ตอนที่แล้วตอนที่ 2 อิลลูมินาติทั้งหก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 นักเดินทางข้ามมายังจักรวาลมาร์เวล!

ตอนที่ 3 ทางเชื่อมระหว่างสองจักรวาล!


ตอนที่ 3 ทางเชื่อมระหว่างสองจักรวาล!

“สตาร์ค! ตอนนี้ล่ะลุยเลย!” มิสเตอร์แฟนแทสติกตะโกนขึ้น

ทำให้สตาร์คที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รอช้า ยิงขีปนาวุธจากไหล่พร้อมปล่อยลำแสงเลเซอร์จากแขนทั้งสองข้างเข้าใส่เอริคอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนในขณะนี้การโจมตีด้วยคลื่นเสียงของแบล็คโบลท์ก็ยังไม่หยุดเช่นกัน เช่นเดียวกับการโจมตีด้วยเวทมนตร์ของด็อกเตอร์สเตรนจ์ที่สร้างร่างโคลนของตัวเองออกมาหลายร้อยร่าง โดยแต่ละร่างนั้นร่ายเวทมนตร์ทรงพลังโจมตีใส่เอริคอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น ขีปนาวุธ เลเซอร์ เวทมนตร์ล้วนพุ่งเข้าสู่เอริคเป็นเป้าหมายเดียวกัน!

ตูม!!!!

เสียงระเบิดอย่างรุนแรงดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว กำแพงและพื้นดินพิเศษของฐานได้รับความเสียหายไปทั่ว อุปกรณ์ต่าง ๆ ปลิวลอยขึ้นสู่อวกาศ จนด็อกเตอร์สเตรนจ์ต้องรีบเปิดใช้งานมิติกระจกเพื่อแยกทุกคนจากอันตรายจากแรงระเบิด

“ยังมีปฏิกิริยาสนามแม่เหล็ก! เพิ่มไฟเข้าไปอีก!” มิสเตอร์แฟนแทสติกที่พกอุปกรณ์ตรวจจับมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ศูนย์กลางการระเบิด และรีบตะโกนเตือนคนอื่น ๆ ทันที

ทันใดนั้นสตาร์คก็ยิงเปลวไฟออกมาจากเครื่องปฏิกรณ์อาร์ค ขณะที่ด็อกเตอร์สเตรนจ์เริ่มท่องคาถาเรียกเปลวไฟเวทมนตร์เพิ่มเพิ่มพลังในการโจมตี

ส่วนแบล็คโบลท์นั้นก็หยุดใช้คลื่นเสียงของตัวเองเพื่อหลีกทางให้กับคนอื่น ๆ เพราะด้วยความรู้ของเขาอุณหภูมิสูงสามารถทำลายพลังสนามแม่เหล็กได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เสี่ยงเข้ามาขัดเปลวไฟที่เพื่อนร่วมทีมรวมตัวกันสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก

“สนามแม่เหล็กกำลังอ่อนลงแล้ว! เดี๋ยวฉันจะบีบอัดมันต่อเอง!”

ร่างของมิสเตอร์แฟนแทสติกเริ่มยืดออกจากกันอย่างรวดเร็วกลายเป็นแผ่นบางโอบรอบเอริคและเปลวไฟไว้อย่างมิดชิด เหลือเพียงช่องเล็ก ๆ ที่ให้เพื่อนร่วมทีมเสริมไฟเข้าไป

“เอริค . . .” ศาสตราจารย์เอ็กซ์มองเพื่อนของตัวเองด้วยสายตาหนักใจ แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าช่วยเหลือเพื่อนของตัวเองได้

ตูม!!

ทันใดนั้นคลื่นพลังแม่เหล็กไฟฟ้าสีฟ้าอ่อนก็ระเบิดออกจากตัวเอริค ส่งแรงกระแทกจนมิสเตอร์แฟนแทสติกเสียรูปร่าง ส่วนด็อกเตอร์สเตรนจ์ และ สตาร์คก็ถูกผลักกระเด็นออกไป

“นั่นมันผ้าคลุมไวเบรเนียม!” สตาร์คตะโกนด้วยความตกใจ

“ฉันไม่ได้มีแค่ผ้าคลุมไวเบรเนียมหรอกนะ ฉันยังมีที่ถุงเท้ากับพื้นรองเท้าด้วยนะที่ทำมาจากไวรเบรเนียม นายอยากได้ไหม?” เอริคยิ้มขึ้นมาอย่างกวนประสาท ทำให้สตาร์คยิ่งโกรธมากขึ้น

“เอาล่ะทุกคน พอกันแค่นี้เถอะ มันถึงเวลาที่ฉันจะไปแล้ว!”

เอริคยกนิ้วเบา ๆ ก่อนยิงอนุภาคโลหะเล็ก ๆ ใส่มิสเตอร์แฟนแทสติกจนหมดสติไป จากนั้นเขาก็ควบคุมสนามแม่เหล็กจับตัวแบล็คโบลท์ให้ลอยขึ้น

แบล็คโบลท์พยายามจะเปิดปากเพื่อปล่อยคลื่นเสียงโจมตีอีกครั้ง แต่รอบตัวของเขาก็ถูกกั้นด้วยพลังสนามแม่เหล็กที่ทำให้เขาไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้เกิดระยะสามเมตร

จากนั้นเอริคก็หันไปมองสตาร์ค และใช้แรงสนามแม่เหล็กเข้าปะทะหัวสมองของสตาร์คโดยตรงจนหมดสติในทันที ท่อนาโนคาร์บอนแม้จะต้านสนามแม่เหล็กได้ แต่ถ้าหากไม่มีการปกป้องจากเกราะเหล็ก ไอรอนแมนก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

จากยักษ์ใหญ่ทั้งหกแห่งอิลลูมินาติ ตอนนี้เหลือเพียงด็อกเตอร์สเตรนจ์กับศาสตราจารย์เอ็กซ์ที่ยังยืนหยัดอยู่เท่านั้น

ทันใดนั้นเอริคก็ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้มิสทีคที่ถูกศาสตราจารย์เอ็กซ์ควบคุมอยู่ก็ได้รับอิสระอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะรีบหยิบเข็มเล็ก ๆ แทงเข้าไปที่คอศาสตราจารย์เอ็กซ์ ทำให้พลังจิตที่ทรงพลังของของอีกฝ่ายจางหายไปเหมือนกับกระแสน้ำ

“ด็อกเตอร์สเตรนจ์ ฉันยืนยันได้ว่าฉันไม่ได้มีเจตนาเป็นศัตรูกับอิลลูมินาติ” เอริคพูดพลางจัดแขนเสื้อให้เรียบร้อย “จักรวาลนี้กำลังจะเจอวิกฤตครั้งใหญ่ แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถทำอะไรกับมันได้”

“ไม่คิดเลยว่านายจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้!” ด็อกเตอร์สเตรนจ์มองเอริคอย่างระมัดระวัง

แน่นอนว่าด็อกเตอร์สเตรนจ์ยังมีแผนสำรองอยู่ เพราะเวทมนต์นั้นเป็นสิ่งลึกลับที่คนธรรมไม่สามารถเข้าถึงได้ ตราบใดที่เขาสามารถจ่ายสิ่งแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ลังเลที่จะใช้มันออกมา

“ฉันไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก!” เอริคโบกมือเล็กน้อย “ฉันแค่อยากเอาตัวรอด! พวกเราไม่มีทางเอาชนะเขาได้ ดังนั้นฉันจึงเลือกที่หนีไปจากที่นี่”

ด็อกเตอร์สเตรนจ์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างขึ้นทันที “นายกำลังจะ . . .”

“ใช่!” เอริคยก ‘อาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล’ ในมือขึ้นมาตรงหน้า “แน่นอนว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะเขาได้ เพราะนี่เป็นเพียงแบบจำลองที่รีดสร้างขึ้น และมันใช้งานได้เพียงครั้งเดียว แต่ถ้าหากมันเป็นของจริงล่ะก็ . . . บางทีนายอาจจะมีโอกาสเอาชนะเขาได้!”

ทุกคนที่ยังมีสติอยู่ต่างเงียบลงทันที และรับฟังคำพูดของเอริคด้วยความคิดมากมายที่ผสมปนเปอยู่ในหัว

ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งนามอร์ก็ยังคงคำรามด้วยความโกรธและสบถอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นกัน

แน่นอนว่าเอริคไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย และหยิบวัตถุอีกชิ้นออกจากแขนเสื้อ วัตถุชิ้นนี้มันมีขนาดเล็กมากและส่องแสงสีฟ้าอ่อนเล็ก ๆ ออกมาจากด้านในตลอดเวลา

“ลาก่อนทุกคน!” เอริคบีบชิ้นส่วนเล็ก ๆ นั้นให้แตกเป็นเสี่ยง พร้อมกับแสงสีฟ้าที่แผ่กว้างก่อตัวเป็นกำแพงอิฐสีน้ำเงินอยู่ตรงหน้าเขา

“นี่มันคอสมิคคิวบ์ลูกบาศก์จักรวาล และกำแพงกั้นระหว่างจักรวาล!” ด็อกเตอร์สเตรนจ์อุทานด้วยความตกใจ

“ใช่ แต่น่าเสียดายที่มันเป็นแค่เศษเล็ก ๆ และใช้งานได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”

เอริคส่ายหัวอย่างเสียดาย และควบคุมมิสเตอร์แฟนแทสติกให้ลอยมาใกล้ ‘อาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล’ ในมือ และชี้ไปที่กำแพงอิฐสีน้ำเงิน

“ฉลาดนักนะที่ผูกยีนของนายกับ อาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล ให้มีแค่ยสบที่ใช้งานได้ น่าเสียดายที่นายคิดง่ายเกินไป!”

หลังจากพูดจบเอริคก็ควบคุมร่างของมิสเตอร์แฟนแทสติกให้กดสวิตช์ของ อาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล

ทันใดนั้นพลังงานมหาศาลและลึกลับก็พุ่งเข้าหากำแพงอิฐสีน้ำเงิน และเมื่ออาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาลทำหน้าที่ของมันสำเร็จ มันก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่านหายไปทันที

ในขณะเดียวกันกำแพงอิฐสีน้ำเงินก็เริ่มแตกร้าวออกเป็นชิ้น ๆ แต่ไม่มีเศษก้อนอิฐที่ปลิวกระจายเลยแม้แต่น้อย

เพราะเดิมทีมันก็ไม่ใช่กำแพงอิฐธรรมดาอยู่แล้ว แต่เป็นกำแพงกั้นระหว่างจักรวาลคู่ขนานสองแห่ง ดังนั้นความแข็งแกร่งของมันจึงสูงเกินกว่ากฎเกณฑ์ใด ๆ ในจักรวาล

ซึ่งในจักรวาลตามปกติแล้วมันแทบจะไม่มีใครสามารถมองเห็นการดำรงอยู่ของมันได้ และการทำลายมันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย มีเพียงพลังของคอสมิคคิวบ์ที่เป็นพลังที่อยู่เหนือจักรวาลเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนมันให้เป็นกำแพงอิฐสีน้ำเงินที่มองเห็นได้

ในทำนองเดียวกัน ถึงแม้จะมองเห็นมันได้ แต่กำแพงนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำลายได้ง่าย ๆ แม้แต่ในยุครุ่งเรืองของ กาแล็คตัส ผู้กลืนกินจักรวาล และมีพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถปกครองจักรวาลได้ ก็ยังไม่สามารถสร้างรอยบนกำแพงนี้ได้

ดังนั้นมันจึงมีเพียง อาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล ซึ่งเป็นพลังเหนือจักรวาลที่สามารถทำลายมันได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว

กำแพงอิฐสีน้ำเงินค่อย ๆ แยกตัวออกจากกันกลายเป็นช่องทางหลากสีที่ค่อย ๆ เสถียรขึ้น และเชื่อมจักรวาลทั้งสองเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก โดยด้านในนั้นมีพลังและข้อมูลมหาศาลที่กำลังไหลเวียนระหว่างจักรวาลทั้งสองฝั่งอย่างต่อเนื่องสร้างผลกระทบมหาศาล

แต่เอริคก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ และจะต้องรีบเข้าไปด้านในโดยเร็วที่สุด!

เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น ไม่ได้ยิน หรือไม่สามารถสัมผัสสิ่งใดได้ แต่เขาก็รับรู้ได้ว่ากำลังมีพลังอันยิ่งใหญ่กำลังรบกวนช่องทางนี้อยู่ . . .

พลังที่ไม่ยอมให้จักรวาลทั้งสองเชื่อมต่อกัน!!

“โอเค ทุกคน ลาก่อน! ฉันจะไปก่อนละ หลังจากนี้จะทำอะไรก็เชิญตามสบายเลย!” เอริคหัวเราะลั่นก่อนจะก้าวเดินเข้าไปในช่องทางเชื่อมระหว่างสองจักรวาลตรงหน้า

โปรดติดตามตอนต่อไป …

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด