บทที่17
เซี่ยจื้อถึงกับงงไปชั่วขณะ
ความจริงแล้ว การที่คาสซานดราห่วงใยเขาขนาดนี้ ทำให้เซี่ยจื้อรู้สึกซาบซึ้งใจมาก
แต่ถ้าจะให้เขายอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปล้างแค้นเฟนเรียร์ เกรย์แบ็ก นั่นเป็นไปไม่ได้!
ถ้าต้องกลับไปโดยไม่ทำอะไรเลย แล้วเขาจะทำยังไงกับภารกิจ? แล้วรางวัลอีกล่ะ เขายังต้องการมันอยู่!
นั่นคือหีบรางวัลกับคะแนนทักษะอีกสองแต้มเชียวนะ
นี่คือภารกิจที่ระบบมอบหมายให้เขาแต่แรก ถ้าไม่บังเอิญมาเจอคาสซานดราเสียก่อน ป่านนี้เขาอาจจะกำลังยิงอะวาดา เคดาฟราใส่เหล่ามือปราบมารในค่ายไปแล้ว
"คาสซานดรา ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ผมซาบซึ้งในความห่วงใยของพวกคุณจริงๆ" เซี่ยจื้อพูดพร้อมกับมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า "...พวกคุณก็รู้ใช่ไหมครับว่าผมถูกพวกเขาขังอยู่นาน ถูกทรมานมาตลอด ถึงแม้ว่าความทรงจำก่อนหน้านี้จะเลือนหายไปหมด แต่ช่วงครึ่งเดือนที่ผมจำได้... คุณรู้ไหมว่าผมผ่านมันมายังไง"
เซี่ยจื้อพูดพร้อมเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหม่นเศร้าไล่มองระหว่างคาสซานดราและดัมเบิลดอร์
เสน่ห์ที่พุ่งพล่านจากค่าพลัง +10 ของเซี่ยจื้อ ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูด
แม้แต่ดัมเบิลดอร์เองก็ไม่ทันสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติ เขาเพียงแค่รู้สึกว่าเด็กคนนี้มีบางอย่างที่อบอุ่นและเป็นมิตรในตัว ซึ่งทำให้ผู้คนอยากเข้าใกล้
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ดัมเบิลดอร์ลดความระแวงในตัวเซี่ยจื้อลงอย่างรวดเร็ว
เพราะลักษณะเช่นนี้ ไม่เหมือนอะไรที่เกี่ยวกับโวลเดอมอร์เลยแม้แต่น้อย
เมื่อมองเห็นแววตาที่เปี่ยมด้วยหยาดน้ำใสๆ ของเซี่ยจื้อ คาสซานดรารู้สึกเหมือนถูกกระแทกเข้าเต็มหัวใจ!
"ฉันเข้าใจความรู้สึกของนายนะ เซี่ยจื้อ...แต่...ร่างกายของนาย..."
"เธอรู้ไหม คาสซานดรา ผมเกลียดพวกเขา...ดังนั้น ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ลงมือเอง ผมก็อยากเห็นพวกเขาได้รับผลกรรมกับตา...มิฉะนั้น ผมคงจะต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ในความทุกข์ใจแบบนี้...และร่างกายของผม คงจะไม่เป็นอะไรถ้าจะรออีกไม่กี่วัน" เซี่ยจื้อพูดพร้อมมองคาสซานดราด้วยสายตาอ้อนวอน "ขอร้องล่ะ คาสซานดรา ให้ผมไปเถอะ...ยังไงก็มีศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์อยู่ ผมคงไม่เป็นอันตรายหรอก และเธอก็รู้นี่ว่าผมแข็งแกร่งแค่ไหน..."
ด้วยผลจากเสน่ห์ที่พุ่งแรงของเซี่ยจื้อ ทั้งดัมเบิลดอร์และคาสซานดราก็เหมือนจะถูกพาเข้าสู่บรรยากาศแห่งความเศร้าที่เขาสร้างขึ้น
เหมือนกับว่าถ้าปฏิเสธคำขอร้องของเขา เซี่ยจื้ออาจจะเศร้าจนล้มลงตรงนี้เลยก็ได้
คาสซานดราที่มองเห็นความเศร้าบนใบหน้าของเซี่ยจื้อ หัวใจก็พลันอ่อนยวบ 'เขาช่างน่าสงสารเหลือเกิน การอยากเห็นคนที่ทำร้ายตัวเองได้รับผลกรรม มันผิดตรงไหนกันล่ะ? ถ้าอย่างนั้น...ก็ให้เขาไปเถอะ อย่างมากหลังจากนี้ ฉันจะหาแพทย์ดีที่สุดมารักษาเขา!'
"เชอะ! นาย...นายอยากไปก็ไปสิ ยังจะมาถามฉันอีกทำไม..." คาสซานดราพูดพลางหันหน้าหนีราวกับไม่อยากพูดกับเขาต่อ
"แน่นอนว่าต้องถามสิ เพราะเธอเป็นเพื่อนคนแรกของผม และเธอก็เป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับผมด้วย!" เซี่ยจื้อพูดอย่างจริงจัง
คำพูดของเขาไม่ได้โกหกเลย เพราะคาสซานดรานับเป็นเพื่อนต่างเพศคนแรกของเขาโดยแท้จริง...
"...ใคร...ใครเป็นเพื่อนนาย...ฉันไม่ยอมเป็นเพื่อนกับนายหรอก เจ้าบ้าเอ๊ย!" คาสซานดราหน้าแดงก่ำก่อนจะหันหลังวิ่งออกจากเต็นท์ แต่กลับหยุดตรงประตูและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูห่วงใย "อย่าโง่ไปวิ่งพุ่งใส่พวกเขานะ...แล้วก็อย่าทำอะไรโง่ๆ อย่างเอาตัวเองไปบังคาถาอีก...ฉันไม่อยากเห็นนายกลายเป็นศพที่ถูกหามกลับมาหรอก!"
พูดจบ เธอก็วิ่งออกจากเต็นท์ไป ใบหูแดงก่ำจนไม่อาจปกปิดความรู้สึกได้
‘ให้ตายสิ เขาพูดว่าฉันเป็นคนสำคัญที่สุดของเขา!’ คาสซานดราพยายามข่มใจ แต่ก็อดคิดไม่ได้
ดัมเบิลดอร์มองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกว่าความระแวงในตัวเซี่ยจื้อได้หายไปอีกขั้น
เพราะอย่างน้อยที่สุด เซี่ยจื้อจะไม่มีวันกลายเป็นโวลเดอมอร์คนที่สอง เพราะเขาเข้าใจถึงความรู้สึก และคนที่มีความรู้สึกย่อมเข้าใจความรัก
ซึ่งเป็นสิ่งที่โวลเดอมอร์ไม่มีวันเข้าใจ
"วัยหนุ่มสาวนี่ดีจริง ๆ มิตรภาพที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ล้ำค่าเสมอ" ดัมเบิลดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม "ฉันยอมรับที่จะพาเธอไปด้วย แต่มีข้อแม้นะ เด็กน้อย เธอต้องฟังฉัน อย่าบุ่มบ่ามพุ่งเข้าใส่ศัตรูเด็ดขาด"
เซี่ยจื้อพยักหน้าหงึก ๆ แสดงความยินยอมทันที
ดัมเบิลดอร์นิ่งไปชั่วครู่ก่อนกล่าวต่อ "ถ้าเลี่ยงได้ก็อย่าใช้คาถาพวกนั้น...แต่ถ้าถึงคราวจำเป็นจริง ๆ ก็ปกป้องตัวเองให้ดีล่ะ!"
เซี่ยจื้อชะงักไปเล็กน้อย 'นี่คือการบอกใบ้ให้ฉันใช้คำสาปโทษผิดสถานเดียวในสถานการณ์คับขันได้ใช่ไหมเนี่ย?'
เมื่อเห็นเซี่ยจื้อพยักหน้ารับอีกครั้ง ดัมเบิลดอร์ก็ลุกขึ้น "ดีแล้ว งั้นเธอพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน ฉันจะไปส่งข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่ม เพราะเด็กที่ถูกจับไปน่าจะมีจำนวนไม่น้อยเลย แล้วก็ต้องแจ้งข่าวให้คุณโวลด้วย ตอนนี้เขาคงเป็นห่วงคาสซานดรามากทีเดียว"
"เธอคงไม่ได้พักผ่อนมานานแล้วล่ะสิ ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพอเช้าฉันจะมาปลุก" ดัมเบิลดอร์โบกไม้กายสิทธิ์ และเก้าอี้ที่เซี่ยจื้อนั่งอยู่ก็เปลี่ยนเป็นเตียงหรูที่ปูด้วยผ้ากำมะหยี่นุ่ม ๆ
เตียงดูสบายมากจนเซี่ยจื้อแค่เหลือบมองก็รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที
"สุดยอดเลย!" เซี่ยจื้อตื่นเต้นกับเวทมนตร์การแปลงรูปลักษณ์นี้ "นี่คือคาถาอะไรเหรอครับ? คุณช่วยสอนผมได้ไหม?"
"ได้สิ นี่คือคาถาแปลงร่าง" ดัมเบิลดอร์ตอบด้วยความยินดี "มันไม่มีคำร่ายตายตัวหรอกนะ เธอต้องตั้งสมาธิและจินตนาการถึงสิ่งที่อยากเปลี่ยนรูปออกมา…"
ดัมเบิลดอร์เลื่อนแผนส่งจดหมายออกไปสักพัก แล้วอธิบายพื้นฐานของคาถาแปลงร่างให้เซี่ยจื้อด้วยความเต็มใจ ราวกับได้ย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่เขาเคยเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาแปลงร่าง
ด้วยเสน่ห์ที่พุ่งพล่านของเซี่ยจื้อ การปฏิเสธคำขอร้องของเขานั้นดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แม้แต่พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่อย่างดัมเบิลดอร์ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากเสน่ห์นี้ได้
"ที่ฮอกวอตส์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ประจำวิชาแปลงร่าง ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ รอให้เธอเข้าเรียนก่อน แล้วเธอจะได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ในเชิงลึกยิ่งขึ้น" ดัมเบิลดอร์กล่าวพร้อมยิ้มอย่างอบอุ่น