ตอนที่แล้วตอนที่ 31 แกล้งคนโง่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 ค้อนแห่งสกาดี!

ตอนที่ 32 ฉันนี่มันคนดีจริง ๆ!


ตอนที่ 32 ฉันนี่มันคนดีจริง ๆ!

“ไม่! หมัดนี้ไม่นับ!” จักเกอร์นอทแทบจะระเบิดความโกรธออกมาอีกครั้ง

“แต่ฉันไม่ได้หลบนะ!” เอริคยังคงทำหน้าตาไร้เดียงสา

“แต่ว่า . . . แต่ว่าฉันต่อยไม่โดน!”

เอริคกลอกตา “แกต่อยไม่โดนแล้วจะมาโทษฉันได้ยังไง? มันเป็นความผิดของแกเอง! เอาล่ะ เหลืออีกหมัดเดียว ฉันจะไม่หลบ และจะไม่เปิดเกราะป้องกันแน่นอน คราวนี้แกจะได้ต่อยฉันโดนจริง ๆ ตกลงไหม?”

“จริงเหรอ? แกไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม?”

เจ้าเด็กบื้อนี่ดูเหมือนจะถูกโน้มน้าวได้ง่ายเสียเหลือเกิน!!

เอริคยิ้มด้วยความจริงใจ “จริงสิ ต่อยมาได้เลย!”

“ได้เลย!” จักเกอร์นอทยกหมัดขึ้นเป็นครั้งที่สาม แต่ครั้งนี้สีหน้าของเขากับไม่ค่อยตื่นเต้นเหมือนครั้งก่อน ตอนนี้มันเหมือนกับว่าเขากำลังทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จซะมากกว่า . . .

ทันใดนั้นหมัดขนาดเท่าหม้อใบใหญ่ก็พุ่งลงมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เอริคไม่หลบ ส่วนเกราะแม่เหล็กก็ถูกปิดไปแล้วเช่นกัน

ดังนั้นคำถามต่อมาก็คือเขาจะยอมรับหมัดนั้นด้วยใบหน้าของเขาจริง ๆ ใช่หรือไม่?

แน่นอนว่าไม่!

เมื่อหมัดมหึมาใกล้เข้ามา เอริคก็ยก ‘หมัดเล็ก ๆ’ ของเขาขึ้น ซึ่งต่างจากเดิมตรงที่หมัดของเขาในตอนนี้กำลังส่องแสงสีเงินแวววาว โดยแสงสีเงินแวววาวนี้มันคือไวเบรเนียมที่ซ่อนอยู่ในเซลล์ และเขากำลังควบคุมมันให้ปกคลุมไปทั่วหมัดของเขา!

แน่นอนว่าเอริครู้สึกว่านี่ยังไม่พอ เขาจึงสร้างหนามแหลมขึ้นมาที่ข้อนิ้วของหมัดเล็ก ๆ นั่น โดยหนามทั้งหมดก็ทำจากไวเบรเนียมเช่นกัน . . .

ปัง!!!!

สองหมัดปะทะกันอย่างรุนแรง สร้างแรงกระแทกที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไปบนพื้นน้ำแข็ง

ร่างของจักเกอร์นอทถอยหลังไปหลายก้าว พร้อมกับแยกเขี้ยวขบฟันและสะบัดมือไปมา หมัดนั้นทำให้เขารู้สึกเจ็บจริง ๆ แต่มันก็แค่เจ็บ ไม่ถึงขั้นเลือดออกหรือผิวแตกอะไร

ส่วนเอริคก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง พลังงานจลน์ที่จักเกอร์นอทปล่อยออกมาถูกไวเบรเนียมดูดซับทั้งหมด แล้วแปลงกลับเป็นแรงกระแทกพุ่งสวนกลับไปที่จักเกอร์นอท ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

“โอเค ครบสามครั้งแล้ว ทีนี้เรามานั่งคุยกันได้แล้วใช่ไหม?” เอริคเลียนแบบรอยยิ้มแบบโคลสัน พยายามทำตัวให้ดูไม่มีพิษภัย

“แก! แกเล่นงานฉัน!” จักเกอร์นอททำหน้าตาเหมือนเด็กที่โดนแกล้ง

“หมายความว่าไง! ฉันก็แค่ใช้หมัดรับหมัดของแก แกไม่ได้บอกนี่ว่าฉันต้องใช้หัวรับ” เอริคพยายามพูดแก้ตัว “ดูสิ แกก็ต่อยฉันแล้ว ฉันก็ไม่ได้หลบ ฉันทำผิดตรงไหน จริงไหม?”

“จริงด้วย!” จักเกอร์นอทพยักหน้าแบบงง ๆ

“แกต่อยฉันแล้ว ฉันก็ไม่ได้เปิดเกราะ จริงไหม?”

“จริง!” จักเกอร์นอทพยักหน้าแบบงง ๆ อีกครั้ง

“เมื่อกี้แกก็ต่อยโดนฉัน โดนหมัดของฉันแบบจัง ๆ จริงไหม?”

“จริง!” จักเกอร์นอทพยักหน้ารัว ๆ

“งั้นก็แปลว่าข้อตกลงของเราจบแล้ว! แกต่อยครบสามครั้งแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เราต้องนั่งคุยกัน” เอริคยิ้มกว้างก่อนจะนั่งขัดสมาธิบนทะเลสาบน้ำแข็ง

จักเกอร์นอทคิดอยู่นาน และดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างที่เอริคว่าจริง ๆ เขาต่อยครบแล้ว ถึงแม้ว่าจะต่อยโดนหมัดอีกฝ่าย แต่ก็ถือว่าต่อยแล้ว ใช่ เขาชนะ!

เมื่อคิดได้ดังนั้น จักเกอร์นอทก็ยอมนั่งลงด้วยความพึงพอใจ

“อะแฮ่ม มาร์โก นายช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่ามาทำอะไรที่ไซบีเรีย?” เอริคเริ่มถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยขึ้นมา

“ฉันมาช่วยแซมมี่ แต่เดี๋ยวนะ . . . แซมมี่อยู่ไหน?” จักเกอร์นอทที่จู่ ๆ ก็จำได้ถึงภารกิจของตัวเองรีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับร้องลั่นทันที

“แซมมี่? ใครคือแซมมี่?”

“แซมมี่เป็นเพื่อนของจักเกอร์นอท เพื่อนที่ดีที่สุด!” เมื่อพูดถึงเพื่อนตัวเอง จักเกอร์นอทก็ยิ้มอย่างมีความสุข

ซึ่งรอยยิ้มนั้นของจักเกอร์นอททำเอาเอริคถึงกับอึ้ง จักเกอร์นอทคนนี้มีเพื่อนจริง ๆ ด้วยหรอ? และดูเหมือนจะเป็นเพื่อนที่เขารักมากด้วย!

มันเป็นไปได้ยังไง? จักเกอร์นอทที่ควรจะเป็นเพียงหุ่นเชิดของซิตโตแร็ก ผู้ซึ่งสมองถูกครอบงำด้วยเวทมนตร์ตลอดเวลา จะมีอารมณ์ด้านบวกแบบนี้ได้ยังไง?

เอริคปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดเล็กออกมาอีกครั้ง คราวนี้เวทมนตร์สีแดงในร่างของจักเกอร์นอทกลับไม่เคลื่อนไหว และเขาก็สงบลงอย่างน่าแปลกใจ

ดังนั้นด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการพูดคุยกับจักเกอร์นอท เอริคจึงค่อย ๆ ชวนเขาคุยจนได้ข้อมูลทั้งหมดอย่างกระท่อนกระแท่น

ปรากฏว่าจักเกอร์นอทมีเพื่อนคนหนึ่งจริง ๆ ชื่อ แซมมี่ ปาเร่ เด็กหนุ่มมนุษย์กลายพันธุ์จากแคนาดา ความสามารถของเขาคือการมีชีวิตอยู่ใต้น้ำ แต่ผลข้างเคียงทำให้ร่างกายของเขามีเกล็ดปลาสีเขียวปกคลุม หูของเขากลายเป็นเหงือก และฝ่ามือก็กลายเป็นพังผืด . . .

เด็กหนุ่มที่ควรจะมีชีวิตอย่างวัยรุ่นปกติ กลับต้องกลายเป็น ‘มนุษย์ปลา’ ที่ดูน่าเกลียด . . .

ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของแซมมี่ที่เกลียดรูปลักษณ์ของเขาอย่างมาก พวกเขาจึงมักจะทุบตีและดุด่าว่าเขาอย่างรุนแรง ทำให้แซมมี่ตัวน้อยจึงไม่กล้าออกไปไหน และต้องอดทนรับความเจ็บปวดเงียบ ๆ

จนกระทั่งวันหนึ่งแซมมี่ได้พบกับจักเกอร์นอทโดยบังเอิญ บวกกับเรื่องราวในวัยเด็กที่เคยถูกครอบครัวทำร้ายเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในทันที

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่พวกเขาทั้งสองกำลังมีช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกัน พ่อที่ไร้จิตสำนึกของแซมมี่กับขายเขาให้กับสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง ทำให้จักเกอร์นอทที่โกรธมากเมื่อรู้เรื่องนี้ และออกตามหาแซมมี่จนกระทั่งมาถึงไซบีเรีย

นี่คือเรื่องราวทั้งหมด ส่วนเหตุผลที่จักเกอร์นอททุบทำลายน้ำแข็งบนแม่น้ำนั้นเป็นเพราะเขาได้ยินข่าวจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มคนจับตัวเด็กหลายคนและใช้เรือดำน้ำหลบหนีออกจากที่นี่ จากนั้นเขาก็ใช้เวลาโง่ ๆ ไปสองวัน ทุบทำลายน้ำแข็ง หวังจะขุดหาเรือดำน้ำลำนั้น . . .

‘นี่มันอะไร? จักเกอร์นอทเวอร์ชั่น ‘แกะเรือเพื่อหาดาบ[1]’ ในน้ำแข็งอย่างนั้นหรอ? เจ้าหมอนี่ช่างโง่จริง ๆ!” เอริคที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแทบอยากจะเอาหัวโขกกำแพง

เจ้าหมอนี่มันโง่เกินไปแล้ว!!

“เอาล่ะ นายตามฉันมาแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะช่วยนายหาแซมมี่ให้เอง!”

“แกจะหาแซมมี่เจอได้จริงเหรอ?” จักเกอร์นอทตกใจและตบไหล่เอริคด้วยฝ่ามือขนาดพัดลมใบใหญ่ ทำให้เอริคเกือบล้มลงกับพื้นเพราะไม่ได้ตั้งตัว

“อย่ามาแตะตัวฉัน!” เอริครีบถอยห่างออกไปหนึ่งเมตร ก่อนที่จะเหลือบมองแขนหนาและยาวของจักเกอร์นอทและตัดสินขยับห่างออกไปอีกหนึ่งเมตร

“มาทำข้อตกลงกัน ฉันจะช่วยนายหาแซมมี่ แต่นายจะต้องมาร่วมงานกับฉัน ตกลงไหม?” เอริคคิดว่าจักเกอร์นอทต้องตอบตกลงทันทีแน่นอน แต่ตอนนี้จักเกอร์กลับดูลังเลไปครู่หนึ่ง

“เอ่อ . . . ฉันคงตามแกไปไม่ได้ ฉันมีงานทำอยู่แล้ว”

“อะไรนะ? แกมีงานทำแล้ว?” เอริคตกใจอีกครั้ง นี่มันจักเกอร์นอทจริง ๆ เหรอ? ไม่เพียงแต่เขามีเพื่อน แต่ตอนนี้ยังมีงานทำด้วย! “งานอะไร? ลองเล่าให้ฟังหน่อยสิ”

“ประเทศอังกฤษจ้างฉัน มันเหมือนจะชื่อทีมเอ็กซ์คาลิเบอร์ใหม่อะไรสักอย่าง และเรากำลังทำเรื่องดี ๆ ด้วยกัน จักเกอร์นอทจะเป็นฮีโร่!” จักเกอร์นอทพูดถึงงานของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ

“หืม?! จักเกอร์นอท ซูเปอร์ฮีโร่ . . .” เอริคแทบสำลักอาหารมื้อเย็นเมื่อคืน “นายเข้าร่วมทีมเอ็กซ์คาลิเบอร์ใหม่เพราะอยากเป็นฮีโร่เหรอ?”

“ไม่ใช่ เพราะพวกเขาจ่ายเงินเดือนให้ฉัน” จักเกอร์นอทส่ายหัวใหญ่พลางตอบอย่างซื่อ ๆ

“เงินเดือน? เขาจ่ายนายเท่าไหร่?”

“ห้าหมื่นปอนด์! มากกว่าข้าราชการของพวกเขาตั้งสองเท่า!” จักเกอร์นอทยิ้มกว้างด้วยความพอใจกับเงินเดือนของตัวเอง

“เงินเดือนนี่รายเดือนหรือรายปี?”

“แกนี่โง่จริง ๆ แน่นอนว่าต้องเป็นรายปีสิ”

พวกอังกฤษนี่หัวหมอกันจริง ๆ ที่จ้างจักเกอร์นอทด้วยเงินเดือนปีละห้าหมื่นปอนด์!

“เอาล่ะ งั้นฉันจะให้เงินเดือนนายปีละห้าล้านปอนด์ มาอยู่กับฉันดีกว่า ตกลงไหม? ส่วนตอนนี้เราไปช่วยแซมมี่กันก่อน!” เอริคส่ายหัวและลุกขึ้นยืน เขาแทบไม่เชื่อเลยว่ามันจะง่ายขนาดนี้ที่จะหลอกล่อจักเกอร์นอทมาอยู่ในทีมของเขา

“ฉันไม่เพียงแต่ช่วยเด็กโง่คนนี้ตามหาเพื่อน แต่ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องงานให้เขาด้วย ฉันนี่มันคนดีจริง ๆ!”

โปรดติดตามตอนต่อไป …

[1] แกะเรือเพื่อหาดาบ หมายถึง การยึดมั่นในกรอบอันคร่ำครึโดยไม่รู้ว่า สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด