ตอนที่ 30
ตอนที่ 30
เมืองมหาวิทยาลัยซ่างตู
ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร และห่างจากบ้านของหลี่เหิง 30 กิโลเมตร กินพื้นที่กว่า 30 ตารางกิโลเมตร มีมหาวิทยาลัยมากกว่า 20 แห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยซ่างตู ซึ่งมีนักศึกษากว่า 200,000 คน
เป้าหมายของหลี่เหิงในครั้งนี้ คือ Weijuxuan สาขาในเมืองมหาวิทยาลัย
เขากำลังจะดูว่า Weijuxuan ขายอะไรบ้าง จากนั้น จะเลียนแบบ แล้วขายตัดราคา
สิบนาทีต่อมา หลี่เหิงก็มาถึงเมืองมหาวิทยาลัย
มองผ่านหน้าต่างรถ เห็นนักศึกษาเดินกันขวักไขว่ เต็มไปด้วยบรรยากาศของวัยรุ่น
หลี่เหิง อดนึกถึงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย และเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ได้ติดต่อกันมาห้าหกปี ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากจอดรถ หลี่เหิงก็เดินเข้าไปในร้าน Weijuxuan
เขาหาที่นั่ง แล้วดูเมนู
เขาสั่งเมนูเด็ดมาลองชิมทุกอย่าง สุดท้ายก็ส่ายหัว
'รสชาติธรรมดามาก!'
'แบบนี้ เปิดร้านได้ตั้งร้อยกว่าสาขา ได้ยังไง?'
Weijuxuan มีอาหารว่างมากกว่า 30 ชนิด บางครั้งก็มีเมนูใหม่ๆ วางขาย ระดับของพ่อครัว แค่ระดับสาม
ฝีมือแค่นี้ จะทำอาหารอร่อยได้ยังไง?
เขามองไปรอบๆ แล้วสังเกตเห็นป้ายแนะนำเชฟที่ติดอยู่บนผนัง
เขาหรี่ตา อ่านข้อความบนป้าย แล้วหัวเราะเยาะ
'นี่มัน ราชันย์พ่อครัวแห่งซิงไห่ นี่ คงไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำเรื่องลับๆ ล่อๆ สินะ'
หลี่เหิง หัวเราะเยาะ ลุกขึ้น จ่ายเงิน แล้วเดินออกจากร้าน
เขาไม่ได้ไป Taotiege ด้วยซ้ำ ด้วยฝีมือระดับนั้น คงไม่อร่อยเท่าไหร่หรอก
หลี่เหิง เริ่มเดินสำรวจเมืองมหาวิทยาลัย
เขากำลังมองหาทำเลที่เหมาะสม ด้วยเงินเก็บ 100,000 หยวน คงไม่พอเช่าร้านดีๆ ในเมืองมหาวิทยาลัย
เขาจึงเล็งร้านเล็กๆ
ร้านแรกที่เขาสนใจ คือ ร้านเล็กๆ ขนาดห้าหกตารางเมตร
ร้านแบบนี้ ค่าเช่าแค่เดือนละไม่กี่พันหยวน แต่เขาอยากจะขายแข่งกับ Weijuxuan ดังนั้น เมนูต้องหลากหลาย ร้านเล็กขนาดนั้น คงไม่พอ
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน หลี่เหิง จึงโทรไปเบอร์ที่ติดอยู่หน้าร้าน ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 20 ตารางเมตร
'สวัสดีครับ ร้านนี้ให้เช่าต่อมั้ยครับ?' หลี่เหิงถาม
เสียงผู้หญิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว 'ใช่ค่ะ ร้านของฉันจะหมดสัญญาในอีกหนึ่งปี ถ้าสนใจ ลดราคาให้พิเศษเลยค่ะ'
หลี่เหิง สัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นของอีกฝ่าย
อีกฝ่ายคงจะลดราคาให้เยอะแน่ๆ แต่หลี่เหิงคิดว่า ตราบใดที่ราคาอยู่ในงบ เขาก็โอเค
'หนึ่งปี ก็นานเหมือนกันนะ แล้วราคาเท่าไหร่?' หลี่เหิงถาม
'ตอนฉันเช่า เดือนละ 12,000 หยวน ถ้าสนใจจริงๆ ลดให้เหลือเดือนละ 10,000 หยวน! ว่าไงคะ?'
หลี่เหิง คิดคำนวณในใจ
ค่าเช่าที่ในเมืองมหาวิทยาลัยแพงมาก เดือนละ 10,000 หยวน ก็ถือว่าหนักอยู่เหมือนกัน
หลี่เหิง ไม่ได้ตอบตกลงทันที
เขากลัวโดนหลอก
ค่าเช่าหนึ่งปี คงไม่มีใครจ่ายทีเดียว 10,000 หยวน แต่ถ้าจ่ายล่วงหน้าครึ่งปี ก็ 60,000 หยวน เขาคงไม่เหลือเงินทุนมากนัก
ถ้าโดนหลอก เขาจะไม่เสียใจเรื่องเงิน แต่จะเสียใจที่โดนหลอก เพราะการโดนหลอก ทำให้เขาดูโง่ เหมือนกับตัวเองไม่มีวุฒิภาวะ ไม่ทันคน หลี่เหิงไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้นเอาเสียเลย
เมื่อเห็นหลี่เหิงเงียบ หญิงสาวจึงพูดต่อ 'กลัวโดนหลอกเหรอคะ?' น้ำเสียงของเธอฟังดูจริงใจ ไม่มีพิรุธ
หลี่เหิงพยักหน้า 'พูดตรงๆ ผมก็กังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน' หลี่เหิงยอมรับตรงๆ เพราะคิดว่าการแสดงความกังวลออกไปบ้าง อาจทำให้อีกฝ่ายลดความระแวง และยอมเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้น
'เข้าใจค่ะ' หญิงสาวพูด 'จริงๆ ฉันเข้าใจที่คุณคิดนะ ฉันก็เคยโดนหลอกมาหลายครั้ง โดนโกงค่ามัดจำบ้างล่ะ โดนยึดเงินประกันโดยไม่มีเหตุผลบ้างล่ะ เรื่องแบบนี้มันเจ็บใจจริงๆ แต่ถ้ากลัวโดนหลอก ก็จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือนได้นะคะ บอกตรงๆ ฉันร้อนเงิน ไม่งั้นคงไม่ปล่อยเช่าหรอก' หญิงสาวเล่าประสบการณ์ตรง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และอธิบายเหตุผลที่ต้องการปล่อยเช่า ซึ่งฟังดูสมเหตุสมผล
หลี่เหิง รู้สึกสะดุดใจกับคำพูดนี้ เพราะมันตรงกับความต้องการของเขาพอดี หลี่เหิงไม่อยากจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าก้อนใหญ่ เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะทำธุรกิจได้กำไร การจ่ายค่าเช่ารายเดือน ทำให้เขามีความยืดหยุ่นในการบริหารเงินทุน
ความกังวลที่สุดในการเช่า คือ การจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าเยอะๆ เพราะมันทำให้รู้สึกไม่มั่นคง แถมยังมีปัญหาเรื่องเงินประกันอีก หลี่เหิงเคยได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการเช่า บางคนโดนเจ้าของบ้านยึดเงินประกันโดยไม่มีเหตุผล บางคนโดนโกงค่ามัดจำ เขาไม่อยากเจอเรื่องแบบนั้น
หลี่เหิงกำลังจะถามเรื่องเงินประกัน หญิงสาวก็พูดขึ้นมา 'เงินประกัน จ่ายแค่เดือนเดียวก็พอค่ะ ถ้าในร้านมีอะไรที่คุณต้องการ ก็ขายให้ในราคาถูกได้เลย' เธอเสนอเงื่อนไขที่น่าสนใจ เพื่อจูงใจหลี่เหิง
หลี่เหิง มองเข้าไปในร้านผ่านหน้าต่างกระจก
ตู้เย็น โต๊ะ เก้าอี้ มีครบ ดูเหมือนร้านนี้จะเคยเป็นร้านขายบาร์บีคิวมาก่อน หลี่เหิงคิดในใจ
ถึงแม้จะสงสัยว่าทำไมถึงเลิกกิจการ แต่หลี่เหิงก็ไม่ได้ถาม เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองสนใจร้านนี้มาก เพราะอาจทำให้เสียเปรียบในการต่อรอง
'ตกลงครับ!' หลี่เหิงตอบรับ ด้วยท่าทีเรียบเฉย
'ตอนนี้คุณอยู่ไหนคะ ฉันจะได้ไปหา' หญิงสาวถาม
'อยู่หน้าร้านครับ' หลี่เหิงตอบ
'รอห้านาทีนะคะ' หญิงสาวพูดจบ ก็วางสายไป
หลี่เหิง มองโทรศัพท์ เงียบไปครู่หนึ่ง เขาครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พยายามวิเคราะห์ว่าหญิงสาวคนนี้โกหกหรือไม่
หัวใจเขาเต้นแรง เขารู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไรไป แต่ก็รู้สึกตื่นเต้น ของดีแบบนี้ ไม่น่าจะตกมาถึงมือฉัน หลี่เหิงคิดว่า การที่หญิงสาวคนนี้เสนอเงื่อนไขที่ดีเกินจริง อาจเป็นกับดัก แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง เขาก็จะได้ร้านในราคาถูก
ไม่ถึงห้านาที หญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสีชมพู มาถึง เธอแต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ ดูทะมัดทะแมง
หญิงสาวมีผมสีน้ำตาล รูปร่างสูง ผิวขาว แต่ใต้ตาคล้ำ แสดงว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ หลี่เหิงสังเกตเห็น หญิงสาวมีท่าทางเหนื่อยล้า เหมือนคนมีเรื่องกังวลใจ
หลี่เหิง ยกมือขึ้น เพื่อให้หญิงสาวเห็น
หญิงสาวรีบจอดรถ แล้วหยิบกุญแจออกมา 'สวัสดีค่ะ เข้าไปคุยในร้านกันนะคะ' เธอยิ้มอย่างเป็นมิตร
หลี่เหิงพยักหน้า แล้วเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้าน
หลังจากเปิดแอร์ ทั้งคู่ก็นั่งลง หญิงสาวหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋า 'นี่คือสัญญาเช่าที่ทำกับเจ้าของบ้าน นี่เบอร์โทรเจ้าของบ้าน ถ้าไม่เชื่อใจ ก็โทรไปเช็คได้นะคะ' เธอยื่นเอกสารให้หลี่เหิง พร้อมกับย้ำว่า สามารถตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความมั่นใจ
หลี่เหิง เริ่มอ่านเอกสารอย่างละเอียด
ด้วยค่าสถานะจิตใจ 20 คะแนน ความจำ ความเร็วในการอ่าน ความเข้าใจ ฯลฯ เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เขาสามารถอ่านสัญญาและข้อมูลต่างๆ ที่ปกติต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ภายในสิบนาที โดยไม่พบปัญหาใดๆ หลี่เหิง ตรวจสอบทุกอย่างอย่างรอบคอบ ตั้งแต่ข้อความในสัญญา ตัวเลข วันที่ ลายเซ็น เขาไม่ปล่อยให้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หลุดรอดสายตา
หลี่เหิง ไม่ได้โทรหาเจ้าของบ้าน เขาคิดว่า การโทรไปอาจทำให้เกิดปัญหา เขาไม่อยากให้เจ้าของบ้านรู้ เพราะอาจทำให้เรื่องยุ่งยาก และด้วยค่าสถานะจิตใจ 20 คะแนน สัญชาตญาณของเขาแม่นยำมาก เขาสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายโกหกหรือไม่ หลี่เหิง เชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเอง มากกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริง
'ไม่มีปัญหาครับ' หลี่เหิงพูดอย่างใจเย็น
หลัวหลัวหยา มองชายหนุ่มที่ดูนิ่งเฉย เธอสูดหายใจลึก 'งั้น... ตกลงเช่ามั้ยคะ?' เธอถามด้วยความกังวล
หลี่เหิงเงียบไป เขาแกล้งทำเป็นลังเล เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาต้องการร้านนี้มาก
ครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้า
'เช่าครับ!' หลี่เหิงพูดเบาๆ
'เยี่ยมเลยค่ะ!' หลัวหลัวหยา ดีใจจนแทบกระโดด 'ฉันพิมพ์สัญญาไว้แล้ว จะเซ็นเลยมั้ยคะ?' เธอหยิบสัญญาอีกฉบับออกมา
หลี่เหิงพยักหน้า เขามองหลัวหลัวหยา อย่างพิจารณา
ด้วยค่าสถานะจิตใจ 20 คะแนน เขารับรู้ถึงอารมณ์ของคนอื่นได้ ยิ่งคนที่อารมณ์ไม่มั่นคง เขายิ่งสัมผัสได้ชัดเจน และเขามั่นใจว่า หลัว หลัวหยา ไม่ได้โกหก หลี่เหิง รู้สึกได้ถึงความร้อนรน ความกังวล และความหวัง ในแววตาของเธอ มันเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อน แต่ไม่มีความรู้สึกผิด หรือ พยายามปกปิด หลี่เหิง มั่นใจว่าเธอไม่ได้โกหก
เขาเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง
'เซ็นสัญญาเลยครับ!' หลี่เหิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น