บทที่ 101 การสะกดจิต
ฉู่หยางแสดงสีหน้ากังวล และยื่นยาในมือให้เหยียนเชียนอี้
"เชียนอี้ ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆ อากาศร้อนขนาดนี้ แผลที่หลังเธอควรจะรักษาให้เร็วขึ้น อย่าปล่อยไว้จนมันหนักขึ้น"
ทันใดนั้น มีเงาหนึ่งวิ่งเข้ามาขวางระหว่างพวกเขา
ชูฮวาเอามือไขว้สะโพกและยืนขวางไว้ ก่อนจะพูดกับฉู่หยางว่า "ขอบคุณนะ เรามียาแล้ว แต่ไปดูแลแฟนของนายดีๆเถอะ เชียนอี้มีฉันดูแลแล้ว ไม่ต้องห่วงเธอหรอก"
ฉู่หยางขมวดคิ้วแล้วหันไปมองเหยียนเชียนอี้ แต่ชูฮวาก็ยืดแขนขวางเอาไว้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ชูฮวาก็จะเอาตัวขวางไว้ทุกครั้ง
"พวกเธอเต้นรำกันหรือไง" เหยียนเชียนอี้พูดแล้วก้าวเดินไปข้างหน้า
ฉู่หยางกำลังจะเดินตามไป แต่ชูฮวาก็ขวางเขาไว้และจ้องเขาตาเขียว
"นายมีแฟนแล้วนะ ทำไมยังมารบกวนเชียนอี้อีก แทนที่จะมายุ่งกับเธอ ลองไปดูแลปากใหญ่ๆของแฟนนายให้ดีๆเถอะ อย่าปล่อยให้เธอไปแพร่ข่าวลือไม่จริงไปทั่ว" ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเชียนอี้และอาจารย์ไมค์ มีที่มาจากหานหรูยี่คนนั้น
ข่าวลือประหลาดๆอื่นๆทั้งหมดก็เป็นของหานหรูยี่เช่นกัน
ชูฮวาตะโกนเรียกเชียนอี้ "เชียนอี้ รอฉันหน่อย!"
เหยียนเชียนอี้มองเธอแวบหนึ่ง "เธอไม่บอกว่าจะอยู่ข้างหลังช่วยฉันกันเหรอ"
"ผู้ชายคนนั้นชื่อฉู่หยางใช่ไหม เขามันขยะจริงๆ ถ้าชอบเธอจริง ทำไมไม่อยู่กับเธอตั้งแต่แรก ต้องไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นก่อน เชียนอี้เธออย่าไปหลงกลเขานะ ฉันเกลียดผู้ชายแบบเขามากที่ชอบมีผู้หญิงสองคนในมือ!"
เหยียนเชียนอี้ยิ้มเบาๆ "จริงๆ ก็ไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก ตอนที่ฉันหลับไปสองปี หมอเขาบอกว่าไม่น่าจะฟื้น เขาก็หาผู้หญิงคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดานะ เพราะเขายังหนุ่มอยู่ คงไม่สามารถรอคนที่ไม่รู้จะตื่นเมื่อไหร่ได้หรอก ใครๆก็ทำอย่างนั้น ฉันเข้าใจดี"
เธอไม่ได้โกรธฉู่หยางเลย เพราะทั้งคู่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
ที่ไม่อยากติดต่อกับเขาก็แค่ไม่อยากให้หานหรูยี่มารบกวนอีก
"เชียนอี้.."ชูฮวาพูดด้วยท่าทางสงสัย "ก่อนหน้านี้พวกเธอเคยเป็นแฟนกันเหรอ"
"อืม พ่อแม่ของเราจัดการเรื่องการหมั้นไว้ให้ หลังจากที่ฉันกลายนอนเป็นผักเขาก็ไปอยู่กับหานหรูยี่"
"ยังไงก็ขยะ! ถ้าผู้ชายที่ฉันรักหลับไป ถึงแม้จะผ่านไปนานแค่ไหน ฉันก็จะรอเขาไปตลอด! แล้วเธอแค่หลับไปแค่สองปี เขาก็ทนไม่ไหวแล้วไปหาคนอื่น!"
จริงๆแล้วมันแค่หนึ่งปีเท่านั้น แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่สำคัญแล้ว
เธอไม่เคยรักฉู่หยางเลย จะมีเหตุผลอะไรไปเรียกร้องให้เขารักและรอเธอตลอดไป
"เชียนอี้ แล้ว... หานหรูยี่บอกว่าเธอแต่งงานแล้วจริงไหม" ชูฮวาถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
เธออยากรู้จักเชียนอี้ให้มากขึ้น ปกติแล้วเชียนอี้ไม่ค่อยพูดอะไร เธอจึงไม่กล้าถามเรื่องพวกนี้
วันนี้เชียนอี้พูดเยอะ เธอเลยถือโอกาสถาม
เมื่อเห็นเหยียนเชียนอี้พยักหน้าชูฮวาก็แปลกใจ "จริงเหรอ เธอแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คนที่เธอแต่งงานด้วยต้องเก่งมากแน่ๆใช่ไหม"
"เธอเคยเจอเขานะ"
"ห๊ะ"
"ก็คือวันเปิดเทอมวันแรกที่หน้าประตูโรงเรียน ฉันบอกว่าเขาคือพี่ชายของฉันน่ะ" เหยียนเชียนอี้ตอบตามตรง ตั้งแต่ตอนนี้เธอเป็นเพื่อนกับชูฮวาแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง
อีกอย่าง ปากของหานหรูยี่เรื่องการแต่งงานของเธอก็คงปิดไม่มิด
ชูฮวาตาโตและตื่นเต้น "คือผู้ชายหล่อๆคนนั้นเหรอ?! เชียนอี้ เธอรู้ไหม เขาคือผู้ชายที่ฉันเคยเจอที่หล่อที่สุดเลย! โอ้ยทำไมเธอแต่งงานตั้งแต่ยังเด็ก เขาหล่อจริงๆ!"
เหยียนเชียนอี้ยิ้มเบาๆ "จริงๆแล้วเราแต่งงานกันแค่ปลอมๆ"
"แต่งงานปลอมๆเหรอ"
"พูดแล้วมันยาวเลยสักนิด แต่สรุปแล้วเราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แค่จดทะเบียนแต่งงานในระบบเท่านั้น พอครบปีแล้วก็หย่ากัน"
ขณะที่พูดอยู่ ทั้งสองคนก็กลับมาถึงหอพัก
"น่าเสียดายจัง..."ชูฮวาถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าเหยียนเชียนอี้ไม่อยากพูดมากกว่านี้ เธอก็ไม่ถามอะไรต่อ
ชูฮวาเอาขวดยาขึ้นมาเขย่า "เธอถอดเสื้อออกเถอะ เมื่อกี้หยุนมู่ให้ยามา ฉันเอามาให้แล้ว เดี๋ยวฉันจะทายามให้ "
เหยียนเชียนอี้มองขวดยาแล้วเดินไปนั่งที่ขอบเตียง ถอดเสื้อคลุมกองทัพออก เผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวด้านใน
บนเสื้อกล้ามนั้น มีรอยเลือดจางๆแฝงอยู่
เมื่อเสื้อกล้ามถูกถอดออก ชูฮวาก็เห็นแผลที่หลังของเหยียนเชียนอี้ ท่าทางตกใจเล็กน้อย "เชียนอี้ เจ็บไหม"
ที่หลังของเหยียนเชียนอี้ซึ่งเคยขาวเนียน ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยช้ำสีม่วงแดงและหลายจุดที่ถลอกออกมาเป็นเลือด
"ไม่เจ็บหรอก ทายาเถอะ"
ชูฮวาขมวดคิ้ว เอาผ้าฝ้ายชุบยามา ทายาเบาๆบนแผลของเธอ
พูดว่าไม่เจ็บก็ไม่ได้หรอก โดยเฉพาะตอนทายา ยาที่ทาบนแผลถลอกทำให้เจ็บมากขึ้น
แต่เหยียนเชียนอี้ไม่ได้ขมวดคิ้วเลย การซ่อนความเจ็บปวดนี่เธอถนัดมาก
ตั้งแต่ปีที่สิบสามที่เจอกับท่านผู้บัญชาการเธอก็แอบไปลงเรียนคอร์สฝึกต่อสู้โดยที่ไม่บอกพ่อแม่
ฝึกซ้อมอย่างลับๆ ตอนบาดเจ็บกลับมาบ้านก็ไม่กล้าแสดงออก เพราะกลัวพ่อแม่ห้าม
เมื่ออายุสิบหก ปี เธอเข้าร่วมองค์กรและในช่วงสองปีก่อนที่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เธอรับภารกิจหลายอย่าง
ตอนนั้นยังเด็ก ไม่เก่งเหมือนตอนนี้ ก็เลยโดนบาดเจ็บพอสมควร
กลับบ้านก็กลัวพ่อแม่จะรู้ แม้จะเจ็บแค่ไหนก็ต้องกัดฟันทนไป
ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงสะอื้นจากด้านหลัง
เหยียนเชียนอี้หันไปมองด้วยความสงสัย แล้วพบว่าชูฮวากำลังซ่อนน้ำตาอยู่
เธอชะงักไปเล็กน้อย "ฉันยังไม่ร้องไห้เลย แล้วเธอร้องทำไม"
ชูฮวาก็สูดน้ำมูก พร้อมกับดวงตาสีเขียวมรกตที่เริ่มแดงขึ้น "ฉันเห็นแล้วก็เจ็บแทนเธอเลย แถมแผลจากอาจารย์อินก็ยังรุนแรงขนาดนี้"
"ไม่เป็นไร ตอนนี้เขายังเจ็บกว่าฉันอีก"
"แต่ตอนนี้เขาก็พักฟื้นแล้วไง เธอยังต้องไปฝึกฝนต่ออีก"
"ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย" เหยียนเชียนอี้รีบเปลี่ยนเรื่อง เพื่อปลอบใจชูฮวา "เออ แล้วพลังพิเศษของเธอคืออะไร"
ชูฮวาเห็นน้ำตาในดวงตาก็สว่างขึ้นทันที ดวงตาสีเขียวมรกตเปล่งประกายด้วยความดีใจ "เธออยากรู้เหรอ"
ในที่สุดเชียนอี้ก็เริ่มสนใจเธอบ้างแล้ว!
"อืม ถ้าเธอสะดวกบอกก็ได้"
"สะดวกสิ! แน่นอน!" ชูฮวาลุกขึ้นมานั่งข้างๆ เหยียนเชียนอี้ "มองตาฉันนะ"
เหยียนเชียนอี้มองไปที่ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอ
แล้วก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของชูฮวามีความดึงดูดที่แปลกประหลาด
มันเหมือนกับการมองไปในทะเลสีเขียวมรกตที่กว้างใหญ่และลึกลับ ที่ทำให้คนรู้สึกอยากจะจมลึกไปในนั้น
ชูฮวาพูดต่อ "แค่เพียงสบตากับฉัน ก็จะถูกฉันสะกดจิต"
"สะกดจิตเหรอ"
"จะลองเล่นเกมสักเกมไหม" ชูฮวาหัวเราะเบาๆ "ฉันจะถามว่า เธอชอบใคร เธอจะต้องตอบตามตรงแน่นอน"