ตอนที่แล้ว44 - เจ้าคนหลงผิดของข้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป46 - พาหลานชายออกจากวัง!

45 - หลี่เอี้ยนซีกับความละอายใจ!


45 - หลี่เอี้ยนซีกับความละอายใจ!

จูจวินเดินอย่างอารมณ์ดีจนแม้การก้าวเดินก็เบาสบายกว่าเดิม

เจ้าหนูตัวอ้วนเดินตามหลังมาด้วยใบหน้าออดอ้อน ขอร้องให้ยกหนี้พนัน

จูจวินมองเขาด้วยสายตาเฉียงๆ “เจ้าอ้วนนี่มีจิตสำนึกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มาก อย่างน้อยเจ้าก็ยังเคารพข้าบ้าง เอาเถอะ ต่อไปเจ้าต้องเป็นลูกสมุนของข้า ข้าสั่งอะไรก็ต้องทำ เข้าใจไหม?”

เจ้าหนูตัวอ้วนพยักหน้าหงึกหงัก “จากนี้ข้าคือลูกสมุนของอาหก ท่านให้ข้าทำอะไร ข้าก็จะทำทุกอย่าง!”

“ตกลง อย่างนั้นหนี้เจ้าถือว่าหมด!” จูจวินโยนกระเป๋าใส่หนังสือที่เต็มไปด้วยเงินให้เขา เจ้าหนูอ้วนต้องออกแรงสุดตัวถึงจะยกขึ้นมาได้

เมื่อคนอื่นเห็น ก็เริ่มเข้ามาออดอ้อนขอร้องเช่นกัน

สำหรับเงินหลักสิบหรือหลักร้อยตำลึง จูจวินไม่คิดจะเอาอยู่แล้ว เขาแค่อยากสั่งสอนพวกนั้นให้รู้จักจำ

จากนั้นเขาก็ได้ลูกสมุนเพิ่มอีกเป็นพรวน

ทุกคนพยักหน้าโค้งคำนับอย่างนอบน้อม

จูอิงสงอดขำไม่ได้ เขารู้สึกสะใจในใจลึกๆ และคิดว่า “ดูสิ ใครจะกล้ามาดูถูกอาหกของข้าอีก!”

แต่ซ่งเหลียนและคนอื่นๆ กลับส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ

“อวี่อัน วันลำบากของเจ้ามาถึงแล้ว!” เว่ยกวนถอนหายใจ “นิสัยเจ้าคนนี้ฝังรากลึกจนแก้ไม่ได้แล้ว!”

หลี่เอี้ยนซีเม้มปากไม่พูดอะไร

เมื่อกลับถึงสำนักกว๋อจื่อเจียน จูจวินรีบไปยังห้องพักของหลี่เอี้ยนซี “อาจารย์ ศิษย์ขอเข้าพบ!”

“เข้ามาเถอะ”

จูจวินเดินเข้าไป พร้อมกับดันกระเป๋าหนังสือที่เต็มไปด้วยเงินไปตรงหน้าหลี่เอี้ยนซี “ตั้งแต่โบราณมา ศิษย์ที่ฝากตัวกับอาจารย์ต้องมอบสิ่งตอบแทนศิษย์ก็ไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไร จึงขอมอบเงินนี้แทนของฝากตัว”

หลี่เอี้ยนซีอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนแสดงความโกรธออกมา “เรียนแต่สิ่งดีๆ ไม่ได้หรือไร ใครใช้ให้เจ้ามอบเงินให้ข้า?”

เขาหยิบไม้บรรทัดขึ้นมา ฟาดลงที่ศีรษะจูจวินอย่างแรง จนเลือดซึมออกมาจากหน้าผาก

แต่จูจวินยังนิ่งอยู่ ไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย เขากลั้นความเจ็บพลางกล่าว “ศิษย์ได้ยินมาว่าอาจารย์ต้องเดินเท้าจากชานเมืองเข้าวังแต่เช้าตรู่ กว่าจะถึงสำนักกว๋อจื่อเจียนฟ้าก็สว่าง

เมื่อเลิกสอนแล้วกลับถึงบ้าน ฟ้าก็มืดจนมองไม่เห็น

เงินนี้แม้จะได้มาจากการตั้งพนัน แต่มันก็เป็นน้ำใจของศิษย์

อาจารย์ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แถมยังช่วยเหลือเหล่าผู้ประสบภัยอยู่เสมอ ศิษย์รู้สึกละอายใจ เงินจำนวนนี้มีอยู่หลายร้อยตำลึง อาจารย์นำไปช่วยเหล่าผู้ประสบภัยก็น่าจะดี ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ ของศิษย์!”

คุณธรรมของหลี่เอี้ยนซีเป็นที่เลื่องลือทั่วเมืองหลวง

เขาเป็นขุนนางขั้นหก แต่กลับอาศัยอยู่ในชานเมือง ไม่ยอมใช้เกี้ยวหรือรถม้า เดินเท้าทุกวัน เป็นที่เคารพของผู้คน

หลี่เอี้ยนซีขมวดคิ้ว มองจูจวิน “เจ้ารับคนไร้บ้านเหล่านั้นเข้ามาที่จวนของเจ้าหรือ?”

“ใช่แล้ว!”

“วันนี้ข้าผ่านหน้าจวนของเจ้า ผู้คนเบียดเสียดจนข้าแทบไม่มีที่ให้ยืน เจ้าจัดการคนเหล่านั้นไหวหรือ?”

“ไหวหรือไม่ไหวข้าก็ต้องทำ ตราบใดที่ข้ามีข้าวสักคำ ข้าก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาอด!” จูจวินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หลี่เอี้ยนซีถอนหายใจ วันนี้เขาผ่านหน้าจวนอู่อ๋อง เห็นผู้ประสบภัยนอนอยู่เต็มหน้าประตูจวน

เมื่อถามไถ่ ก็รู้ว่าจูจวินทำอะไรอยู่

เขารู้สึกทั้งประหลาดใจและสงสัย

“นี่จึงเป็นเหตุผลที่เจ้ามาสายใช่หรือไม่?”

“ใช่!”

“แล้วทำไมเจ้าไม่แก้ตัว?”

“เพราะละอาย!”

“ละอายต่อสิ่งใด?”

“คนเหล่านั้นต้องไร้บ้านไร้ที่พึ่ง นั่นเป็นความผิดของราชสำนัก การแก้ตัวจะมีประโยชน์อันใด?” จูจวินแสดงสีหน้าเปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจ “วันนี้ข้าให้พวกเขาได้กินข้าวจนอิ่ม อาจช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นฤดูหนาวอันโหดร้ายนี้ไปได้ ใจข้าก็รู้สึกดีขึ้นมาก

แต่การที่ข้ามาสายก็เป็นความจริง ดังนั้นข้าสมควรได้รับโทษอยู่แล้ว!”

หลี่เอี้ยนซีมองจูจวินอย่างพินิจพิจารณา ราวกับกำลังทำความรู้จักเขาเป็นครั้งแรก "ข้าไม่เข้าใจเจ้าเลย คนทั้งหลายต่างว่าเจ้าเป็นตัวก่อเรื่อง แต่ข้ากลับมองเห็นคุณธรรมและความเสียสละในตัวเจ้า"

จูจวินเกาศีรษะด้วยความเขินอาย "ท่านอาจารย์ชมเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าใช้ชีวิตอย่างเลื่อนลอย เมื่อไม่นานมานี้ ข้ารู้สึกว่าชีวิตเช่นนี้น่าเบื่อเกินไป จึงคิดหาสิ่งที่มีความหมายทำ

ข้าเดินไปตามถนน มองเห็นเหล่าผู้คนไร้บ้านนอนร้องโอดครวญอยู่บนพื้น หัวใจของข้าเหมือนถูกหนามทิ่มแทง

เมื่อข้าซื้อซาลาเปาส่งให้ผู้คนเหล่านั้น พวกเขากล่าวขอบคุณด้วยน้ำตาไหลพราก หัวใจของข้าก็เหมือนถูกบางสิ่งปลุกขึ้นมา

ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าทำถูกหรือไม่ แต่ถ้าไม่ทำ ข้าก็นอนไม่หลับ"

ดวงตาของหลี่เอี้ยนซีปรากฏประกายบางอย่าง

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า "การกลับใจ" หรอกหรือ?

นี่ไม่ใช่การ "วางดาบลงเพื่อบรรลุธรรม" หรอกหรือ?

นี่คือการตระหนักรู้!

เขาต้องช่วยชี้นำให้จูจวินพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

"เจ้าทำได้ดีแล้ว" หลี่เอี้ยนซีเอ่ยชมด้วยความจริงใจ "จักรวรรดิพึ่งเริ่มต้น ฟื้นฟูสิ่งต่างๆ นั้นเป็นงานหนัก นี่คือความโชคร้ายของผู้ไร้บ้าน และเป็นความบกพร่องของทางการ

แต่ก็ใช่ว่าราชสำนักไม่อยากช่วย เพียงแต่...จำนวนคนที่ต้องช่วยเหลือนั้นมากเกินไป"

"ค่อยๆ ทำไป ย่อมมีทางแก้ไขได้แน่นอน!" จูจวินกล่าว

"แล้วเงินนี้..."

"โปรดรับไว้ด้วย!" จูจวินถอยหลังหนึ่งก้าว "หากท่านไม่รับ ข้าคงไม่สบายใจ"

ความโกรธในดวงตาของหลี่เอี้ยนซีจางหายไปนานแล้ว "ดี อย่างนั้นข้าจะถือว่าเป็นเงินของเจ้ามอบให้เหล่าผู้ไร้บ้าน เมื่อเลิกเรียน ข้าจะนำไปซื้ออาหารให้พวกเขาได้กินจนอิ่ม

แต่การให้ข้าวปลาเพียงอย่างเดียว ไม่ต่างอะไรกับการเติมน้ำในบ่อที่ไม่มีจุดสิ้นสุด"

เขาใช้ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาไปแล้ว แม้จะมีเงินหลายร้อยตำลึงนี้ ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อย

"เมื่อข้ารวบรวมเงินจากการเดิมพันได้ ข้าจะมอบให้ท่านทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย!" จูจวินกล่าวด้วยความมุ่งมั่น

แม้จะรู้สึกเสียดายเงิน แต่เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหลี่เอี้ยนซี การเสียเงินบางส่วนก็ถือว่าคุ้มค่า

เพราะหลี่เอี้ยนซีไม่ใช่ขุนนางที่ด้อยกว่าซ่งเหลียน และเขารู้จักผู้มีความสามารถมากมาย

ในอนาคตเมื่อจูจวินถูกส่งไปประจำการที่ดินแดนของตน หลี่เอี้ยนซีอาจช่วยดึงดูดผู้มีความสามารถมาช่วยพัฒนาพื้นที่

ดังนั้น เงินนี้ถือเป็นการลงทุนล่วงหน้า

"เจ้า... นี่เจ้าเล่นพนันมากเกินไป ต้องเปลี่ยนนิสัยนี้!" หลี่เอี้ยนซีพูด แต่ทันใดนั้นกลับรู้สึกว่ามันไม่สำคัญเท่ากับการช่วยชีวิตคน

"ทราบแล้ว ท่านอาจารย์!" จูจวินกล่าวด้วยความเคารพ

หลี่เอี้ยนซีเห็นท่าทีอ่อนน้อมของจูจวินในครั้งนี้ ทำให้เขาพอใจมาก

คนทั้งหลายต่างบอกว่าจูจวินไม่สามารถสอนได้ แต่เขาต้องการพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดผิด

เขาจะสอนจูจวินให้ดี และทำให้เขาเป็นผู้ปกครองที่คนทั้งแผ่นดินสรรเสริญ!

คิดได้ดังนั้น หลี่เอี้ยนซียื่นมือไปหมายจะลูบบาดแผลบนหน้าผากของจูจวิน

แต่จูจวินสะดุ้งถอยหลังด้วยความตกใจ "ท่านอาจารย์ หรือว่าข้าพูดอะไรผิดอีก?"

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่เอี้ยนซีรู้สึกอับอายใจ

เขารู้สึกว่าตนเองใจร้อนไปหน่อย

ตอนแรกเขาเข้าใจผิดจูจวิน และเมื่อครู่ยังลงโทษเขาอย่างหนัก

เขามักลงโทษลูกศิษย์ด้วยความเคร่งครัด แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเสียใจ

เขาก้มหัวคำนับ "เป็นความผิดของข้าที่ประมาทเกินไป ท่านอ๋องอย่าได้ถือโทษ!"

"ท่านอาจารย์ อย่าทำเช่นนี้!" จูจวินรีบจับมือหลี่เอี้ยนซีไว้ กล่าวด้วยความจริงใจ "คนทั้งหลายต่างมองข้าในแง่ร้าย ดูถูกและรังเกียจข้า ไม่เคยให้โอกาสข้า

แต่มีเพียงท่านอาจารย์ที่ยินดีสอนข้า ต่อให้ถูกท่านตี ข้าก็ยินดีรับด้วยความเต็มใจ!"

คำพูดนี้ทำให้หลี่เอี้ยนซีรู้สึกละอายใจในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าภารกิจของเขาช่างหนักหนา

เขาต้องสอนจูจวินให้ดี

และทำให้จูจวินกลายเป็นผู้ปกครองที่คนทั้งแผ่นดินยอมรับและสรรเสริญ!

…………

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด