ตอนที่ 6 ขโมยเซรุ่ม!
ตอนที่ 6 ขโมยเซรุ่ม!
ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับเตียงฟื้นฟูเครเดิลที่เอริคมีนั้นยังไม่สมบูรณ์ เขาจึงต้องอาศัยความทรงจำของตนเองเพื่อนำข้อมูลอื่น ๆ มาประกอบรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลกลไกจาก ฮาเวิร์ด สตาร์ค, ข้อมูลเกี่ยวกับรังสีแกมมาจาก บรูซ แบนเนอร์, เทคโนโลยีล้ำยุคของ รีด ริชาร์ด, ความรู้ด้านเทคโนโลยีต่างดาวของครี และข้อมูลสนามแม่เหล็กที่เขาเชี่ยวชาญ . . .
ซึ่งการผสมผสานสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยสร้างฐานความรู้ที่หลากหลายและมีมิติมากยิ่งขึ้น!
เอริคใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนในการประกอบข้อมูลเหล่านี้และสร้างเตียงฟื้นฟูเครเดิลรุ่นใหม่ในแบบของเขาเอง ซึ่งเตียงนี้ไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาคุณสมบัติดั้งเดิมของเตียงฟื้นฟูเครเดิลอย่างการเพาะเลี้ยงเซลล์และซ่อมแซมเนื้อเยื่อได้เท่านั้น แต่มันยังมีการเพิ่มฟังก์ชันใหม่เข้าไปนั่นก็คือการปรับรังสีแกมมาให้อยู่ในระดับที่เสถียร ซึ่งเป็นการรวมคุณสมบัติจากห้องทดลองรังสีชีวิตของ ฮาเวิร์ด สตาร์ค เข้ากับเตียงฟื้นฟูเครเดิลของดร.เฮเลน โชเข้าด้วยกัน
นอกจากนี้เพื่อรำลึกถึงตัวตนในอดีตและอารมณ์ขันส่วนตัวของตัวเอง เขาได้ออกแบบเตียงฟื้นฟูให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยหุ้มพื้นผิวด้วยชั้นหยกอย่างประณีต พร้อมตั้งชื่อว่า ‘เตียงของฮั่นหยู’
ในขณะเดียวกันด้วยทรัพยากรทางการเงินที่แข็งแกร่ง เอริคได้สั่งซื้อเครื่องกำเนิดรังสีแกมมาและอุปกรณ์สนับสนุนอื่น ๆ ไปยังห้องทดลองของเขา พร้อมกับสร้างแท่นวางเตียงฟื้นฟูขนาดเล็กพิเศษในรูปทรงโลงศพ โดยมันถูกออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำมากและสามารถทำงานได้ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งฟังก์ชันของมันมีเพียงการรักษาชีวิตในกรณีฉุกเฉิน หรือจะเรียกว่า ‘การสำรองชีวิต’ ก็ไม่มีผิด
. . .
หลังจากนั้นเวลาก็ไหลผ่านไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งคนรับใช้ที่เอริคว่าจ้างด้วยเงินจำนวนมหาศาลก็ส่งข่าวมาว่า ฮาเวิร์ด สตาร์ค และภรรยาของเขากำลังจะเดินทางไปพักผ่อนที่แมนฮัตตัน
“เหมือนกับในความทรงจำไม่มีผิด หลังจากนี้ฮาเวิร์ดจะเป็นแผนอย่างกะทันหันและมุ่งหน้าไปที่แพนตากอนก่อนเพื่อส่งมอบเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ที่อยู่ท้ายรถของเขา”
เอริคลอบติดตามฮาเวิร์ดไปอย่างเงียบ ๆ ออกนอกเมืองไปตามถนนชนบท และเมื่อเห็นโอกาส เขาก็ใช้พลังควบคุมสนามแม่เหล็กเพื่อดึงกล่องบรรจุเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ออกจากท้ายรถโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
“ฮ่าฮ่า! อยากเห็นจริง ๆ ว่าวินเทอร์โซลเยอร์จะทำหน้ายังไงเมื่อเปิดกล่องและพบกับความว่างเปล่า” เอริคพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นว่าภารกิจของตัวเองสำเร็จแล้ว
ส่วนชีวิตของฮาเวิร์ดนั้น? มันเกี่ยวอะไรกับเขา!
“เดี๋ยวนะ! เซรุ่มนี่มันยังไม่สมบูรณ์!”
ในขณะที่กำลังหันหลังเดินจากไป จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เซรุ่มทำให้วินเทอร์โซลเยอร์ของไฮดรากลายเป็นคนบ้าคลั่งที่ควบคุมไม่ได้ จนต้องถูกแช่แข็งในที่สุด
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องหาคนมาทดสอบมันก่อน” ดวงตาของเอริคทอประกายด้วยความเย็นชา พร้อมกับมองไปที่รถของฮาเวิร์ดที่กำลังขับไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
ในจักรวาลมาร์เวล แม็กนีโตเกือบทุกคนล้วนเป็นคนที่เหยียดเชื้อชาติ และถือว่ามนุษย์เป็นศัตรูของมนุษย์กลายพันธุ์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มองเห็นค่าในตัวของมนุษย์เลยดัง ทำให้หลังจากที่กลายเป็นแม็กนีโตมาสองชีวิต เอริคจึงได้รับอิทธิพลนี้มาด้วย และมองฮาเวิร์ดเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการทำให้เขาถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง
ทันใดนั้นภายใต้ค่ำคืนที่เงียบสงบ จู่ ๆ มันก็มีเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหัน
เสียงคำรามของรถมอเตอร์ไซต์ทำให้เอริคตื่นตัวขึ้นทันที และกระจายคลื่นสนามแม่เหล็กออกไปตรวจสอบทันที
แน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่นานเอริคก็พบกับชายคนหนึ่งที่มีแขนโลหะกำลังขี่รถมอเตอร์ไซต์มาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับวินเทอร์โซลเยอร์อีกหลายคนที่อยู่ด้านหลัง
ตูม!!
ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนในประวัติศาสตร์ เนื่องจากการโจมตีของวินเทอร์โซลเยอร์ รถของฮาเวิร์ดจึงชนเข้ากับต้นไม้อย่างรุนแรง มาเรียภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะที่ฮาเวิร์ดค่อย ๆ เปิดประตูเดินออกมาจากรถด้วยร่างกายที่เซไปเซมา
แน่นอนว่าคำสั่งแรกของวินเทอร์โซลเยอร์ก็คือการเอาเซรุ่มมา ดังนั้นเขาจึงเปิดกล่องหลังรถทันที แต่เมื่อเปิดกล่องออกและพบกับความว่างเปล่าด้านในสีหน้าของวินเทอร์โซลเยอร์ก็แสดงออกถึงความสับสนอย่างเห็นได้ชัด
“แชะ!!”
ทันใดนั้นเสียงกดชัดเตอร์พร้อมกับแฟลชก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้วินเทอร์โซลเยอร์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบหมุนตัวและใช้กำปั้นต่อยไปตามทิศทางของเสียงทันที แต่สิ่งที่วินเทอร์โซลเยอร์สัมผัสได้กลับเป็นความว่างเปล่า . . .
“ภาพนี้สมบูรณ์แบบมาก เหมาะสำหรับการทำเป็นมีม!” เอริคที่บินอยู่กลางอากาศเอามือลูบคางของตัวเองเล็กน้อยราวกำลังชื่นชมผลงานชิ้นเอกของตัวเอง
กล้องของฮาเวิร์ดนั้นมีพิกเซลสูงมาก ซึ่งเกินระดับของเทคโนโลยีของยุคนี้ไปแล้ว ดังนั้นทุกรูขุมขนบนใบหน้าของวินเทอร์โซลเยอร์จึงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
“กล้องนี้ดีมาก ฉันจะเอาเป็นรางวัลสำหรับการช่วยชีวิตแล้วกัน และฉันจะใช้กล้องนี้เก็บภาพซูเปอร์ฮีโร่ในอนาคตทุกคน แล้วทำชุดมีมส่วนตัวของฉันเอง!”
เอริคเล่นกับกล้องที่เขาเพิ่ง ‘ยืม’ มาอย่างพอใจ ทำให้วินเทอร์โซลเยอร์ที่เห็นเช่นนั้นก็หยิบปืนกลมือออกมายิงใส่เอริคทันที
ปัง ปัง ปัง ปัง . . .
เมื่อได้ยินเสียงปืน แน่นอนว่าเอริคไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง พร้อมกับกระสุนที่หยุดอยู่กลางอากาศอย่างกะทันหัน
ทำให้วินเทอร์โซลเยอร์ที่เห็นว่าปืนไม่ได้ผลจึงขว้างระเบิดอีกสองลูกใส่เอริคอีกครั้ง แต่ระเบิดที่ถูกกว้างออกมาก็หยุดกลางอากาศเหมือนกับกระสุนไม่มีผิด แถมสลักของมันก็ยังไม่ถูกดึงออกเลยด้วยซ้ำ
หลังจากการโจมตีล้มเหลวถึงสองครั้ง แต่วินเทอร์โซลเยอร์ก็ยังไม่ยอมแพ้ ทันใดนั้นร่างของวินเทอร์โซลเยอร์ก็วิ่งพุ่งตัวออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้เท้ากระแทกพื้นกระโดดสูงขึ้นกลางอากาศ และใช้แขนเหล็กของตัวเองต่อยใส่เอริคอย่างรุนแรง
“สุนัขก็ควรอยู่อย่างสุนัข! นอนลง!” เอริคกระดิกนิ้วชี้ลงเล็กน้อย
ทันใดนั้นแขนเหล็กของวินเทอร์โซลเยอร์ดูเหมือนจะหนักขึ้นเป็นหมื่นเท่า จนทำให้ร่างของเขากระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง และไม่ว่าเขาจะดิ้นรนสักแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้เลย
ถึงแม้ว่าตอนนี้เอริคจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและแทบจะไม่สามารถใช้พลังระดับอัลฟ่าได้ แต่เอริคก็ยังเป็นแม็กนีโต ผู้ที่ไม่มีโลหะใดสามารถทำร้ายเขาได้!!
หลังจากจัดการวินเทอร์โซลเยอร์จนอีกฝ่ายไม่สามารถขยับตัวได้ เอริคก็เดินไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บของ ฮาเวิร์ด และ มาเรีย และรู้ทันทีว่าถ้าหากพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้รับการรักษาฉุกเฉิน พวกเขาคงอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน
โดยอาการของฮาเวิร์ดนั้นค่อนข้างดีกว่ามาเรียหน่อยหนึ่ง เพราะเขามีเพียงแค่ซี่โครงหักหลายซี่ กระดูกต้นขาหัก ตับม้ามและปอดแตก และมีเลือดออกภายใน ทำให้ด้วยอากาศบาดเจ็บดังกล่าวถึงแม้ว่าวินเทอร์โซลเยอร์จะไม่โจมตีต่อ ฮาเวิร์ดก็ไม่สามารถอยู่รอดได้นานกว่าครึ่งชั่วโมงอย่างแน่นอน
ส่วนอาการบาดเจ็บของมาเรียก็มีตั้งแต่กะโหลกศรีษะแตก เลือกออกในสมอง อวัยวะภายในแตกหลายแห่ง กระดูกหักหลายท่อน และมีเลือดออกภายในอย่างรุนแรง
“จิ๊ ๆ ช่างน่าสังเวชจริง ๆ!” เอริคส่ายหัวเบา ๆ ก่อนหยิบหลอดเซรุ่มสองหลอดขึ้นมา และลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะใส่หลอดหนึ่งกลับไปด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ฉันต้องไปทุบตีโทนี่ สตาร์คให้หนักในอนาคต!”
หลังจากนั้นเอริคก็เริ่มทำการแบ่งเซรุ่มในหลอดออกเป็นสองส่วน จากนั้นก็ฉีดเข้าไปในร่างของฮาเวิร์ดและมาเรีย พร้อมกับจ้องมองพวกเขาทั้งสองอย่างตั้งใจ โดยดวงตาของของเอริคในตอนนี้กำลังส่องประกายระยิบระยับเนื่องจากกำลังใช้พลังของเขาอย่างเต็มที่
แน่นอนว่าแสงที่เปล่งออกมาจากดวงตาของเอริคไม่ใช่แสงธรรมดา แต่มันคือผลจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูงที่เขาใช้จนทำให้อากาศโดยรอบแตกตัวเป็นไอออน เหมือนกับการสแกน MRI ซึ่งช่วยให้เขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของทั้งคู่ได้อย่างละเอียด
เมื่อเซรุ่มไหลเข้าสู่ร่างกาย เซลล์ที่เคยอ่อนล้าก็เริ่มฟื้นฟูพลังงานและความมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง อวัยวะที่เสียหายเริ่มทำการซ่อมแซมตัวเอง กระดูกที่หักก็กลับคืนสู่สภาพเดิม และหลอดเลือดที่แตกก็เชื่อมต่อกันอีกครั้ง
“นี่แหละ! เซรุ่มนี้กระตุ้นเซลล์ให้กลับมาสู่จุดสูงสุดของมัน และเซลล์จะดูแลตัวมันเองในส่วนที่เหลือต่อเอง . . . แต่ผลข้างเคียงล่ะ?” เอริคพูดพึมพำพร้อมมองสำรวจพวกเขาอย่างละเอียด
เขาจับตาดูกระบวนการที่เซรุ่มไหลผ่านเข้าสู่สมองของทั้งคู่ กระตุ้นเซลล์ในพื้นที่สำคัญอย่างฮิปโปแคมปัส ไฮโปทาลามัส และไจรัสซิงกูเลตอย่างรวดเร็ว
“ตามที่คิดไว้ . . . ปัญหาอยู่ที่นี่นี่เอง” เอริคถอนหายใจเบา ๆ “เซลล์สมองเหล่านี้ถูกกระตุ้นจนสร้างฮอร์โมนทางอารมณ์ในปริมาณมาก ซึ่งทำให้ทหารรู้สึกตื่นเต้น หงุดหงิด และควบคุมตัวเองไม่ได้ คนดีจะยิ่งถูกกระตุ้นให้ดีขึ้น แต่ถ้าเป็นคนเลวก็จะถูกระตุ้นให้เลวยิ่งกว่าเดิม!”
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องกลับไปปรับปรุงเตียงฟื้นฟูให้ดีกว่านี้ . . .”
ทันใดนั้นสัญญาณบางอย่างบนร่างกายของพวกเขาทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ก่อนที่เซลล์ในร่างกายของพวกเขาทั้งคู่จะเริ่มหดตัวอย่างรวดเร็ว
“ยีนพังทลาย! เกิดอะไรขึ้น!?” เอริคขมวดคิ้ว พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายอีกครั้งขณะพิจารณาร่างกายของฮาเวิร์ดและมาเรียอย่างละเอียด ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานเขาจะเข้าใจสาเหตุ
“พลังงาน! ใช่แล้ว! ร่างกายของพวกเขาไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะรองรับกระบวนการนี้ เหมือนกับเซลล์ที่ถูกผลักให้ขึ้นไปบนยอดเขา แต่ไม่มีอะไรช่วยให้มันยืนหยัดได้ ผลสุดท้ายคือการล้มลงและตกลงมาจากบนยอดเขา!”
“ไม่ . . . พวกนายสองคนยังตายตอนนี้ไม่ได้ ฉันยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอยู่!”
เอริครีบวางฝ่ามือของเขาบนตัวของพวกเขาทั้งสองคนทันที และใช้พลังแม่เหล็กเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า ป้อนเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา ถึงแม้กระบวนการนี้จะทำให้เกิดความเสียหายบางส่วน แต่ก็ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของยีนได้
“แค่นี้ยังไม่พอ ฉันต้องกลับไปที่ห้องทดลองเดี๋ยวนี้!” ทันใดนั้นเอริคก็รีบสร้างแผ่นโลหะด้วยพลังของเขา และยกร่างของพวกเขาทั้งสองคนขึ้นอย่างระมัดระวัง
ในขณะเดียวกันเมื่อเอริคหันไปมองรอบ ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่าวินเทอร์โซลเยอร์ได้หนีหายกันไปหมดแล้ว โดยที่อีกฝ่ายได้ทิ้งแขนเหล็กของตัวเองเอาไว้ให้เขาข้างหนึ่ง
“ครั้งนี้ฉันจะปล่อยให้หนีไปก่อน . . . ดีเหมือนกัน จะได้มีคนมารับผิดชอบเรื่องเซรุ่มที่หายไป” เอริคพึมพำก่อนจะควบคุมแขนเหล็กให้ลอยตามเขามา และพาร่างของฮาเวิร์ดและภรรยากลับไปยังห้องทดลองอย่างรวดเร็ว
โปรดติดตามตอนต่อไป …