ตอนที่แล้วบทที่ 1128: การมีชีวิตอยู่ด้วยความระมัดระวังและอุดมคติของคุโนะอิจิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 1130: อัพเดทเวอร์ชั่น – ยุคแห่งเทพสงคราม

บทที่ 1129: ข่าวเด่นประจำวัน – การตายของเวก้าพังก์


【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 1129: ข่าวเด่นประจำวัน – การตายของเวก้าพังก์

"ใคร ๆ ก็พูดจาเพ้อฝันได้ แถมพวกเขายังพูดได้ไพเราะกว่าเธออีก เธอมีพรสวรรค์อะไรที่เหนือกว่าคนอื่นล่ะ?"

คำประกาศที่สร้างแรงบันดาลใจไม่ได้ทำให้เด็กน้อยสะเทือนใจเลย ถ้าคำพูดสามารถเปลี่ยนความคิดของเธอได้ ชาววาโนะคุนิคงพูดกรอกหูเธอได้สามวันสามคืนโดยไม่ซ้ำคำ

วิชานินจาที่เรียนรู้จากเก็คโคกะ ไม่ใช่แค่การหลอกตา แต่มันคือวิชาแยกร่าง เงาแยกร่าง หรือแม้แต่เทคนิคเคลื่อนย้ายในพริบตาอย่างวิชา "ประกายแสง"

เนื่องจากนโยบายปิดประเทศ วาโนะคุนิจึงมีคำเรียกเฉพาะสำหรับหลายสิ่งหลายอย่าง คำว่า "นักเวทย์" หรือ "ริวโอ" ไม่ได้หายไปพร้อมกับวัฒนธรรมต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามา เพียงแต่กลายเป็นคำเรียกที่ไม่เป็นทางการเท่านั้น

ผู้ที่ได้รับพลังจากอาร์เซอุส ล้วนเป็นสมาชิกหลักของกลุ่มร้อยอสูร ในวาโนะคุนิ นอกจากบุคคลพิเศษบางคนแล้ว มีเพียงกองทัพนินจาภายใต้การบังคับบัญชาของเก็คโคกะ และสมาชิกกลุ่มชินเซ็นงุมิจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่มีคุณสมบัติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนินจา

เมื่อเทียบกับพวกที่ซ่อนปืนกลไว้ในพิณ หรือระเบิดควันในกระเป๋า พลังที่อาร์เซอุสมอบให้ถือเป็น "วิชานินจา" อย่างแท้จริง

หากต้องการได้รับพลังนี้ การได้รับการยอมรับจากเก็คโคกะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

"เรื่องพรสวรรค์ หนูคิดว่าหนูน่าจะพอไหวนะ"

"แล้วเธอมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง หรือโชคลาภที่เหนือกว่าคนอื่นรึเปล่า?"

"เอ่อ..."

"เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มี รอเธอวิ่งรอบพระราชวังได้ภายใน 5 นาที ค่อยมาคุยกับฉันเรื่องนี้"

เก็คโคกะใช้เหตุผลที่เป็นจริง เพื่อทำลายวิธีลัดที่โอทามะคิดจะใช้ ไม่มีอะไรเลย อย่างน้อยก็ต้องแสดงความพยายามออกมาบ้าง

พระราชวังในเมืองหลวงแห่งดอกไม้มีขนาดไม่เล็ก สำหรับเด็กหญิงอายุไม่ถึงแปดขวบ การวิ่งรอบภายในห้านาทีเป็นเรื่องยากมาก ถ้าเธอสามารถเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองและทำสิ่งนี้ได้ เก็กโคกะก็ไม่รังเกียจที่จะสอนอะไรเพิ่มเติม

"แต่..."

"ไม่มีแต่ ทางลัดมีอยู่จริง แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ถ้าเธออยากจะเดินบนเส้นทางนี้ ก็ต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เพียงพอ"

เก็คโคกัพูดพร้อมกับใช้นิ้วมือที่กลายเป็นสีดำสนิท ผิวหนังหลั่งฟองอากาศที่มีน้ำมันออกมา

นิ้วที่เคลือบด้วยฮาคิแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า เพียงดีดนิ้วก็เกิดประกายไฟ จุดติดน้ำมันที่เคลือบอยู่ แสดงให้เห็นว่าโปเกมอนธาตุน้ำควบคุมไฟได้อย่างไร

สำหรับคนในโลกใหม่ การสร้างประกายไฟหลังจากฝึกฝนฮาคิจนชำนาญแล้วไม่ใช่เรื่องยาก แต่ลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆแบบนี้ก็เพียงพอที่จะข่มขวัญเด็ก ๆ ได้

"ถ้าเธอทำแบบนี้ได้ ฉันจะรับเธอเป็นศิษย์ทันที ถ้าทำไม่ได้ ก็ไปฝึกฝนร่างกาย รอจนกว่าจะทำได้แล้วค่อยมาหาฉัน"

"ค่ะ!"

เมื่อเทียบกับการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยก่อนหน้านี้ อย่างน้อยครั้งนี้เก็คโคกะก็ให้เงื่อนไขกับเธอไว้

โอทามะไม่ได้สังเกตเห็นว่า การที่เก็คโคกะไม่ไล่เธอไปหลายต่อหลายครั้ง และยังยอมพูดคุยกับเธอมากมายขนาดนี้ ก็เป็นการทดสอบอย่างหนึ่งแล้ว

เมื่อเทียบกับเด็กวัยเดียวกันในวัง โอทามะมีความอดทนและมุ่งมั่นมากกว่า นั่นจึงทำให้เก็คโคกะสนใจ เพราะชีวิตประจำวันของเขาก็ค่อนข้างน่าเบื่อหน่าย

หลังจากไล่โอทามะไปแล้ว เก็คโคกะหยิบหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งส่งมาไม่นานขึ้นมาอ่าน แม้จะเป็นฉบับที่ตีพิมพ์ในวาโนะคุนิ แต่ข่าวสารหลัก ๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป

【อารยธรรมมนุษย์ถดถอย นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะเวก้าพังก์เสียชีวิต】

เมื่อเวลาผ่านไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะเอ็กเฮดก็ถูกรายงานขึ้นมา หลังจากที่คิซารุออกจากรัศมีสนามแม่เหล็กของเซราฟิม ข่าวก็แพร่กระจายไปยังกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพเรือ

กองทัพเรือและหน่วย CP ของรัฐบาลโลกในน่านน้ำใกล้เคียงระดมกำลังกันออกตามหา ในที่สุดก็พบบริเวณที่เรือของพังก์ เรคคอร์ดตก และยืนยันการเสียชีวิตของเวก้าพังก์

ข่าวใหญ่ขนาดนี้ มอร์แกนส์ต้องประโคมข่าวอย่างแน่นอน รัฐบาลโลกแทบไม่สามารถควบคุมความคิดเห็นของสาธารณชนได้เลย แม้แต่ข่าวที่พวกเขาต้องการปกปิด มอร์แกนส์ก็จะเปิดโปงออกมาโดยตรง ยิ่งเป็นข่าวที่ตั้งใจจะประกาศต่อสาธารณะแบบนี้ด้วย

เวก้าพังก์เป็นที่รู้จักในฐานะนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ การที่คนแบบนี้ถูกฆ่าตาย ยิ่งเน้นย้ำชื่อเสียงด้านความโหดร้ายของกลุ่มร้อยอสูร แต่ผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะนอกอาณาเขตของร้อยอสูรเท่านั้น ในดินแดนของร้อยอสูร มันไม่ได้ผลดีขนาดนั้น

มีเพียงดร.คุโรบะจากเกาะแห่งท้องฟ้าเท่านั้นที่มองเรื่องนี้แตกต่างออกไป

"ดร.คุโรบะ เป็นอะไรไปเหรอครับ?"

"ฉันกำลังคิดว่า เวก้าพังก์ทำอะไรลงไปกันแน่"

ดร.คุโรบะมีสีหน้ากังวล เขาเป็นเพื่อนเก่าของเวก้าพังก์ สมัยที่เขายังหนุ่มและออกผจญภัยในทะเล เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวก้าพังก์

ด้วยพฤติกรรมของกลุ่มร้อยอสูรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุโรบะคิดว่าร้อยอสูรไม่ใช่คนที่ทำลายทุกอย่างโดยไม่สนใจอะไร สิ่งที่ร้อยอสูรทำดูเหมือนว่ากำลังพัฒนาบางสิ่งบางอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดของโอฮาร่าก็คือเอกสารและข้อมูลในห้องสมุด

หลังจากที่ร้อยอสูรนำข้อมูลของคิงไป พวกเขาก็นำนักวิชาการเหล่านี้ไปด้วย และให้พื้นที่สำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน แต่มันก็หมายความว่าร้อยอสูรจะไม่ฆ่าคนที่พวกเขาเห็นคุณค่าโดยไม่มีเหตุผล

【ถูกทำลายจนสิ้นซาก งานวิจัยหลายปีถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน】

"พวกเขาไม่เหลืออะไรไว้เลย ดูเหมือนว่าต้องการลบร่องรอยการมีอยู่ของเวก้าพังก์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ความแค้นธรรมดาจะทำได้"

มอร์แกนส์ชอบพูดเกินจริง คุโรบะก็รู้เรื่องนี้ดี แต่จากภาพถ่าย เอ็กเฮดไม่เหลืออะไรเลย กลายเป็นทุ่งน้ำแข็งไปหมดแล้ว

ในทะเลที่อยู่ไกลออกไป มีเพียงเศษซากลอยอยู่

"น่าเสียดาย น่าเสียดายจริง ๆ "

คุโรบะถอนหายใจยาว จากนั้นก็ถือบางสิ่งบางอย่างไปที่ขอบเกาะแห่งท้องฟ้า เริ่มระลึกถึงเพื่อนเก่าคนนี้ พวกเขามีความสัมพันธ์กันบ้าง แต่ก็เท่านั้น ไม่ได้สนิทสนมถึงขั้นยอมสละชีวิตเพื่อกันและกัน

ไม่ใช่แค่คุโรบะเท่านั้นที่รู้สึกสะเทือนใจกับเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวก้าพังก์มากกว่า แต่คนที่ปวดหัวที่สุดคือกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพเรือ

ฐานทัพ G-1 เดิม ปัจจุบันคือกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพเรือ คิซารุได้กลับมาที่นี่แล้ว และข่าวที่เขานำกลับมาก็ทำให้กองทัพเรือตกตะลึง

"บอลซาริโน พี่แน่ใจเหรอ?"

ซิการ์ในปากของอาคาอินุเผาไหม้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งซิการ์ไหม้จนถึงริมฝีปาก อาคาอินุก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ในฐานะผู้มีพลังลาวา เขาไม่กลัวความร้อนแค่นี้

ข่าวการเข้าร่วมกลุ่มร้อยอสูรของคุซันไม่ได้รับการเปิดเผยจากกองทัพเรือ ภายในกลุ่มร้อยอสูรก็มีผู้ใช้พลังน้ำแข็ง เพียงแค่เกาะที่ถูกแช่แข็งยังไม่สามารถอธิบายอะไรได้

"เห็นกับตา ประสบด้วยตัวเอง เรื่องแบบนี้ปลอมแปลงไม่ได้หรอก คุซันเข้าร่วมกับร้อยอสูรแล้ว"

บนใบหน้าของคิซารุมีพลาสเตอร์ปิดแผลสองอัน แต่เสื้อผ้ายังไม่ได้เปลี่ยน เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้ดุเดือดแค่ไหน

"เขาน่าจะใช้พลังทั้งหมดแล้วล่ะ พลังของเซราฟิมก็ไม่เลว แต่ยังไม่พอ คุซันมีความสามารถในการจัดการพวกมันได้"

"ไอ้สารเลวนั่น"

อาคาอินุกำหมัดทุบลงบนโต๊ะ ส่งกลิ่นไหม้ออกมาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาค่อนข้างเสียใจที่ครั้งหนึ่งเคยออมมือไว้

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด