บทที่ 18 เสียงของอธีนา
"พระมารดา พระองค์จริงจังหรือ!"
แอรีสมองเฮร่าด้วยความตื่นเต้น
อโฟรไดท์ เทพีแห่งความรักและความงาม ผู้เป็นตัวแทนแห่งความรักและความงาม เทพีที่งดงามที่สุดในบรรดาเหล่าเทพ
ไม่ว่าจะเป็นเทพบุตรองค์ใด ต่างก็ลอบหมายปองความงามของนาง
แม้แต่บิดาของเขา ผู้เป็นราชาแห่งเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เพียงแต่เพราะเฮร่าเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ซุสจึงไม่เคยมีโอกาสได้ลงมือ
แต่ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีเทพบุตรองค์ใดกล้าบังคับให้อโฟรไดท์แต่งงานด้วย
แอรีสก็เป็นหนึ่งในผู้หมายปองอโฟรไดท์ หลงใหลในความงามอันล้ำเลิศของนางมานาน
แต่พวกเขาก็ไม่ได้ครองคู่กัน
เห็นสีหน้ากระวนกระวายของเขา เฮร่าจึงเอ่ยเบาๆ "แน่นอนว่าข้าจะไม่โกหกเจ้า ขอเพียงอพอลโล่ตาย ข้าจะยกอโฟรไดท์ให้เจ้า"
เมื่อได้ยินคำสัญญาของเฮร่า แอรีสไม่สนใจว่าจะทำให้บิดาโกรธ พยักหน้ารับทันที
"ตกลง ข้าจะต้องตัดหัวลูกชายของเลโตให้ได้ ท่านแม่ โปรดรักษาสัญญาด้วย"
แอรีสหัวเราะก่อนเดินออกไป
มองแผ่นหลังที่จากไปของเขา ดวงตาของเฮร่ายิ่งเต็มไปด้วยความรังเกียจ
นางหยิบคริสตัลขึ้นมา กล่าวกับตัวเองเสียงเย็น "อพอลโล่ เหตุใดเจ้าถึงไม่ใช่ลูกของข้า... ได้แต่โทษว่าเจ้านั้นทรงพลังเกินไป และตอนนี้ข้าทำได้เพียงทำให้เจ้าไม่มีโอกาศได้ขึ้นไปบนโอลิมปัส"
...
"ที่แท้เจ้าก็ได้รับคำเชิญจากเทพีแอมฟิไทรต์เช่นกัน พวกเราจึงไปด้วยกันได้" แอสเทรียรู้สึกประหลาดใจมาก
เมื่อถึงวันนัด นางออกจากริเวียพร้อมกับอพอลโล่และเฮคาที บินข้ามทะเลไป
อพอลโล่รู้สึกสงสัยกับพิธีเฉลิมฉลองการเติบใหญ่ของเจ้าชายไทรทันที่กำลังจะมาถึง
ดูเหมือนว่าแอมฟิไทรต์จะเชิญเทพมากมายมาเป็นพิเศษ
แต่นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เขาเป็นเพียงเทพชั้นสูง และเขามาที่ศาลาราชาแห่งท้องทะเลก็เพื่อหีบสมบัติเท่านั้น
"หีบสมบัติชั้นสูง ไม่รู้ว่าจะเปิดได้ของดีอะไรบ้าง" อพอลโล่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ในฐานะวังของโพไซดอน ศาลาเนปจูนตั้งอยู่ลึกในทะเล
ผ่านชั้นน้ำทะเลหลายชั้น ทั้งสามจึงมาถึงทะเลลึก
วังหรูหราและงดงามปรากฏอยู่เบื้องหน้าพวกเขา
มีเทพมากมายประจำอยู่ที่ประตูวัง แต่แอมฟิไทรต์ ราชินีแห่งทะเล กลับยืนอยู่ที่ประตูเพื่อต้อนรับแขก
เห็นทั้งสามมาแต่ไกล นางจึงร้องเสียงดีใจ "แอสเทรีย เฮคาที และอพอลโล่ ข้าไม่คาดคิดว่าพวกเจ้าจะมาพร้อมกัน"
แอสเทรียเดินนำหน้าและโค้งตัวเล็กน้อย "ข้าเพิ่งไปเยี่ยมเฮคาทีไม่นานมานี้ และพวกเรามาที่นี่วันนี้ เทพีแอมฟิไทรต์ ท่านช่างมีน้ำใจ เหตุใดจึงมาต้อนรับแต่เช้าเช่นนี้"
แอมฟิไทรต์หัวเราะเบาๆ "นี่ก็เพราะเป็นห่วงว่าเทพเบื้องล่างจะไม่ระมัดระวังและทำให้แขกของพวกเจ้าไม่พอใจไม่ใช่หรือ"
"มาเถิด เข้าไปนั่งข้างในก่อน และทำความรู้จักกับไทรทันของข้า พวกเจ้าเทพหนุ่มสาวควรอยู่ด้วยกันให้มากขึ้น เพื่อจะได้ไม่มีความขัดแย้งในอนาคต"
ภายใต้การนำทางของแอมฟิไทรต์ ทั้งสามมาถึงศาลา
ในวังที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับหรูหรา มีเทพหลายองค์นั่งอยู่แล้ว ในนั้นมีเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินที่ดูสง่างามและมีเมตตา
เมื่อเทพภายในเห็นทั้งสามมาถึง ต่างก็ลุกขึ้นทักทาย
"เทพีแอสเทรีย ท่านงดงามดังเช่นเคย"
"เทพีเฮคาที ท่านช่างสะอาดสะอ้านวันนี้"
ความสนใจของเหล่าเทพล้วนมุ่งไปที่แอสเทรียและเฮคาที แต่มีน้อยคนที่สนใจอพอลโล่
มีเพียงเด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินที่อยู่ด้านบนลุกขึ้นเดินมาหน้าอพอลโล่ ยิ้มและกล่าวว่า "ท่านคืออพอลโล่ บุตรแห่งเทพีเลโตและองค์ราชันย์แห่งเทพ
พระมารดาของข้ากล่าวว่าท่านเป็นเทพที่งดงามและพิเศษยิ่ง และนางชื่นชมท่านอย่างมาก!
"เจ้าชายไทรทันชมมากเกินไปแล้ว" อพอลโล่มองเขาพร้อมรอยยิ้ม
เหล่าเทพจึงสังเกตเห็นอพอลโล่และกระซิบกระซาบกัน
"นี่คือบุตรของเทพีเลโตหรือ ข้าได้ยินมาว่าเมื่อเขาถือกำเนิด ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงอรุณ ภาพที่เห็นไม่ด้อยไปกว่าตอนที่เทพีอธีนาประสูติเลย"
"อืม เป็นเทพที่งดงามและพิเศษจริงๆ ข้ารู้สึกได้ว่าพลังของเขาดูจะทรงพลังมาก เขาเพิ่งเกิดมาเพียงยี่สิบกว่าปี และดูเหมือนว่าจะไม่แพ้พวกเรา"
"เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อใดเขาจะมีโอกาสขึ้นโอลิมปัส ข้าได้ยินมาว่าเทพีเฮร่าพยายามสังหารเขาหลายครั้งแล้ว"
"อืม ขึ้นอยู่กับองค์ราชันย์แห่งเทพ ข้าไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่เทพีเลโตให้กำเนิด องค์ราชันย์แห่งเทพก็ไม่ได้ปรากฏตัว"
เหล่าเทพพูดคุยกัน
อพอลโล่กลับมองไปรอบๆ อย่างเฉยเมย เงียบๆ มองหาหีบสมบัติระดับสูงที่จัดแสดงไว้
ในขณะนั้น เสียงเยาะหยันดังมาจากภายนอกทันที
"ก็แค่สายพันธุ์ป่าที่เกิดจากท่านพ่อภายนอกโอลิมปัส แต่ละปีมีหลายคนแบบเขาเกิดมา จะมีสักกี่คนที่ปีนขึ้นโอลิมปัสได้"
เหล่าเทพจ้องมองไปทางนั้น แอรีส เทพเจ้าแห่งสงครามในชุดเกราะหนา ถือดาบใหญ่ และแผ่พลังความรุนแรง เดินเข้ามาอย่างไม่แยแส
ดวงตาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส จ้องมองอพอลโล่อย่างเฉยเมย
ชั่วขณะนั้น ทั้งวังตกอยู่ในความเงียบ
ไทรทัน เจ้าภาพ รีบลุกขึ้นเพื่อไกล่เกลี่ย "ท่านแอรีส ข้าไม่คาดคิดว่าท่านจะมาร่วมพิธีบรรลุนิติภาวะของข้าด้วย"
แต่ไม่คาดคิดว่า แอรีสเพียงจ้องเขาเย็นชา ไม่แสดงท่าทีใดๆ "หลีกไป ข้าไม่ได้พูดกับเจ้า"
พูดจบ เขาผลักไทรทันออก ก้าวยาวๆ มาหน้าอพอลโล่ และพูดอย่างดูถูก "มีเพียงข้า แอรีส บุตรแห่งท่านพ่อเท่านั้นที่ดีที่สุด ที่เหลือพวกเจ้าไม่คู่ควรกับสายเลือดของท่านพ่อ"
"จริงหรือ เจ้าคิดว่าข้าไม่คุ้นเคยกับชื่อของบุตรแห่งซุสหรือ"
รู้สึกถึงพลังรุนแรงที่แผ่เข้ามา ดวงตาของอพอลโล่เย็นชาลง
ในขณะนั้น เสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากภายนอก
"โถ พี่ชายของข้าเพียงต้องการต่อสู้กับข้า และชอบสร้างความอับอายภายนอก ทำให้น้องสาวอดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ"
ทันทีที่เสียงดังขึ้น ใบหน้าของแอรีสก็แดงก่ำ
เขากำมือแน่นและหันกลับไปมอง ลำคอแทบจะคำราม "อธีนา ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่!"