ตอนที่ 11 รับตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัด!
ในห้องประชุมของห้าผู้เฒ่า ซึ่งเป็นห้องประชุมที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกเพราะฐานะของห้าผู้เฒ่าซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงที่สุดในโลก กำลังเผชิญหน้ากับโจรสลัดหนุ่มนิรนามคนหนึ่ง
ตัดภาพมาที่นอกห้องประชุม ทันทีที่ประตูถูกปิดลง เซ็นโงคุก็ไม่รู้เลยว่าหลิงไป๋คุยอะไรกับห้าผู้เฒ่าบ้าง
แต่เซ็นโงคุรู้ว่าสิ่งเงื่อนไขที่หลิงไป๋จะเสนอให้รัฐบาลโลกก็คือเอซหมัดอัคคี
เมื่อมองไปที่เอซ เซ็นโงคุก็รู้ว่าเขาเข้าใจอะไรหลายๆอย่างทันที
การ์ป เพื่อนรักของเขารับลูกของราชาโจรสลัดโรเจอร์มาเลี้ยงเป็นหลาน เมื่อตอนที่เอซออกทะเลและเริ่มมีชื่อเสียง เขาก็รู้ว่าเอซคือหลานของการ์ป แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก จนกระทั่งวันนี้ วันที่เขาพึ่งจะได้รู้ว่าหลานของเพื่อนรักเขาคือลูกชายของโรเจอร์มาโดยตลอด
"ปีนั้นเป็นเพราะแก เด็กทารกที่เกิดในเวลาเดียวกันทั่วโลกจึงต้องสูญเสียชีวิต โปรโตกัส ดี เอซ"
“โลกนี้มันโหดร้าย”
เซ็นโงคุกระซิบ "การ์ปคงไม่ได้บอกแกสินะ"
พวกเขายอมฆ่าผู้บริสุทธิ์หมื่นคนดีกว่าปล่อยเพียงหนึ่งคนไป!
เพียงเพราะเขาเป็นลูกชายของราชาโจรสลัด โรเจอร์?
เพราะคำพูดของโรเจอร์ ยุคทองของโจรสลัดจึงเริ่มต้นขึ้น และผู้คนมากมายก็ตายจากโลกนี้ไป ต่อให้ประหารเอซไปเป็นพันเป็นหมื่นครั้งก็คงชดใช้ไม่พอ!
ปากของเอซหมัดอัคคีถูกปิดเอาไว้ และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเขาจะถูกจับได้!
แล้ววันนั้นเขาก็ถูกส่งตัวให้กับรัฐบาลโลก
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนั้น มีเพียงหลิงไป๋เท่านั้นที่รู้
ประวัติศาสตร์จะดำเนินต่อไปตามทิศทางเดิมและเอซหมัดอัคคีจะกลายเป็นชนวนของยุคสมัยใหม่
ทุกสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของหลิงไป๋
สิบนาทีต่อมา หลิงไป๋ก็ออกมาจากห้องประชุมนั้น
ใบหน้าของเขาดูสงบ เขาเพิ่งเจรจากับห้าผู้เฒ่า และได้ตัวตนของเจ็ดเทพโจรสลัดมาแบบไม่ยากเย็น
เจ็ดเทพโจรสลัด หรือก็คือโจรสลัดแบบถูกกฎหมาย สามารถทำกิจกรรมผิดกฎหมายได้หลายอย่าง แต่จะไม่ถูกแทรกแซงจากกองทัพเรือและรัฐบาลโลก
ตราบใดที่พวกเขาไม่ทำให้เกิดเรื่องใหญ่หรือทำอะไรคุกคามมังกรฟ้าก็พอ
ห้าผู้เฒ่าได้ตกลงตามคำขอของหลิงไป๋ นั่นก็คือให้ตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดแก่เขา
เนื่องจากว่าคร็อกโคไดล์พึ่งถูกปลดจากตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัดไปเพราะทำเรื่องเสื่อมเสีย และหลิงไป๋ก็มาพร้อมข้อเสนอที่ดีมากๆในการแลกกับตำแหน่งเจ็ดเทพที่กำลังว่างอยู่ ทำให้ฝ่ายห้าผู้เฒ่าเองก็พอใจมากเช่นกัน
แต่พวกเขาจะไม่มีทางรู้ถึงแผนการอันชั่วร้ายของหลิงไป๋
หลิงไป๋ออกมาและยิ้มให้กับเซ็นโงคุ รวมถึงเอซหมัดอัคคี
แน่นอนว่าหลังจากนี้ เอซจะถูกมอบให้กับรัฐบาลโลกดำเนินการต่อไป
หลิงไป๋ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้สำหรับงานใหญ่ครั้งต่อไป เมื่อถึงเวลา เขาจะก้าวกระโดดและครองโลกใหม่
ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมพร้อม
สร้างกลุ่มของตนเองและเฟ้นหาผู้คนมาเข้าร่วมกับเขา!
ตอนนี้แค่แวนออก้าคนเดียวไม่พอแน่นอน
"หยิ่งนักนะ!"
เซ็นโงคุอยากจะกระทืบหลิงไป๋สักที เพียงแต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นในที่แบบนี้ได้
อีกด้านหนึ่ง เสียงของห้าผู้เฒ่าลอยออกมาจากในห้อง
“เซ็นโงคุ เข้ามาสักครู่”
เซ็นโงคุเข้าไปและออกมาในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา แต่ทั้งหลิงไป๋และแวนออก้าได้ออกจากที่นี่ไปแล้ว
เมื่อเซ็นโงคุออกมา เขาก็แสดงสีหน้าจริงจังออกมา เขาจ้องไปที่เอซหมัดอัคคีซึ่งกำลังถูกทหารเรือสองนายล้อมซ้ายขวาอยู่ ก่อนจะพูดว่า "ขังโปรโตกัส ดี เอซไว้ก่อน เตรียมเรือรบเพื่อคุ้มกันเขาไปที่อิมเพลดาวน์ตอนบ่ายสาม!"
อีกด้านหนึ่ง คองก็ถูกเรียกเข้ามาด้วยเช่นกัน
นับตั้งแต่เซ็นโงคุออกมา สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมตลอดเวลา
เพราะเขารู้ว่าจะมีเรื่องร้ายแรงมากเกิดขึ้น
แน่นอนว่าเขาต้องไปวางแผนดำเนินการให้ดี
อย่างไรก็ตาม หากสิ่งต่อไปนี้ประสบความสำเร็จ ยุคทองของโจรสลัดก็จะสิ้นสุดลง!
อย่างน้อยมันก็จะสามารถสั่นคลอนโลกโจรสลัด และเพิ่มบารมีของกองทัพเรือและรัฐบาลโลกได้แน่นอน!
ห้าผู้เฒ่าคิดเช่นนั้น และเซ็นโงคุก็คิดเช่นเดียวกัน
บทบาทของเอซหมัดอัคคีสำคัญมาก
หลังจากที่คองออกจากห้องประชุมไปแล้ว ห้าผู้เฒ่าก็เริ่มพูดคุยกันเอง
"การ์ป ไอ้คนนั้นมันกล้าดียังไง!"
“ไอ้นี่มันไม่ฟังคำสั่ง ญาติของโรเจอร์ต้องถูกฆ่าให้หมด แต่ตอนนี้ดันมีลูกชายของมันโผล่มาคนนึง”
"ไม่น่าแปลกใจเลยที่หนวดขาวผลักดันเอซ ถ้าหากในอนาคตหนวดขาวตายขึ้นมา มีแนวโน้มว่าเอซหมัดอัคคีจะเข้ามาแทนที่หนวดขาว นอกจากนี้สถานะของเอซหมัดอัคคีในกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวเองก็ค่อนข้างสูง หนวดขาวตั้งความหวังกับเขาไว้สูง หนวดขาวต้องรู้แน่ว่าเอซเป็นลูกชายของไอ้เลวโรเจอร์นั่น!”
“โชคดีที่ตอนนี้เอซอยู่ในมือเราแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในกำมือเราแล้ว ยุคทองของพวกโจรสลัดกำลังจะสิ้นสุดลง ช่างน่ายินดีจริงๆ”
“แล้วไอ้หนูที่ถือดาบชั้นเลิศนั่นบ่ะ?” ตามที่เซ็นโงคุบอก เขาน่าจะเป็นยอดนักดาบคนนึงเลย”
“ถ้าเขาเป็นยอดนักดาบจริง การให้ตำแหน่งเจ็ดเทพแก่เขาก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ตอนที่ทำสงครามกับกลุ่มหนวดขาว เขาจะถือเป็นกำลังสำคัญได้เช่นกัน”
“ว่าแต่ไอหนุ่มนี่มันมาจากไหนกัน?”