ตอนที่ 30 จักเกอร์นอท!

ตอนที่ 30 จักเกอร์นอท!

แม่น้ำเยนีเซย์ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองครัสโนยาสค์ในไซบีเรีย

ทันทีที่เอริคก้าวลงจากเครื่องบิน เขาก็พบกับปัญหาอันน่าขบขัน . . .

เขาไม่รู้ภาษารัสเซียเลยแม้แต่น้อย!

ถึงแม้เอริคจะพูดได้หลายภาษา เช่น อังกฤษ เยอรมัน โปแลนด์ จีน และฮีบรู แต่รัสเซียกลับไม่อยู่ในลิสต์นั้น ทำให้ด้วยการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน เขาจึงถูกคนขับรถเข้าใจผิดและส่งมาที่นี่แทน

ดังนั้นเอริคที่คิดว่าเขามาถึงที่หมายแล้วจึงลงจากรถด้วยความงุนงง จากนั้นก็เดินเลียบแม่น้ำเยนีเซย์ไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จนในที่สุดก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

หิมะกำลังตกหนัก น้ำในแม่น้ำเยนีเซย์ที่ไม่ไกลออกไปถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งหนา บนฝั่งมีเพียงต้นไม้เตี้ย ๆ ที่กิ่งก้านเปลือยเปล่าถูกหิมะคลุมไว้ เอริคกวาดตามองไปรอบ ๆ และไม่เห็นแม้แต่เงาคน หรือนกสักตัวหนึ่งเลย . . .

ทำให้ด้วยความเหนื่อยล้าและปลงตก เขาจึงนั่งลงกับพื้น ไขว้ขา หลับตา และเริ่มสัมผัสสนามแม่เหล็กโลกอย่างตั้งใจ

นกพิราบสามารถหาทางกลับบ้านได้ด้วยการรับรู้สนามแม่เหล็กโลก เช่นเดียวกับแม็กนีโต ตราบใดที่มีสนามแม่เหล็ก เขาจะไม่มีวันหลงทาง

เมื่อสังเกตเส้นแรงแม่เหล็กและจังหวะการเต้นของสนามแม่เหล็กโลกอย่างละเอียด เอริคก็ระบุตำแหน่งของตัวเองได้ทันที และอดคิดไม่ได้ว่าเขาอยากจะจับตัวคนขับรถเมื่อกี้มาสั่งสอนเสียให้เข็ด เพราะที่นี่มันอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับที่เขาตั้งใจจะไปอย่างสิ้นเชิง!

“หืม? สนามแม่เหล็กที่คุ้นเคยแบบนี้ มันอะไรกัน?” เอริครับรู้ได้ถึงสนามแม่เหล็กพิเศษที่อยู่ไกลออกไป มันเหมือนเป็นของมนุษย์ แต่ไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์หรือมนุษย์ธรรมดา มันแปลกและทรงพลัง และที่สำคัญคือเขารู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก

เอริคไขว้ขาแล้วลอยตัวขึ้นไปในอากาศอย่างช้า ๆ และใช้เมฆดำปกปิดตัวเองและเคลื่อนไปยังแหล่งกำเนิดสนามแม่เหล็กที่แปลกประหลาดนั้น

“โอ้โห! ไอ้คนป่าเถื่อนนี่เอง! ทำไมถึงมาไซบีเรียได้?” ที่ด้านล่างของแหล่งกำเนิดสนามแม่เหล็กในตอนนี้กลับมีร่างของอดีตลูกน้องของแม็กนีโตที่รู้จักในนาม จักเกอร์นอท!

หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า ‘จักเกอร์นอท’ เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ แต่แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่ พลังของเขามาจาก ซิตโตแร็ค เทพปีศาจจากจักรวาลสีชาด

จักเกอร์นอท หรือชื่อจริง เคน มาร์โก เป็นพี่ชายต่างแม่ของศาสตราจารย์เอ็กซ์ โดยซิตโตแร็คได้มอบพลังวิเศษให้เขา ทำให้เขามีพลังไร้ขีดจำกัด ร่างกายคงกระพัน สามารถต่อกรกับฮัลค์ ต้านทานต่อสายฟ้าของธอร์ และต้านกรงเล็บอะดาแมนเทียมของวูล์ฟเวอรีนได้

ดังนั้นด้วยร่างกายที่เหมือนโล่กำบังของเขา แม็กนีโตจึงชื่นชอบจักเกอร์นอทมาก เพราะเขาสามารถใช้งานอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย ภายใต้อิทธิพลของเวทมนตร์ซิตโตแร็ค ความฉลาดของเขาจึงถูกลดทอนลงอย่างมาก อารมณ์แปรปรวนง่าย และมีความคิดที่เรียบง่ายราวกับพวกสมองกล้าม

‘ไม่ว่าจะเป็นจักรวาลไหน ความสามารถของจักเกอร์นอทมันก็เหมือนกันทุกอย่าง! ซิตโตแร็ค ปีศาจตัวนี้มันมีพลังระดับมัลติเวิร์สอย่างแท้จริง!’ เอริคมองไปที่จักเกอร์นอทและถอนหายใจเล็กน้อย

ในขณะเดียวกันตอนนี้จักเกอร์นอทในชุดเกราะสีแดงกำลังใช้หัวกระแทกน้ำแข็งอย่างร้อนรน ดูเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง

“มาร์โก! นายกำลังหาอะไร? อยากให้ฉันช่วยไหม?” เอริคเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ขณะลอยตัวอยู่เหนือเขา

เมื่อจักเกอร์นอทได้ยินเสียงเรียก เขาก็เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเอริค แต่แทนที่จะถามหรือสงสัยตามปกติ เขากลับคว้าก้อนน้ำแข็งขนาดเท่าครึ่งตัวคนและเหวี่ยงใส่เอริคทันที

“ไอ้หมอนี่มันดุจริง ๆ!” เอริคหลบก้อนน้ำแข็งอย่างหัวเสีย และสังเกตเห็นดวงตาสีแดงฉานของจักเกอร์นอท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขากำลังโกรธสุดขีด

ดังนั้นเพื่อไม่ให้สถานการณ์แย่ลง เอริคจึงลอยตัวลงพื้นอย่างช้า ๆ และเดินเข้าไปหาอย่างระมัดระวัง ก่อนที่เขาจะเริ่มปรับสนามแม่เหล็กแถวนี้ให้สงบลง พร้อมปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอ่อน ๆ เพื่อหวังจะระงับความรุนแรงจากอารมณ์โกรธของจักเกอร์นอท

แต่น่าเสียดายที่เอริคประเมินพลังเวทมนตร์ของซิตโตแร็คต่ำเกินไป เมื่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสัมผัสกับตัวจักเกอร์นอท พลังสีชาดในตัวเขากลับตีความว่านี่เป็นการโจมตี และสะท้อนคลื่นนั้นกลับมา ส่งผลให้จักเกอร์นอทยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นกว่าเดิม!

“โฮกกก!” จักเกอร์นอทคำรามก้องและพุ่งตรงเข้าหาเอริคอย่างรวดเร็ว ร่างมหึมาของเขาเคลื่อนไหวดุจวัวกระทิงป่า ทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ พื้นน้ำแข็งใต้เท้าเริ่มแตกร้าวเป็นทางยาวตามจังหวะการวิ่ง ส่งผลให้เศษน้ำแข็งกระจายกระเด็นไปทั่ว

เอริคยื่นมือข้างหนึ่งออกไป โดยหันฝ่ามือเข้าหาจักเกอร์นอท ทันใดนั้นพลังของเขาก็ปะทุขึ้นพร้อมแสงสีฟ้าสว่างเจิดจ้าในอากาศ นี่คือพลาสมาที่เกิดจากการรวมตัวของไอออนไนซ์ของอากาศด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่รุนแรงมาก

แน่นอนว่าหลังจากนั้น . . . มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เอริคชักมือกลับด้วยความกระอักกระอ่วน พร้อมเบี่ยงตัวหลบการโจมตีของเรดแทงค์ในทันที เดิมทีเขาตั้งใจจะควบคุมเกราะของจักเกอร์นอทด้วยพลังแม่เหล็ก แต่โชคร้ายที่เกราะนั้นถูกพลังเวทมนตร์ของซิตโตแร็คกัดกร่อนจนไม่สามารถถือว่าเป็นโลหะบริสุทธิ์ได้อีกต่อไป ดังนั้นเอริคจึงไม่สามารถควบคุมมันได้เลย . . .

จักเกอร์นอทพุ่งไปไกลก่อนจะรู้ตัวว่ามันไม่ได้ชนใคร ทำให้มันหยุดชะงักด้วยความงุนงง ก่อนหันหลังกลับมาและเห็นเอริคที่ยืนอยู่ไกลออกไป ทันใดนั้นจักเกอร์นอทก็ส่งคำรามเสียงดังลั่น “เจ้าหนู แกอย่าหนีนะ!”

เอริคกลอกตาอย่างเหนื่อยใจ “ใครหนี? แกนั่นแหละที่พุ่งเลยไปเอง”

ดูเหมือนจักเกอร์นอทในจักรวาลนี้จะมีไอคิวต่ำกว่าเดิมเสียอีก!

จักเกอร์นอทพุ่งเข้าหาเอริคอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เอริคกับโบกมือไปที่พื้น และดึงเอาผงโลหะจากก้นแม่น้ำขึ้นมารวมกันจนกลายเป็นลูกบอลโลหะเล็ก ๆ ในมือ

ทันใดนั้นเอริคก็ยกแขนขึ้นและเล็งลูกบอลโลหะไปที่จักเกอร์นอท พร้อมกับพลังงานจากสนามแม่เหล็กที่ถูกซ้อนทับทีละชั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ลูกบอลจะถูกปล่อยออกไปด้วยความเร็วสูงดุจลูกศรที่พุ่งออกจากคันธนู

นี่คือ ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Gun) อาวุธที่ยังไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเต็มที่ แต่เอริคกับเลือกที่จะนำมาใช้ในตอนนี้!

ลูกบอลโลหะพุ่งเข้ากระแทกไหล่ซ้ายของจักเกอร์นอทด้วยความเร็วต้นที่น่าสะพรึงกลัว ทำให้ร่างของจักเกอร์นอทเซเล็กน้อย แต่มันก็ยังไม่สามารถหยุดจักเกอร์นอทได้

เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตัวเองไม่สำเร็จ เอริคจึงดึงโลหะจำนวนมากขึ้นจากก้นแม่น้ำอีกครั้ง และคราวนี้ เขาดันฝ่ามือไปในแนวนอน ส่งผงโลหะไหลเข้าไปสะสมรอบเท้าของจักเกอร์นอท จนทำให้เท้าของจักเกอร์นอทเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ

ในตอนแรกเริ่มจักเกอร์นอทไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป โลหะรอบเท้าของเขาก็เริ่มสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นก้อนเหล็กขนาดใหญ่สองก้อน ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงอย่างมาก

สุดท้าย ก้อนเหล็กทั้งสองก้อนก็หลอมรวมกันกลายเป็นครึ่งวงกลมโลหะขนาดมหึมา และร่างของจักเกอร์นอทก็ถูกตรึงอยู่ตรงกลางของครึ่งวงกลมนั้นอย่างจัง!

ตอนนี้จักเกอร์นอทผู้ทรงพลังได้กลายเป็นเหมือนรูปปั้นหินขนาดยักษ์ที่ถูกตรึงเอาไว้กับที่!!

โปรดติดตามตอนต่อไป …