ลก็เข้าใจ เขาได้รับการเลื่อนยศเป็นพันเอกในสนามรบ ยังไม่มีโอกาสหรือไม่มีเงื่อนไขที่จะเปลี่ยนเครื่องแบบ

พันเอกอีเดนดูไม่ค่อยมีบารมีนัก เขาเข้ามาทำความเคารพชาร์ลอย่างเก้ๆ กังๆ อยากจะจับมือทักทายแต่ก็กลัวว่าจะไม่สุภาพ สุดท้ายชาร์ลจึงต้องยื่นมือออกไปก่อน

"สวัสดีครับ พันเอก"

"สวัสดีครับ ท่านพลจัตวา" พันเอกอีเดนรีบตอบ "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน พวกเรา... พวกเราพร้อมแล้ว โปรดออกคำสั่งเถิด มีอะไรที่ต้องการให้พวกเราทำไหมครับ"

"ทำในสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่" ชาร์ลตอบ "รักษาความสงบ ค้นหาทหารข้าศึกที่ตกค้าง"

"ครับ ท่านพลจัตวา" พันเอกอีเดนยืดอกตอบอย่างตื่นเต้น มองชาร์ลด้วยสายตาเปี่ยมความเคารพ

เขาคือแม่ทัพที่สามารถรุกจากคองเบรมาถึงแอนต์เวิร์ปได้ภายในวันเดียว ดูยังเป็นเด็กหนุ่ม แต่กลับสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้

พระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 ทรงหยิบเอกสารฉบับหนึ่งจากแฟ้มยื่นให้ชาร์ล "นี่คือกองโจรแอนต์เวิร์ป เราจัดตั้งเป็นกองพลที่ 21 ชั่วคราว โดยมีพันเอกอีเดนเป็นผู้บัญชาการ"

ชาร์ลรับเอกสารมาด้วยความสงสัย

นี่เป็นอีกจุดที่แปลก ผู้บัญชาการกองพลไม่ควรมียศพลจัตวาหรือ?

ภายหลังชาร์ลจึงทราบว่าเป็นเพราะตัวเขามียศพลจัตวา อีเดนในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาจึงต้องมียศพันเอก

เมื่อเปิดดูเอกสาร ชาร์ลถึงกับตกตะลึง "แอนต์เวิร์ปสามารถระดมกำลังพลได้ถึงหมื่นกว่านาย?"

ปืนที่ชาร์ลแจกจ่ายไปมีเพียงหกพันกว่ากระบอก นั่นคือของที่ยึดได้ทั้งหมดในแอนต์เวิร์ป รวมถึงปืนที่ชำรุดด้วย

พระเจ้าอัลแบร์ตที่ 1 ทรงพยักพระพักตร์ "บางส่วนเป็นทหารหญิง พวกเธอเรียกร้องอย่างแรงกล้าที่จะเข้าร่วมกองทัพ ข้าคิดว่าไม่ควรทำลายความกระตือรือร้นของพวกเธอ"

ชาร์ลตอบรับด้วยคำว่า "อ้อ"

ทหารหญิงในยุคนี้เป็นเรื่องแปลก มีเพียงรัสเซียซาร์ที่มีหน่วยทหารหญิง แต่ในยุคปัจจุบันกลับพบได้ทั่วไป

ดังนั้นชาร์ลจึงไม่รู้สึกแปลกใจ และยิ่งไม่รู้สึกว่ายอมรับไม่ได้ ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี ชาร์ลคิด เมื่อมีกองโจรประจำการที่นี่ พรุ่งนี้พอเรือขนส่งอังกฤษมาถึง กองพลยานเกราะก็จะสามารถย้อนกลับไปปิดช่องโหว่ที่ทิบิตซ์ได้ทันที

ไม่สิ ควรให้กองพลยานยนต์นำหน้าไปก่อน พวกเขาเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นทหารสื่อสารได้ส่งโทรเลขฉบับหนึ่งให้ชาร์ล "ท่านพลจัตวา พลเอกวินเทอร์ส่งโทรเลขมา เขาบอกว่าเรือขนส่งน้ำมันล่าช้าเพราะเรือดำน้ำเยอรมัน และเขาถามว่าท่านจะสามารถส่งกำลังสนับสนุนช่องแคบดาร์ดาเนลส์ได้หรือไม่"

ชาร์ลชะงัก เขาไม่ได้ปฏิเสธไปอย่างชัดเจนแล้วหรือ?

วินาทีต่อมาชาร์ลก็เข้าใจ

"เรือขนส่งน้ำมันล่าช้าเพราะเรือดำน้ำเยอรมัน" เป็นข้ออ้าง พลเอกวินเทอร์นำมันมาเชื่อมโยงกับ "การส่งกำลังสนับสนุนช่องแคบดาร์ดาเนลส์" ย่อมมีเหตุผล

นี่ชัดเจนว่าเป็นการส่งสัญญาณ

...

นี่ไม่ใช่ความต้องการของพลเอกวินเทอร์ แต่เป็นความประสงค์ของ "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ"

แต่เดิม "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" ไม่ทราบเรื่องที่ชาร์ลขาดแคลนน้ำมัน

พลเอกวินเทอร์ปากแน่นมาก เขารู้ว่านี่เป็นความลับทางทหาร หากรั่วไหลจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถานการณ์การรบในเบลเยียม

อย่างไรก็ตาม พลเอกวินเทอร์ไม่น่าจะ ไม่ควรจะเขียนเหตุผลการเบิกว่า "เพื่อการส่งกำลังบำรุงที่ดาร์ดาเนลส์"

หลังจาก "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" ถอนตัวจากศูนย์กลางอำนาจอย่างหมองเศร้า ตำแหน่งที่ได้รับพอดีคือกรรมการคณะกรรมการช่องแคบดาร์ดาเนลส์

เมื่อเขาเห็นพลเอกวินเทอร์เบิกน้ำมันจากแผ่นดินใหญ่อังกฤษ ก็รู้สึกแปลกใจมาก

ในเวลานี้อังกฤษกำลังถูกเรือดำน้ำเยอรมันปิดล้อม แม้แต่ตัวเองยังต้องซื้อน้ำมันจากตะวันออกกลาง แล้วการรบที่ช่องแคบดาร์ดาเนลส์จะละทิ้งแหล่งใกล้เคียงไปขนส่งจากอังกฤษได้อย่างไร?

เมื่อสอบถาม พลเอกวินเทอร์จึงจำต้องบอกความจริง

"รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาส่งโทรเลขถึงพลเอกวินเทอร์ว่า "นี่คือโอกาส วินเทอร์ โอกาสในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับชาร์ล"

พลเอกวินเทอร์ไม่เข้าใจว่ามี "การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์" อะไร จนกระทั่งนึกถึงที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" หวังให้ชาร์ลช่วยกอบกู้สถานการณ์อันย่ำแย่ที่กัลลิโปลี

เขาตกใจส่งโทรเลขตอบ "ท่านหมายถึงการส่งชาร์ลไปกัลลิโปลีหรือ? นี่ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ชัยชนะของชาร์ลก็เป็นผลประโยชน์ของอังกฤษเช่นกัน เราต้องการชัยชนะครั้งนี้!"

"ฉันรู้" "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" ตอบกลับ "แต่ทุกอย่างย่อมมีลำดับความเร่งด่วน ในแง่นี้ ชาร์ลชัดเจนว่าเร่งด่วนกว่าพวกเรา"

เขาหมายความว่า หากชาร์ลไม่ได้รับน้ำมันก็อาจถูกกองทัพเยอรมันล้อมกลับ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับชาร์ล

พลเอกวินเทอร์รู้สึกช็อกกับความไร้ยางอายของ "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" เขาแทบไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง

แต่พลเอกวินเทอร์รู้ดีว่านี่คือสิ่งที่ "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" สามารถทำได้ เช่นเดียวกับเมื่อสามปีก่อนที่เขาสั่งใช้ปืนใหญ่ปราบปรามการประท้วงของกรรมกร

(หมายเหตุ: เหตุการณ์นี้คือเหตุการณ์สังหารที่ถนนซิดนีย์ในปี 1911 โดย "รัฐมนตรีกระทรวงทหารเรือ" เดินทางมาควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง)

พลเอกวินเทอร์ยังอยากโต้แย้ง แต่รู้ว่าคงไม่มีประโยชน์ สุดท้ายจึงได้แต่ส่งโทรเลขที่มีความหมายแฝงเช่นนี้ถึงชาร์ล

...

เมื่อชาร์ลเข้าใจความหมายของโทรเลขแล้วก็อดขำไม่ได้

การเปิดศึกที่ช่องแคบดาร์ดาเนลส์เป็นเพราะตีแนวหน้าไม่คืบหน้า จึงต้องเปิดแนวรบใหม่ทางปีกและด้านหลัง

ตอนนี้ชาร์ลได้รับชัยชนะในแนวหน้าแล้ว พวกเขากลับมาถ่วงความคืบหน้าเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัว!

(จบบทที่ 430)

5 2 โหวต
Article Rating
4 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด