ตอนที่แล้ว8 - ให้อาหารหมู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป10 - โชคลาภกลับมาอีกครั้ง

9 - เด็กโง่ที่มีเงิน


ผ่านไปสักพัก พ่อของเขาทนดูต่อไปไม่ไหว ด้วยความคิดแบบบ้านๆ ของเขา เด็กผู้ชายไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับดอกไม้ใบหญ้า ถ้าไม่ตั้งใจเรียนหนังสือสอบบัณฑิต ก็ควรอยู่บ้านทำไร่ไถนาอย่างขยันขันแข็ง

"เอาล่ะ วันนี้เก็บได้เยอะแล้ว กลับลงเขากันเถอะ" พ่อห้ามลูกชายทั้งสองที่กำลังง่วนเก็บดอกไม้ เพื่อไม่ให้พวกเขาเสียเวลาหรือหลงผิด "เราต้องลงจากเขาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าช้ากว่านี้จะเดินทางลำบากและไม่ปลอดภัย"

จูผิงอันเห็นว่าตะกร้าใบเล็กของตัวเองเต็มไปด้วยดอกจินอิ่นฮวาแล้ว เขาจึงกดดอกไม้ลงเล็กน้อยเพื่อให้แน่นขึ้น และเมื่อไม่มีที่ว่างแล้วจริงๆ จึงยอมตบมือลงไปพร้อมเดินตามพ่อกลับลงเขาด้วยความเสียดาย

ระหว่างทางกลับ พ่อก็พาลูกๆ แวะไปที่จุดวางกับดักจับกระต่ายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้

กับดักแรกว่างเปล่า ไม่มีอะไรติดอยู่ จูผิงอันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

แต่เมื่อไปถึงกับดักที่สองและสาม เขากลับตื่นเต้นดีใจ เพราะทั้งสองกับดักจับกระต่ายตัวอ้วนๆ ได้อย่างละตัว แถมกระต่ายยังมีชีวิตอยู่ด้วย

พ่อของเขาใช้หญ้าผูกขากระต่ายเอาไว้ ก่อนจะปล่อยให้จูผิงอันจับเล่นจนพอใจ แล้วค่อยเอากระต่ายใส่ตะกร้า

ครั้งแรกที่ขึ้นเขา พวกเขาได้ทั้งไก่ป่า กระต่าย ปลา หน่อไม้ เห็ดป่า และดอกจินอิ่นฮวา จูผิงอันรู้สึกตื่นเต้นกับการขึ้นเขาในครั้งต่อๆ ไป แม้ว่าขาของเขาจะปวดเมื่อยจนแทบยืนไม่ไหวก็ตาม

"อ้าว พี่รองกลับมาแล้ว!"

ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าบ้าน อาสี่จ้าวซื่อก็วิ่งพรวดออกมาต้อนรับราวกับหมาป่าที่หิวโซมาหลายวัน ดวงตาเป็นประกายเขียวจนคนมองตกใจ

ขนาดเฉินซื่อ ภรรยาที่เฝ้ารอสามีและลูกๆ อยู่หน้าบ้าน ยังตกใจจนตั้งตัวไม่ทัน แต่อาสี่ก็ตรงเข้ามาหาตะกร้าหลังของพ่อจูผิงอันทันที

ถ้าไม่รู้มาก่อน คงคิดว่าอาสี่รอสามีและลูกตัวเองอยู่แน่ๆ

จูผิงอันมองอาสี่ที่แสดงท่าทีผิดปกติด้วยความตกตะลึง

"อุ๊ย! พี่รองจับกระต่ายอ้วนๆ ได้สองตัว แถมยังมีไก่ป่าอีกสองตัว! อ๊ะ แล้วนี่ปลาอีกตั้งเยอะ ท่านแม่ๆ มาดูเร็ว!"

อาสี่ที่กลายร่างเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระเริ่มขุดค้นตะกร้าอย่างกระตือรือร้น พร้อมร้องเสียงดังทุกครั้งที่เจอของดี ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้

พ่อของจูผิงอันยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความกระอักกระอ่วน มองเฉินซื่อที่ยืนอยู่ไม่ไกล แต่ก็จนปัญญาจะทำอะไร

เฉินซื่อมองอาสี่ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

"เฮ้อ คิดว่าคนอื่นจะเหมือนเจ้ากับน้องสี่หรือไง เก็บของไว้ใช้เองไม่แบ่งให้ใคร!"

อาสี่ยังส่งเสียงเอะอะ จนท่านย่าเดินกระฉับกระเฉงเข้ามาดูด้วย แต่แทนที่จะถามไถ่ลูกชายและหลานๆ ว่าลำบากหรือเจออันตรายในป่าหรือไม่ นางกลับถามว่า "จับได้แค่นี้เหรอ? มีอะไรตกหล่นไว้หรือเปล่า?"

"หา? คิดว่าซ่อนของไว้หรือไง?"

"ไม่มีหรอกท่านแม่ ได้แค่นี้แหละ แต่มีเด็กสองคนช่วยเก็บเห็ดป่า หน่อไม้ เลยได้เยอะกว่าครั้งก่อน" พ่อของจูผิงอันตอบอย่างซื่อๆ เหมือนไม่เข้าใจความหมายแฝงในคำพูดของแม่ตัวเอง และยังพูดชมลูกชายสองคนอีกด้วย

ท่านย่ารู้ดีว่าลูกชายคนรองเป็นคนซื่อสัตย์ ถ้าไม่ผ่านมือสะใภ้รอง ก็ไม่มีทางซ่อนของได้ ยิ่งมีสะใภ้สี่คอยควบคุมอยู่ นางจึงสบายใจ

แต่พอหันไปเห็นตะกร้าเล็กๆ บนหลังจูผิงอัน ท่านย่าก็ขยี้ตา

ทำไมหลานชายถึงได้แบกดอกไม้ป่ามากลับมาด้วย?

ท่านย่าเอื้อมมือไปค้นในตะกร้าเล็กๆ ของจูผิงอัน พบว่าข้างในมีแต่ดอกไม้ป่าจริงๆ

"เด็กโง่ แบกดอกไม้มาเยอะแยะทำไม?" ท่านย่ามองหลานชายด้วยความสงสัยว่าหลานอาจจะไม่เต็มเต็ง ถ้าเป็นผู้หญิงยังพอว่า แต่นี่เป็นผู้ชาย แบกดอกไม้มาทำไม?

"ขายได้เงินครับ!" จูผิงอันตอบทันที

แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์สาดกระทบตัวจูผิงอัน เผยให้เห็นฟันขาวๆ ของเขาที่สะท้อนแสงเป็นสีทอง ราวกับเด็กที่หลงอยู่ในวังวนของเงินทอง

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"

อาสะไภ้สี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวเราะจนตัวงอ ไอไปหัวเราะไป "ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหมูตัวน้อยนี่พูดอะไรให้ข้าขำจนตายหรือเปล่า ดอกไม้ป่านี่จะขายได้เงิน? ฮ่า ฮ่า ฮ่า สะใภ้รอง เจ้าไปบอกให้เขาทำแบบนี้ใช่ไหม?"

เมื่อได้ยินดังนั้น ย่าก็หันไปมองเฉินซื่อทันที

เฉินซื่ออยากจะฟาดหน้าสะไภ้สี่ให้คว่ำไปข้างหนึ่ง คนอะไรชอบยุแหย่สร้างปัญหาอยู่ตลอด! บ้านเจ้าสี่นี่ช่างไม่เคยอยู่นิ่งเป็นสุขได้เลยจริงๆ!

"ไม่ใช่ท่านแม่บอกหรอกขอรับ แต่ข้าคิดเองว่ามันน่าจะขายได้เงิน" จูผิงอันรีบพูดก่อนที่แม่ของเขาจะระเบิดอารมณ์ เพราะท่านย่ายังยืนอยู่ตรงนั้น ถ้าแม่ทะเลาะกับอาสี่ เรื่องคงไม่จบง่ายๆ

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหมูตัวน้อยนี่ขึ้นเขาจนเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า ดอกไม้ป่านี่จะขายได้เงิน? ถ้าขายได้ชาวบ้านในหมู่บ้านเราคงเป็นเศรษฐีกันหมดแล้ว! เว้นแต่ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นทางตะวันตกถึงจะขายได้"

อาสี่ปากร้าย ใจแคบ พูดจาทำร้ายคนได้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ยิ้มให้แต่คอยกลั่นแกล้งอยู่ตลอด

"เจ้าพูดอะไรของเจ้า! หัดพูดดีๆ หน่อยสิ คนที่เพี้ยนคือเจ้าต่างหาก!"

เฉินซื่อทนไม่ไหว รีบตอบโต้กลับไปทันที ลูกชายสุดที่รักของนาง นางจะดุเอง แต่คนอื่นห้ามว่าเด็ดขาด! ท่านย่าพูดนางยังพอทน แต่อาสี่นี่สิ กล้าดียังไงมาว่าลูกนาง! ถึงนางจะรู้สึกว่าลูกชายเก็บดอกไม้ป่ามาเป็นตะกร้าก็ดูแปลกๆ แต่ถ้าคนอื่นมาว่าก็ยอมไม่ได้!

"พอแล้ว! เลิกเถียงกันได้แล้ว พวกเจ้าไปช่วยสะใภ้รองจัดของให้เรียบร้อยซะ" ท่านย่าที่สนใจแต่ของที่เก็บมา ได้โบกมือไล่เฉินซื่อและสะไภ้สี่ให้ไปช่วยพ่อของจูผิงอันจัดการของที่เก็บมา ส่วนดอกไม้ป่าในตะกร้าของจูผิงอัน ท่านย่าไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย "เจ้าหมูตัวน้อยเก็บไว้เล่นเถอะ ดอกไม้พวกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เอาให้หมูกินหมูยังไม่กินเลย"

ดูเหมือนว่าในหมู่บ้านนี้จะไม่มีใครมองเห็นคุณค่าของดอกจินอิ่นฮวาเลย แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จูผิงอันจะได้เก็บไว้ขายเอง

ดอกจินอิ่นฮวาเป็นสมุนไพรที่แปรรูปได้ง่ายที่สุดในบรรดาสมุนไพรจีน เพียงแค่เก็บดอกตูมมาวางบนเสื่อไม้ไผ่หรือที่ที่มีอากาศถ่ายเท แล้วตากแดดหรือตากในร่ม 1-2 วันให้แห้ง โดยระหว่างตากห้ามพลิกดอกไม้

เสื่อไม้ไผ่ที่ท่านย่ามีย่อมไม่ให้เขาใช้แน่ จูผิงอันจึงต้องหาที่ตากเอง ลานบ้านก็ไม่เหมาะเพราะกลัวไก่ที่เลี้ยงจะมาทำลายดอกไม้ สุดท้ายเขาเลือกตากบนหลังคาโรงเลี้ยงหมูแทน

จูผิงอันยืนบนม้านั่งตัวเล็ก จัดการตากดอกจินอิ่นฮวาบนหลังคาเรียบร้อย เมื่อมองดอกไม้ที่ตากเรียงราย เขารู้สึกราวกับเห็นเหรียญทองแดงวิ่งมาหา

"นี่แหละความหวัง!"

ตอนเย็น แม่ของเขาเป็นคนทำอาหาร จูผิงอันรีบตามไปช่วยก่อไฟ แม่ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป เพราะเขาได้ยินท่านย่าบอกว่าอาหารเย็นจะทำซุปปลา ถึงแม้ตอนกลางวันจะกินปลาบนเขา แต่รสชาติไม่เหมือนกันเพราะไม่มีเครื่องปรุงครบ

เฉินซื่อขอดเกล็ดปลา ควักไส้และเหงือกออก ล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้น ใส่ลงในหม้อ จากนั้นล้างหน่อไม้สด ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น ใส่ลงไปต้มพร้อมกับปลา เติมน้ำให้พอเหมาะ ต้มจนเดือดประมาณครึ่งชั่วโมง น้ำซุปกลายเป็นสีขาวเหมือนน้ำนม เนื้อปลานุ่มและหอมอร่อย ครัวทั้งครัวอบอวลไปด้วยกลิ่นซุปปลาที่หอมหวล

เฉินซื่อมองลูกชายคนรองที่ยืนจ้องหม้อซุปตาเป็นประกายด้วยความเอ็นดู จึงยิ้มพร้อมพูดว่า "ดูเจ้าสิ น้ำลายไหลแล้วมั้ง มานี่ แม่ให้เจ้าชิมดูว่าเค็มหรือเปล่า" พูดจบก็ตักปลาให้หนึ่งชิ้น ลงในชามเล็กๆ เอาก้างออกเรียบร้อย

ถึงจะบอกให้ชิมรส แต่จริงๆ ก็แค่ให้จูผิงอันได้กินก่อน

"งั้นข้าจะชิมให้ก็ได้" จูผิงอันล้างมือในกะละมัง ยกมือป้อมๆ โบกไปมา ทำเป็นยอมชิมอย่างไม่เต็มใจ แต่สายตาที่น้ำลายแทบไหลทำเอาเฉินซื่อหัวเราะออกมา

ซุปหอมอร่อยจนแทบกลืนลิ้นลงไปได้ ฝีมือแม่ของเขาอร่อยกว่าที่พ่อทำตอนกลางวันเป็นร้อยเท่า จนจูผิงอันเกือบร้องไห้เพราะความอร่อย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด