บทที่ 70 : เริ่มปลูกเถาวัลย์วิญญาณสวรรค์!
บทที่ 70 : เริ่มปลูกเถาวัลย์วิญญาณสวรรค์!
"ลูกค้าทุกท่าน บาร์บีคิวมาแล้ว!"
โต๊ะไม้ที่ว่างเปล่าในตอนแรก ตอนนี้เต็มไปด้วยจานบาร์บีคิวที่ส่งเสียงฉ่าๆพร้อมกับน้ำมันที่เยิ้มออกมา
ทุกๆเมือง จะมีตลาดกลางคืนที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยผู้คน
ร้านบาร์บีคิวนั้น มักจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนทั่วไป ที่จะมาผ่อนคลายและพูดคุยกัน
ณ เวลานี้ มีพี่น้องผมขาวคู่หนึ่งที่แต่งกายหรูหราและมีสง่าราศี กำลังนั่งกินบาร์บีคิวอยู่ที่ร้านข้างทาง ซึ่งพวกเขาดูไม่เข้ากับบรรยากาศรอบข้างเลยสักนิด
"พี่ชายหยางซั่ว พี่กับซินซินมาจากตระกูลใหญ่ ไม่คิดเลยว่าจะมากินบาร์บีคิวที่ร้านแบบนี้ได้ด้วย" เซียวซิงหยูเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ
ณ เวลานี้…มู่หรงหยางซั่วกำลังเคี้ยวเนื้อย่างผงยี่หร่าอยู่เต็มปากด้วยสีหน้าที่มีความสุข ท่าทางการกินที่ไม่ค่อยสุภาพของเขา ดูเหมือนจะลดทอนความหล่อเหลาของเขาลงไปเล็กน้อย
"พวกเราก็มาจากตระกูลใหญ่ก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะเป็นผู้วิเศษอะไร คนทั่วไปกินอะไรได้ ที่บ้านเราก็กินได้เหมือนกัน"
"ไม่ต้องพูดถึงบาร์บีคิวเลย แม้แต่บะหมี่เผ็ดราคาหกหยวน หรือขนมเผ็ดราคาห้าเหมา ฉันกับน้องสาวก็กินได้หมดนั่นแหละ!"
ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ของประเทศมังกร เนื่องจากมีธุรกิจที่แตกต่างกัน วิถีชีวิตของแต่ละครอบครัวจึงแตกต่างกันด้วย
ตัวอย่างเช่น ตระกูลเย่นั้นมีเชื้อสายที่สูงส่ง บรรดาลูกหลานของตระกูลนี้ล้วนใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย
เรื่องนี้เห็นได้จากเย่ซือเหมิง ตอนที่เซียวซิงหยูเจอเธอครั้งแรก เธอไม่เคยกินบะหมี่เผ็ดมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ตรงกันข้ามกับตระกูลเย่ ตระกูลมู่หรงค่อนข้างติดดินกว่ามาก
มู่หรงจิน บิดาของมู่หรงหยางซั่วและมู่หรงซินซิน เป็นหนึ่งในสามแม่ทัพใหญ่ของประเทศมังกร เขาเป็นแม่ทัพเรือ ผู้พิทักษ์แนวชายฝั่งอันยาวไกลของประเทศ
เนื่องจากเป็นทหาร เขาจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากนัก, ตอนที่มู่หรงหยางซั่วและมู่หรงซินซินยังเด็ก มู่หรงจินก็มักพาลูกๆทั้งสองออกไปล่องเรือในทะเล เพื่อสัมผัสกับชีวิตที่ยากลำบาก การกินอาหารง่ายๆและการนอนกลางดินกินกลางทรายจึงเป็นเรื่องปกติ
หัวหน้าครอบครัวเป็นแบบไหน ก็จะหล่อหลอมให้ลูกหลานเป็นแบบนั้น
มู่หรงหยางซั่วและมู่หรงซินซินจึงไม่มีท่าทางของลูกคุณหนูคุณชาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินหรือที่พักอาศัย พวกเขาใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนทั่วไป
ณ ขณะนี้ เฉินฉีเหนียนเอ่ยเตือนขึ้นเบาๆว่า
"เซียวซิงหยู มู่หรงหยางซั่ว พวกเธอสองคนอย่าดื่มเยอะเกินไปล่ะ พรุ่งนี้ยังมีการแข่งขันแบบทีมรออยู่นะ"
"ผู้อำนวยการเฉิน วันนี้เราชนะการแข่งขัน ก็ต้องฉลองกันหน่อยสิครับ ผมรินให้แล้วนะครับ…วันนี้เราต้องดื่มให้เมากันไปข้างหนึ่งเลย!"
"เหลวไหล! ฉันเป็นอาจารย์นะ จะมาดื่มเหล้าได้ยังไง ไม่ได้หรอก!"
ถึงปากเฉินฉีเหนียนจะพูดปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขวางมู่หรงหยางซั่วที่กำลังรินเหล้าให้เลยสักนิด
"จริงๆแล้วอาจารย์เฉินก็อยากดื่มเหมือนกันนั่นแหละ แค่แกล้งทำเป็นปฏิเสธไปอย่างนั้นเอง" เซียวซิงหยูเเละมู่หรงซินซินพึมพำคำๆเดียวกันออกมา
ซึ่งนี่มันก็ทำให้เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินถึงกับชะงักไปพร้อมๆกัน
ความเข้าใจกันโดยปริยายนี้ ทำให้บรรยากาศในร้านบาร์บีคิวที่เต็มไปด้วยควันไฟ มีความคลุมเครือเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
บรรยากาศเริ่มจะอึดอัดขึ้นมา เซียวซิงหยูจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
"ซินซิน ฉันรินให้เธอแก้วนึงนะ" เซียวซิงหยูพูดพลางหยิบขวดเบียร์เย็นเฉียบขึ้นมา
"ฉันเป็นประจำเดือนอยู่น่ะ ดื่มของเย็นไม่ได้หรอก"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ทำสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย แล้วพูดว่า
"ว่าแล้วทำไมวันนี้เธอหน้าซีดๆ ที่แท้ก็เป็นเเบลนี้นี่เอง ฉันเป็นหมอนะ จะให้ฉันช่วยดูอาการให้ไหม?"
พอเซียวซิงหยูพูดจบ ทุกคนก็เงียบกริบทันที
คำพูดของเซียวซิงหยู ทำเอาทุกคนอึ้งไปเลย
มู่หรงซินซินถึงกับพูดไม่ออก เธอมองเซียวซิงหยูด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
ส่วนเฉินฉีเหนียนถึงกับพ่นเหล้าออกมา แล้วส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า "เด็กคนนี้…มันไม่ธรรมดาจริงๆ!"
เเละทันใดนั้น มู่หรงหยางซั่วก็รีบเข้ามาล็อกคอเซียวซิงหยูทันที
"คุณชายหยางซั่ว ใจเย็นๆก่อนนะครับ นี่มันยุคสมัยแห่งกฎหมายแล้ว…จะมาทำร้ายกันเเบบนี้ไม่ได้นะ"
"เซียวซิงหยู แกยังเป็นคนอยู่รึเปล่าเนี่ย! น้องสาวฉันเป็นประจำเดือน แกยังจะไปดูอาการให้อีก!"
"แค่กๆๆ ผมก็แค่เป็นห่วงซินซินเฉยๆ"
"เป็นห่วงแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ! อาจารย์เฉิน อย่าห้ามผมนะ…ผมจะเอาเลือดหัวมันออก!"
หลังจากเล่นกอดคอกันสักพัก มู่หรงหยางซั่วก็ปล่อยเซียวซิงหยู แล้วรินเหล้าใส่แก้วของเซียวซิงหยูจนเต็ม
"เซียวซิงหยู วันนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยแกไปง่ายๆแน่ ฉันจะต้องให้แกเมามายจนลุกไม่ขึ้น ถ้าทำไม่ได้ ฉันจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลแกเลย!" มู่หรงหยางซั่วโมโหจนต้องใช้ไม้ตายมอมเหล้า
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็หันไปยิ้มแห้งๆ ให้กับมู่หรงซินซินที่อยู่ข้างๆ
"ซินซิน ขอโทษด้วยนะครับ ฉันพูดไม่เคลียร์เอง ฉันแค่เป็นห่วงเธอเฉยๆ"
"ขอบคุณที่เป็นห่วง…แต่ทีหลังไม่ต้อง"
วิธีการแสดงความเป็นห่วงของเซียวซิงหยูมันแปลกประหลาดเกินไป มู่หรงซินซินรับไม่ไหวจริงๆ
……
สองชั่วโมงผ่านไป
ตอนนี้เหลือแค่เซียวซิงหยู มู่หรงซินซิน และเฉินฉีเหนียนเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะ…ส่วนมู่หรงหยางซั่วนั้น เมาจนสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
มู่หรงซินซินเงยหน้าขึ้นมองเซียวซิงหยูที่นั่งอยู่ข้างๆ, ผู้ชายคนนี้ไม่ได้แสดงอาการเมาออกมาเลย นอกจากกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งไปทั่วร่างกาย นอกนั้นแทบจะดูไม่ออกเลยว่าเขาเมา
บนโต๊ะเต็มไปด้วยขวดเหล้าที่ว่างเปล่า, แม้แต่เฉินฉีเหนียนก็ยังหน้าแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
"ดูเหมือนว่านายจะคอแข็งไม่เบาเลยนะ" มู่หรงซินซินพูดขึ้น
“ซินซิน บอกตามตรงเลยนะ…ตอนฉันอายุแปดขวบเเล้วไปกินเลี้ยงที่หมู่บ้าน ฉันสามารถดื่มเหล้าจนผู้ใหญ่บ้านเมามายไม่ได้สติเลยล่ะ” เซียวซิงหยูพูดอย่างภาคภูมิใจ
ทันใดนั้น เฉินฉีเหนียนก็ดันแว่นตาขึ้นแล้วมองนาฬิกาข้อมือ
"เอาล่ะ…ตอนนี้ดึกมากแล้ว พวกเรากลับโรงแรมไปพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้ยังมีงานหนักรอเราอยู่"
มู่หรงซินซินหยิบกระเป๋าเงินออกมาจ่ายค่าอาหาร ส่วนเซียวซิงหยูประคองมู่หรงหยางซั่วที่เมาไม่ได้สติขึ้นมา
"เซียวซิงหยู เรามาดื่มกันต่อเถอะ รินให้ฉันอีก!"
"พี่หยางซั่ว พี่ไม่ไหวแล้ว…พวกเราควรกลับโรงแรมกันเถอะ"
"ฉันเตือนแกไว้ก่อนเลยนะ ต่อไปถ้าแกแต่งงานแล้ว ต้องดูแลน้องสาวฉันให้ดีๆล่ะ!"
"เอ่อ..."
"ไม่งั้น ฉันในฐานะพี่ชาย จะไม่ปล่อยแกไปแน่!"
เซียวซิงหยูรู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อย แล้วพูดกับมู่หรงซินซินว่า
"ซินซิน พี่ชายเธอเมาหนักแล้ว…เขาถึงกับยอมรับฉันเป็นน้องเขยแล้ว"
อย่างไรก็ตาม, มู่หรงซินซินไม่ได้พูดตอบอะไร
สาวน้อยผมขาวคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างแปลก ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่
……
เมื่อกลับถึงโรงแรม เซียวซิงหยูก็พามู่หรงหยางซั่วไปนอนที่เตียง แล้วเดินไปที่ห้องข้างๆ
วิทยาลัยชิงหลงมีงบประมาณเยอะ ซูหรูหยานจึงจองห้องพักราคาแพงให้กับทุกคน
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เซียวซิงหยูก็เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ พร้อมกับพันผ้าขนหนูรอบตัว
วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนนอกหน้าต่างโรงแรมนั้นสวยงามมาก
"เมืองสี่วิญญาณอยู่ไม่ไกลจากเมืองจักรพรรดิ มันดูคึกคักกว่าเมืองหลงอิ๋นเยอะเลยเเฮะ"
เเละทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้น
เซียวซิงหยูหยิบขึ้นมาดู มันเป็นข้อความในกลุ่มแชท
สมาชิกในกลุ่มก็คือ เซียวซิงหยู มู่หรงหยางซั่ว และมู่หรงซินซิน
หัวหน้ากลุ่มคือผู้อำนวยการซูหรูหยาน ส่วนแอดมินคือเฉินฉีเหนียน
ณ ขณะนี้…เฉินฉีเหนียนได้ส่งไฟล์เอกสารเข้ามาในกลุ่ม
เซียวซิงหยูเปิดดู แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำ
"อาจารย์เฉินนี่รอบคอบจริงๆ ดื่มเหล้าไปเยอะขนาดนั้น ยังอุตส่าห์เขียนกลยุทธ์สำหรับการแข่งขันแบบทีมอีก"
เนื้อหาในไฟล์เอกสาร ก็คือกลยุทธ์สำหรับการแข่งขันแบบทีมในวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ เฉินฉีเหนียนยังได้วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และรูปแบบการต่อสู้ของผู้เข้าแข่งขันทั้งสามคนของวิทยาลัยไป๋หู่
"เเต่เรามีดวงตาเทพอสูร ไม่ต้องดูกลยุทธ์นี้ก็ได้"
เซียวซิงหยูมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เขาจึงโยนโทรศัพท์มือถือไปข้างๆแล้วเตรียม
"คืนเดือนมืดลมแรง เป็นเวลาที่เหมาะแก่การลงมือทำธุระสำคัญ"
เมื่อทุกคนเข้านอนกันหมดแล้ว
ในห้องจึงเหลือแค่เซียวซิงหยูเพียงคนเดียว เเละเขาสามารถทำอะไรที่ไม่ควรให้ใครเห็นได้
เซียวซิงหยูเปิดคลังเก็บของในระบบ แล้วนำเมล็ดพันธุ์ของอสูรเถาวัลย์สวรรค์ออกมา
จากนั้น เซียวซิงหยูก็ลูบแหวนมิติที่นิ้วกลางข้างขวาเบาๆ แล้วหยิบกระถางต้นไม้ออกมา
ในกระถางมีดินอยู่เต็ม เขาใช้พลั่วเล็กๆขุดหลุม แล้วฝังเมล็ดลงไปในดิน
ทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแค่...น้ำ
เซียวซิงหยูจึงหยิบหญ้าหางนกฟีนิกซ์ออกมา เเละนี่คือสมบัติที่เขาได้มาจากโจวซง
หญ้าหางนกฟีนิกซ์มีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่ง, ในเวลากลางคืนปลายใบของมันจะหลั่งน้ำค้างใสๆออกมา
เซียวซิงหยูเก็บน้ำค้างได้สามหยด แล้วหยดลงไปในดิน
ทันใดนั้น กลิ่นหอมสดชื่นก็โชยออกมาจนทำให้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
……………………