ตอนที่แล้วบทที่ 69 : ค่ายฝึกวิญญาณจักรพรรดิ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 71 : อสูรระดับเทพเจ้า​ อสรพิษภัยพิบัติ-เมดูซ่า!

บทที่ 70 : เริ่มปลูกเถาวัลย์วิญญาณสวรรค์!


บทที่ 70 : เริ่มปลูกเถาวัลย์วิญญาณสวรรค์!

"ลูกค้าทุกท่าน บาร์บีคิวมาแล้ว!"

โต๊ะไม้ที่ว่างเปล่าในตอนแรก ตอนนี้เต็มไปด้วยจานบาร์บีคิวที่ส่งเสียงฉ่าๆพร้อมกับน้ำมันที่เยิ้มออกมา

ทุกๆเมือง จะมีตลาดกลางคืนที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยผู้คน

ร้านบาร์บีคิวนั้น มักจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนทั่วไป ที่จะมาผ่อนคลายและพูดคุยกัน

ณ เวลานี้​ มีพี่น้องผมขาวคู่หนึ่งที่แต่งกายหรูหราและมีสง่าราศี กำลังนั่งกินบาร์บีคิวอยู่ที่ร้านข้างทาง ซึ่งพวกเขาดูไม่เข้ากับบรรยากาศรอบข้างเลยสักนิด​

"พี่ชายหยางซั่ว พี่กับซินซินมาจากตระกูลใหญ่ ไม่คิดเลยว่าจะมากินบาร์บีคิวที่ร้านแบบนี้ได้ด้วย" เซียวซิงหยูเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ

ณ เวลานี้…มู่หรงหยางซั่วกำลังเคี้ยวเนื้อย่างผงยี่หร่าอยู่เต็มปากด้วยสีหน้าที่มีความสุข ท่าทางการกินที่ไม่ค่อยสุภาพของเขา ดูเหมือนจะลดทอน​ความหล่อเหลาของเขาลงไปเล็กน้อย

"พวกเราก็มาจากตระกูลใหญ่ก็จริง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะเป็นผู้วิเศษอะไร คนทั่วไปกินอะไรได้ ที่บ้านเราก็กินได้เหมือนกัน"

"ไม่ต้องพูดถึงบาร์บีคิวเลย แม้แต่บะหมี่เผ็ดราคาหกหยวน หรือขนมเผ็ดราคาห้าเหมา ฉันกับน้องสาวก็กินได้หมดนั่นแหละ!"

ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ของประเทศมังกร เนื่องจากมีธุรกิจที่แตกต่างกัน วิถีชีวิตของแต่ละครอบครัวจึงแตกต่างกันด้วย

ตัวอย่างเช่น ตระกูลเย่นั้นมีเชื้อสายที่สูงส่ง บรรดาลูกหลานของตระกูลนี้ล้วนใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย

เรื่องนี้เห็นได้จากเย่ซือเหมิง ตอนที่เซียวซิงหยูเจอเธอครั้งแรก เธอไม่เคยกินบะหมี่เผ็ดมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

ตรงกันข้ามกับตระกูลเย่ ตระกูลมู่หรงค่อนข้างติดดินกว่ามาก

มู่หรงจิน บิดาของมู่หรงหยางซั่วและมู่หรงซินซิน เป็นหนึ่งในสามแม่ทัพใหญ่ของประเทศมังกร เขาเป็นแม่ทัพเรือ ผู้พิทักษ์แนวชายฝั่งอันยาวไกลของประเทศ

เนื่องจากเป็นทหาร เขาจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากนัก, ตอนที่มู่หรงหยางซั่วและมู่หรงซินซินยังเด็ก มู่หรงจินก็มักพาลูกๆทั้งสองออกไปล่องเรือในทะเล เพื่อสัมผัสกับชีวิตที่ยากลำบาก การกินอาหารง่ายๆและการนอนกลางดินกินกลางทรายจึงเป็นเรื่องปกติ

หัวหน้า​ครอบครัวเป็นแบบไหน ก็จะหล่อหลอมให้ลูกหลานเป็นแบบนั้น

มู่หรงหยางซั่วและมู่หรงซินซินจึงไม่มีท่าทางของลูกคุณหนูคุณชาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินหรือที่พักอาศัย พวกเขาใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนทั่วไป

ณ ขณะนี้​ เฉินฉีเหนียนเอ่ยเตือนขึ้นเบาๆว่า

"เซียวซิงหยู มู่หรงหยางซั่ว พวกเธอสองคนอย่าดื่มเยอะเกินไปล่ะ พรุ่งนี้ยังมีการแข่งขันแบบทีมรออยู่นะ"

"ผู้อำนวยการเฉิน วันนี้เราชนะการแข่งขัน ก็ต้องฉลองกันหน่อยสิครับ ผมรินให้แล้วนะครับ…วันนี้เราต้องดื่มให้เมากันไปข้างหนึ่งเลย!"

"เหลวไหล! ฉันเป็นอาจารย์นะ จะมาดื่มเหล้าได้ยังไง ไม่ได้หรอก!"

ถึงปากเฉินฉีเหนียนจะพูดปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขวางมู่หรงหยางซั่วที่กำลังรินเหล้าให้เลยสักนิด​

"จริงๆแล้วอาจารย์เฉินก็อยากดื่มเหมือนกันนั่นแหละ แค่แกล้งทำเป็นปฏิเสธไปอย่างนั้นเอง" เซียวซิงหยูเเละมู่ห​รง​ซิน​ซิน​พึมพำคำๆเดียวกันออกมา

ซึ่งนี่มันก็ทำให้เซียวซิงหยูและมู่หรงซินซินถึงกับชะงักไปพร้อมๆกัน

ความเข้าใจกันโดยปริยายนี้ ทำให้บรรยากาศในร้านบาร์บีคิวที่เต็มไปด้วยควันไฟ มีความคลุมเครือเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

บรรยากาศเริ่มจะอึดอัดขึ้นมา เซียวซิงหยูจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

"ซินซิน ฉันรินให้เธอแก้วนึงนะ" เซียวซิงหยูพูดพลางหยิบขวดเบียร์เย็นเฉียบขึ้นมา

"ฉันเป็นประจำเดือนอยู่น่ะ ดื่มของเย็นไม่ได้หรอก"

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ทำสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย แล้วพูดว่า

"ว่าแล้วทำไมวันนี้เธอหน้าซีดๆ ที่แท้ก็เป็นเเบลนี้นี่เอง ฉันเป็นหมอนะ จะให้ฉันช่วยดูอาการให้ไหม?"

พอเซียว​ซิง​หยู​พูดจบ ทุกคนก็เงียบกริบทันที​

คำพูดของเซียวซิงหยู ทำเอาทุกคนอึ้งไปเลย

มู่หรงซินซินถึงกับพูดไม่ออก เธอมองเซียวซิงหยูด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต

ส่วนเฉินฉีเหนียนถึงกับพ่นเหล้าออกมา แล้วส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า "เด็กคนนี้…มันไม่ธรรมดาจริงๆ!"

เเละทันใดนั้น​ มู่หรงหยางซั่วก็รีบเข้ามาล็อกคอเซียวซิงหยูทันที

"คุณชายหยางซั่ว ใจเย็นๆก่อนนะครับ นี่มันยุคสมัยแห่งกฎหมายแล้ว…จะมาทำร้ายกันเเบบนี้ไม่ได้นะ"

"เซียวซิงหยู แกยังเป็นคนอยู่รึเปล่าเนี่ย! น้องสาวฉันเป็นประจำเดือน แกยังจะไปดูอาการให้อีก!"

"แค่กๆๆ ผมก็แค่เป็นห่วงซินซินเฉยๆ"

"เป็นห่วงแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ! อาจารย์เฉิน อย่าห้ามผมนะ…ผมจะเอาเลือดหัวมันออก!"

หลังจากเล่นกอดคอกันสักพัก มู่หรงหยางซั่วก็ปล่อยเซียวซิงหยู แล้วรินเหล้าใส่แก้วของเซียวซิงหยูจนเต็ม

"เซียวซิงหยู วันนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยแกไปง่ายๆแน่ ฉันจะต้องให้แกเมามายจนลุกไม่ขึ้น ถ้าทำไม่ได้ ฉันจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลแกเลย!" มู่หรงหยางซั่วโมโหจนต้องใช้ไม้ตายมอมเหล้า​

เมื่อ​สถานการณ์เป็น​เช่นนี้​ เซียวซิงหยูก็หันไปยิ้มแห้งๆ ให้กับมู่หรงซินซินที่อยู่ข้างๆ

"ซินซิน ขอโทษด้วยนะครับ ฉันพูดไม่เคลียร์เอง ฉันแค่เป็นห่วงเธอเฉยๆ"

"ขอบคุณที่เป็นห่วง…แต่ทีหลังไม่ต้อง"

วิธีการแสดงความเป็นห่วงของเซียวซิงหยูมันแปลกประหลาดเกินไป มู่หรงซินซินรับไม่ไหวจริงๆ

……

สองชั่วโมงผ่านไป

ตอนนี้เหลือแค่เซียวซิงหยู มู่หรงซินซิน และเฉินฉีเหนียนเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะ…ส่วนมู่หรงหยางซั่วนั้น เมาจนสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

มู่หรงซินซินเงยหน้าขึ้นมองเซียวซิงหยูที่นั่งอยู่ข้างๆ, ผู้ชายคนนี้ไม่ได้แสดงอาการเมาออกมาเลย นอกจากกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งไปทั่วร่างกาย นอกนั้นแทบจะดูไม่ออกเลยว่าเขาเมา

บนโต๊ะเต็มไปด้วยขวดเหล้าที่ว่างเปล่า, แม้แต่เฉินฉีเหนียนก็ยังหน้าแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

"ดูเหมือนว่านายจะคอแข็งไม่เบาเลยนะ" มู่หรงซินซินพูดขึ้น

“ซินซิน บอกตามตรงเลยนะ…ตอนฉันอายุแปดขวบเเล้วไปกินเลี้ยงที่หมู่บ้าน ฉันสามารถดื่มเหล้าจนผู้ใหญ่บ้านเมามายไม่ได้สติเลยล่ะ” เซียวซิงหยูพูดอย่างภาคภูมิใจ

ทันใดนั้น​ เฉินฉีเหนียนก็ดันแว่นตาขึ้นแล้วมองนาฬิกาข้อมือ

"เอาล่ะ…ตอนนี้ดึกมากแล้ว พวกเรากลับโรงแรมไปพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้ยังมีงานหนักรอเราอยู่"

มู่หรงซินซินหยิบกระเป๋าเงินออกมาจ่ายค่าอาหาร ส่วนเซียวซิงหยูประคองมู่หรงหยางซั่วที่เมาไม่ได้สติขึ้นมา

"เซียวซิงหยู เรามาดื่มกันต่อเถอะ รินให้ฉันอีก!"

"พี่หยางซั่ว พี่ไม่ไหวแล้ว…พวกเราควรกลับโรงแรมกันเถอะ​"

"ฉันเตือนแกไว้ก่อนเลยนะ ต่อไปถ้าแกแต่งงานแล้ว ต้องดูแลน้องสาวฉันให้ดีๆล่ะ!"

"เอ่อ..."

"ไม่งั้น ฉันในฐานะพี่ชาย จะไม่ปล่อยแกไปแน่!"

เซียวซิงหยูรู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อย แล้วพูดกับมู่หรงซินซินว่า

"ซินซิน พี่ชายเธอเมาหนักแล้ว…เขาถึงกับยอมรับฉันเป็นน้องเขยแล้ว"

อย่างไร​ก็ตาม, มู่หรงซินซินไม่ได้พูดตอบอะไร

สาวน้อยผมขาวคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างแปลก ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่

……

เมื่อกลับถึงโรงแรม เซียวซิงหยูก็พามู่หรงหยางซั่วไปนอนที่เตียง แล้วเดินไปที่ห้องข้างๆ

วิทยาลัยชิงหลงมีงบประมาณเยอะ ซูหรูหยานจึงจองห้องพักราคาแพงให้กับทุกคน

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เซียวซิงหยูก็เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ พร้อมกับพันผ้าขนหนูรอบตัว

วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนนอกหน้าต่างโรงแรม​นั้นสวยงามมาก

"เมืองสี่วิญญาณอยู่ไม่ไกลจากเมืองจักรพรรดิ มันดูคึกคักกว่าเมืองหลงอิ๋นเยอะเลยเเฮะ"

เเละทันใดนั้น​เอง โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้น

เซียวซิงหยูหยิบขึ้นมาดู มันเป็นข้อความในกลุ่มแชท

สมาชิกในกลุ่มก็คือ เซียวซิงหยู มู่หรงหยางซั่ว และมู่หรงซินซิน

หัวหน้ากลุ่มคือผู้อำนวยการซูหรูหยาน ส่วนแอดมินคือเฉินฉีเหนียน

ณ ขณะนี้…เฉินฉีเหนียนได้ส่งไฟล์เอกสารเข้ามาในกลุ่ม

เซียวซิงหยูเปิดดู แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำ​

"อาจารย์เฉินนี่รอบคอบจริงๆ ดื่มเหล้าไปเยอะขนาดนั้น ยังอุตส่าห์เขียนกลยุทธ์สำหรับการแข่งขันแบบทีมอีก"

เนื้อหาในไฟล์เอกสาร ก็คือกลยุทธ์สำหรับการแข่งขันแบบทีมในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้​ เฉินฉีเหนียนยังได้วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และรูปแบบการต่อสู้ของผู้เข้าแข่งขันทั้งสามคนของวิทยาลัยไป๋หู่

"เเต่เรามีดวงตาเทพอสูร ไม่ต้องดูกลยุทธ์นี้ก็ได้"

เซียวซิงหยูมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เขาจึงโยนโทรศัพท์มือถือไปข้างๆแล้วเตรียม

"คืนเดือนมืดลมแรง เป็นเวลาที่เหมาะแก่การลงมือทำธุระสำคัญ"

เมื่อทุกคนเข้านอนกันหมดแล้ว

ในห้องจึงเหลือแค่เซียวซิงหยูเพียงคนเดียว เเละเขาสามารถทำอะไรที่ไม่ควรให้ใครเห็นได้

เซียวซิงหยูเปิดคลังเก็บของในระบบ แล้วนำเมล็ดพันธุ์ของอสูรเถาวัลย์สวรรค์ออกมา

จากนั้น​ เซียวซิงหยูก็ลูบแหวนมิติที่นิ้วกลางข้างขวาเบาๆ แล้วหยิบกระถางต้นไม้ออกมา

ในกระถางมีดินอยู่เต็ม เขาใช้พลั่วเล็กๆขุดหลุม แล้วฝังเมล็ดลงไปในดิน

ทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแค่...น้ำ

เซียวซิงหยูจึงหยิบหญ้าหางนกฟีนิกซ์ออกมา เเละนี่คือสมบัติที่เขาได้มาจากโจวซง

หญ้าหางนกฟีนิกซ์มีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่ง, ในเวลากลางคืนปลายใบของมันจะหลั่งน้ำค้างใสๆออกมา

เซียวซิงหยูเก็บน้ำค้างได้สามหยด แล้วหยดลงไปในดิน

ทันใดนั้น​ กลิ่นหอมสดชื่นก็โชยออกมาจนทำให้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

……………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด