ตอนที่แล้วตอนที่ 21 คนดี!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 23 เพื่อนที่แท้จริงของผู้หญิง!

ตอนที่ 22 ออกจากวาคานด้าพร้อมผลประโยชน์มากมาย!


ตอนที่ 22 ออกจากวาคานด้าพร้อมผลประโยชน์มากมาย!

เมื่อก้าวเข้าสู่ศูนย์วิจัย เอริคก็กวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ราวกับคุณยายหลิวที่เพิ่งเข้าไปในสวนมหัศจรรย์ ทำให้กษัตริย์ทีชาก้าที่เห็นดังนั้นจึงเรียกผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมาอธิบายให้เอริคฟัง

แน่นอนว่าผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกในราชวงศ์ของวาคานด้าเช่นกัน โดยถ้าหากดูจากสายสัมพันธ์แล้ว เธอก็คือลูกพี่ลูกน้องของกษัตริย์ทีชาก้า และยังเป็นหนึ่งในเจ้าหญิงองค์โตของวาคานด้าอีกด้วย

ทำให้ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เทคโนโลยีแกนหลักของวาคานด้านั้นล้วนอยู่ในมือของผู้หญิง ขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นนักรบป่าเถื่อนที่สนใจแต่การต่อสู้

เอริคเริ่มตั้งถามคำถามมากมาย โดยเริ่มจากเรื่องพื้นฐานไปจนถึงเรื่องซับซ้อน ช่วงแรกกษัตริย์ทีชาก้ายังพอแทรกตอบได้บ้าง แต่หลังจากคำถามที่สองหรือสามไปแล้ว เขาก็ทำได้แค่เฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ เท่านั้น

ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นาน แม้แต่เจ้าหญิงองค์โตก็ยังต้องใช้เวลาคิดอยู่นานก่อนจะตอบคำถามของเอริคได้ และเมื่อถึงจุดนั้น เอริคก็ตัดสินใจหยุดถามเพื่อรักษาหน้าตาของทุกฝ่ายเอาไว้

ในเวลานี้ เทคโนโลยีของตระกูลสตาร์คนั้นล้ำหน้ากว่าโลกประมาณ 10 ปี ส่วนชีลด์และไฮดร้าล้ำหน้าอยู่ประมาณ 20 ปี ส่วนวาคานด้าแม้จะมีเทคโนโลยีเฉพาะตัว แต่โดยรวมแล้วพวกเขาก็ล้ำหน้ากว่าโลกไปประมาณ 30 ปีเท่านั้น ในขณะที่เอริคครอบครองเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าโลกถึง 50 ปี!

“เอริค เราเพิ่งรู้ว่าท่านคืออัจฉริยะ! แม้แต่พี่สาวของข้าก็ยังจนมุม ข้ารู้สึกภูมิใจในตัวท่านเหลือเกิน!” กษัตริย์ทีชาก้าหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง และรู้สึกภาคภูมิใจมากที่เอริคสามารถทำให้พี่สาวตนเองจนมุมได้

เห็นได้ชัดว่าเขาเคยถูกเจ้าหญิงล้อเลียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ่อยครั้ง . . .

ในขณะเดียวกันเจ้าหญิงองค์โตที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของทีชาก้าสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที และมองไปที่กษัตริย์ทีชาก้าด้วยความไม่พอใจ ขณะที่เอริคหัวเราะแห้ง ๆ และไม่กล้าตอบอะไร

ตอนนี้บรรยากาศของทุกคนดูเหมือนจะกลมกลืนกันเป็นอย่างดี โดยที่เอริคเองก็แสดงบทบาท ‘อัจฉริยะด้านวิทยาศาสตร์’ ที่เข้าสู่ห้องวิจัยระดับสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ด้วยสนามแม่เหล็กที่คนทั่วไปมองไม่เห็น เอริคได้สแกนและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีแกนหลักของวาคานด้าเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว!

ตั้งแต่แรกที่เขาเข้ามายังวาคานด้า เอริคได้ใช้พลังเขาในการสแกนเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย เช่น ยานพาหนะ เครื่องบินไวเบรเนียม รถไฟพลังงานไวเบรเนียม โล่ล่องหน หอกไวเบรเนียม . . .

ทุกสิ่งที่เป็นโลหะปรากฏชัดเจนในดวงตาของเขา และด้วยวาคานด้าที่พึ่งพาไวเบรเนียมอย่างหนัก ทำให้เทคโนโลยีทั้งหมดของพวกเขาจึงแทบจะถูกเปิดเผยต่อเอริคทั้งหมด

ยกเว้นเพียงแค่ศูนย์วิจัยแห่งนี้ ที่มีระบบป้องกันแน่นหนา รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันสนามแม่เหล็ก ซึ่งเอริคไม่สามารถสแกนจากภายนอกได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องหาวิธีเข้ามา ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เสี่ยงที่จะพาครอบครัวฮาเวิร์ดออกมาข้างนอกแบบนี้

‘เทคโนโลยีไวเบรเนียมนี่ช่างเป็นเอกลักษณ์จริง ๆ!’ เอริคประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นอย่างละเอียด บวกกับความทรงจำอันยอดเยี่ยมและความสามารถในการควบคุมสนามแม่เหล็ก เขาจึงสามารถคิดค้นแนวทางใหม่ ๆ ได้ในทุก ๆ นาที

‘ในที่สุดก็เป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ ด้วยเทคโนโลยีของวาคานด้า แผนการขั้นต่อไปจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น!’

. . .

“ฝ่าบาท ท่านเอริค พวกเราได้ตรวจสอบสภาพของผู้ป่วยทั้งสองเบื้องต้นแล้ว พวกเขาดูเหมือนจะ . . . เอ่อ . . . มีบางอย่างที่พิเศษพ่ะย่ะค่ะ” นักวิจัยคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางลังเลโดยถือแท็บเล็ตไว้ในมือ

“เกิดอะไรขึ้น? รายงานมาให้ชัดเจน!” กษัตริย์ทีชาก้าออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดเพื่อให้นักวิจัยรายงานสถานการณ์ให้เขาฟังทันที

“พะ . . .พะ . . .เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท! เราได้ตรวจร่างกายผู้ป่วยทั้งสองอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาไม่มีโรคใด ๆ เลย แถมร่างกายที่เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ฟื้นตัวหมดแล้ว” นักวิจัยยื่นแท็บเล็ตให้กษัตริย์ทีชาก้าดูผลตรวจของฮาเวิร์ดและภรรยาบนหน้าจอ

“ถ้างั้นทำไมพวกเขาถึงยังไม่ได้สติ?” เจ้าหญิงองค์โตรีบคว้าแท็บเล็ตมาเปิดดูอย่างรวดเร็ว

“เซลล์ของพวกเขาอยู่ในสภาวะวิวัฒนาการลึก และจนกว่าวิวัฒนาการนี้จะสิ้นสุด พวกเขาจะยังไม่ได้สติ”

"นั่นน่าจะเป็นผลจากเซรุ่มพิเศษที่พ่อของผมพัฒนาขึ้น มันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บและชะลอความชรา” เอริคพูดด้วยท่าทางจริงจัง และรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจแต่งเรื่อง ‘พ่อผู้ยิ่งใหญ่’ ขึ้นมาได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ทุกสิ่งที่เขาอธิบายไม่ได้ก็โยนความผิดให้พ่อของเขาทั้งหมด จะได้ไม่มีหลักฐานมาแย้งได้!

เอ่อ . . . ถึงแม้จะมีเรื่องน่าอายนิดหน่อยที่เขาเผลอตั้งชื่อพ่อว่า ‘ชาร์ลส์’ โดยไม่ได้ตั้งใจ . . .

“มีวิธีเร่งกระบวนการนี้ไหม?” กษัตริย์ทีชาก้ารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่ตัวเองเคยอวดอ้างไว้ว่าเขาสามารถรักษาฮาเวิร์ดได้อย่างแน่นอนกับเอริค

นักวิจัยมองไปทางเจ้าหญิงองค์โตอย่างไม่มั่นใจและไม่กล้าตอบคำถามนี้ ในขณะที่เจ้าหญิงเองก็จ้องมองแท็บเล็ตอยู่นานก่อนจะหันมามองเอริคด้วยท่าทางลังเล

แน่นอนว่าเอริคก็เข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร! “พวกท่านต้องการเซรุ่มตัวนั้นใช่ไหม?”

นักวิจัยพยักหน้ากันอย่างรวดเร็ว

“น่าเสียดาย สูตรของเซรุ่มนั้นมีเพียงพ่อของผมเท่านั้นที่รู้ และเขาก็จากไปก่อนที่จะถ่ายทอดสูตรเซรุ่มนั้นให้กับผม” เอริคโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้ ‘พ่อชาร์ลส์’ อย่างไม่ลังเล เพราะไม่มีทางที่เขาจะยอมมอบเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ให้แน่นอน!

เจ้าหญิงองค์โตขมวดคิ้วพลางไล่นิ้วไปมาบนแท็บเล็ตอย่างครุ่นคิด “เราสามารถเก็บตัวอย่างเลือดของพวกเขามาวิเคราะห์ย้อนกลับเพื่อหาคำตอบได้ แต่กระบวนการนี้จะใช้เวลานานมาก และโอกาสสำเร็จก็ต่ำ”

“ไม่มีวิธีอื่นเลยหรอครับ?” เอริคอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

เจ้าหญิงองค์โตส่ายหน้าเล็กน้อย “ในตอนนี้ยังไม่มีวิธีอื่น เราได้ลองทุกวิธีที่พอจะคิดออกแล้ว แต่ไม่มีอะไรได้ผลเลย แม้กระทั่งการฉีดพลังงานบริสุทธิ์ที่สุดเข้าไป เซลล์ของพวกเขาก็ยังคงต่อต้านอยู่ดี”

เอริคขมวดคิ้วทันที เขาไม่คิดเลยว่าปัญหาของฮาเวิร์ดและภรรยาจะร้ายแรงถึงขนาดที่แม้แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์ของวาคานด้าก็ไม่สามารถแก้ไขได้

“แล้วพวกเขาจะใช้เวลาวิวัฒนาการนานแค่ไหน?”

“จากการประเมินเบื้องต้น น่าจะใช้เวลาราวสิบปี!” เจ้าหญิงองค์โตตอบด้วยสีหน้าขมขื่น

สิบปี! นั่นหมายความว่ากว่าจะได้สติก็ผ่านไปเป็นศตวรรษแล้ว และอีกไม่นานหลังจากนั้นไอรอนแมนก็คงจะเปิดตัวแล้ว!

ตอนนี้เอริครู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าตอนที่ได้ยินคำตอบนี้ และอยากจะเอาหัวโขกกำแพงเสียให้ได้

“เอริค ทิ้งพวกเขาไว้ที่วาคานด้าเถอะ เราจะหาวิธีช่วยพวกเขาให้ได้” กษัตริย์ทีชาก้าตบไหล่เอริคเบา ๆ พร้อมสัญญาอย่างจริงจัง เพราะเขาเองก็รู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่วันนี้ไม่อาจรักษาคำพูดได้

“ดูเหมือนว่าจะต้องเป็นแบบนั้นแล้วล่ะครับ!” เอริคส่ายหน้าด้วยความอับจนหนทาง ก่อนจะตัดสินใจฝากฮาเวิร์ดและภรรยาไว้ที่วาคานด้า

ในฐานะผู้นำประเทศ กษัตริย์ทีชาก้าซึ่งเดินทางพบปะบุคคลสำคัญจากหลายประเทศมาเป็นเวลาหลายปี ย่อมรู้จักตระกูลสตาร์คเป็นอย่างดี แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ซักไซ้ถามรายละเอียดเพิ่มเติม . . .

เพราะทุกคนล้วนมีความลับ วาคานด้ามี เอริคก็มีเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากเอริคต้องการช่วยตระกูลสตาร์ค วาคานด้าก็พร้อมยื่นมือช่วย

นอกจากนี้เดิมทีมันก็ไม่มีอะไรเสียหาย มีแต่ผลประโยชน์ และถ้าหากการรักษาสำเร็จ วาคานด้าก็ไม่เพียงแค่รักษาสัญญากับเอริคได้เท่านั้น แต่ยังได้รับมิตรภาพจากตระกูลสตาร์ค ซึ่งเป็นทรัพยากรทางการเมืองที่สำคัญมาก

เพราะด้วยอิทธิพลของตระกูลสตาร์คในสหรัฐฯ ถ้าหากในอนาคตวากันคานด้าต้องเปิดตัวสู่สายตาโลก การมีตระกูลสตาร์คคอยสนับสนุน จะช่วยให้วาคานด้ามีพื้นที่ในการเจรจาต่อรองมากขึ้น

. . .

เอริคเดินทางออกจากวาคานด้าเพียงลำพัง พร้อมกระเป๋าที่เต็มไปด้วยไวเบรเนียมราวหนึ่งร้อยปอนด์ ซึ่งกษัตริย์ทีชาก้ายัดเยียดมันให้เขาเพื่อเป็นการแสดงความเสียใจที่ไม่สามารถช่วยได้มากกว่านี้

นอกจากนี้เนื่องจากตอนมามีสามคน แต่ตอนกลับกับเหลือเขาเพียงคนเดียว เพื่อตอบคำถามของเจนนิเฟอร์ เอริคจึงแต่งเรื่องสารพัด เช่น บอดี้การ์ดบังเอิญเจอเพื่อนเก่าที่ทุ่งหญ้าและลาออกทันทีเพื่อไปล่าสัตว์ หรือคนรับใช้พบพ่อแม่ที่พลัดพรากในหมู่บ้านเล็ก ๆ และตัดสินใจอยู่ที่ทุ่งหญ้าต่อ

เอริคได้สร้างเรื่องโกหกมากมายเพื่อหลอกเจนนิเฟอร์ จนเขาอดถอนหายใจไม่ได้ว่า การโกหกหนึ่งครั้งจะต้องสร้างเรื่องโกหกอีกมากมายมาเพื่อปกปิดมันจริง ๆ . . .

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด