บทที่ 43 ปีจื่อกวาดล้างปีศาจ
มีปีศาจอยู่มากมายแค่ไหนในโลก?
หากใครถามคำถามนี้ ต้องถูกหัวเราะเยาะแน่นอน
เพราะปีศาจในโลกนี้มีมากเกินกว่าจะนับได้
พรรคมารหมื่นอสูรในฐานะผู้นำของฝ่ายปีศาจ แม้จะรวมระดับ 8 และ 9 เข้าไปด้วย ก็ยังมีไม่ถึงหมื่นคน
แล้วปีศาจที่ก่อความวุ่นวายไปทั่วโลก จะมีถึงแสนล้านคนหรือ?
เพราะวิธีการที่จะเป็นปีศาจนั้นง่ายเกินไป
และผลประโยชน์ก็มากเกินไป
คนธรรมดาที่ต้องการก้าวเข้าสู่ระดับ 9 และเป็นผู้ฝึกตน
ไม่ต้องพูดถึงการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง ต้องทุ่มเททั้งพลังงานและเวลาอย่างมาก
และสุดท้ายก็ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จได้
แต่หากฝึกฝนวิชาปีศาจ แล้วดูดกลืนเลือดเนื้อของคนธรรมดาหลายสิบคน
ก็สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับ 9 ได้อย่างราบรื่น
แม้ว่าวิชาปีศาจจะเริ่มต้นได้ง่าย แต่การจะบรรลุผลสำเร็จ หรือแม้แต่การก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดของระดับสามนั้น ยากกว่าวิชาธรรมะมาก
แต่หลายคน หากไม่พึ่งวิชาปีศาจ แม้แต่จุดต่ำสุดของระดับสามก็ยังไปไม่ถึง จุดสูงสุดของระดับสามยิ่งเป็นไปไม่ได้
และการกระทำของปีศาจนั้นไร้ความเกรงกลัว ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่างๆ การฆ่าคนก็ง่ายเหมือนการกินข้าวและดื่มน้ำ
ยิ่งเป็นที่นิยมของคนจำนวนมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา การผงาดขึ้นของพรรคมารหมื่นอสูร ทำให้ฝ่ายธรรมะต้องทุ่มเทพลังงานอย่างมาก
ยิ่งทำให้ปีศาจแพร่ระบาดไปทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ มักจะมีผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมะลงจากเขาเพื่อกำจัดปีศาจและปกป้องธรรมะ
แต่ตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมะเหล่านี้ต่างไปต่อสู้กับพรรคมารหมื่นอสูร
ปีศาจที่อาศัยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ก็เหมือนกับหลุดจากพันธนาการ วิธีการก็ยิ่งโหดร้ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม
ตอนนี้
ปีศาจทั้งแผ่นดินกำลังเผชิญกับวันสิ้นโลก
เพราะจางเทียนซือจากเขามังกรฟ้า
ได้ลงจากเขามากวาดล้างปีศาจแล้ว
กองบัญชาการใหญ่ของพรรคมารหมื่นอสูร
หลังจากการต่อสู้ที่เขามังกรฟ้า ประมุขพรรคมารหมื่นอสูรก็เสียชีวิต
รองประมุขระดับสวรรค์ทั้งเก้าตน เสียชีวิตไปแปดตน
รองประมุขที่รอดชีวิตมาได้ เพราะตอนนั้นมีภารกิจอยู่ ห่างจากเขามังกรฟ้าพอสมควร
ประกอบกับมีวิธีการเอาตัวรอด จึงหนีรอดมาได้
ถึงอย่างนั้น
รองประมุขผู้นี้ก็หวาดกลัวอย่างมาก แม้ว่าตอนนั้นจะหนีเอาชีวิตรอดอย่างเต็มที่ แต่เมื่อเหลือบไปเห็น พรรคมารหมื่นอสูรกลายเป็นทะเลเลือด ภาพที่น่ากลัวเช่นนี้เกือบทำให้จิตใจปีศาจของเขาแตกสลาย
"รองประมุข ตอนนี้จะทำอย่างไร?"
"ประมุขเสียชีวิต รองประมุขคนอื่นๆ ก็เสียชีวิต"
"พวกเรา พวกเราจะยังคงอยู่ที่นี่หรือ?"
ปีศาจที่เฝ้าอยู่คนหนึ่งถามด้วยเสียงสั่นเทา
"ไม่อยู่ที่นี่ จะหนีไปที่ไหน?"
"ที่นี่คือกองบัญชาการใหญ่ มีกลไกมากมาย การซ่อนตัวอยู่ที่นี่ปลอดภัยที่สุด"
รองประมุขตั้งสติ พูดอย่างใจเย็น
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง พรรคมารหมื่นอสูรก็ได้พิจารณาแล้วว่า หากพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับฝ่ายธรรมะ กองบัญชาการใหญ่จะเป็นทางออกสุดท้าย
กองบัญชาการใหญ่ของพรรคมารหมื่นอสูร ได้เชิญปรมาจารย์ด้านกลไกหลายสิบคนมาจัดวาง แม้แต่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ก็ไม่กล้าบุกเข้ามา หากพลาดแม้แต่น้อยก็จะบาดเจ็บสาหัสจากกลไก
ด้วยเหตุนี้
ในท้ายที่สุด รองประมุขจึงเลือกหนีกลับไปที่กองบัญชาการใหญ่
และสั่งให้ปีศาจที่เฝ้าอยู่เปิดใช้งานกลไกทั้งหมด
ทันใดนั้น
ในเวลานี้
มีเสียงกรีดร้องดังมาจากข้างนอก
พร้อมกันนั้น เสียงสั่นสะเทือนที่น่ากลัวก็ดังไปทั่วกองบัญชาการใหญ่
"ไม่!!"
"เจ้าเป็นใคร?"
"ทำไมต้องฆ่าพวกเรา"
เสียงคำรามอย่างสิ้นหวังของปีศาจในกองบัญชาการใหญ่ดังขึ้น พริบตาเดียวก็เงียบลง
ร่างที่สวมชุดนักพรตเดินเข้ามาทีละก้าว
นั่นคือหลินหยวน
"ปรมาจารย์สวรรค์"
รองประมุขยิ้มอย่างขมขื่น
เขาเคยคิดว่ากลไกในกองบัญชาการใหญ่อาจต้านทานปรมาจารย์สวรรค์จากเขามังกรฟ้าไม่ได้
แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ กลไกมากมายที่พรรคมารหมื่นอสูรเคยมองว่าเป็นทางออกสุดท้าย ในมือของปรมาจารย์สวรรค์ผู้นี้ แม้แต่ครึ่งก้านธูปก็ยังต้านทานไม่ได้
"ปรมาจารย์สวรรค์ หากข้ายอมสวามิภักดิ์ต่อเจ้า สวามิภักดิ์ต่อสำนักเทียนซือ ข้าจะยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่?"
รองประมุขไม่ยอมแพ้ ถามด้วยเสียงเบา
ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ น่าจะมีประโยชน์บ้าง?
"ไม่จำเป็น"
หลินหยวนส่ายหัวเล็กน้อย
จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินออกไป
ส่วนรองประมุขที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ก็มีเส้นสีแดงปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้ว
ปีศาจที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่ต่างกัน สายตาแข็งกร้าวอย่างรวดเร็ว ทุกร่างล้มลง….
ราชวงศ์ต้าอวี่
เมืองหลวง
ชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมยาวสีเลือด หนีไปที่นอกพระราชวังด้วยความหวาดกลัว
"ข้าชื่อโอวหยางเย่ เป็นศิษย์สายตรงของประมุขพรรคมารหมื่นอสูร ข้ารู้วิธีที่จะฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์อย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทั้งเก้าคนของพรรคมารหมื่นอสูร ล้วนเกิดจากวิธีการนี้"
โอวหยางเย่ชายในชุดคลุมยาวสีเลือด มองไปที่พระราชวังที่อยู่ตรงหน้า ระดมพลังลมปราณ ส่งเสียงเข้าไป
ราชวงศ์ต้าอวี่เป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีอำนาจแข็งแกร่ง และเป็นทางรอดเดียวของโอวหยางเย่ในตอนนี้
"ข้าสามารถบอกวิธีการนี้ให้กับราชวงศ์ต้าอวี่ได้ ข้อเรียกร้องเดียวคือ ขอให้ปกป้องข้า ปกป้องข้าจากจางเทียนซือ"
เมื่อโอวหยางเย่พูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเขาก็แทบจะขอร้อง
เขาเชื่อว่าวิธีการฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ ราชวงศ์ต้าอวี่ไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะนั่นคือระดับสวรรค์ แม้ว่าจะต้องจ่ายในราคาที่สูงมาก สำหรับราชวงศ์แล้ว ถือเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน
ไม่นานหลังจากนั้น
ประตูพระราชวังก็ถูกเปิดออก
ชายชราหลังค่อมคนหนึ่งเดินออกมา
ชายชราหลังค่อมผู้นี้มีลมปราณที่ลึกซึ้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์
"เจ้าไปเถอะ"
"จางเทียนซือไร้เทียมทานในโลกหล้า คนที่เขาต้องการฆ่า ปีศาจที่เขาต้องการกวาดล้าง พวกเราช่วยไม่ได้"
ชายชราหลังค่อมส่ายหัวเล็กน้อย
จากนั้นราวกับรู้สึกถึงบางสิ่ง ก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปในประตู
ในวินาทีต่อมา ประตูพระราชวังก็ปิดลง
"ช่วยไม่ได้?"
"แม้แต่วิธีการฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ก็ไม่ต้องการ?"
โอวหยางเย่ชายในชุดคลุมยาวสีเลือดเงียบลง
"หรือว่า ในโลกนี้ไม่มีใครช่วยข้าได้จริงๆ?"
โอวหยางเย่สิ้นหวังอย่างที่สุด
จากนั้น ลำแสงดาบก็พุ่งผ่านมาจากด้านหลัง
โอวหยางเย่ล้มลงทันที สูญเสียชีวิตทั้งหมด
"ก็รู้จักกาลเทศะดี"
หลินหยวนเงยหน้ามองพระราชวังต้าอวี่ หันหลังกลับและจากไป
ทุ่งน้ำแข็งทางเหนือสุด
หน้าพระราชวังที่สร้างจากผลึกน้ำแข็ง
ร่างที่สวมชุดคลุมสีดำคุกเข่าอยู่ที่นั่น
"สายเลือดพรรคมารหมื่นอสูรดั้งเดิมของข้า เมื่อหกพันปีก่อน เคยร่วมเป็นร่วมตายกับสายเลือดทุ่งหญ้าทางเหนือของท่าน"
"ข้าเต็มใจที่จะเปิดเผยความลับมากมายของพรรคมารหมื่นอสูรดั้งเดิม เพียงขอให้มีชีวิตรอด"
ร่างในชุดคลุมสีดำพูดด้วยเสียงเบา เขารู้ว่าเจ้าแห่งทุ่งหญ้าทางเหนือที่อยู่ภายในพระราชวังน้ำแข็งสามารถได้ยิน
ทั่วทั้งแผ่นดิน มีเพียงเจ้าแห่งทุ่งหญ้าทางเหนือผู้นี้เท่านั้น ที่สามารถยับยั้งปรมาจารย์าสรรค์จางได้บ้าง
"เจ้าต้องการมีชีวิตรอดรึ?"
ในส่วนลึกของพระราชวังน้ำแข็ง ชายผู้สง่างามที่มีดวงตาสีทองนั่งอยู่
ในเวลานี้ สีหน้าของเขาหม่นหมอง ไม่อาจมองเห็นอารมณ์ใดๆ
"ข้าก็ต้องการมีชีวิตรอดเช่นกัน"
ชายผู้สง่างามถอนหายใจ
"เจ้าแห่งทุ่งหญ้าทางเหนือ ท่านจะยืนดูสายเลือดพรรคมารหมื่นอสูรดั้งเดิมของข้าถูกตัดขาดอีกครั้งหรือ?"
ไม่ได้รับคำตอบ ร่างในชุดคลุมสีดำที่คุกเข่าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นด้วยความสิ้นหวัง
ในเวลาเดียวกัน
ร่างในชุดคลุมสีดำก็ล้มลง
เสียงของหลินหยวนดังขึ้นจากด้านข้าง
"เจ้าแห่งทุ่งหญ้าทางเหนือ?"
หลินหยวนมองไปที่พระราชวังที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
จากบันทึกของสำนักเทียนซือ เขาก็รู้จักสายเลือดทุ่งหญ้าทางเหนือเช่นกัน ประวัติศาสตร์ของพวกเขายาวนานไม่แพ้สายเลือดเทียนซือ
แต่สายเลือดนี้มักจะอยู่ห่างไกลจากพลังของดินแดนกลาง อาศัยอยู่ในทุ่งน้ำแข็งทางเหนือสุด คนทั่วไปจึงรู้จักน้อยมาก
"จางเทียนซือ ปีศาจผู้นี้ไม่เกี่ยวข้องกับทุ่งหญ้าทางเหนือของข้า เขาเป็นฝ่ายมาหาข้าเอง"
เมื่อรู้สึกถึงสายตาของหลินหยวน ชายผู้สง่างามในส่วนลึกของพระราชวังน้ำแข็งก็รีบอธิบายด้วยความประหม่า
"ข้ารู้"
หลินหยวนพยักหน้า
ร่างของเขาหายไปอย่างเงียบๆ
หลังจากที่หลินหยวนจากไปโดยสมบูรณ์
เจ้าแห่งทุ่งหญ้าทางเหนือผู้นี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"ปรมาจารย์สวรรค์รุ่นนี้สร้างแรงกดดันให้ข้ามากเกินไป ราวกับว่าแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์สวรรค์รุ่นอื่นๆ มาก?"
ชายผู้สง่างามอดไม่ได้ที่จะคิดในใจ
สายเลือดทุ่งหญ้าทางเหนือมีความเข้าใจเกี่ยวกับเทียนซือมากกว่าฝ่ายธรรมะอื่นๆ มาก
ด้วยเหตุนี้ ชายผู้สง่างามจึงรู้สึกถึงแรงกดดันที่หลินหยวนสร้างให้เขา แทบจะทนไม่ไหว
ในทะเลทรายแห่งหนึ่ง
ร่างหลายสิบร่างกำลังหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง
"จางเทียนซือ พวกเรามีกันหลายสิบคน แม้ว่าจะเรียกตัวเองว่าปีศาจ แต่ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคมารหมื่นอสูร"
"ตอนที่พรรคมารหมื่นอสูรบุกโจมตีเขามังกรฟ้า พวกเราก็ไม่รู้เรื่อง และไม่ได้มีส่วนร่วม"
ชายที่เป็นผู้นำตะโกนอย่างสิ้นหวัง มองไปที่ร่างที่กำลังเดินตามมาด้านหลังด้วยความหวาดกลัว
"ตราบใดที่เป็นปีศาจ ก็ต้องฆ่า"
หลินหยวนยกมือขวาขึ้น กดเบาๆ คนหลายสิบคนที่วิ่งอยู่ข้างหน้าก็ล้มลงพร้อมกัน
บนถนนที่พลุกพล่าน
นักพรตทำนายดวงชะตากำลังตะโกนเรียกลูกค้าอยู่ข้างทาง
ในเวลานี้ ชายที่มีใบหน้าธรรมดาคนหนึ่งเดินเข้ามา
"ทำนายดวงให้ข้าหน่อย ข้าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน"
ชายที่มีใบหน้าธรรมดาผู้นี้มีดวงตาสีแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างมากเมื่อเร็วๆ นี้
"ดูจากอายุของเจ้า"
นักพรตทำนายดวงชะตาเพียงแค่มองแวบเดียว สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
จากนั้นก็เก็บโต๊ะเครื่องมือทำนายดวง หันหลังกลับและเดินจากไปโดยไม่คิด
"ท่านลุง ท่านลุง ท่านกลัวคนๆ นั้นขนาดนั้นเลยหรือ ถึงกับไม่กล้าทำนายดวงให้เขา?"
เด็กคนหนึ่งวิ่งตามมาข้างหลัง
"เจ้าจะไปรู้เรื่องอะไร?"
นักพรตทำนายดวงชะตาจ้องมอง
"คนเมื่อกี้ อายุไม่ยืน พวกเราอยู่ใกล้เขามากเกินไป อาจจะถูกลูกหลงได้"
นักพรตทำนายดวงชะตาพูดอย่างรวดเร็ว
"หา?"
"ถูกลูกหลง?"
เด็กชายกระพริบตา เขารู้ว่าลุงของเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในโลก ทำไมถึงกลัวถูกลูกหลง
"เพราะคนๆ นั้น เป็นปีศาจ"
นักพรตทำนายดวงชะตาพูดตรงๆ
"ปีศาจ?"
เมื่อเด็กชายได้ยิน ก็หดคอลงทันที
ตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าหายนะของปีศาจทั่วโลกมาถึงแล้ว
จางเทียนซือที่ลงมาจากเขามังกรฟ้า กำลังไล่ล่าปีศาจไปทั่ว
ตราบใดที่เป็นปีศาจ ก็ยากที่จะหนีรอดจากความตาย ไม่มีใครหยุดได้
"จางเทียนซือ"
นักพรตทำนายดวงชะตาก็หยุดลงกะทันหัน
หัวใจก็เริ่มสั่นเทา
เพราะชายหนุ่มที่สวมชุดนักพรตกำลังเดินเข้ามา
มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของชายที่มีใบหน้าธรรมดาเมื่อกี้
"จางเทียนซือมาแล้ว"
นักพรตทำนายดวงชะตากล่าวพึมพำ
บันทึกของคนรุ่นหลังกล่าวไว้ว่า จางเทียนซือ ปรมาจารย์สวรรค์รุ่นที่สามสิบเจ็ดของสำนักเทียนซือ ได้ลงจากเขามากวาดล้างปีศาจ
หลังจากนั้นหกสิบปี ปีศาจในยุทธภพก็หายไป โลกสงบสุข ไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองว่าปีศาจ
คนรุ่นหลังเรียกสิ่งนี้ว่า
กวาดล้างปีศาจทั้งแผ่นดิน....
(จบตอน)
……
จางเทียนซือ คือ ปรมาจารย์สวรรค์จางนะครับ
จางคือชื่อตระกูลต้นกำเนิดของซานฟาง
ผมใช้คำนี้เพราะดูให้เกียรติกับตระกูลต้นกับเนิดกับเป็นคำที่สวยมากกว่านะครับ
เลยขออนุญาตทับศัพท์ไปเลยนะครับ