ตอนที่ 17
ตอนที่17
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลี่เหิงชั่งน้ำหนักตัวเอง
"81กิโลกรัม!"
"ลดไปอีก3กิโลกรัมภายในสองวันถือว่าใช้ได้"
"ตอนแรกหนัก 105กิโลกรัม ตอนนี้เหลือ81กิโลกรัม รวม20วันลดไป 24 กิโลกรัม! ภารกิจสำเร็จเกินความคาดหมาย!"
หลี่เหิงถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงTiktokด้วยความตื่นเต้น
แคปชั่น: "20 วันบรรลุเป้าหมาย!"
ตอนนี้เขามีผู้ติดตามมากกว่า35,000 คน ฐานแฟนคลับเหนียวแน่นมาก พอเขาโพสต์ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์มากมาย
"บ้าไปแล้ว! เขาลด5กิโลกรัมสุดท้ายภายใน5วัน"
"ไม่ใช่คลิปตัดต่อใช่ไหม ?"
"เฟคหรือเปล่ารอดูตอนเขาไลฟ์สดสิจะได้รู้"
"ไม่น่าจะเฟคนะ แต่ฉันสงสัยว่าบล็อกเกอร์กินยาลดความอ้วนหรือเปล่า"
"ถ้ากินยาแล้วได้ผลขนาดนี้คนอื่นก็คงทำได้แล้ว"
"ยอมรับเถอะว่าเขาเก่ง มันยากตรงไหน?"
"บล็อกเกอร์นายสุดยอดมาก! ฉันจะเอาเป็นแบบอย่าง ถ้าท้อจะดูวิดีโอของนาย"
"ตอนนี้ฉันดูวิดีโอของบล็อกเกอร์เป็นกำลังใจ ฉันลดไปได้3กิโลกรัมภายใน10วัน!"
"สู้ๆนะบล็อกเกอร์!"
"บล็อกเกอร์ลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว มีแผนทำอะไรต่อ?"
หลี่เหิงมองไปที่คอมเมนต์สุดท้าย
มีแผนทำอะไรต่อ?
หลี่เหิงเปิดหน้าต่างสถานะมองดูทักษะต่างๆ ในใจเขามีคำตอบอยู่แล้ว
เป้าหมายของเขาคือการพัฒนาทักษะและค่าสถานะไปเรื่อยๆจนในที่สุด...
...เขาก็จะเป็นพระเจ้า!
นี่คือความทะเยอทะยานของเขา
เป็นเป้าหมายสูงสุด
ในเมื่อมีระบบนี้แล้วทำไมเขาจะต้องเป็นแค่"มนุษย์"ธรรมดา?
แต่เป้าหมายนี้ยังอีกไกล
สำหรับเป้าหมายต่อไป...
หลี่เหิงหยิบบัตรเชิญที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา
"การแข่งขันราชาเชฟแห่งซิงไห่"
"เป็นแค่การแข่งขันเล็กๆระดับภูมิภาคแต่มีเงินรางวัลเยอะเลยดึงดูดเชฟหลายคนให้เข้าร่วม"
"งานนี้จัดวันที่ 1 กรกฎาคม เหลือเวลาอีก10วัน ภายใน10วันนี้ฉันต้องอัปเกรดทักษะการทำอาหารให้ถึงระดับ4 ระดับ4นี่เรียกว่ามาสเตอร์เชฟน่าจะได้เลย"
"ฉันว่าการแข่งขันราชาเชฟคงไม่ยากเกินไป"
"ด้วยเงินรางวัลแสนหยวน ยังไงฉันก็ต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว!"
ใช่แล้ว รางวัลสำหรับผู้ชนะคือเงินสด100,000หยวน
นี่คือแรงจูงใจหลักที่ทำให้หลี่เหิงอยากเข้าร่วมการแข่งขัน
ยิ่งกว่านั้นถ้าชนะเขายังได้ชื่อเสียง ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
"ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพิ่มเวลาขายของเป็น5ชั่วโมง ภายใน10วันต้องอัปเกรดทักษะให้ได้"
ถ้าขาย5ชั่วโมง และขายดี ก็น่าจะขายได้ร้อยกว่าชิ้น ได้คะแนนความสามารถเกือบ200คะแนน
10วันก็ 2,000คะแนน อัปเกรดได้แน่นอน
หลี่เหิงดูชื่อบัญชี Tiktok ของเขา" ลด25กิโลกรัมภายใน1เดือน" ตอนนี้ชื่อนี้มันไม่เหมาะสมแล้ว เขาจึงเปลี่ยนชื่อใหม่
"ผู้อมตะต้องห้าม!"
"ช่างเป็นชื่อที่เท่และสร้างสรรค์โคตรๆ!"
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก
10วันผ่านไปในพริบตา
ตลอด10วันหลี่เหิงยังคงพยายามลดน้ำหนักต่อไป
แค่ลด24กิโลกรัมยังไม่พอ เขายังมีไขมันหน้าท้องอีกเยอะ
ตลอดสิบวันที่ผ่านมาหลี่เหิงไม่ได้ควบคุมอาหาร เขากินดื่มเต็มที่เพราะการวิ่งวันละ40กิโลเมตรเผาผลาญแคลอรี่ไปมหาศาล ถึงกินเยอะแค่ไหนน้ำหนักก็ไม่ขึ้น
สิบวันผ่านไป น้ำหนักของเขาลดลงเหลือ78กิโลกรัม
78กิโลกรัมเป็นน้ำหนักในอุดมคติหลี่เหิงพอใจมาก
ถึงแม้ผิวหนังจะหย่อนคล้อยแต่ทักษะ"เสื้อเหล็ก"ของเขาก็กำลังจะอัปเกรด เขาเชื่อว่าหลังจากอัปเกรดแล้วปัญหาผิวหย่อนคล้อยจะต้องดีขึ้น
วันนี้ วันที่ 1 กรกฎาคม
หลี่เหิงแต่งตัวเดินทางไป"ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ"สถานที่จัดการแข่งขันราชาเชฟแห่งซิงไห่
เขาขับรถ20กว่ากิโลเมตรก็ถึงที่หมาย
ลานจอดรถเต็มไปด้วยรถยนต์ผู้คนมากมาย พวกเขาต่างมุ่งหน้าไปที่ศูนย์ประชุมฯ
หลี่เหิงสูดหายใจลึกหยิบบัตรเชิญออกมาเดินไปยัง"โซนผู้เข้าแข่งขัน"ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ
พอเข้าไปก็เห็นเชฟหลายร้อยคนกำลังเตรียมตัว
หลี่เหิงมองไปรอบๆรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเชฟต่างชาติผิวขาวหลายคน
การแข่งขันราชาเชฟแห่งซิงไห่เป็นงานเล็กๆระดับภูมิภาค เกณฑ์การเข้าร่วมจึงไม่สูง ใครๆก็เข้าร่วมได้แค่จ่ายค่าสมัคร100หยวน
แต่จำนวนกรรมการมีจำกัด จึงต้องแบ่งการแข่งขันออกเป็น2โซนคือ"โซนผู้เข้าแข่งขันพร้อมบัตรเชิญ"และ"โซนแข่งขันสำหรับบุคคลทั่วไป"ที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าร่วม
ด้วยเหตุนี้การแข่งขันราชาเชฟแห่งซิงไห่จึงคึกคักทุกปี มีคนเข้าร่วมหลายร้อยหลายพันคน บางปีมีคนร่วมหมื่นคน แต่ส่วนใหญ่จะไปที่"โซนแข่งขันสำหรับบุคคลทั่วไป"
แต่เพื่อให้"ราชาเชฟ"มีคุณภาพ ทางผู้จัดงานจึงกำหนดให้มีรอบคัดเลือก
รอบคัดเลือกเป็นเหมือนตัวกรองคัดคนที่ไม่ได้มาแข่งขันจริงๆ
เช่นแม่บ้านที่เบื่อๆอยากหาอะไรทำก็จ่ายเงินมาเข้าร่วมหรือบางคนที่ยังไม่เก่งแต่อยากลองก็มาเข้าร่วมเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์
แน่นอนว่าหลี่เหิงไม่ได้เป็นแบบนั้น
เขามาเพื่อชิงตำแหน่ง"ราชาเชฟ"จริงๆ
ภายใน10วันเขาอัปเกรดทักษะการทำอาหารจนถึงระดับ4ซึ่งเทียบเท่ากับ"มาสเตอร์เชฟ"ได้แล้ว แม้แต่ในประเทศก็มีไม่กี่คนที่เก่งกว่าเขา
หลี่เหิงคิดว่ามาสเตอร์เชฟตัวจริงคงไม่มาร่วมแข่งขันระดับภูมิภาคที่เงินรางวัลแค่แสนเดียวแบบนี้หรอก
ยิ่งกว่านั้นทักษะการทำอาหารระดับ4ของเขายังครอบคลุมมากกว่ามาสเตอร์เชฟทั่วไป เขายังเชี่ยวชาญเทคนิคพิเศษที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนกินแบบที่เชฟคนอื่นเทียบไม่ติด
หลี่เหิงเปิดหน้าต่างระบบดูบันทึก แล้วตั้งค่าให้ระบบแจ้งเตือนทักษะการทำอาหารถึงระดับ4
[ติ๊ง! ทักษะการทำอาหารของคุณได้รับการอัปเกรดเป็นระดับ4 ค่าสถานะแข็งแกร่ง+2,คล่องแคล่ว+1,ร่างกาย+1!]
ทักษะการทำอาหารระดับ4(2000/10000)
การอัปเกรดจากระดับ4เป็นระดับ5ต้องใช้คะแนนถึง10,000 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก2,000คะแนนความยากเพิ่มขึ้นมาก
แต่ตลอด10วันที่ผ่านมาช่อง" ผู้อมตะต้องห้าม "ของเขามีผู้ติดตามเกิน50,000คนแล้ว วิดีโอแต่ละอันมียอดไลค์ประมาณ10,000 ครั้ง เขาเริ่มมีชื่อเสียงเป็นเน็ตไอดอล ถ้าพยายามต่อไปเดือนหน้าอาจจะถึงแสนซับ
พอมีคนติดตามเยอะก็มีบริษัทต่างๆติดต่อเข้ามา โดยเฉพาะบริษัทขายยาลดความอ้วน ส่งข้อความมาหาเขาแทบทุกวัน แต่หลี่เหิงปฏิเสธทั้งหมด
ยาลดความอ้วนได้ผลจริงหรือ?
คำตอบคือ"บางส่วน"
แต่แน่นอนว่ามันเป็นอันตรายต่อร่างกาย
การพึ่งยาเพื่อลดน้ำหนักไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน เพราะยาออกฤทธิ์แค่ชั่วคราว เราไม่สามารถกินยาไปตลอดชีวิต พอยาหมดฤทธิ์ น้ำหนักก็จะกลับมาหรืออาจจะโยโย่หนักกว่าเดิม
ถึงแม้หลี่เหิงจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่เขาก็ไม่ทำลายชื่อเสียงตัวเองด้วยการขายยาลดความอ้วน
อีกอย่าง ที่หลี่เหิงเป็นบล็อกเกอร์ลดน้ำหนักก็เพื่อสร้างฐานแฟนคลับ และสะสมคะแนนชื่อเสียง ตอนนี้เขาลดน้ำหนักสำเร็จแล้วก็ต้องเปลี่ยนแผน
การเป็นบล็อกเกอร์ลดน้ำหนักมีข้อจำกัด ถึงแม้จะดัง แต่จำนวนผู้ติดตามก็คงเพิ่มขึ้นไม่เร็วมาก
ตอนนี้เขามีผู้ติดตาม50,000กว่าคน หักคะแนนชื่อเสียง30,000คะแนนที่ใช้ไปก่อนหน้านี้ก็ยังเหลือ20,000กว่าคะแนนสามารถซื้อช่องทักษะเพิ่มได้อีก
ตอนนี้หลี่เหิงมีช่องทักษะทั้งหมด8ช่อง
แต่เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเรียนรู้ทักษะอะไรสำหรับ2ช่องที่เพิ่งซื้อมา
"หลังจากแข่งรอบคัดเลือกเสร็จค่อยเลือกทักษะที่อยากเรียนรู้ก็แล้วกัน"
ทันใดนั้นเสียงพิธีกรก็ดังขึ้น
"ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การแข่งขันราชาเชฟแห่งซิงไห่ประจำปี ปีนี้เรามีเชฟมากฝีมือ38ท่านและเชฟจากบุคคลทั่วไปอีก400ท่านมาร่วมสร้างสีสันให้เรา ติดตามการแข่งขันสุดเข้มข้นในวันนี้ไปพร้อมๆกัน!"
"เชิญผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่สนามและรังสรรค์เมนูจากวัตถุดิบที่จัดเตรียมไว้ สามารถใช้วัตถุดิบได้ตามใจชอบ"