ตอนที่ 28 มาคุยเรื่องความร่วมมือกันเถอะ!
ตอนที่ 28 มาคุยเรื่องความร่วมมือกันเถอะ!
เอริคนั่งอยู่ตรงหัวเตียงมองสองสาวงามที่หมดสติอยู่บนเตียง ก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อย
“โอบาไดอาห์นี่ช่างพยายามมากจริง ๆ เพื่อขโมยความลับของวัสดุตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิห้อง ในเมื่อแผนมอมเหล้าใช้ไม่ได้ก็ยังเล่นวิธีล่อด้วยสาวๆ อีก น่าเสียดายที่แผนของนายมันไม่ได้ผลกับฉัน . . .”
“นอกจากนี้ถ้าดูจากแผนการทั้งหมดแล้ว สตาร์คก็น่าจะไม่รู้จุดประสงค์ของโอบาไดอาห์ เพราะด้วยนิสัยที่หยิ่งผยองของเขา เขาจะไม่ใช้วิธีแบบนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นแผนการทั้งหมดจึงเป็นของโอบาไดอาห์ ฮ่าฮ่า เจ้าเล่ห์เสียจริง!!”
เอริคพึมพำขณะเดินไปเทไวน์ใส่แก้วอีกครั้ง นี่คือข้อดีของเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ ไม่ว่าจะดื่มมากแค่ไหน ไวน์ก็จะกลายเป็นเพียงน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระเพาะของเขา
“อย่างไรก็ตามคนที่แย่ที่สุดในตอนนี้กับไม่ใช่โอบาไดอาห์ แต่เป็นเจ้าหัวไข่ต้มเวรนั่น! ถึงเขาจะยังไม่หัวล้าน แต่ความเจ้าเล่ห์ของเขานี่ยังไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ!” เอริคกัดฟันกรอดขณะดื่มไวน์ในแก้วจนหมด “ตอนแรกฉันคิดว่านาตาชาถูกส่งมาโดยอเล็กซานเดอร์ แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นฝีมือของฟิวรี่ ไอ้หัวไข่ต้มสารเลว! ฉันดีใจเก้อไปเปล่าๆ!”
ถูกต้องแล้ว นาตาชา โรมานอฟ หรือแบล็ควิโดว์ ถูกส่งมาจากนิค ฟิวรี่ โดยมีเป้าหมายคือวัสดุตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิห้อง ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์กันรังสียูวีแต่อย่างใด
“ไม่นึกว่าสองคนนั้นจะร่วมมือกันเร็วขนาดนี้ ไม่ได้การละ ฉันต้องรีบชวนบาร์ตันมาเข้าร่วมทีม! จะปล่อยให้เจ้าหัวไข่ต้มตักตวงผลประโยชน์ไปคนเดียวไม่ได้!”
ฮอว์คอาย หรือ คลินต์ บาร์ตัน เป็นคนที่เอริคให้ความสำคัญ ไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งหรือบทบาทอื่น ๆ แต่เพราะผู้ชายคนนี้ โชคดี มาก!
แน่นอนว่าทุกคนคงไม่เชื่อใช่ไหม? งั้นยกตัวอย่างในศึกนิวยอร์ก บาร์ตันอยู่ก็ทีมอเวนเจอร์สชนะ ศึกอัลตรอนบาร์ตันก็อยู่ทีมอเวนเจอร์สก็ชนะอีก ในสงครามกลางเมืองบาร์ตันก็อยู่ข้างกัปตันอเมริกา และกัปตันก็ชนะ แต่พอเป็นการต่อสู้ครั้งแรกกับธานอส บาร์ตันไม่อยู่ ทีมอเวนเจอร์สกับพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แถมตอนที่ธานอสดีดนิ้ว ครอบครัวของบาร์ตันสลายหายไปหมด แต่เขากลับรอด และในการต่อสู้ครั้งที่สองกับธานอส บาร์ตันก็อยู่กับทีม ดังนั้นธานอสจึงถูกฆ่าตาย . . .
ถึงแม้เรื่องนี้จะฟังดูไกลตัว แต่เอริคกับรู้สึกจริง ๆ ว่าบาร์ตันคือเครื่องรางนำโชค ชนิดที่เรียกได้ว่ามีดวงอันยิ่งใหญ่กำลังค้ำจุนเขาอยู่!
. . .
เช้าวันรุ่งขึ้น เอริคลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ เดินสำรวจรอบ ๆ สตาร์ค อินดัสตรีส์ พร้อมเปิดการรับรู้สนามแม่เหล็กเต็มกำลัง ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานแววตาของเขาจะเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
“เอริค เมื่อคืนสนุกไหม?” โอบาไดอาห์ทักเขาจากระยะไกล โดยที่เขายังใส่ชุดนอนอยู่ ถือแก้วไวน์ในมือข้างหนึ่งและซิการ์อีกข้าง
“อย่าพูดถึงเลย! เมื่อคืนฉันดื่มหนักจนหลับเป็นหมูตาย นายมันร้ายกาจจริง ๆ ที่บังคับให้ฉันดื่มขนาดนั้น!” เอริคแสร้งทำหน้าสลดและบ่นโอบาไดอาห์ด้วยความเสียดาย
“ฮ่า ๆ อย่ามาโทษฉันนะ! มันเพราะนายดื่มไม่เก่งเอง!” โอบาไดอาห์หัวเราะพร้อมพาดแขนบนไหล่ของเอริค “ฉันส่งสาวสวยสองคนนั้นกลับบ้านให้แล้ว หรือจะให้ฉันเรียกพวกเธอมาอยู่กับนายอีกสองสามวันไหมดี?”
เอริคทำตาเป็นประกายทันทีเหมือนหมาที่เห็นกระดูก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าลำบากใจ “ไม่เอาหรอก ถ้าฉันทำแบบนั้นจริง ๆ เจนนิเฟอร์คงฆ่าฉันตายแน่!”
นี่แหละเหตุผลที่เขาจ้างผู้ช่วยสาวสวยมาอยู่ใกล้ตัว เพราะในสถานการณ์แบบนี้ เธอเป็นเกราะป้องกันชั้นยอด . . .
“โอ้ เลขาของนายสินะ? หุ่นดีเหมือนกัน ฉันเข้าใจแล้ว” โอบาไดอาห์พ่นควันซิการ์ด้วยท่าทางเข้าใจ “งั้นเอาแบบนี้ ฉันจะให้เบอร์ติดต่อพวกเธอ ส่วนนายก็หาเวลาเอาเองดีไหม?”
“ดีเลย นายนี่รู้ใจฉันจริง ๆ” เอริคและโอบาไดอาห์สบตากันพร้อมหัวเราะราวกับผู้สมรู้ร่วมคิด
“ไปกันเถอะ ไปทานอาหารเช้ากันก่อน โทนี่น่าจะตื่นในเร็ว ๆ นี้”
. . .
“เอริค นายบอกว่าท่านนายพลรอสส์แนะนำบริษัทอลิซ อินดัสตรีส์ให้กระทรวงกลาโหม? ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?” หลังทานมื้อเช้า โอบาไดอาห์ถึงกับสงสัยว่าหูตัวเองฟาดไปเมื่อได้ยินข่าวนี้จากเอริค
“แน่นอน วัสดุตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิห้องเป็นผลิตภัณฑ์ของอลิซ อินดัสตรีส์ และเทคโนโลยีของเราครบถ้วนกว่า บางทีท่านนายพลและกระทรวงกลาโหมอาจจะพิจารณาจากเหตุผลนี้ เลยมอบงานพัฒนาอาวุธปืนแม่เหล็กไฟฟ้าให้เรา”
“แต่สตาร์ค อินดัสตรีส์ได้ให้บริการอาวุธกับกองทัพมาหลายสิบปี ในด้านการพัฒนาอาวุธ ไม่มีใครเทียบเราได้! ถ้าอลิซ อินดัสตรีส์กับสตาร์ค อินดัสตรีส์ร่วมมือกัน ฉันมั่นใจว่าเราจะสร้างอาวุธที่ดีกว่านี้ได้อย่างแน่นอน!” โอบาไดอาห์ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเอริคด้วยความจริงจังพร้อมกับคิ้วที่ขมวดจนแน่น
โอบาไดอาห์ไม่คิดเลยว่านายพลรอสส์จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทำให้แผนการของเขาพังทลายลงจนหมด
“โอบาไดอาห์ เพื่อนรัก นายก็รู้ว่าอาวุธปืนแม่เหล็กไฟฟ้าคือก้าวสำคัญสำหรับอลิซ อินดัสตรีส์ในการเข้าสู่ตลาดอาวุธ เราปล่อยโอกาสนี้ไม่ได้จริง ๆ!” เอริคยกมือขึ้นอย่างจนใจพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่มีทางร่วมมือกันเลยงั้นเหรอ?” โอบาไดอาห์นั่งพิงโซฟา ก่อนสูบซิการ์เข้าไปจนเต็มปอด
“เฮ้เพื่อน! ฉันซื้อวัสดุจากนายมา แล้วเราจะพัฒนามันด้วยตัวเองก็ได้! ฉันมั่นใจว่าเราจะพัฒนาอาวุธปืนแม่เหล็กไฟฟ้าได้เร็วกว่าอลิซ อินดัสตรีส์อย่างแน่นอน!” สตาร์คพูดขึ้นมาขณะนอนเอกเขนกบนโซฟา พลางกินชีสเบอร์เกอร์อย่างไม่ทุกข์ร้อน ตอนนี้เขาดูมั่นใจในสติปัญญาของตัวเองมาก
เอริคหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “แน่นอนว่าฉันทราบดี คุณสตาร์ค ด้วยไอคิวของนายมันคงไม่มีใครสงสัยแน่! แต่ถ้านายจะทำแบบนั้นจริง ๆ ฉันคงจะต้องจำกัดจำนวนการส่งมอบวัสดุ ‘แลนเซอร์ No.1’ แล้วล่ะ”
“ถ้างั้นฉันก็จะซื้ออลิซอินดัสตรีส์ซะเลย!” สตาร์คพูดพลางกลืนคำสุดท้ายของเบอร์เกอร์เข้าปาก ก่อนเคี้ยวด้วยท่าทางไม่สะทกสะท้าน
“ฉันเกรงว่านายจะทำไม่ได้น่ะสิคุณสตาร์ค อลิซ อินดัสตรีส์ยังไม่เข้าตลาด และทั้งหมดก็เป็นของฉันคนเดียว!” เอริคยักไหล่ด้วยท่าทีไม่ใยดีต่อคำขู่ของสตาร์ค
ทันใดนั้นบรรยากาศในห้องก็พลันเงียบงัน พร้อมกับความอึดอัดที่แผ่ปกคลุมไปทั่ว
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานจู่ ๆ เอริคก็ยิ้มออกมา “โอบาไดอาห์, สตาร์ค ฉันคิดว่าเราสามารถร่วมมือกันในด้านอื่นได้นะ!”
“โอ้? ด้านไหนล่ะ? ฉันจำได้ว่านายสนใจปัญหาผิวพรรณของผู้หญิงใช่ไหม? แต่สตาร์ค อินดัสตรีส์ไม่ผลิตเครื่องสำอางหรอกนะ คุณเพื่อนที่แท้จริงของผู้หญิง!” สตาร์คเบะปากพลางแสดงท่าทีดูถูก
“ไม่ใช่เรื่องนั้น สิ่งที่ฉันอยากจะเสนอความร่วมมือก็คือ . . . แขนขาเทียมโลหะ!” เอริคไม่ใส่ใจกับคำเสียดสีของสตาร์ค ก่อนจะหยิบภาพถ่ายออกมาจากกระเป๋า และวางมันลงบนโต๊ะเบื้องหน้าของพวกเขาทั้งสองคน โดยภาพนี้คือภาพของแขนโลหะของวินเทอร์โซลเยอร์ที่เอริคได้ลบทุกหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับไฮดราหรืออดีตสหภาพโซเวียตออกหมดแล้ว
สตาร์คหยิบภาพขึ้นมาดู ก่อนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย “นายอยากให้เราสร้างของเล่นแบบนี้เหรอ?”
“นี่ไม่ใช่ของเล่น คุณสตาร์ค! แขนนี้สามารถมอบพลังมหาศาลให้กับผู้ใช้ได้!” เอริคยื่นมือออกมา กำหมัดแน่นจนกล้ามเนื้อแขนโป่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ทุกปี มีทหารหลายหมื่นคนในกองทัพสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บ และส่วนใหญ่ต้องกลายเป็นผู้พิการ! กลุ่มคนเหล่านี้มีทั้งพลทหาร, จ่า, ร้อยโท, พันเอก ไปจนถึงนายพล! โดยมีหลายคนที่ยังคงทำหน้าที่ในกองทัพในตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ”
“พวกเขากลับมาจากสนามรบ แต่กับต้องทิ้งขาและแขนไว้ที่นั่น พวกเขาได้รับเกียรติอันสูงส่ง!”
“รัฐบาลจ่ายเงินบำนาญจำนวนมากในแต่ละปี พวกเขามีเงิน!”
“ยิ่งไปกว่านั้นสังคมยังให้ความสนใจกับพวกเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเรื่องเล็กน้อยที่สุดที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาย่อมถูกนำเสนอในข่าวสารอย่างแน่นอน . . .”
“พวกเขามีเงิน มีอำนาจ มีเกียรติ และสังคมก็ให้ความสนใจ ทำไมพวกเราถึงไม่คิดจะช่วยพวกเขาล่ะ?”
เอริคคว้าภาพถ่ายกลับจากมือสตาร์ค และชูขึ้นตรงหน้าของพวกเขาทั้งสองคน “แขนเทียมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้พวกเขากลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ยังทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย!”
“นี่คือแขนขาเทียม . . . ที่สามารถกลายเป็นอาวุธได้!”
ทันใดนั้นโอบาไดอาห์ก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจทันที “งั้น . . . เรามาคุยเรื่องความร่วมมือกันเถอะ!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …