ตอนที่ 23 เพื่อนที่แท้จริงของผู้หญิง!
ตอนที่ 23 เพื่อนที่แท้จริงของผู้หญิง!
“เจนนิเฟอร์ อีกสองชั่วโมงจะถึงงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา!”
เอริคเดินออกมาจากห้องทดลองด้วยสภาพที่ดูไม่ได้ และตะโกนเรียกผู้ช่วยสาวด้วยเสียงดังลั่น ตอนนี้ผมของเขายาวรุงรัง เสื้อผ้าเปื้อนคราบจนดูไม่ออกว่าเดิมทีสีอะไร แถมกลิ่นตัวก็ไม่น่าพิสมัย ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้อาบน้ำมานานแค่ไหนแล้ว
หกเดือนก่อน หลังจากเอริคกลับมานิวยอร์เขาก็ปิดตัวเองในห้องทดลองไม่ออกมาเจอหน้าใครอีกเลย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจนนิเฟอร์คอยนำอาหารไปให้ทุกวัน เธอก็คงคิดว่าเขาเป็นอะไรไปแล้วเช่นกัน
แต่ผลลัพธ์จากการหมกตัววิจัยตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาก็ถือว่าสำเร็จเกินคาด
อย่างแรกเลยคือการอัพเกรด เตียงฟื้นฟู ซึ่งตอนนี้ได้ผสานไวเบรเนียมเข้าไปแล้ว ทำให้มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูงขึ้นอย่างมาก อีกทั้งยังรองรับพลังงานในปริมาณมากขึ้นโดยไม่แตกกระจายเหมือนคราวก่อน และด้วยการเสริมความแข็งแกร่งนี้ เอริคสามารถเพิ่มฟังก์ชันใหม่ ๆ เช่น การผสานวัตถุภายนอกได้อีกด้วย
นี่คือเทคโนโลยีที่เขาได้ได้รับแรงบันดาลใจจากจักรวาลของธานอส หุ่นยนต์ เซนติเนล ฝันร้ายของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ ที่ถูกคิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ โบลิวาร์ ทรัสก์ โดยใช้ยีนของมิสทีคเป็นต้นแบบและผสมผสานเข้ากับวัสดุอื่น ๆ เพื่อสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถเลียนแบบพลังพิเศษต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดังนั้นแม็กนีโตที่ได้ต่อสู้กับหุ่น เซนติเนล มาเป็นเวลาหลายปี จึงได้ศึกษาหุ่นเหล่านี้จนทะลุปรุโปร่ง ทำให้เทคโนโลยีการผสานเซลล์และวัสดุนี้เขาได้แกะรอยออกมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้งานจริง
ด้วยเหตุนี้เองเอริคจึงนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับเตียงฟื้นฟู เพื่อเตรียมสำหรับแผนการเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต และเขายังได้ทดลองผสานไวเบรเนียมเข้ากับร่างกายตัวเองจำนวนหนึ่งปอนด์ ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาดีเยี่ยม ต่างจากหุ่น เซนติเนล ที่ไม่สามารถแยกตัวได้หลังผสาน แต่เอริคในฐานะแม็กนีโตที่มีอำนาจควบคุมไวเบรเนียมในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ จะรวมเข้าหรือแยกออกก็ทำได้ด้วยความคิดเพียงครั้งเดียว
โดยการอัพเกรดและทดลองนี้ใช้เวลาห้าเดือนครึ่งใน ส่วนเวลาที่เหลืออีกครึ่งเดือนนั้นเอริคได้ใช้เวลาที่เหลือพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ที่ชื่อว่า เครื่องป้องกันรังสียูวี ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขารีบจัดงานเปิดตัวสินค้า
อุปกรณ์ชิ้นนี้มีขนาดเล็กเท่ากับไฟแช็ก และมีหลายระดับให้เลือกใช้งาน โดยสามารถสร้างสนามแม่เหล็กพิเศษภายในรัศมีหนึ่งเมตร เพื่อกรองรังสียูวีทั้งหมด เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่รักสวยรักงามทั้งในบ้านและเดินทางท่องเที่ยว
ถึงแม้ฟังก์ชันจะดูเรียบง่าย แต่อุปกรณ์นี้ก็ถูกพัฒนาโดยอาศัยเทคโนโลยีล่องหนจากวากันด้าผสมกับพลังของเอริค ทำให้เทคโนโลยีนี้ล้ำหน้ากว่าโลกถึงยี่สิบปี!
ไม่นานนัก เจนนิเฟอร์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเอามือปิดจมูกของตัวเอง ก่อนจะรับเอกสารในมือเอริคแล้วดันเขาเข้าไปในห้องน้ำ
หลังจากวิจัยแบบไม่หลับไม่นอนอยู่ครึ่งปี เอริคก็ได้ข้อสรุปว่า การทำวิจัยนั้นมันเหมือนกับยาเสพติดไม่มีผิด . . .
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เอริคก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในชุดที่เรียบร้อยพร้อมทรงผมใหม่ ในขณะเดียวกันเจนนิเฟอร์ ผู้ช่วยสาวที่งดงามก็ได้อ่านเอกสารเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ก่อนที่เธอจะขมวดคิ้วและถามอย่างสงสัยว่า “ท่านประธานคะ ทำไมถึงเลือกทำอะไรแบบนี้ล่ะคะ? มันดูไม่ค่อยมีประโยชน์เลย”
“หืม? ไม่มีประโยชน์เหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง?” เอริคถามกลับพลางเล่นกับผมทรงใหม่
“เครื่องป้องกันรังสียูวี จริง ๆ ก็คือครีมกันแดดแบบหรูหราสำหรับผู้หญิง ท่านคิดว่ามีใครจะยอมซื้อจริง ๆ เหรอคะ?” เจนนิเฟอร์วางเอกสารลงอย่างแผ่วเบา “ผู้หญิงยุโรปและอเมริกาส่วนใหญ่ชอบผิวแทนสุขภาพดี หลายคนถึงขั้นไปอบผิวหรืออาบแดดที่ชายหาดเพื่อให้ได้สีผิวแบบนั้น อุปกรณ์ของท่านมันขัดกับความงามในสายตาของพวกเธอโดยสิ้นเชิง ขนาดฉันเองก็ไม่มีความคิดที่จะซื้อมันด้วยซ้ำ!”
เอริคได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบา ๆ “ถ้าตลาดยุโรปและอเมริกาไม่มี เราก็ขายในเอเชีย ผมมั่นใจว่าผู้หญิงเอเชียจะต้องชอบมากแน่ ๆ”
“ท่านประธานคะ โปรเจกต์รถไฟแม็กเลฟของเรากำลังไปได้สวย และงานเปิดตัวก็กำลังจะจัดเร็ว ๆ นี้ ท่านไม่คิดว่าควรให้ความสำคัญกับมันก่อนเหรอคะ?” เจนนิเฟอร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของเธอ
“เจนนิเฟอร์ อุปกรณ์ชิ้นนี้สำคัญสำหรับผมมาก ยิ่งกว่ารถไฟแม็กเลฟซะอีก!” เอริคพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พร้อมมองเธอด้วยแววตาจริงจัง “อีกหนึ่งชั่วโมง เราจะเปิดตัวมัน!”
“ค่ะ ท่านเป็นเจ้าของบริษัท ท่านมีสิทธิ์ตัดสินใจอยู่แล้ว” เจนนิเฟอร์ยักไหล่แบบปลง ๆ แล้วเดินไปเตรียมงานตามที่สั่ง
อุปกรณ์ป้องกันรังสียูวีแทบไม่มีตลาดในยุโรปและอเมริกา แน่นอนเอริครู้เรื่องนี้ดี แต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำ เพราะมันเป็นเพียง ‘เหยื่อล่อ’ เท่านั้น . . .
เพื่อให้ได้ตัวปลาใหญ่ ต่อให้ต้องขาดทุนเขาก็ยอม!
. . .
งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์จัดขึ้นอย่างรวดเร็ว สื่อมวลชนหลายสำนักต่างตื่นเต้นกับผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท อลิซ อินดัสตรีส์ ทุกคนต่างได้รับข่าวสารจากช่องทางของตัวเองว่าบริษัทนี้กำลังพัฒนารถไฟแม็กเลฟ พวกเขาจึงเชื่อว่างานนี้น่าจะเป็นก้าวแรกสู่การเปิดตัวรถไฟแม็กเลฟ
อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่พวกเขาจะต้องผิดหวัง เพราะเมื่อเอริคยืนบนเวทีด้วยท่าทางภาคภูมิใจและนำเสออุปกรณ์ป้องกันรังสียูวี สื่อมวลชนทุกคนต่างก็ตกตะลึง
นี่มันอะไร?
สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับรถไฟแม็กเลฟ?
จะมีคนซื้อของแบบนี้จริง ๆ เหรอ?
ซีอีโอคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?
คำถามนับไม่ถ้วนวนเวียนอยู่ในหัวของนักข่าวทุกคน ขณะที่พวกเขาดูเอริคพูดอย่างมั่นอกมั่นใจบนเวที
ผู้บริหารของ อลิซ อินดัสตรีส์ ก็อยู่ในอาการเดียวกัน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าประธานของพวกเขาคิดอะไรอยู่ และทำไมถึงเลือกทำสิ่งนี้ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ทำให้ตอนนี้พวกเขามองเอริคด้วยสายตาเหมือนเห็น ‘เพื่อนร่วมทีมที่แย่ที่สุด’
หลังจากนั้นไม่นานงานเปิดตัวก็จบลงอย่างรวดเร็ว และการกระทำที่ดูเหมือนไร้สาระของประธานบริษัท อลิซ อินดัสตรีส์ ก็ถูกนำเสนอในข่าวอย่างรวดเร็ว สื่อบางสำนักถึงกับกล้าล้อเลียนสติปัญญาของเอริคอย่างเปิดเผย โดยบอกว่าบริษัทนี้กำลังจะพังลงเพราะประธานที่โง่เขลาในไม่ช้า
และประธานผู้โง่เขลาของเรา ‘คุณเอริค’ ที่ดูเหมือนจะให้ความสนใจสิ่งแปลก ๆ อย่างปัญหาผิวพรรณของผู้หญิง ก็ได้รับฉายาตลก ๆ จากสื่อว่า ‘เพื่อนที่แท้จริงของผู้หญิง’
ทำให้ในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมาข่าวเกี่ยวกับ ‘เพื่อนที่แท้จริงของผู้หญิง’ ของเอริคจึงปรากฏในหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ แน่นอนว่าเนื้อหาภายในล้วนแต่เป็นการเยาะเย้ยและดูถูกทั้งสิ้น
โดยปรากฏการณ์นี้ดำเนินไปจนกระทั่งมีข่าวที่เป็นกระแสแรงกว่า นั่นคือการที่อเล็กซานเดอร์ เพียร์ซ ปฏิเสธรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณชนไปได้บ้าง
แต่เอริคไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้เลย เขานั่งอยู่ในห้องทำงาน มือข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟ อีกข้างหนึ่งถือหนังสือพิมพ์ มองรูปของอเล็กซานเดอร์ เพียร์ซในหนังสือพิมพ์ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเลศนัย
“อเล็กซานเดอร์ ฉันวางเหยื่อล่อเอาไว้ให้แล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับนายว่าจะมากินเบ็ดเมื่อไหร่!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …