ตอนที่ 15 สร้างความสัมพันธ์อันดีกับเดดพูล!
ตอนที่ 15 สร้างความสัมพันธ์อันดีกับเดดพูล!
บรรยากาศในบาร์ไม่ต่างจากสิ่งที่เอริคจินตนาการไว้ มันเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงดัง
กลิ่นของนิโคตินและแอลกอฮอล์อบอวลในอากาศ ผสมเข้ากับกลิ่นเหงื่อและเศษอาเจียนจากคนที่ดื่มมากเกินไป ทำให้อากาศในบาร์ชวนเวียนหัวจากกลิ่นเปรี้ยวพวกนี้
กลางบาร์มีเวทีเล็ก ๆ ที่หญิงสาวหลายคนในชุดน้อยชิ้นกำลังเต้นรำยั่วยวน ท่ามกลางวงล้อมของชายหนุ่มร่างกำยำที่ถือแก้วเหล้าในมือ พร้อมกับเสียงตะโกนแสดงความพึงพอใจดังเซ็งแซ่
“คุณลูกค้า ต้องการดื่มอะไรไหม?” บาร์เทนเดอร์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนชินกับบรรยากาศแบบนี้มานานแล้ว
“เบียร์! ส่วนเงินลงในบัญชีของเวด!” ชายร่างใหญ่ที่เคยปะทะกับเอริคและดูเหมือนจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไปจนหมดแล้วพูดโพล่งขึ้นมา และคว้าเบียร์ขึ้นมาดื่มอย่างกระหาย ก่อนจะเดินไปนั่งอวดอ้างกับกลุ่มเพื่อนอย่างร่าเริง
ในขณะเดียวกันที่มุมเคาน์เตอร์ เวด ที่มาถึงก่อนหน้าก็กำลังนั่งดื่มหนักอยู่ในอาการซึมเศร้า
“แล้วคุณล่ะ?” บาร์เทนเดอร์หันมาถามเอริค “คงมาที่นี่ครั้งแรกสินะ? จะดื่มอะไรดี?”
เอริคเดินไปที่นั่งที่บาร์และโยนธนบัตรใบใหญ่ลงบนเคาน์เตอร์อย่างไม่ใส่ใจ ทำให้บาร์เทนเดอร์ที่เห็นเช่นนั้นตาก็วาวทันทีและรีบหยิบเงินไป พร้อมส่งยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ “คุณชายต้องการอะไรครับ?”
“เอาวิสกี้ที่ดีที่สุดในบาร์นี้ . . . และทหารรับจ้างที่ดีที่สุดด้วย” เอริคตอบ พร้อมโยนเงินเพิ่มลงไปอีกปึกหนึ่ง
“สปอนเซอร์ใหญ่ของเรามาแล้ว!” ทันใดนั้นบาร์เทนเดอร์ก็หันหน้าไปด้านข้างและตะโกนบอกคนในร้าน ทำให้มีเสียงโห่ร้องจากลูกค้าในบาร์ดังขึ้นกันอย่างตื่นเต้น
“นายชื่ออะไร?”
“เรียกผมว่า โมล ก็ได้ครับคุณชาย” โมลวางแก้ววิสกี้ลงตรงหน้าของเอริค และภายมือไปยังคนในร้าน “ส่วนทหารรับจ้างของเราเก่งทุกคนแล้วแต่คุณชายจะเลือกเลยครับ”
“ใช่ โมลพูดถูก!”
“พวกเราเก่งทุกคน!”
ทันใดนั้นเสียงของคนภายในร้านก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“งั้นวันนี้ฉันขอดื่มให้พวกนายทุกคนก็แล้วกัน!”
พูดจบเอริคก็ชูแก้ววิสกี้ขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้พวกเขา และดื่มมันรวดเดียวพร้อมกับทหารรับจ้างทุกคน ทำให้เสียงหัวเราะอย่างจริงใจดังขึ้นทั่วบาร์ทันที
หลังจากดื่มจนหมดเอริคก็หันไปขอวิสกี้อีกแก้วจากโมล และหันไปมองเวดด้วยความงุนงง “ไอ้หมอนั่นเป็นอะไรของมัน?”
โมลยักไหล่เล็กน้อย และพูดขึ้นมาอย่างทำอะไรไม่ถูกว่า “นั่น เวด วิลสัน เขาเพิ่งถูกแฟนสาวนอกใจมา . . .”
“หืม? ช่างน่าสงสาร!” เอริคพึมพำ ก่อนจะผลักแก้วของตัวไปข้างหน้า “เวด นายต้องการอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตแล้วล่ะ!”
เวดเงยหน้ามองเอริคอย่างหงุดหงิด “อะไร? นายจะจีบฉันเหรอ? หรืออยากให้ฉันอมป๋องแป๋งของนาย . . .?”
“ขอโทษครับคุณชาย หมอนี่แค่ปากเสีย เขาไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนี้จริง ๆ!” โมลรีบเข้ามาขัดจังหวะเวดทันทีเพราะกลัวเอริคจะโกรธขึ้นมา
เอริคหัวเราะเบา ๆ และโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ปากเสียแค่ไหน เพราะขนาดในจักรวาลจักรพรรดิธานอส เขาก็มักจะรังเกียจใบหน้าและปากเหม็น ๆ ของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องยอมรับเลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดีอยู่ในใจ
หลังจากนั้นเอริคก็หยิบปากกาออกมาและเขียนชื่อของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อโร้คลงที่แขนของเวด “ช่วยฉันตามหาคน ๆ นี้ให้เจอ เธอน่าจะอายุ 3 - 5 ขวบในตอนนี้”
พูดจบเอริคก็หยิบทองคำแท่งยัดใส่กระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตของเวด “นี่คือเงินมัดจำ ถ้าเจอเธอ ฉันจะให้นายมากกว่านี้สิบเท่า!”
“ได้ เพื่อทองคำฉันจะรับงานนี้เอง เดี๋ยวนายช่วยบอกข้อมูลเพิ่มเติมของเป้าหมายให้ฉันด้วย” เวดติดกระดุมเสื้อแจ็กเก็ตของตัวเอง พร้อมกับรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย
ในขณะเดียวกันโมลที่เห็นทองคำดวงตาของเขาก็เบิกกว้างเป็นประกายทันที “คุณชาย งานแบบนี้ให้ผมทำก็ได้นะ”
“โอ้? นายทำได้ด้วย?” เอริคถามพร้อมรอยยิ้มเยาะ
“แน่นอนครับ! พอดีผมมีเพื่อนเยอะ!” โมลตอบพลางตบหน้าอกตัวเองด้วยความมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นช่วยหาคนอีกคนให้ฉันด้วย เขาชื่อ ยูลิซิส คลอว์”
โมลหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง และถามย้ำเพื่อความชัวร์อีกครั้งว่า “ใครนะครับ?”
“ยูลิซิส คลอว์ ฉันมั่นใจว่านายจะหาเขาได้อย่างแน่นอน”
“หมอนี่ไม่ง่ายเลย . . .” โมลกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ฉันมั่นใจว่านายทำได้!” เอริคหัวเราะเล็กน้อยและโยนทองคำแท่งอีกแท่งให้เขา หลังจากนั้นเอริคก็ลุกขึ้นและเตรียมตัวจะกลับของตัวเอง
เมื่อเห็นเอริคกำลังจะเดินจากไป เวดก็รีบเรียกเขาทนัที “เฮ้! นายยังไม่ได้ให้ข้อมูลภารกิจฉันเลยนะ!”
เอริคชี้ไปที่ชื่อที่เขาเขียนไว้บนแขนเวด “นี่ไงล่ะ ยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอ?”
เวดทำหน้าเอือมระอา และพูดอย่างไม่พอใจทันที “แค่ชื่อเนี่ยนะ? ทำไมนายไม่สั่งให้ไปฉันหาพ่อมดอย่างแกนดัล์ฟเลยล่ะ!”
เอริคหัวเราะเบา ๆ กับมุกตลกของเวด ก่อนจะเขียนอะไรบางอย่างลงไปเพิ่มเติมที่แขนของเวด “เธอเป็นลูกครึ่งเอเชีย อันนี้คือทั้งหมดที่ฉันรู้”
เวดพยักหน้าเล็กน้อย “โอเค เชื้อสายเอเชีย อายุ 3 - 5 ขวบ . . . อย่าบอกนะว่าเธอเป็นลูกนอกสมรส หรือว่าเธอจะเป็นเด็กเก็บของนาย? นายเป็นโลลิคอนหรอ? โอเค โอเค ฉันจะหุบปากของตัวเองแล้ว ส่วนนายก็เตรียมทองคำให้พร้อมกับ ฉันจะมารับมันในเร็ว ๆ นี้!”
“ฉันพร้อมเสมอ!”
ความจริงแล้ว เวดไม่ได้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตามหาใครสักคน และเอริคเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเวดจะทำสำเร็จด้วย
เพราะจริง ๆ แล้วเขาเพียงแค่ต้องการสร้างมิตรภาพกับเวดและให้ความช่วยเหลือเล็กน้อย เพื่อเติมเต็มจินตนาการบางส่วนในแบบฉบับของเขาเอง นอกจากนี้มิตรภาพกับคนอย่างเวดอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต โดยเฉพาะสำหรับการปูทางสู่ความสัมพันธ์อันดีกับ ‘โร้ค’
ถึงแม้เอริคจะเป็นคนที่มักมองโลกตามความจริง แต่ลึก ๆ แล้วในใจของเขายังมีความคิดแบบฝันเฟื่องที่ชวนให้เขายิ้มมุมปาก “กำแพงมิติที่สี่ . . . ฉันไม่แน่ใจว่ามันมีอยู่จริงหรือเปล่า . . .”
. . .
หนึ่งเดือนต่อมา
โมลก็ติดต่อกลับมาหาเอริค พร้อมข่าวดีที่เหนือความคาดหมาย เขาสามารถหา ยูลิซิส คลอว์ พ่อค้าอาวุธชื่อกระฉ่อนจนพบผ่านเครือข่ายเพื่อนมากมายของเขา
แต่ถึงแม้ว่าจะได้รับการแนะนำผ่านคนรู้จัก แต่ คลอว์ ก็ยังคงระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างมาก เขาส่งตัวแทนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายเขามาเจรจาแทนที่จะมาพบเอริคด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เอริคก็ไม่ได้เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว และใช้พลังควบคุมตัวแทนของคลอว์ทันที ก่อนจะเดินทางมาตำแหน่งที่ตัวแทนของคลอว์ จนมาถึงที่ท่าเรือร้างแห่งหนึ่งที่คลอว์ตัวจริงกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่
“ไม่เลว ดูเหมือนว่านายจะมีฝีมืออยู่บ้าง ถึงได้ตามมาถึงที่นี่ได้เร็วขนาดนี้!”
คลอว์ยืนอยู่บนเรือที่ทรุดโทรม มองลงมาที่ผู้มาเยือนอย่างไม่หวั่นไหว ขณะที่รอบตัวเขามีทหารรับจ้างนับร้อยกำลังเล็งปืนไปที่เอริค
“ฮ่าฮ่าฮ่า . . .” เอริคหัวเราะเยาะเย้ยเล็กน้อยเมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า
ตอนที่เขาฆ่าเซบาสเตียน ชอว์ ขีปนาวุธหลายร้อยลูกยังทำอะไรเขาไม่ได้เลย ดังนั้นแค่ปืนไม่กี่ร้อยกระบอกมันจะทำอะไรกับเขาได้?
ทันใดนั้นเอริคก็ยกนิ้วขึ้นสะบัดเบา ๆ พร้อมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมา ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นในรัศมีสองไมล์เกิดควันและหยุดทำงานทันที
ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถจัดการทหารรับจ้างตรงหน้าได้ภายในพริบตา แต่เอริคก็ยังคงระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากคลอว์เป็นพ่อค้าอาวุธที่มีค่าหัวสูงมาก ดังนั้นรอบตัวของคลอว์จึงมีเจ้าหน้าที่สองถึงสามคนแฝงตัวอยู่รอบเขา
เขายังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนตอนนี้!
จากนั้นเอริคก็ยกมือขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับปืนในมือของทหารรับจ้างทุกกระบอกที่ลอยขึ้นกลางอากาศ และหมุนกลับหลังเล็งใส่เจ้าของเดิมของมัน ทำให้ทหารรับจ้างทุกคนที่เห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกทันที
“มนุษย์กลายพันธุ์?” เมื่อเห็นพลังของเอริค คลอว์ก็ไม่ได้แสดงอาการหวาดหวั่นอะไร และแอบใช้มือขวาเอื้อมไปด้านหลัง และหยิบ ปืนโซนิค ที่เรืองแสงสีน้ำเงินจาง ๆ ออกมา
“เทคโนโลยีไวเบรเนียม . . . ช่างน่าสนใจจริง ๆ!” เอริคสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในมือของคลอว์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความสนใจ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของเขานั้นถูกออกแบบมาเพื่อทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปโดยเฉพาะ แต่ปืนโซนิคของคลอว์นั้นดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลย
ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีไวเบรเนียมของวาคานด้าและเทคโนโลยีทั่วไปมันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
โปรดติดตามตอนต่อไป …