ตอนที่แล้วตอนที่36 ฆ่าหมาสองหัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่38 การคาดเดาของอาจารย์เฟิง

ตอนที่37 ความเห็นของเมิ่งเจ้าซานและจ้าวปิง


ห้องประชุมมหาวิทยาลัยหยานจิง

ซุนหมิงหย่งส่งข้อมูลในมือของเขาให้กับจ้าวปิงที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ

“ผู้อำนวยการจ้าว นี่คือผลการวิเคราะห์ของพวกเราจากการต่อสู้ระหว่างเย่ซิวหยูและหมาสองหัว!”

จ้าวปิงรับเอกสาร อ่านมันอย่างรวดเร็ว และพูดกับซุนหมิงหย่ง

“อาจารย์ซุน อธิบายรายละเอียดให้ทุกคนฟัง!”

“ครับ!”

ซุนหมิงหย่งพยักหน้าและเดินไปที่หน้าจอขนาดใหญ่

เขาเปิดวิดีโอการต่อสู้ของเย่ซิวหยูและแนะนำให้ทุกคน

“วิดีโอแสดงฉากการต่อสู้ระหว่างเย่ซิวหยูและหมาสองหัว โปรดดูตรงนี้!”

ซุนหมิงหย่งชี้ไปที่วังวนสีดำในวิดีโอและพูดว่า

“ลำแสงเพลิงของหมาสองหัวหายไปหลังจากที่ชนเข้ากับวังวนนี้!”

“เห็นได้ชัดว่านี่น่าจะเป็นความสามารถกลืนกินของพลังมิติ”

“ลองดูวิธีการจัดการกับซากศพของสัตว์ร้ายของเย่ซิวหยู”

“ซากศพของสัตว์ร้ายทั้งหมดหายไป เห็นได้ชัดว่าเขามีมิติส่วนตัว และขนาดของมันน่าจะไม่น้อยกว่า 50 ลูกบาศก์เมตร!”

“เมื่อรวมกับข้อมูลที่พวกเราได้มาจากโรงเรียนมัธยมเฉิงเทิง ข้อสรุปของฉันก็คือ…”

ซุนหมิงหย่งมองไปรอบๆ และพูดทีละคำ

“พรสวรรค์มิติของเย่ซิวหยูได้ตื่นขึ้นเป็นครั้งที่สอง!”

ทันทีที่เขาพูดจบ อาจารย์ทุกคนในห้องประชุมก็เริ่มพูดคุยกันเบาๆ

เมิ่งเจ้าซานพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวขึ้น

“ฉันเห็นด้วยกับการคาดเดาของอาจารย์ซุน พลังมิติของเย่ซิวหยูน่าจะตื่นขึ้นเป็นครั้งที่สอง!”

“และ…ระดับพลังที่ตื่นขึ้นครั้งที่สองของเขาน่าจะอยู่ในระดับ S หรือแม้แต่ระดับ SS!”

“เนื่องจากพลังมิติและการตื่นขึ้นครั้งที่สองนั้นหายาก ฉันขอเสนอให้เพิ่มการข้อเสนอต่อเย่ซิวหยูในการลงทะเบียนเรียน!”

“ถ้าเขาตื่นพลังรู้พรสวรรค์ S เขาจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับ SS”

“ถ้าเขาตื่นพรสวรรค์ SS เขาจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับ SSS”

หากการคาดเดาของซุนหมิงหย่งกระตุ้นความสนใจของอาจารย์ที่อยู่ในห้อง

ข้อเสนอของเมิ่งเจ้าซานทำให้ทุกคนที่นี่ต้องตกตะลึง

เนื่องจากความของของพรสวรรค์มิติ พรสวรรค์ระดับ SS

มีพลังเทียบเท่ากับพรสวรรค์ธรรมดาระดับ SSS!

เมื่อรวมกับความสามารถที่ได้รับจากการตื่นขึ้นครั้งที่สองของพลัง

เมื่อเย่ซิวหยูเติบโตขึ้น พลังต่อสู้ของเขาจะต้องสูงกว่าผู้ใช้พลังระดับ SSS ทั่วไปอย่างแน่นอน

ทุกคนที่นี่รู้ว่าสิ่งนี้หมายความว่ายังไง!

ข้อเสนอของเมิ่งเจ้าซานนั้นสมเหตุสมผล

“แฮ่ม!”

จ้าวปิงกระแอมสองสามครั้ง

หลังจากที่เขาเห็นว่าทุกคนจ้องมองมาที่เขา

เขาก็ค่อยๆ พูด

“ผมมีความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับการยื่นข้อเสนอในการดึงตัวเย่ซิวหยู!”

“ประการแรก ข้อดีของมิติคือการจัดเก็บ ในขณะที่ความสามารถกลืนกินเน้นไปที่การป้องกัน!”

“ถึงแม้ว่าพลังของเย่ซิวหยูจะได้รับการอัพเกรดเป็นระดับ SS เนื่องจากการตื่นขึ้นครั้งที่สอง”

“พลังต่อสู้ในอนาคตของเขาก็ยังห่างไกลจากพลังโจมตีระดับ SSS ทั่วไป!”

“เพราะเย่ซิวหยูไม่มีทักษะการโจมตี”

“ใช่!” ทุกคนพยักหน้า “ผู้อำนวยการจ้าวพูดถูก!”

เมื่อเห็นว่าทุกคนเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของเขา จ้าวปิงก็เหลือบมองเมิ่งเจ้าซาน มีความภาคภูมิใจปรากฏในดวงตาของเขา

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ

“อย่างที่สอง ฉันไม่รู้ว่าทุกคนสังเกตเห็นหรือเปล่า”

“วิธีการต่อสู้หลักของเย่ซิวหยูคือการต่อสู้ระยะประชิด!”

“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมร่างกายของเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่การต่อสู้ระหว่างผู้ใช้พลังระดับสูงนั้นต้องใช้พลังและทักษะการต่อสู้!”

“ไม่ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็เป็นได้แค่เป้าหมายเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายที่มีการโจมตีระยะไกล!”

“ผู้อำนวยการจ้าว!” เมิ่งเจ้าซานขัดจังหวะคำพูดของจ้าวปิง

“ถ้าฉันจำไม่ผิด การโจมตีที่เย่ซิวหยูใช้ฆ่าหมาสองหัวน่าจะเป็นมวยปาจี้!”

“การที่เขาฝึกฝนมวยปาจี้ได้ถึงขั้นนี้ แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของเย่ซิวหยูในการฝึกฝนทักษะการต่อสู้”

“วิธีการโจมตีระยะไกลสามารถชดเชยได้ด้วยทักษะการต่อสู้!”

“ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีความสามารถในการกลืนกิน เมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาก็สามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีระยะไกลได้!”

“นี่ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเราสนใจเขาหรอ?”

จ้าวปิงส่ายหัว “รองผู้อำนวยการเมิ่ง เธอรับประกันได้มั้ยว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของเย่ซิวหยูจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ?”

“นี่…” เมิ่งเจ้าซานลังเล

“ไม่ได้ใช่มั้ย?”

“ฉันยอมรับว่าเย่ซิวหยูมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง แต่มันไม่มั่นคง!”

“ดังนั้น ฉันคิดว่าไม่ควรให้สิทธิพิเศษกับเขาในการลงทะเบียนเรียน!”

“ส่วนผลลัพธ์สุดท้าย พวกเราต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกคน!”

จ้าวปิงพูดจบ มองไปรอบๆ และถามอย่างจริงจัง

“หากทุกคนเห็นด้วยกับความคิดเห็นของฉัน โปรดยกมือขึ้น!”

ทันใดนั้น มากกว่าสองในสามของผู้คนในห้องประชุมก็ยกมือขึ้น

จ้าวปิงหัวเราะเบาๆ เขามองไปที่เมิ่งเจ้าซานอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า

“ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีความคิดเห็นที่ตรงกัน!”

“งั้นก็เอาแบบนี้ พวกเราจะไม่ให้สิทธิพิเศษกับเย่ซิวหยูในการลงทะเบียนเรียน!”

ดวงตาของเมิ่งเจ้าซานหรี่ลง เขาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

หลังจากการประชุม ซุนหมิงหย่งเห็นว่าทุกคนออกไปหมดแล้ว เขาจึงเดินไปหาเมิ่งเจ้าซาน

“ผู้อำนวยการเมิ่ง ขอบคุณที่สนับสนุนผมในการประชุมสองครั้งนี้!”

เมิ่งเจ้าซานโบกมือและพูดว่า “อาจารย์ซุน พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เธอสุภาพเกินไป!”

เมื่อเห็นสีหน้าลังเลของซุนหมิงหย่ง

เมิ่งเจ้าซานก็ยิ้มและพูดต่อ

“อาจารย์ซุน ถ้ามีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเถอะ!”

ซุนหมิงหย่งมองไปรอบๆ และเห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า

“ผู้อำนวยการเมิ่ง มีบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ!”

“มีอะไร? บอกฉันมา!”

“ผู้อำนวยการจ้าว…ทำไมเขาถึงต้องเล็งเป้าหมายไปที่เย่ซิวหยู?”

มันเป็นแค่การรับสมัครนักเรียน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมหาวิทยาลัยหยานจิง!

ในฐานะอาจารย์ประจำแผนกรับสมัคร ซุนหมิงหย่งไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวปิงถึงยืนกรานที่จะด้อยค่าเย่ซิวหยู?

ดวงตาของเมิ่งเจ้าซานเปลี่ยนไป เขามองไปที่ซุนหมิงหย่งและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อาจารย์ซุน ระวังคำพูดด้วย!”

“เอ่อ!”

“ฉันจะแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินเรื่องนี้ เก็บมันไว้ในใจ!”

เมื่อเห็นท่าทางของเมิ่งเจ้าซาน ซุนหมิงหย่งก็รู้ว่าเรื่องนี้มันร้ายแรง

เขาพูดอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณที่เตือนสติ ผมผิดเอง!”

เมิ่งเจ้าซานโบกมือ ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตูห้องประชุม

ขณะที่เขากำลังจะออกไป

เมิ่งเจ้าซานก็หันกลับมาพูดกับซุนหมิงหย่ง

“อาจารย์ซุน เธอควรจะให้ความสนใจกับรายชื่อการจัดอันดับคะแนนสอบประลองยุทธ!”

พูดจบ ก่อนที่ซุนหมิงหย่งจะพูดอะไร

เมิ่งเจ้าซานก็หันหลังกลับและจากไป!

“รายชื่อการจัดอันดับคะแนน?”

ซุนหมิงหย่งทำหน้างง เขาเปิดรายชื่อการจัดอันดับคะแนนสอบประลองยุทธ

หลังจากที่จ้องมองรายชื่ออยู่นาน เขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้

“จ้าวปิงเล็งเป้าหมายไปที่เย่ซิวหยู เพราะจ้าวซิงหานงั้นหรอ?”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด