ตอนที่ 782 แกลืมสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่ง
เพื่อให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ เย่เฉิน ได้แม่นยำขึ้น เจิ้ง ฉางผิง ได้จัดวางสายลับไว้ตามเส้นทางเป็นระยะๆ
สายลับที่อยู่ใกล้จุดหมายที่สุดเพิ่งรายงานมาให้ เจิ้ง ฉางผิง ทราบว่า ‘เย่เฉิน กำลังมาถึงแล้ว’
จากจุดที่สายลับอยู่จนถึงที่นี่ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียงสองนาทีเท่านั้น
“สั่งลงไปให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม ..ได้เวลาลงมือแล้ว”
เจิ้ง ฉางผิง หันไปสั่งบอดี้การ์ดของเขา
“หัวหน้าตระกูลเซี่ยง ช่วยบอกให้คนของคุณเตรียมตัวด้วย เย่เฉิน มันน่าจะมาถึงในอีกสองนาที”
เจิ้ง ฉางผิง พูดพร้อมหันไปมอง เซี่ยง จงเย่
“ได้”
เซี่ยง จงเย่ พยักหน้า พร้อมสั่งคนของเขาให้เตรียมพร้อม และรอฟังสัญญาณจากเขา
แต่ในตอนนั้นเอง สายลับคนเดิมโทรกลับมาอีกครั้ง
“บอสครับ ผมลืมบอกไปนิดหน่อย รถของ เย่เฉิน ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อกี้เปิดกระจกไว้ แต่ดูเหมือนในรถจะมีแค่เขาคนเดียว แฟนสาวของเขาไม่ได้อยู่ในรถ”
สายลับเสริมข้อมูล
“จะไปสนใจแฟนมันทำไม เย่เฉิน มาถึงก็พอแล้ว!”
เจิ้ง ฉางผิง บ่น พร้อมวางสายทันที เขาคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
เขาไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเหล่านี้เลย แต่ สวี จิ่วติ่ง ที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับมีสีหน้าครุ่นคิดเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก
“อีกไม่นาน เย่เฉิน มันจะต้องสิ้นหวัง และไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไป!”
เจิ้ง ฉางผิง ลูบมือตัวเองด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“คิดสู้กับพวกเรา เย่เฉิน มันก็เหมือนรนหาที่ตาย! ความแข็งแกร่งของพวกเราสามารถบดขยี้มันได้สบายๆ”
เขาแสดงความมั่นใจสุดขีด ด้วยกำลังคนของเขา และสวี จิ่วติ่ง ที่เตรียมไว้ บวกกับตระกูลเซี่ยงที่มาสมทบ ทำให้เขามั่นใจว่าครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่นอน
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณกลยุทธ์อันยอดเยี่ยมของ พี่สวี ถึงได้จัดการ เย่เฉิน มันได้ง่ายดายขนาดนี้..”
เจิ้ง ฉางผิง เริ่มคิดถึงงานฉลองหลังจากกำจัด เย่เฉิน เสร็จแล้ว
ด้าน เซี่ยง จงเย่ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟังคำพูดโอ้อวดของ เจิ้ง ฉางผิง เขากลับแอบขำขันอยู่ในใจ
‘บดขยี้ คุณเย่? ฝันไปเถอะ!’
‘ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพลังอำนาจ และสายสัมพันธ์เลย แค่กลยุทธ์ พวกแกก็ยังห่างไกลจาก คุณเย่ เป็นหมื่นลี้!’
‘พวกแกจะสู้กับ คุณเย่ ได้ยังไง? พวกแกไม่มีคุณสมบัติเลยด้วยซ้ำ!’
ในขณะที่ เจิ้ง ฉางผิง กำลังพูด รถหรูคันหนึ่งก็กำลังวิ่งเข้ามาจากระยะไกล รถคันนั้นก็คือรถของ เย่เฉิน!
1,000 เมตร...
500 เมตร...
300 เมตร...
……..
เมื่อรถ เย่เฉิน ใกล้เข้ามา เจิ้ง ฉางผิง สั่งการทันที
รถหลายคันที่ซ่อนอยู่ทั้งสองฝั่งถนนพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ปิดกั้นเส้นทางด้านหน้าของ เย่เฉิน
ด้านหลัง ก็มีรถอีกหลายคันปิดเส้นทางถอยเช่นกัน
“ลุย!”
บอดี้การ์ดของ เจิ้ง ฉางผิง และสวี จิ่วติ่ง พุ่งออกมาทันที คนของ เซี่ยง จงเย่ ก็ตามออกมาในลำดับถัดไป
ในชั่วพริบตา รถของ เย่เฉิน พลันถูกล้อมรอบอย่างแน่นหนา โดยมีคนของ เซี่ยง จงเย่ ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา
“โฮ่ นี่ไม่ใช่ คุณเย่ เย่เฉิน หรอกหรือไง ลงมาซะดีๆ!”
เจิ้ง ฉางผิง ก้าวลงจากรถด้วยท่าทีของผู้ชนะ พร้อมมองเย้ย เย่เฉิน ที่ยังคงนั่งอยู่ในรถ
เย่เฉิน เปิดประตูลงจากรถมาอย่างใจเย็น มองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่า เจิ้ง ฉางผิง และสวี จิ่วติ่ง อยู่กันครบ เขาก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ไอ้แซ่เย่ นี่แกหมายความว่ายังไง ใกล้ถึงคราวซวยแล้ว แกยังทำเป็นใจเย็นได้อีกเหรอ?”
เจิ้ง ฉางผิง พูดอย่างไม่พอใจที่เห็น เย่เฉิน ยังมีท่าทีสงบนิ่ง
“คราวซวยเหรอ? ฉันไม่เห็นจะรู้สึกเลย”
เย่เฉิน ตอบกลับ แผนของเขาสำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ถึงเวลาจัดการรวดเดียวให้จบ!
“ฮ่าฮ่าๆๆ มันขำชะมัด! อวดดีเสียจริงถึงขนาดออกมาโดยไม่มีบอดี้การ์ดสักคน! พวกเรามีคนเยอะขนาดนี้ การจัดการแกคนเดียวก็เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก!”
เจิ้ง ฉางผิง หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“แกนี่มันไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ”
“เชื่อไหม วินาทีต่อมา ฉันจะทำให้แกคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน!”
เย่เฉิน ส่ายหัว ตอบกลับอย่างเยือกเย็นว่า :
“ฉันว่าคนที่ต้องคุกเข่าวันนี้ น่าจะเป็นแกมากกว่านะ”
“ไอ้เด็กเวร แกพูดว่าอะไรนะ?!”
เจิ้ง ฉางผิง โกรธจนหน้าเหยเก ยกมือขึ้นสุดแรงหวังจะตบหน้า เย่เฉิน
แต่ก่อนที่มือนั้นจะตกลงมา จู่ๆ ก็มีคนเข้ามาคว้ามือเขาไว้แน่น
เจิ้ง ฉางผิง หันศีรษะไปมองด้วยความโมโห แต่เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนจับเขาไว้ เขาก็ถึงกับอึ้งไปทันที
คนที่ขัดขวางเขาคือ... เซี่ยง จงเย่!
“หัวหน้าตระกูลเซี่ยง คุณมาหยุดฉันไว้ทำไม?”
เจิ้ง ฉางผิง ถามอย่างไม่พอใจ
เพี๊ยะ!
ยังไม่ทันได้คำตอบ เซี่ยง จงเย่ ง้างมือตบหน้าเขาเต็มแรง เสียงดังสนั่น
คนของ เจิ้ง ฉางผิง ที่เห็นเจ้านายถูกตบ ต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
เจิ้ง ฉางผิง และสวี จิ่วติ่ง ตกตะลึง
“ลงมือ!”
เย่เฉิน ออกคำสั่ง เซี่ยง จงเย่ อย่างเด็ดขาด
“จัดการพวกมัน!”
ทันทีที่เสียงคำสั่งดังขึ้น วินาทีต่อมาคนของ เซี่ยง จงเย่ ที่ยืนอยู่รอบนอกก็พุ่งเข้าโจมตีคนของ เจิ้ง ฉางผิง และสวี จิ่วติ่ง
การต่อสู้ดุเดือดจึงเริ่มต้นขึ้น
เจิ้ง ฉางผิง และสวี จิ่วติ่ง ที่ยืนอยู่ตรงกลางต่างช็อกจนทำอะไรไม่ถูก
“พวกแกยังคิดจะสู้กับ คุณเย่ อีกเหรอ? พวกแกมีค่าพอที่ไหน? ไอ้พวกขยะ!”
เซี่ยง จงเย่ มองไปที่ เจิ้ง ฉางผิง และสวี จิ่วติ่ง พูดไปพลางก่อนจะถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างดูแคลน
“เซี่ยง จงเย่ แกมันคนทรยศ! แกกล้าหักหลังเราได้ยังไง?!”
เจิ้ง ฉางผิง ตะโกนด่าอย่างเดือดดาล
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ทรยศ เพราะตระกูลเซี่ยงของเราเป็นพันธมิตรที่ภักดีที่สุดของ คุณเย่ เสมอมา!”
เซี่ยง จงเย่ พูดขณะเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง เย่เฉิน พร้อมถอยหลังครึ่งก้าวเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่เขามีต่อ เย่เฉิน
“แก...”
เจิ้ง ฉางผิง แทบจะระเบิดความโกรธออกมา
“ฉันเข้าใจแล้ว! เซี่ยง จงเย่ แกมันเป็นคนของ เย่เฉิน มาตั้งแต่แรก!”
สวี จิ่วติ่ง ตะโกนขึ้นเหมือนเพิ่งตระหนักรู้ความจริง
“เพิ่งจะเข้าใจตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว”
เย่เฉิน ตอบกลับอย่างเย้ยหยัน ก่อนเดินตรงไปหา เจิ้ง ฉางผิง
พลั่ก!
เย่เฉิน เดินเข้าไปเตะ เจิ้ง ฉางผิง เต็มแรง ร่างของเขาลอยไปไกลกว่า 3-4 เมตร
“แค่ก..อ๊าก!”
เจิ้ง ฉางผิง กระอักเลือดคำโตออกมาทันที ร่างกายที่ถูกความโลภ และความสำมะเลเทเมากัดกร่อน ไม่อาจทนต่อแรงเตะของ เย่เฉิน ที่ได้รับการยกระดับสมรรถภาพได้
“ใครที่กล้าล่วงเกินฉัน.. มันไม่มีทางจบสวยแน่นอน”
เย่เฉิน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่กลับทรงอำนาจยิ่ง
การต่อสู้จบลงในเวลาไม่นาน คนของ เซี่ยง จงเย่ ที่มีจำนวนมากกว่า กำจัดบอดี้การ์ดของ เจิ้ง ฉางผิง และสวี จิ่วติ่ง จนหมด
แม้จะมีลูกน้องของ เจิ้ง ฉางผิง 3-4 คนที่พยายามหลบหนีเข้าไปในป่า แต่พวกเขาก็ถูกคนของ เย่เฉิน ที่ซุ่มรออยู่จับตัวได้ ก่อนจะถูกโยนกลับออกมา
เจิ้ง ฉางผิง ลุกขึ้นจากพื้น ใบหน้าซีดขาวราวกับว่าเพิ่งคลานออกมาจากหลุมศพ เขารู้ดีว่า..ตัวเองจบสิ้นแล้ว
“เย่เฉิน อย่าคิดว่าชนะแล้วจะได้ใจไป ฉันว่าแกลืมสิ่งสำคัญไปอย่างหนึ่ง!”
สวี จิ่วติ่ง พูดพร้อมรอยยิ้มมืดมน ดูเหมือนเขายังมีไพ่ตายที่เก็บไว้.. เผื่อสถานการณ์เช่นนี้!