ตอนที่แล้วบทที่ 2 ตื่นขึ้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 การปรับปรุง

บทที่ 3 วิชาหายใจของอัศวิน


“ติ้ง! ชิปรีสตาร์ทสำเร็จ กำลังเริ่มตรวจสอบสภาพร่างกาย!”

เสียงกลไกดังขึ้นก้องในหัวของอาเดียร์ ก่อนที่เขาจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในร่างกาย

ราวกับเลือดในร่างกายหยุดนิ่ง เขารู้สึกว่าร่างกายแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ

อาเดียร์ไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะนี่เป็นปฏิกิริยาปกติของชิปเมื่อเริ่มต้นทำงาน ในชาติก่อนเขาเคยผ่านกระบวนการฝังชิปหลายครั้ง จึงคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ดี

ไม่นานนัก เสียงกลไกดังขึ้นอีกครั้ง

“การตรวจสอบเสร็จสิ้น!”

ทันใดนั้น ภาพสามมิติของร่างกายปรากฏขึ้นในจิตใจของอาเดียร์ รายละเอียดทุกส่วนของร่างกายถูกแสดงอย่างชัดเจน ทั้งตำแหน่งและความลึกของบาดแผล ระดับความเสียหาย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทุกอย่างถูกแปลงเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ไหลเข้าสู่สมองของเขา

ด้วยวิธีการนี้ อาเดียร์สามารถเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเองได้อย่างรวดเร็วในชั่วพริบตา

การจำลองผลลัพธ์

“ตรวจพบสารออกฤทธิ์ที่ไม่ทราบชนิดในร่างกาย ต้องการจำลองผลลัพธ์สุดท้ายหรือไม่?” เสียงกลไกถามอีกครั้ง

“ใช่ จำลองผลลัพธ์!”

อาเดียร์ตอบทันที แม้จะไม่คิดว่าน้ำซุปที่เอลวานำมาให้จะมีอันตราย แต่ความร้อนที่ยังคงแผ่ซ่านในร่างกายทำให้เขาตัดสินใจไม่ประมาท

เสียงของชิปเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะดังขึ้นอีกครั้ง

“สร้างภารกิจใหม่ เริ่มเก็บข้อมูล!”

เพียงชั่วพริบตา ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ก็เริ่มส่งกลับมาสู่จิตใจของเขา

“สารออกฤทธิ์ไม่ทราบชนิดในร่างกายมีความเป็นไปได้สูงที่จะเพิ่มความมีชีวิตชีวา ส่งเสริมการฟื้นฟูบาดแผลอย่างรวดเร็ว แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดปฏิกิริยาเป็นพิษรุนแรง อาจทำให้เสียชีวิตได้”

คำตอบนี้ทำให้อาเดียร์ขมวดคิ้ว ก่อนจะถามในใจด้วยความหวั่นวิตก “โอกาสเกิดปฏิกิริยาเป็นพิษคือเท่าไร?”

“โอกาสเกิดปฏิกิริยาเป็นพิษ: 1.23% ในขณะนี้พบว่ามีปฏิกิริยาด้านบวกเกิดขึ้นแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความกังวลในใจของอาเดียร์ก็เริ่มคลายลง เขาหันไปมองชามเงินบนโต๊ะด้วยความระแวดระวังพลางพึมพำเบาๆ “ข้าสาบานเลยว่า หากเจอของแปลกแบบนี้อีก ข้าจะให้ชิปวิเคราะห์ก่อนทุกครั้ง!”

เมื่อเวลาผ่านไป ความร้อนรุนแรงในร่างกายของอาเดียร์ค่อยๆ เบาบางลง และเปลี่ยนเป็นกระแสอุ่นที่ไหลเวียนไปตามบาดแผลต่างๆ

ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกสบายขึ้น ร่างกายที่อ่อนล้าค่อยๆ ฟื้นคืนพละกำลังขึ้นทีละน้อย

เมื่อสังเกตเห็นการฟื้นตัวนี้ อาเดียร์จึงสั่งให้ชิปตรวจสอบสภาพร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง

ภาพสามมิติของร่างกายปรากฏในจิตใจอีกครั้ง คราวนี้ข้อมูลใหม่บางส่วนได้ถูกเพิ่มเข้ามา

สถานะร่างกาย

ชื่อ: อาเดียร์ ฟาคัส

พละกำลัง: 0.6 (2.7)

ความคล่องตัว: 0.4 (2.2)

ความทนทาน: 0.7 (2.5)

สถานะ: สูญเสียเลือดอย่างรุนแรง, อวัยวะเสียหาย, บาดแผลติดเชื้อเล็กน้อย, ความเสียหายภายใน

ข้อมูลทั้งหมดแสดงในรูปแบบตัวเลข แต่ละค่าที่ปรากฏมีตัวเลขทศนิยมยาวถูกปัดเศษ และค่าที่อยู่ในวงเล็บแสดงถึงศักยภาพของร่างกายในสภาพสมบูรณ์

เมื่ออาเดียร์มองเห็นข้อมูลเหล่านี้ เขาก็ถึงกับนิ่งไปด้วยความประหลาดใจ “หากข้าจำไม่ผิด ตามมาตรฐานของโลกก่อนหน้านี้ ผู้ใหญ่ธรรมดาค่าพละกำลังโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แต่นี่... ค่าของร่างกายข้าในสภาพสมบูรณ์สูงกว่าสองเท่า!”

ในฐานะอดีตนักวิทยาศาสตร์ชีวภาพ อาเดียร์ตระหนักดีว่าการที่ค่าพลังในร่างกายของเขาสูงกว่ามนุษย์ทั่วไปถึงสองเท่าไม่ได้หมายถึงการเพิ่มขึ้นในเชิงปริมาณเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาที่ครอบคลุมในทุกแง่มุม

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของพละกำลัง แต่ยังรวมถึงความสามารถของอวัยวะ การตอบสนองของระบบประสาท การฟื้นตัว และภูมิคุ้มกันที่เหนือธรรมชาติ ร่างกายนี้แทบจะเป็น "ยอดมนุษย์"

เมื่อถึงจุดสูงสุด ร่างกายนี้สามารถปลดปล่อยพลังมหาศาล เพียงหมัดเดียวก็สามารถส่งคนปลิวไปได้ไกล ด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งที่เหนือมนุษย์ ความสามารถนี้อยู่ไกลเกินกว่าที่คนธรรมดาจะบรรลุได้ผ่านการฝึกฝน

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ ร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นนี้กลับเป็นของเด็กชายวัยเพียง 13 ปี

ในโลกเดิมของอาเดียร์ การจะพัฒนาร่างกายให้อยู่ในระดับนี้ได้ จำเป็นต้องพึ่งพาการปรับแต่งทางชีวภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง หรือการทดลองที่อันตราย แต่ในโลกใบนี้ กลับมีผู้ที่สามารถบรรลุสิ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย

"วิชาหายใจของอัศวิน..."

เสียงพึมพำดังออกมาจากริมฝีปากของอาเดียร์ ขณะที่เขายืนพิงกำแพงไม้เพื่อพยุงตัว มือขวาของเขายังแข็งแรงพอที่จะช่วยให้ทรงตัวได้ ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความตื่นเต้นที่ยากจะซ่อน

“ชิป ดึงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอัศวินจากความทรงจำของข้า”

ทันทีที่คำสั่งออกจากปาก ข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับอัศวินเริ่มไหลเข้าสู่สมองของเขา ชิปในจิตใจประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นและจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ทุกสิ่งปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

ในโลกใบนี้ อัศวินคือสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความน่าเกรงขาม พวกเขาไม่ใช่เพียงนักรบธรรมดา แต่เป็นกำลังรบชั้นสูงที่มีบทบาทสำคัญในทุกสงคราม

จากข้อมูลในความทรงจำของอาเดียร์ อัศวินที่ได้รับการฝึกฝนอย่างสมบูรณ์สามารถจัดการนักรบธรรมดาหลายสิบคนได้เพียงลำพัง พวกเขาคืออาวุธสังหารที่มีชีวิต

แต่การจะก้าวขึ้นเป็นอัศวินได้ ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ทำได้ เงื่อนไขสำคัญคือการปลุกพลังที่เรียกว่า "เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต" ซึ่งเป็นศักยภาพภายในที่ต้องถูกกระตุ้นก่อน

หากไม่มีเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต แม้จะพยายามฝึกฝนแค่ไหน ก็ไม่อาจบรรลุถึงระดับอัศวินได้ พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาในโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย

สิ่งที่ทำให้อาเดียร์โล่งใจคือ ร่างกายนี้มีศักยภาพในการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต และไม่เพียงเท่านั้น เจ้าของร่างเดิมยังถือเป็นอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง

เด็กชายวัย 13 ปีคนนี้ เคยออกสู่สนามรบและสังหารศัตรูด้วยตัวเอง แม้ว่าจะยังเยาว์วัย แต่ความสามารถนี้ทำให้เขาโดดเด่นจนถูกยกย่อง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อาเดียร์พยักหน้าเบาๆ ในความทรงจำของเขา หากร่างกายนี้ไม่มีความสามารถ เคานต์โบเรีย คงไม่อนุญาตให้ลูกชายของเขามาคบหากับอาเดียร์

ในโลกนี้ อัศวินมีสถานะสูงส่ง แม้จะมาจากชนชั้นล่าง แต่หากบรรลุถึงระดับอัศวิน ก็สามารถได้รับตำแหน่งในราชสำนัก พร้อมที่ดินและทรัพย์สิน

ความคิดนี้ทำให้อาเดียร์มีกำลังใจขึ้นมา เขาเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง

แม้อาเดียร์จะเคยผ่านการเดินทางข้ามมิติแล้วถึงสองครั้ง แต่ชีวิตก่อนของเขาในทั้งสองโลกยังถือว่าค่อนข้างสงบ แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่เคยต้องเผชิญอันตรายถึงชีวิต

ตรงกันข้ามกับโลกใหม่นี้ เขาถูกลากออกจากสนามรบในสภาพบาดเจ็บสาหัส

การต้องเผชิญหน้ากับโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและอันตราย ทำให้อาเดียร์ขาดความมั่นใจในความปลอดภัยของตัวเอง

“หากข้าสามารถเป็นอัศวินได้ ข้าก็จะมีพลังเพียงพอที่จะปกป้องตัวเอง และอาจมีชีวิตที่ดีกว่าในโลกนี้”

ขณะที่อาเดียร์กำลังวางแผนในใจ ข้อมูลเกี่ยวกับวิชาหายใจของอัศวินก็ถูกชิปประมวลผลและจัดเรียงอย่างสมบูรณ์

เมื่ออ่านข้อมูลเหล่านั้น อาเดียร์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“วิชาหายใจของอัศวินต้องการการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักและต่อเนื่อง ดูเหมือนข้าจะเริ่มไม่ได้ในเร็ววันนี้”

เขาถามชิป “วิเคราะห์ว่าร่างกายข้าต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานเท่าไร”

“การฟื้นตัวสมบูรณ์ต้องใช้เวลา 97 วัน” ชิปตอบกลับ

“97 วัน?” อาเดียร์พึมพำ พร้อมขมวดคิ้ว ความล่าช้าดังกล่าวดูเหมือนเป็นปัญหา โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ยังมีสงคราม

“มีวิธีใดบ้างที่ช่วยเร่งการฟื้นตัวได้?” เขาถามต่อ

ชิปตอบด้วยรายชื่อสมุนไพรและวัตถุดิบที่อาจช่วยได้ “ไนยากราส, ดอกเซเว่นบลูม, รากดาร์กเนล...”

วัตถุดิบเหล่านี้มีทั้งพืชสมุนไพรที่รู้จักกันดีและวัสดุธรรมชาติทั่วไป แม้ชิปจะไม่สามารถยืนยันผลลัพธ์ได้ 100% แต่ก็เป็นความหวังเล็กๆ

แม้ชิปจะประมวลผลข้อมูลและเสนอรายการพืชสมุนไพรที่มีศักยภาพ แต่เนื่องจากอาเดียร์ยังไม่เคยสัมผัสกับส่วนผสมเหล่านั้นมาก่อน จึงไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับคุณสมบัติและองค์ประกอบทางเคมีของพืชเหล่านั้น แม้กระทั่งชิปเองก็ไม่สามารถยืนยันผลลัพธ์ได้

สิ่งที่ชิปสามารถทำได้คือการแนะนำสูตรเบื้องต้นที่อาจมีโอกาสช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ แต่ไม่สามารถรับประกันผลสำเร็จได้เต็มที่

หลังจากวิเคราะห์ข้อมูล อาเดียร์ตัดสินใจไม่รอช้า เขาหยิบไม้เท้าพยุงตัว ใช้มือขวาออกแรงดันช่วยทรงตัว จากนั้นเดินกะเผลกออกจากห้อง

เมื่อประตูเปิดออก อากาศบริสุทธิ์จากภายนอกก็พัดเข้าสัมผัสใบหน้าของเขา ความเย็นสดชื่นนั้นทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเล็กน้อย

ในความทรงจำ เขาจำได้ว่ามีสวนขนาดเล็กอยู่ไม่ไกล ภายในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้และพืชสำหรับประดับ แต่ก็อาจมีสมุนไพรบางชนิดที่สามารถใช้ประโยชน์ได้

พื้นที่รอบข้างเงียบสงบ ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่าน เขาค่อยๆ ก้าวเดินไปอย่างช้าๆ ระหว่างทางพบเพียงคนรับใช้สองสามคนที่เดินผ่าน แต่ไม่มีใครสนใจเขา

อาเดียร์ไม่ได้หยุดพูดคุย เขามุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางอย่างมั่นคง แม้จะต้องใช้แรงพยุงตัวแต่เขาก็ยังคงเดินต่อ

ทันใดนั้น เสียงจากบริเวณใกล้เคียงดึงดูดความสนใจของเขา

โดยไม่รู้ตัว เขาเดินมาถึงพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ นี่คือสนามฝึกฝนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเหล่าอัศวินฝึกหัด

สนามฝึกนี้กว้างขวาง เต็มไปด้วยอาวุธและอุปกรณ์สำหรับการฝึกซ้อม นอกจากนี้ยังมีคนรับใช้สองสามคนยืนประจำอยู่ในพื้นที่ พร้อมให้การรับใช้เมื่อเหล่าอัศวินฝึกหัดต้องการ

บรรยากาศเงียบสงบ มีผู้ฝึกซ้อมเพียงสี่ถึงห้าคนเท่านั้นที่อยู่ในสนาม แต่ละคนมีอายุประมาณ 15-16 ปี หรือมากกว่านั้น แต่ทักษะการฝึกฝนของพวกเขากลับดูด้อยกว่าอาเดียร์ในความทรงจำ

อาเดียร์เพียงแค่ยืนมอง ไม่มีการทักทายหรือแสดงตัว เขานิ่งเงียบและตั้งใจสังเกต

“ชิป สแกนข้อมูลเป้าหมาย” เขาสั่งการในใจ

ทันทีที่คำสั่งดังขึ้น เสียงตอบรับจากชิปก็สะท้อนในสมอง

“กำลังสร้างภารกิจ!”

ภาพมุมมองของอาเดียร์เปลี่ยนไปทันที สายตาของเขากลายเป็นสีเขียวขุ่น ข้อมูลจำนวนมากเริ่มปรากฏขึ้นในมุมมองที่ไม่มีใครมองเห็น

ชิปเริ่มสแกนข้อมูลเชิงลึกของคนที่กำลังฝึกซ้อมในสนาม ตั้งแต่ความถี่ของการหายใจ จังหวะการเคลื่อนไหว การไหลเวียนของเลือดในร่างกาย รวมถึงสภาพของรูขุมขนและพื้นผิวผิวหนัง

ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้แยกออกจากกัน แต่มันเป็นระบบที่เชื่อมโยงและส่งผลกระทบซึ่งกันและกันในร่างกายมนุษย์

ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลทางกายภาพและเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลในชิป อาเดียร์สามารถประเมินสภาพร่างกายและความสามารถโดยรวมของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ

ชิปช่วยให้อาเดียร์สามารถสังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลได้ในระดับที่ไม่มีมนุษย์ธรรมดาคนใดทำได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด