ตอนที่ 5 เป้าหมาย : ฮาเวิร์ด สตาร์ค!
ตอนที่ 5 เป้าหมาย : ฮาเวิร์ด สตาร์ค!
เซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ แผนการกำเนิดใหม่
นี่เป็นหนึ่งในโครงการสร้างซูเปอร์โซลเยอร์ที่เริ่มต้นขึ้นในอเมริกาช่วงปี 1940 โดยได้รับการพัฒนาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างกองทัพทหารชั้นยอด แต่มันก็ถูกขัดขวางจากไฮดรา จนทำให้ดร.อับราฮัม เออสไกน์ ผู้คิดค้นเซรุ่มถูกสังหาร และเซรั่มขวดสุดท้ายก็สูญหายไปในเหตุการณ์ไล่ล่าในครั้งนั้น . . .
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็ได้สร้างซุปเปอร์โซลเยอร์ขึ้นมาเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ กัปตันอเมริกา!
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานการวิจัยเกี่ยวกับเซรุ่นนี้จะถูกนำไปศึกษาต่อจากด้วยตัวอย่างเลือดของกัปตันอเมริกา ซึ่งทำให้เกิดการทดลองและผลิตภัณฑ์อันเป็นตำนานอย่าง เช่น ฮัลค์ ชายร่างใหญ่ตัวเขียวผู้มีพละกำลังมหาศาล
อย่างไรก็ตาม บุคคลหนึ่งที่สามารถคัดลอกเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ได้สำเร็จก็คือ ฮาเวิร์ด สตาร์ค พ่อของไอรอนแมน ผู้ก่อตั้งของชีลด์ และหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของโปรเจกต์นี้
โดยฮาเวิร์ด สตาร์ค ได้เข้าร่วมในแผนการกำเนิดใหม่เกือบตลอดกระบวนการทั้งหมด และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลมากมายระหว่างอับราฮัมอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นด้วยไอคิวอันปราดเปรื่องและความสำเร็จของกัปตันอเมริกา ฮาเวิร์ดจึงมีแนวโน้มมากที่สุดที่เขาจะคัดลอกสูตรเซรุ่มเอาไว้
ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้าสิ่งนี้จะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องจบชีวิตลงก็ตาม . . .
ซึ่งวันที่ฮาเวิร์ดต้องจบชีวิตลงก็คือวันที่ 16 ธันวาคม 1991 ฮาเวิร์ด สตาร์ค และภรรยา ถูกวินเทอร์โซลเยอร์ฆ่าตายขณะเดินทาง และวินเทอร์โซลเยอร์ก็แย่งชิงเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ห้าหลอดไปจากรถของฮาเวิร์ด
ซึ่งมันเป็นเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ที่ฮาเวิร์ดลอกเลียนแบบขึ้นมา!
“ใช่แล้ว . . . วินเทอร์โซลเยอร์! บัคกี้ บาร์นส์ ถูกไฮดราฉีดด้วยเซรุ่มอินฟินิตี้ ฟอร์มูล่า แต่ทหารคนอื่น ๆ ถูกฉีดด้วยเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์! วันที่ 16 ธันวาคม . . . ต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ!”
เอริครู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ สมองของเขาเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งราวกับย้อนกลับไปในวัยหนุ่มสาว
“แต่ฉันไม่สามารถฉีดมันเข้าไปโดยตรงได้! สภาพร่างกายในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะรับพลังมากขนาดนั้น ฉันจะต้องปรับปรุงมันใหม่ ชะลอการปล่อยพลังงาน และต้องปรับสมดุลตัวยา เพื่อให้มันทำให้ฉันอ่อนเยาว์ขึ้น พร้อมกำจัดผลข้างเคียงให้หมดไป . . .”
ถึงแม้ว่าแม็กนีโตจะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์โดยตรง แต่ด้วยไอคิวที่สูงล้ำ เขาเคยสร้างเครื่องมือที่สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ได้มาก่อน และเขายังเคยร่วมมือกับ บีสต์ หรือแฮงก์ และศาสตราจารย์เอ็กซ์ ในการพัฒนาเครื่องขยายคลื่นสมอง
นอกจากนี้หลังจากเปลี่ยนแปลงอนาคต แม็กนีโตก็เลิกสร้างความหายนะให้กับทั้งโลกอีกต่อไป ทำให้เขามีเวลาและโอกาสในการศึกษาและพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลดีต่อเขาในตอนนี้มาก!
“เตียงฟื้นฟูเครเดิล! ใช่ ฉันต้องมีมันด้วย และต้องใช้แหล่งกำเนิดรังสีแกมมาที่มีกำลังสูงและควบคุมได้ ตอนนี้ฉันต้องการตัวตนและเงิน . . . เงินจำนวนมหาศาล!”
เอริคดื่มกาแฟในถ้วยจนหมดรวดเดียว พร้อมกับซึมซับความขมของกาแฟที่ไหลลงไปในลำคอ ก่อนที่เขาจะสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ และพึมพำขึ้นมาด้วยความมั่นใจว่า “ยังมีเวลาอีกสามเดือน น่าจะเตรียมตัวได้ทัน”
. . .
หนึ่งเดือนต่อมา ณ เวียนนา ออสเตรีย
สโมสรเซนต์จอห์นได้ประกาศต้อนรับ ไวเคานต์ชาร์ลส์ แลนเซอร์ ขุนนางชาวโปแลนด์เข้าสู่สโมสร พร้อมแสดงความยินดีกับเขาที่ได้รับมรดกโบราณของบรรพบุรุษ
ว่ากันว่ามรดกที่ท่าน ไวเคานต์แลนเซอร์ ได้รับนั้นมีมูลค่ามหาศาล โดยมีการประมาณการคร่าว ๆ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านยูโร ยิ่งไปกว่านั้น ไวเคานต์แลนเซอร์ ยังมีอายุ 86 ปี โสดและไม่มีทายาท!
ซึ่งข่าวนี้ทำให้วงการขุนนางยุโรปปั่นป่วนทันที บรรดาหญิงสาวสุภาพสตรี รวมทั้งขุนนางที่แต่งงานแล้วต่างพากันมุ่งหน้ามาที่เวียนนาเพื่อหวังสร้างสัมพันธ์กับเขา ด้วยความคิดว่า ไวเคานต์แลนเซอร์ เป็นเสมือนคลังสมบัติเดินได้
ดังนั้นตราบใดที่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับเขาได้และรอให้เวลาผ่านไปอีกสักหน่อย พวกเขาก็อาจจะได้รับมรดกมหาศาลในที่สุด
“แน่นอนว่าเงินทำให้โลกหมุนไปข้างนอก!” เอริคยิ้มบาง ๆ พร้อมเข้าใจดีถึงความคิดของหญิงสาวเหล่านั้น
ชื่อจริงของแม็กนีโต คือ แม็กซ์ ไอเซนฮาร์ท เป็นชาวยิวที่ต้องเห็นแม่ของเขาถูกฆ่าตายที่ค่ายกักกันในเยอรมนี ต่อมาเขาก็ได้รับการฝึกฝนจาก เซบาสเตียน ชอว์ และถูกทารุณกรรมจนกลายเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน จนเขามีความเกลียดชังต่ออเมริกาอย่างลึกซึ้ง
ทำให้หลังจากที่เขาเติบโต เขาก็ได้เดินทางแก้แค้นและได้รับความลับของสหรัฐมากมาย เช่น สมบัติที่ซ่อนอยู่บนยอดเขาทิตลิส ในเทือกเขาแอลป์ และทองคำ เงิน เครื่องประดับที่อเมริกาฝังเอาไว้
ด้วยทรัพย์สมบัติพวกนี้ ทุกอย่างในอนาคตจะง่ายขึ้นมาก เพราะเงินและทองจะเป็นตัวเปิดทาง ไม่ว่าจะเป็นการสวมบทบาทเป็นไวเคานต์หรือลงหลักปักฐานในสโมสรเซนต์จอห์น ไม่มีอะไรที่เงินไม่สามารถซื้อได้ และถ้าหากยังมีอุปสรรค ก็แค่ใช้พลังกำจัดมันให้สิ้นซาก
ด้วยพลังจิตที่เอริคควบคุมได้ เขาจึงเข้าใจวิธีใช้พลังสนามแม่เหล็กในการควบคุมธาตุเหล็กในร่างกายมนุษย์เพื่อควบคุมการไหลเวียนเลือดให้ช้าลง จนกระทั่งสามารถควบคุมสมองมนุษย์ได้
แน่นอนว่าแม็กนีโตในจักรวาลธานอสอาจจะไม่รู้เทคนิคนี้ แต่เอริคจำได้ดีว่าแม็กนีโตในจักรวาลคู่ขนานเคยใช้วิธีนี้เพื่อควบคุมศาสตราจารย์เอ็กซ์, จีน เกรย์, สการ์เล็ต วิทช์, ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา, ไซคลอปส์ และไอซ์แมนในเวลาเดียวกัน หรือแม้กระทั่งบังคับให้สาร์เล็ต วิทช์ให้เต้นรำอย่างที่เขาชื่นชอบได้อีกด้วย . . .
. . .
สิบวันหลังจากนั้น
ไวเคานต์แลนเซอร์ ที่ทุกคนรอคอยได้เดินทางออกจากยุโรปมายังนิวยอร์ก เขาเข้าครอบครองที่ดินทางตอนใต้ของเมือง สร้างวิลล่าใหม่ และยังซื้ออาคารสำนักงานในเมืองนิวยอร์กที่ตั้งอยู่ในจุดห่างไกลพร้อมปรับปรุงใหม่ โดยตั้งชื่อบริษัทของเขาว่า ‘อลิซ อินดัสตรีส์’
. . .
ยี่สิบวันต่อมา
ไวเคานต์แลนเซอร์ ประกาศการตามหาลูกชายผู้ให้กำเนิดในสื่อหลักทั่วสหรัฐฯ โดยให้รางวัลมหาศาลถึง 10 ล้านดอลลาร์ แต่การประกาศนี้กับแปลกอย่างมาก เพราะมันไม่มีทั้งชื่อ อายุ หรือแม้แต่รูปลักษณ์ของบุตรชายคนนั้นเลย
ซึ่งการประกาศตามหาโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเช่นนี้ทำให้เหล่านักล่าเงินรางวัลและสื่อต่าง ๆ ถึงกับสบถ แต่เมื่อพวกเขาเห็นเงินรางวัลจำนวนมหาศาล พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเดินหน้าต่อ และกลายเป็นเหมือนการเล่นสนุกของชายชราร่ำรวยที่สื่อต่างประเทศต้องก้มหน้ารับด้วยความจำใจ
หลังจากเตรียมการเสร็จสิ้น เอริคจึงย้ายเข้าไปอยู่ใกล้บ้าน ฮาเวิร์ด สตาร์ค โดยคอยจับตาดูเขาและเตรียมการสร้างเตียงฟื้นฟูเครเดิล ซึ่งเป็นอุปกรณ์รักษาที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย ดร.เฮเลน โช และมีความสามารถในการเพาะเลี้ยงเซลล์เนื้อเยื่อ รักษามะเร็ง และฟื้นฟูส่วนที่บาดเจ็บของร่างกายได้ในระดับสูงสุด
ซึ่งอัลตรอนก็เคยใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างร่างกายจากไวเบรเนียม แต่มันกลับกลายเป็นการสร้างวิชั่นแทนโดยไม่คาดคิด
นอกจากนี้หลังจากย้อนกลับมาจากในอนาคตในตอนนั้น แม็กนีโตก็ใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลเตียงฟื้นฟูเครเดล โดยหวังจะลอกเลียนแบบวิชั่น และเปลี่ยนตัวเองให้มีร่างกายเป็นไวเบรเนียม ซึ่งจะทำให้เขามีอายุยืนยาวและเพิ่มพลังสนามแม่เหล็กของเขาไปได้ไกลกว่าเดิม แต่ในตอนนั้นเขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางรวบรวมไวเบรเนียมได้เพียงพอก่อนที่ตัวเขาจะเสียชีวิตลงอย่างแน่นอน
“น่าเสียดาย ไวเบรเนียมที่ฉันสะสมหายไปกับการเดินทางข้ามจักรวาลหมดแล้ว ถ้าหากฉันมีไวเบรเนียมเพียงพอ ฉันก็น่าจะสามารถทำให้เตียงฟื้นฟูเครเดิลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกขั้นได้แล้วแท้ ๆ เชียว”
เอริคถอนหายใจพร้อมนึกถึงสิ่งที่แม็กนีโตทุ่มเทเวลาหลายสิบปีเพื่อรวบรวม
“ตอนนี้การหาไวเบรเนียมอาจจะไม่ใช่เรื่องยากเกินไป ฉันจำได้ว่าเคยซื้อจากพ่อค้าอาวุธคนหนึ่ง . . . เขาชื่ออะไรนะ?”
เอริคพยายามระลึกถึงชื่อพ่อค้า แต่ไม่สำเร็จ ทำให้เขาได้แต่ยิ้มอย่างเศร้า ๆ พลางเคาะหัวตัวเองเบา ๆ “ดูท่าฉันจะแก่แล้ว สมองเลยไม่ค่อยทำงานเท่าไหร่ ก่อนอื่นคงต้องหาทางสร้างเตียงฟื้นฟูให้เสร็จก่อน”
โปรดติดตามตอนต่อไป …
