ตอนที่ 18
ตอนที่18
เมื่อพิธีกรพูดจบผู้เข้าแข่งขันทุกคนก็เดินเข้าสู่สนามแข่งขัน
หลี่เหิงเดินเข้าไปใน"โซนผู้เข้าแข่งขัน"พร้อมบัตรเชิญ
เขาได้รับบัตรเชิญจากเชฟหวังจึงได้เข้ามาในโซนนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก"โซนแข่งขันสำหรับบุคคลทั่วไป"ที่ดูวุ่นวาย
ในโซนบุคคลทั่วไปไม่มีกรรมการมีแค่ผู้ชม10คนที่จะคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน400คนให้เหลือ10คนเพื่อเข้ารอบต่อไป
แต่หลี่เหิงไม่ต้องไปแข่งในโซนนั้น
สนามแข่งขันจัดขึ้นในพื้นที่โล่งกลางศูนย์ประชุมฯ
มีเตาตั้งเรียงราย400-500เตา
หลี่เหิงเดินไปที่เตาหมายเลข18ของเขา
บนโต๊ะมีวัตถุดิบเตรียมไว้ทั้งผักเนื้อสัตว์หลายสิบชนิด
หลี่เหิงมองไปที่เตาอื่นๆพบว่าทุกคนมีวัตถุดิบเหมือนกัน
"ยุติธรรมดี"หลี่เหิงคิด
เขามองไปรอบๆสนามแข่งขันมีรั้วกั้นระหว่างผู้เข้าแข่งขันกับผู้ชม มีคนดูอยู่ด้านนอกหนาแน่นมาก
น่าจะมีเป็นพันคน
ไม่ใช่แค่คนดู แต่ยังมีนักข่าวสื่อมวลชนทั้งจากสำนักข่าวและช่องYoutubeที่มาร่วมงานเพื่อเกาะกระแส
การแข่งขันทำอาหารที่มีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนแบบนี้ถือเป็นงานใหญ่ในเมืองใหญ่อย่างเฉิงตู
ถึงแม้ผู้เข้าแข่งขันจะไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายแต่เงินรางวัลก็ดึงดูดใจมีเชฟชื่อดังหลายคนเข้าร่วม
ตอนนี้เชฟ10อันดับแรกบางคนกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบ บางคนมองไปที่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
พวกเขามองว่าเชฟคนอื่นๆเป็นแค่ตัวประกอบไม่คู่ควรเป็นคู่แข่ง
หลี่เหิงไม่ได้สนใจใคร ตั้งใจเตรียมวัตถุดิบของตัวเอง
ทันใดนั้นเสียงมีดกระทบเขียงก็ดังขึ้น เชฟในชุดขาวต่างก็เริ่มลงมือ เสียง"ต๊อกๆๆๆ"ดังเป็นจังหวะ ไฟลุกโชน เปลวไฟสีฟ้าสะท้อนกับแววตาที่มุ่งมั่นของเหล่าเชฟ
ในห้องโถงผู้ชมนั่งกันเต็มโบกธงป้ายไฟส่งเสียงเชียร์เชฟที่ตัวเองชื่นชอบ
ทุกครั้งที่เชฟโชว์ลีลาหรือเทคนิคการทำอาหารก็จะมีเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ดังกึกก้อง
กลิ่นควันและน้ำมันอบอวลไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมหมดสนุก กลับยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจ
ข้างสนามมีกล้องความละเอียดสูงคอยบันทึกภาพ
ทีมงานวิ่งวุ่นคอยดูแลความเรียบร้อย
บนเวทีกรรมการเชฟชื่อดังระดับประเทศจับตามองผู้เข้าแข่งขันทุกคนอย่างตั้งใจ บางครั้งก็พยักหน้าบางครั้งก็ส่ายหน้าคอยประเมินผลงานของผู้เข้าแข่งขัน
บนโต๊ะกรรมการ
เชฟทั้ง6คนมองดูการแข่งขัน บางคนพยักหน้าบางคนส่ายหน้า
หลิวคุน เชฟจากภัตตาคารติ่งเซิ่งได้รับเชิญมาเป็นกรรมการทุกปีด้วยค่าตัวสูงลิ่ว
ตอนนี้เขากำลังส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง
"ปีนี้ผู้เข้าแข่งขันฝีมือธรรมดามาก สู้ปีที่แล้วไม่ได้"
กรรมการอีกคนชื่อหวังเจิ้นเจ๋อ เป็นเชฟที่ได้รับเชิญมาจากต่างจังหวัด เขาพยักหน้าเห็นด้วย
"ยกเว้น10คนแรกที่พอใช้ได้ ที่เหลือก็แค่"ตัวประกอบ""
สิ้นเสียงกรรมการอีก4คน พวกเขาก็ก็พากันส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง
"ปีที่แล้วมีเชฟต่างชาติที่ฝีมือสูสีกับผม แต่ปีนี้ไม่มีเชฟเก่งๆเลย พอดูวิธีใช้มีดและเทคนิคของพวกเขาแล้วผมแทบจะทนไม่ไหวอยากลงไปทำให้ดูเองเลย!"
"ช่างเถอะ เราก็แค่กรรมการ ทำตามหน้าที่ไม่ต้องคิดมาก"หลิวคุนพูดพลางยกแก้วน้ำชาขึ้นจิบ
"ใช่ รับเงินมาก็ทำงานไป"หวังเจิ้นเจ๋อเห็นด้วยเขาเหลือบมองไปที่เชฟหมายเลข7ที่กำลังสาละวนอยู่กับการแล่ปลา"แต่ปีนี้มีแต่ปลาซิวปลาสร้อย ไม่มีปลาวาฬแบบปีที่แล้วเลยนะ"
กรรมการมองหน้ากันหัวเราะพวกเขารู้ดีว่าการมาเป็นกรรมการที่นี่ก็แค่"รับจ้าง"ทำงาน ไม่ได้จริงจังอะไรมากมายบางคนถึงกับแอบรับเงินใต้โต๊ะจากผู้เข้าแข่งขันบางคนเพื่อให้คะแนนพิเศษ
หลายคนมองไปที่เชฟ10อันดับแรกซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเชฟจากภัตตาคารโรงแรมชื่อดัง แต่งกายด้วยชุดเชฟสีขาวสะอาดตาดูโดดเด่นกว่าเชฟคนอื่นๆ
"ราชาเชฟปีนี้ต้องมาจาก10คนนี้แหละ"กรรมการคิด
"ไม่มีทางผิดพลาด!"
ตอนนี้
หลี่เหิงกำลังตั้งใจทำอาหาร
เขาไม่ได้เลือกทำอาหารที่ดูหรูหราแบบ"ฟัวกราส์ราดซอสไวน์แดง"หรือ"กุ้งมังกรอบชีส"ที่ต้องใช้เทคนิคและขั้นตอนที่ซับซ้อนแต่เลือกทำบะหมี่โดยใส่ไข่แดงและเนื้อปลาลงไปในแป้งนวดให้เข้ากัน
"ไข่แดงจะช่วยเพิ่มความเหนียวนุ่มให้เส้นบะหมี่ ส่วนเนื้อปลาจะช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม"หลี่เหิงคิด"แต่ต้องเลือกปลาที่มีเนื้อแน่น ไม่มีก้างเยอะ เช่นปลาเก๋าหรือปลาหิมะ"
จากนั้นก็นำก้างปลาไปต้มน้ำซุป
"ก้างปลามีรสหวาน ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้น้ำซุป"หลี่เหิงใส่รากผักชีพริกไทยและขิงลงไปในหม้อ"แต่ต้องเคี่ยวไฟอ่อนๆนานๆเพื่อดึงรสชาติออกมาให้หมด"
เมนูง่ายๆแต่ทำยากมาก
หัวใจสำคัญคืออัตราส่วนของส่วนผสม และเทคนิคการนวดแป้งต้องไม่แข็งหรือนิ่มเกินไปเพื่อดึงรสชาติและกลิ่นหอมของวัตถุดิบออกมาให้ได้มากที่สุด
คนอื่นอาจจะทำยาก รสชาติก็ขึ้นอยู่กับดวง แต่สำหรับหลี่เหิงที่มีทักษะการทำอาหารระดับ4มันง่ายมาก
ลีลาการนวดแป้งของเขาพลิ้วไหวราวกับกำลังร่ายรำ เขายังนำ"พลังไทเก็ก"มาประยุกต์ใช้ยิ่งทำให้ดูงดงาม
"การเคลื่อนไหวของไทเก็กช่วยให้การนวดแป้งเป็นไปอย่างนุ่มนวลสม่ำเสมอเส้นบะหมี่ที่ได้จะมีความเหนียวนุ่มกำลังดี"หลี่เหิงนวดแป้งไปพลางคิดถึง"หลักการไทเก็ก"
แต่เตาของเขาอยู่ด้านหลังคนเลยมองไม่ค่อยเห็น
จนกระทั่งเขาเริ่มใช้มีดหั่นเส้นบะหมี่ด้วยทักษะที่ดูเหมือนช้าแต่เร็ว ผู้ชมตาไวก็สังเกตเห็น
"ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นใช้มีดแปลกๆ"ผู้ชมที่อยู่ใกล้ๆเตาหมายเลข18กระซิบกระซาบกัน
โจวหลิง บล็อกเกอร์สาวที่กำลังถือกล้องถ่ายทอดสดอยู่ก็ตาโต
"ว้าว! ดูหมายเลข18สิ ใช้มีดเก่งมาก!"โจวหลิงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
เสียงของโจวหลิงดึงดูดคนรอบข้างให้หันไปมองเตาหมายเลข18
ชายหนุ่มถือมีดทำครัวในมือยกขึ้นแล้วฟันลงอย่างรวดเร็วแต่กลับให้ความรู้สึก"ช้า"อย่างน่าประหลาด ทักษะการใช้มีดของเขาผสาน"ความเร็ว"และ"ความเชื่องช้า"เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวเหมือนกับ"ไทเก็ก"ที่เน้นความสมดุลหยินหยาง
"วิชามีดแปลกจัง เร็วและช้าในเวลาเดียวกัน เขาทำได้ไง?"
"ถ้าใช้มีดทำครัวสู้กันคงไม่มีใครเอาชนะเขาได้"
"ทำไมฉันรู้สึกว่าผู้เข้าแข่งขันคนนี้หน้าคุ้นๆ"
"ใช้มีดเก่งแล้วไง? การเป็นเชฟต้องดูที่รสชาติอาหารสิ"ผู้ชมบางคนไม่เห็นด้วย
"แต่ก็นะ ใช้มีดเก่งขนาดนี้ฝีมือทำอาหารก็คงไม่ธรรมดา"
"ใช่รอดูกันดีกว่า"
"ฉันว่าเขาต้องชนะ!"
"ล้อเล่นหรือเปล่า? กรรมการเขาเลือกไว้แล้ว"
"เลือกไว้แล้ว? หมายความว่าไง?"
"ก็หมายความว่าใครจะเป็นแชมป์เขากำหนดไว้แล้ว โง่หรือไง?"
"จริงเหรอ?"
ผู้ชมพูดคุยกันเสียงดังมีคนหันมาสนใจหลี่เหิงมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ตอนนี้หลี่เหิงหั่นเส้นบะหมี่เสร็จแล้ว
ทันใดนั้น
เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหัวของหลี่เหิง
[ติ๊ง!คุณผสาน"ไทเก็ก"เข้ากับทักษะการใช้มีดทำให้เกิด"ความเร็ว"และ"ความเชื่องช้า"ทักษะการทำอาหาร+100ไทเก็ก+50!]
[ติ๊ง!ทักษะไทเก็กของคุณได้รับการอัปเกรดเป็นระดับ2ค่าสถานะแข็งแกร่ง+2,คล่องแคล่ว+2,ร่างกาย+2]
หา?
ไทเก็กเพิ่มค่าสถานะเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?
หลี่เหิงเหมือนจะค้นพบความลับบางอย่าง มุมปากของเขายกขึ้น
ขณะเดียวกันผู้ชมก็พากันสงสัยและคาดเดาไปต่างๆนานา
"มีคนถูกล็อคผลชนะไว้แล้วจริงหรอ?"
"แปลว่าการแข่งขันนี้มีแชมป์อยู่แล้วสินะ?"