ตอนที่แล้วบทที่ 287 อาคารเคราะห์ร้าย  (สิ้นสุดภารกิจ)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 289 โลกแห่งความจริง

บทที่ 288 อาคารเคราะห์ร้าย (ติดตามผล)


บทที่ 288 อาคารเคราะห์ร้าย (ติดตามผล)

ใครจะคิดว่าในที่สุดแล้วจะได้ของดีมาอีกชิ้น ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับโลหะวิญญาณไร้รูปร่าง และตัวเองก็เพิ่งได้ไม้ต้องฟ้าผ่ามาสองท่อน เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าช่างหลอมคนนั้นจะยอมรับค่าตอบแทนนี้หรือไม่

ส่วนคะแนนสะสม เสิ่นชงหรานเก็บไว้ 558 คะแนนเพื่อเป็นเศษเหลือ ที่เหลืออีกพันคะแนนใช้ทั้งหมดไปกับการซื้อวัตถุดิบสำหรับสร้างยันต์วิญญาณ ทุกวันนี้ยันต์ของเธอล้วนเป็นของกู่เถียนเถียน เธอคงปล่อยให้เพื่อนต้องเสียเงินซื้อวัตถุดิบเองไม่ได้

ภารกิจครั้งนี้เต็มไปด้วยผลลัพธ์ที่ดี เสิ่นชงหรานมองสองอาวุธใหม่ที่เพิ่งได้มาในหน้าต่างสรุปผลอย่างพึงพอใจ แต่ที่เธอชอบที่สุดกลับเป็นไข่มุกม่วงเมฆาสองเม็ดนั้น

ไข่มุกสีม่วงอ่อนดูเหมือนจะมีเมฆหมอกแฝงอยู่ภายใน เมื่อเขย่าก็จะเห็นหมอกด้านในเคลื่อนไหวตามไปด้วย ดูสวยงามมาก

หลังจากออกจากหน้าต่างสรุปผลแล้ว แม้ว่าร่างกายจะไม่อ่อนล้าเหมือนก่อนหน้า แต่เสิ่นชงหรานก็เหนื่อยจนเธอล้มตัวนอนทันที

...

เช้าวันต่อมา อาคารสุ่ยจิ้งยังคงต้อนรับพนักงานที่มาทำงานเช่นเคย เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ชั้น 16 ที่เกิดเหตุ ที่บันไดของชั้นหนึ่งมีร่างหนึ่งนอนอยู่ สภาพน่าสยดสยองจนทำให้พนักงานที่ตั้งใจจะใช้บันไดขึ้นไปชั้นสองหรือสามถึงกับรู้สึกคลื่นไส้แทบจะอาเจียนออกมาเลยทีเดียว

ร่างนั้นตายในสภาพอนาถ ศีรษะกับลำคอเชื่อมกันด้วยหนังบาง ๆ เท่านั้น

ส่วนชั้น 16 มีคนเสียชีวิตภายในสำนักงาน ลักษณะการตายเหมือนซวี่ซุ่นที่ตายไปก่อนหน้า สร้างความหวาดหวั่นอย่างมากในหมู่พนักงาน

ครั้งนี้นอกจากตำรวจแล้ว ยังมีชายชุดดำที่เคยปรากฏตัวในแต่ละชั้นของอาคารได้พาชายชราคนหนึ่งมาด้วย

ทันทีที่ชายชราเข้ามาในอาคาร เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“สมแล้วที่ศิษย์พี่บอก ปัญหานี้ถูกแก้โดยแขกผู้มาเยือนจากฟากฟ้าแล้ว”

ชายชุดดำไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงใคร แต่หน้าที่ของพวกเขาคือเชื่อฟังคำสั่งของชายชราผู้นี้

จากนั้นชายชราชี้ไปยังด้านบน “ที่ดาดฟ้ามีจุดเสียหาย รีบส่งคนไปซ่อม โชคดีที่ช่วงนี้อากาศดี ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องอีก”

ชายคนหนึ่งพยักหน้า “ผมจะรีบส่งคนไปซ่อมเดี๋ยวนี้” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแจ้งฝ่ายซ่อมบำรุงให้รีบตรวจสอบจุดเสียหายบนดาดฟ้าทันที

ชายชรายังคงสั่งต่อ “ให้คนไปตรวจดูชั้นใต้ดิน เป็นชั้นล่างสุด ฉันจะไปดูด้วย”

ชายชุดดำบางคนคุ้มกันชายชราไปยังชั้นใต้ดิน ซึ่งแสงสว่างในที่นั้นไม่ดีนัก แม้จะเปิดไฟก็ยังดูมืดสลัว

เมื่อเข้าไปก็พบว่ามีจุดที่กำแพงปูนซีเมนต์ถูกทุบเปิดสี่จุด “นี่มัน...”

ชายชราห้ามไว้ “ไม่เป็นไร แค่ซ่อมให้ดี และอย่าซ่อมจนแน่นทึบหมด ให้เหลือช่องว่างไว้บ้าง”

ชายคนหนึ่งพยักหน้า “เข้าใจ”

ชายชราเดินไปที่กำแพงปูนที่ถูกทุบ ก่อนจะเห็นกระดาษพับวางไว้ ใช้ก้อนหินเล็ก ๆ กดไว้ เขาหยิบกระดาษขึ้นมาและยิ้ม มันคือแผนผังของค่ายกลยันต์ที่พวกเขาสร้างขึ้นร่วมกันในอดีต

มองดูตัวรูนที่ปรากฏ ซึ่งได้รับการซ่อมแซมแล้ว ชายชราถอนหายใจ “เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์”

ใบหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ

เพียงแต่เสียดายที่เขาไม่ใช่คนจากโลกของพวกเรา ไม่เช่นนั้นเขาคงอยากพบเด็กคนนั้นด้วยตาตนเอง

หลังจากตรวจดูทุกอย่างเรียบร้อย ชายชราพยักหน้า “รูนที่ซ่อมแซมได้ดีมาก หลังจากนี้อีกประมาณห้าปี พลังชั่วร้ายที่นี่จะถูกขจัดออกไปโดยสิ้นเชิง”

ที่จริง เวลาน่าจะยาวนานกว่านี้ แต่หนึ่งในเด็กกลุ่มนั้นกลับเป็นคนที่เก่งกาจมาก สามารถจัดการวิญญาณร้ายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดจนกลายเป็นเถ้าถ่าน แถมวิญญาณร้ายตัวอื่นก็ถูกกำจัดไปไม่น้อย ทำให้พลังชั่วร้ายถูกลดทอนลงในค่ายกลได้เร็วขึ้น

ชายชราออกจากอาคารสุ่ยจิ้งด้วยความโล่งใจ การชดเชยบุญคุณที่มีต่อตระกูลหวังก็สำเร็จเสร็จสิ้น ตราบเท่าที่อาคารนี้ยังตั้งตระหง่านอยู่ สถานะของตระกูลหวังก็จะมั่นคงในเมืองหลวงเช่นเดียวกัน

...

ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนที่เริ่มก่อสร้างอาคารแห่งนี้ มีคนเสียชีวิต แม้จะมีการปกปิดไว้ แต่กรรมที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่ได้หายไปเพียงเพราะถูกซ่อนเร้น มาวันนี้ยังมีคนเสียชีวิตอีก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้กลายเป็นกรรมที่ต้องตกอยู่กับตระกูลหวังและผู้ที่ให้ความช่วยเหลือพวกเขา

ตราบใดที่อาคารแห่งนี้ยังคงตั้งอยู่ ตระกูลหวังก็จะมั่นคง แต่หากอาคารนี้พังทลายลงเมื่อใด นั่นหมายถึงโชคชะตาอันรุ่งโรจน์ของตระกูลหวังก็จะสิ้นสุดลงในวันนั้นด้วย

ถึงตอนนั้น แม้ตระกูลหวังที่ดูเหมือนจะเจริญก้าวหน้ากลับต้องสูญเสียสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังชั่วร้ายที่ถูกขจัดไปบางส่วน จะช่วยลดผลกรรมและคงไว้ซึ่งทรัพย์สินบางส่วน นี่คือสิ่งที่ศิษย์พี่ได้กล่าวเตือนเอาไว้ในอดีต แต่ความโลภก็ยังมีอิทธิพลเหนือเหตุผล และในยุคนี้ที่ศาสตร์ลี้ลับลดบทบาทลง ผู้คนจึงขาดความเคารพยำเกรงเหมือนในอดีต

ไม่นานนัก หน่วยงานพิเศษก็เข้ามาดูแลเรื่องของอาคารสุ่ยจิ้ง เหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในที่นี้ย่อมไม่สามารถชี้ตัวฆาตกรได้ เพราะฆาตกรนั้นมองไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้ อีกทั้งยังถูกปราบปรามไปแล้ว

ภายหลัง ทางการได้รายงานว่ามีคนหนึ่งฆ่าตัวตาย และอีกคนหนึ่งตกตายจากอุบัติเหตุที่ไม่ตั้งใจ เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการ พนักงานในอาคารที่ได้รับข่าวว่าไม่ใช่เหตุฆาตกรรมก็เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย แม้ว่าเหตุการณ์การเสียชีวิตเหล่านี้จะยังคงเป็นเงามืดที่ปกคลุมบรรยากาศของอาคาร

...

เช้าวันนั้น คุณพ่อซวี่มาถึงบริษัทพร้อมกับซวี่รัน ลูกสาวคนเดียวของเขา เด็กสาวที่ก่อนหน้านี้ยังสนใจเรื่องราวลี้ลับในอาคาร แต่ตอนนี้กลับทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่

ซวี่รันมองชายชุดดำหลายคนที่เดินออกไป ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอมักเห็นคนเหล่านี้ในบริษัท และรู้ดีว่าอาคารแห่งนี้กำลังเผชิญกับปัญหา

“พ่อ ทุกอย่างจบลงแล้วหรือยัง?”

คุณพ่อพยักหน้า “อืม พ่อได้รับข่าวจากตระกูลหวังว่าทุกอย่างจบแล้ว ตอนนี้ลูกสามารถรับช่วงต่อบริษัทของครอบครัวได้อย่างเต็มที่”

ซวี่รันพยักหน้า แต่ในหัวกลับนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ในวันที่ออกจากสนามบินได้เกิดอุบัติเหตุรถชน ตอนนั้นรถที่เธอนั่งรอดมาได้อย่างหวุดหวิดโดยไม่เกิดเหตุร้าย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ ต่อจากนี้คงต้องระวังเรื่องการเดินทางให้มากขึ้น และตอนนี้เธอต้องช่วยเหลือพ่อในการบริหารงานอย่างเต็มที่แล้ว...

...........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด