ตอนที่แล้วตอนที่38 การคาดเดาของอาจารย์เฟิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่40 การประลองรอบสุดท้าย

ตอนที่39 แพะรับบาป เมิ่งหยุนฝาน


เย่ซิวหยูยืนอยู่ในหุบเขา

เขาใช้มือขวาถูคางและดวงตาของเขาก็ครุ่นคิด

ตอนนี้เขาได้ฆ่าสัตว์ร้ายระดับหนึ่งขั้นสูงสุดและหมาสองหัวระดับสองขั้นต่ำแล้ว

แต่เขายังไม่พอใจ

สำหรับเขา สัตว์ร้ายหมายถึงแต้มพลังงานจำนวนมาก

แต้มพลังงานคือความแข็งแกร่ง!

หากสัตว์ร้ายตัวอื่นยังไม่ถูกฆ่า

เขาจะไม่มีทางปล่อยมันไป

เมื่อครู่ตอนที่เย่ซิวหยูกำลังตรวจสอบอันดับ

เขาพบว่านอกจากตัวเขาเองแล้ว คะแนนของเมิ่งซีหยุนก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน

เธอยังติดอันดับที่สามในการจัดอันดับคะแนน!

ถ้าเขาเดาไม่ผิด

สัตว์ร้ายระดับหนึ่งขั้นสูงสุดอีกตัวหนึ่งน่าจะถูกฆ่าโดยเมิ่งซีหยุน

การค้นพบนี้ทำให้เย่ซิวหยูประหลาดใจ

จากความเข้าใจของเขาที่มีต่อเมิ่งซีหยุน

ถึงแม้ว่าระดับการบ่มเพาะของเธอจะอยู่ในระดับหนึ่งขั้นสูงสุด เธอก็ไม่น่าจะสามารถสู้กับสัตว์ร้ายตัวนั้นได้!

ดูเหมือนว่าเมิ่งซีหยุนจะได้รับโอกาสบางอย่างในแดนลับชิงหยุน

ตอนนี้สัตว์ร้ายระดับหนึ่งขั้นสูงสุดอีกตัวหนึ่งถูกฆ่าไปแล้ว

เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปที่นั่นอีก

ยังมีเวลาอีกพอสมควรกว่าการแข่งขันรอบคัดเลือกจะเริ่มขึ้น

โอกาสนี้หายาก เขาต้องใช้มันให้คุ้มค่า!

เย่ซิวหยูตัดสินใจที่จะสำรวจบริเวณรอบๆ หุบเขาอีกครั้งและจะไม่ปล่อยสัตว์ร้ายไปแม้แต่ตัวเดียว

ผู้คนต่างก็งงงวย

เย่ซิวหยูที่ได้เปรียบในเรื่องคะแนน

ไม่เพียงแต่ไม่หยุดพัก

แต่เขายังคงออกล่าสัตว์ร้ายอย่างแข็งขัน!

ทุกคนมองไปที่เย่ซิวหยูและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

“ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเย่ซิวหยูถึงแข็งแกร่ง!”

“เขาเข้มงวดกับตัวเองและไม่พลาดโอกาสใดๆ ในการฝึกฝน”

“ฉันตัดสินใจที่จะเรียนรู้จากเย่ซิวหยู วันนี้ฉันจะกลับไปและฝึกฝนเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมง!”

“ฉันเห็นด้วย!”

เย่ซิวหยูไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของเขาก่อให้เกิดกระแสความนิยมในการฝึกฝนในจีน

มากกว่าสามชั่วโมงต่อมา

ก็มีเสียงประกาศดังขึ้นบนท้องฟ้าเหนือแดนลับชิงหยุน

“สวัสดีผู้เข้าสอบทุกท่าน การแข่งขันรอบนี้จะสิ้นสุดในอีกหนึ่งนาที โปรดเตรียมตัวล่วงหน้า!”

“เฮ้อ~”

หลังจากที่ได้ยินประกาศ

เย่ซิวหยูก็ถอนหายใจ มีความเสียใจปรากฏบนใบหน้าของเขา

หลังจากการทดสอบประลองยุทธเหนือธรรมชาติสิ้นสุดลง เขาก็จะเข้ามหาวิทยาลัย!

ในอนาคต เขาคงจะไม่ได้เจอที่แบบนี้อีก

มันเป็นการทดสอบที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตและไม่จำเป็นต้องเสียอะไร

ความโศกเศร้าในใจของเย่ซิวหยูอยู่ได้ไม่นาน

หยกในอ้อมแขนของเขาก็แตกเป็นเสี่ยงๆ และกลายเป็นแสงสีขาวที่ปกคลุมเย่ซิวหยู

เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นในทุกมุมของแดนลับชิงหยุน

ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่

ถูกส่งกลับไปยังห้องสอบของตน

มีเพียงแปดร่างเท่านั้นที่ถูกนำไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของแดนลับชิงหยุนด้วยลำแสง

คนทั้งแปดคนนี้คือแปดอันดับแรกในการจัดอันดับการทดสอบประลองยุทธ!

“วูม!”

เมื่อลำแสงหายไป

ร่างทั้งแปดก็ปรากฏตัวออกมา

เย่ซิวหยูมองไปรอบๆ และเห็นเมิ่งซีหยุนยืนอยู่ทางขวาของเขา

“สวัสดี สหายเย่!”

เมิ่งซีหยุนเอียงศีรษะและทักทายเย่ซิวหยู

เย่ซิวหยูกำลังจะตอบ

เขาก็ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“เมิ่งหยุนฝาน แกมันสารเลว!”

ดวงตาของจ้าวซิงหานแดงก่ำ ทันทีที่เขาเห็นเมิ่งหยุนฝาน

เขาโจมตีโดยไม่ลังเล!

“วูม!”

เมิ่งหยุนฝานไม่กล้าประมาทเมื่อสัมผัสได้ถึงลมแรงที่พัดมาจากทางซ้าย

แสงสีฟ้าปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา จากนั้นมือขวาของเมิ่งหยุนฝานก็กำเป็นหมัด

เขาพุ่งเข้าหาจ้าวซิงหาน

“ตูม!”

เกิดเสียงดังสนั่น

ร่างกายของจ้าวซิงหานกระเด็นออกไป

เขากระทืบเท้าลงบนพื้นและไถลออกไปมากกว่าสิบเมตรก่อนที่เขาจะหยุด

จ้าวซิงหานมองไปที่เมิ่งหยุนฝาน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไป

เขากระอักเลือดออกมา!

จางเจ๋อเฉียนมองไปที่เมิ่งหยุนฝานด้วยความตกใจ

“ไม่จริงน่า? เมิ่งหยุนฝาน นายแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรอ?”

เมิ่งหยุนฝานมองไปที่มือขวาของเขา ดวงตาของเขามีความสับสน

เมื่อกี้เขาดูเหมือนจะไม่ได้ใช้แรงมาก!

ทำไมจ้าวซิงหานถึงมีปฏิกิริยาแบบนั้น?

ในเวลานี้ จ้าวซิงหานก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ในแดนลับชิงหยุน

เขาเสียสมาธิเมื่อได้ยินข่าวว่าสัตว์ร้ายระดับสองขั้นต่ำถูกฆ่าตาย

เขาประมาท

เขาถูกสัตว์ร้ายระดับหนึ่งขั้นสูงโจมตี!

การโจมตีครั้งนั้นสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแก่อวัยวะภายในของจ้าวซิงหาน ซึ่งเขายังไม่หายดี

หากจ้าวซิงหานไม่โกรธมากเมื่อครู่

เขาคงจะไม่โจมตีเมิ่งหยุนฝาน

ทุกคนจ้องมองไปที่จ้าวซิงหานและเมิ่งหยุนฝาน

เมิ่งหยุนฝานขมวดคิ้ว

เขามองไปที่จ้าวซิงหานและถามด้วยสีหน้าเย็นชา

“จ้าวซิงหาน นายบ้าไปแล้วหรอ?”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ!” จ้าวซิงหานหัวเราะอย่างโกรธๆ

“เมิ่งหยุนฝาน แกเองก็น่าจะรู้ดีว่าแกทำอะไรลงไป!”

จางเจ๋อเฉียนเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว

เขามองไปที่เมิ่งหยุนฝานและพูดว่า

“เมิ่งหยุนฝาน แกทำได้ยังไง? ฉันยังสังสัยเลยว่าทำไมแกถึงใจดีบอกตำแหน่งของจ้าวซิงหานให้ฉันรู้”

“แกจงใจให้ฉันกับจ้าวซิงหานสู้กัน เพื่อที่แกจะได้มีโอกาสล่าสัตว์ร้ายระดับหนึ่งขั้นสูงสุด!”

“เป็นแบบนี้นี่เอง!”

เมิ่งหยุนฝานมองไปที่จางเจ๋อเฉียนและพูดอย่างใจเย็น

“ฉันแค่ให้ข้อมูลที่นายต้องการ ส่วนการตัดสินใจสุดท้ายขึ้นอยู่กับตัวนายเอง!”

จ้าวซิงหานมองไปที่ท่าทางของเมิ่งหยุนฝาน

เขาโกรธมากจนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

“อั่ก!”

เย่ซิวหยูที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่เดินไปหาเมิ่งซีหยุน

เขาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ฉันเห็นเธอรู้จักเมิ่งหยุนฝาน เขาทำอะไรให้คนพวกนั้นเกลียดชัง?”

เมิ่งซีหยุนส่ายหัวและตอบอย่างงงๆ

“ฉันก็ไม่รู้ ฉันไม่ได้เจอคนพวกนั้นเลยตั้งแต่ที่ฉันได้พบกับเขา!”

ผู้คนที่อยู่ด้านนอกเห็นเย่ซิวหยูทำท่าทางเหมือนอยากจะดูละคร

พวกเขาเกือบจะหัวเราะจนเป็นลม!

“ฮ่าๆๆๆๆ ฉันจะขำตายเพราะจ้าวซิงหาน!”

“เขายังคิดว่าเมิ่งหยุนฝานแย่งสัตว์ร้ายของเขา?”

“ดูจากท่าทางของเขาแล้ว ใช่แน่ๆ!”

“นายโทษจ้าวซิงหานไม่ได้ เมิ่งหยุนฝานเองก็ยอมรับ”

“เขายอมรับอะไร? เมิ่งหยุนฝานแค่บอกว่าเขาให้ข้อมูลกับจางเจ๋อเฉียน”

“คนที่ตลกที่สุดคือเย่ซิวหยู?”

“เขาเป็นคนก่อเรื่อง แต่เขากลับไม่สนใจ เหมือนกับว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย!”

“เมิ่งหยุนฝาน ฉันจะคิดบัญชีกับแกทีหลัง!”

หลังจากที่จ้าวซิงหานหันหน้าหนีอย่างโกรธๆ เขาถามคนรอบข้างว่า

“เย่ซิวหยูคือใคร?”

เย่ซิวหยูที่กำลังดูเหตุการณ์อย่างสนุกสนาน

ไม่คิดเลยว่าจะมีคนเรียกชื่อเขา

หลังจากที่เขาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาก็ตอบว่า

“ฉันเอง!”

ทุกคนจ้องมองไปที่เย่ซิวหยู

เมื่อจ้าวซิงหานและจางเจ๋อเฉียนเห็นหน้าของเย่ซิวหยู

ทั้งสองก็พูดพร้อมกัน

“เป็นแก!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด