ตอนที่ 15
ตอนที่ 15
หลี่เหิงขับรถออกจากศูนย์พักพิงเซิงกัง เขารู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เจอคุณซุนกับไป๋ลี่หัว
แต่พอกลับถึงบ้าน ก็ได้รับข้อความจากไป๋ลี่หัว เธอเขียนข้อความสั้นๆ ว่าช่วงนี้ยุ่งมาก และถ้าหลี่เหิงจะมาเป็นอาสาสมัครอีก ก็ขอให้มาที่ศูนย์พังพิงเซิงกัง เหมือนเดิม
หลี่เหิงตอบกลับไปว่า "ได้ครับ" แล้ววางโทรศัพท์ลง
"ถึงเวลาคิดหาวิธีหาเงินแล้ว" หลี่เหิงครุ่นคิด
ภารกิจลดน้ำหนักใกล้จะสำเร็จแล้ว ต้องเริ่มวางแผนสร้างรายได้
"ด้วยฝีมือขนาดนี้ น่าจะเปิดร้านขายอาหารได้นะ"
"เอาล่ะ! เปิดร้าน แล้วก็เปิดช่องสอนทำอาหารด้วย"
หลี่เหิงเป็นคนลงมือทำทันที เขาสมัครบัญชี Tiktok ใหม่
"ชื่อช่องเอาเป็น 'Shixian' ดีกว่า!"
หลี่เหิงเปลี่ยนชื่อช่อง แล้วเข้าไปในครัว ถ่ายวิดีโอสอนทำมะเขือเทศผัดไข่ จากนั้นก็กดเผยแพร่
หลังจากโพสต์วิดีโอแล้ว เขาก็เริ่มเตรียมตัวเปิดร้าน
"ตอนนี้ทักษะการทำอาหารของฉันอยู่ระดับ 3 ทำอาหารได้แทบทุกอย่าง แต่ช่วงแรก ไม่ต้องทำอะไรยากๆ ขายเมนูง่ายๆ สลับสับเปลี่ยนกันไป หรือจะขายเมนูเดียวตลอดก็ได้ ลองขายของว่างก่อนแล้วกัน"
หลี่เหิงนั่งลงบนเก้าอี้ ชื่อของว่างต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย
แพนเค้กผลไม้ เต้าหู้เหม็น โรตี เฉาก๊วย หม้อไฟ ข้าวปั้น...
มีทั้งของคาว ของหวาน ทั้งอาหารจีน อาหารต่างประเทศ
"ฉันเปิดร้าน ก็เพื่อหาเงิน และพัฒนาทักษะการทำอาหาร แพนเค้กผลไม้ น่าจะเหมาะ"
แพนเค้กผลไม้ ประกอบด้วยแป้งแพนเค้ก ไข่ ไส้กรอก ราดด้วยซอส ต้นหอม ผักดอง และพริก (ถ้าต้องการ) รสชาติเค็มๆ หอมๆ
ส่วนประกอบสามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น ใช้แป้งโฮลวีต แป้งขาว แป้งถั่วเขียว หรือแป้งอื่นๆ
ร้านขายแพนเค้กผลไม้มีเยอะ การแข่งขันสูง แต่หลี่เหิงมั่นใจว่า ด้วยทักษะการทำอาหารระดับ 3 ของเขา ร้านเล็กๆ พวกนั้น ไม่ใช่คู่แข่งของเขาแน่นอน
"ลงมือเลย!"
หลี่เหิงเปิดมือถือ ค้นหาข้อมูลทันที
ไม่นาน เขาก็เจอวิดีโอใน Tiktok
"ขายรถเข็นแพนเค้กผลไม้ สภาพ 80% พร้อมใช้งาน"
หลี่เหิงส่งข้อความหาเจ้าของโพสต์
สักพัก อีกฝ่ายก็ตอบกลับมา
"ผมซื้อมา 8,000 ถ้าสนใจจริง ลดให้เหลือ 6,000"
หลี่เหิงกลอกตา ของมือสอง ราคาตกมาก ซื้อมา 8,000 แต่จะขาย 6,000 เนี่ยนะ
"3,000!" หลี่เหิงต่อราคา แบบหั่นครึ่ง
"พี่ครับ นี่สภาพ 80% นะ ใช้งานได้ปกติ ไม่มีตำหนิ ซื้อไปใช้ได้เลย อย่างน้อยก็ 5,500"
หลี่เหิงยิ้ม เขารู้ว่าอีกฝ่ายโก่งราคา
แต่หลี่เหิงก็ไม่ยอมแพ้ เขาต่อรองราคา จนในที่สุดก็ตกลงกันที่ 3,800 หยวน
ประมาณสี่ทุ่ม คนขายขับรถกระบะ มาส่งรถเข็นที่หน้าหมู่บ้าน
คนขายเป็นชายวัยกลางคน ไว้หนวดเครา เขาดูดบุหรี่ มองไปที่ตึกสูงในหมู่บ้าน แล้วถอนหายใจ
"อยู่หมู่บ้านดีๆ แบบนี้ ยังจะมาขายของข้างทางอีกเหรอ?" เขาถามด้วยความสงสัย
หมู่บ้านที่หลี่เหิงอยู่ เป็นหมู่บ้านระดับกลาง ราคาบ้านประมาณ 16,000 หยวน ต่อตารางเมตร ไม่ถูก แต่ก็ไม่แพงมาก
คนขายคงคิดว่า การขายของข้างทาง ไม่ใช่งานที่คนมีฐานะ ควรทำ
หลี่เหิงไม่ได้ตอบคำถาม แต่ถามกลับไปว่า "รถจะมีปัญหาอะไรไหมครับ?"
"เช็คได้เลย" ชายวัยกลางคนลงจากรถ ให้หลี่เหิงตรวจสอบ
หลี่เหิงหยิบไขควงออกมา เปิดเบาะหลัง เช็คสภาพแบตเตอรี่
ชายวัยกลางคนเห็น ก็ตาโต เขาไม่คิดว่าหลี่เหิงจะเตรียมตัวมาดีขนาดนี้
ที่หลี่เหิงเตรียมตัวมาดี เพราะเขามีประสบการณ์โดนหลอกมาก่อน ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เขาเคยซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามือสอง ตอนนั้นคิดว่าคนขายเป็นคนดี เลยไม่ได้เช็คแบตเตอรี่ให้ละเอียด ปรากฏว่าแบตเตอรี่เสื่อม วิ่งได้แค่สิบกว่ากิโลเมตร
ตอนนั้นเขาโกรธมากเป็นอาทิตย์
ดังนั้นครั้งนี้ เขาจึงตรวจสอบทุกอย่างอย่างละเอียด จะได้ไม่เสียรู้ซ้ำสอง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หลี่เหิงตรวจสอบเสร็จ
"ไม่มีปัญหาอะไร" หลี่เหิงพูด "ขอเลขบัญชีหน่อยครับ"
ชายวัยกลางคนดีใจ รีบส่งคิวอาร์โค้ดให้หลี่เหิง
หลี่เหิงมองด้วยความประหลาดใจ มันไม่ใช่คิวอาร์โค้ดบนมือถือ แต่เป็นคิวอาร์โค้ดที่ปริ้นท์ออกมา
หลี่เหิงสแกน แล้วจ่ายเงินทันที โดยไม่พูดอะไร
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ชายวัยกลางคนถอนหายใจอย่างโล่งอก หลี่เหิงก็รู้สึกพอใจเช่นกัน
เขาตรวจสอบแล้ว รถเข็นสภาพดี ค่อนข้างใหม่
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ เขาจะได้ของดี
"งั้นผมกลับแล้วนะ" ชายวัยกลางคนพูด
ตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว รถบนถนนน้อยลง รถเมล์ก็หมดแล้ว
หลี่เหิงเห็นชายวัยกลางคนทำหน้าลำบากใจ จึงถามว่า "ลุงอยู่ไกลไหมครับ?"
"ไม่ไกลมาก" ชายวัยกลางคนตอบ
หลี่เหิงกลืนคำพูด ที่กำลังจะถามลงไป จริงๆ เขาตั้งใจว่า ถ้าอีกฝ่ายอยู่ไกล เขาจะให้เงินค่ารถ
ตอนนี้เขาพอมีเงิน อยากจะช่วยเหลือคนอื่นบ้าง
แต่ในเมื่ออยู่ไม่ไกล ก็คงไม่จำเป็น
"งั้น ลุงเดินดีๆ นะครับ" หลี่เหิงโบกมือลา
หลี่เหิงสตาร์ทรถ ขับลงไปจอดในลานจอดรถใต้ดิน
ชายวัยกลางคนมองตามหลี่เหิงไป สายตามองไปที่ตึกสูง ที่สว่างไสว ในหมู่บ้าน
เขาพ่นควันบุหรี่ออกมา แววตาเศร้าสร้อย
"อยู่แบบนี้ ก็ดีนะ..."
เขาถอนหายใจ หันหลังเดินจากไป
หลี่เหิงจอดรถ แล้วขึ้นบ้าน
เขาเปิดหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก
ค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้น สายตาก็ดีขึ้น เมื่อก่อนเขาสายตาสั้น แต่ตอนนี้ มองเห็นชัด ในระยะหลายร้อยเมตร แต่ถ้าไกลกว่านั้น ก็มองไม่ค่อยชัด
ขณะที่เขากำลังมองไปที่ถนน หน้าหมู่บ้าน ก็เห็นร่างของชายวัยกลางคน ล้มลงไป
"นั่นเขานิ!"
"ทำไมล้มลงไปล่ะ?"
หลี่เหิงใจไม่ดี รีบลงไปข้างล่าง วิ่งออกจากหมู่บ้าน อย่างรวดเร็ว
พอไปถึง ก็เห็นว่ามีคนโทรเรียกรถพยาบาลแล้ว มีรถหลายคันจอดอยู่ คนขับรถปรึกษากัน แล้วตัดสินใจ ไม่รอรถพยาบาล ช่วยกันยกชายวัยกลางคนขึ้นรถ แล้วรีบพาไปโรงพยาบาล
หลี่เหิงรู้สึกวางใจขึ้น
เมื่อมีคนตกอยู่ในอันตราย แม้รวมๆจะดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจ แต่พอมีเรื่องเกิดขึ้นจริงทุกคนก็เคลื่อนไหว
ถึงแม้สมัยนี้ถ้าไม่ช่วยจะโดนถ่ายไว้แบล็คเมล์ก็เถอะ แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็คือทุกคนช่วยเหลือกัน
ก็ถือว่ายังดี
หลี่เหิงมองตามรถ ที่แล่นออกไป
เขาไม่ได้ขับรถมา เลยไม่สะดวกตามไป แต่เขามีเบอร์โทร ของชายวัยกลางคน ไว้ค่อยโทรไปถามอาการ ตอนที่เขาฟื้น
"ขอให้เขาปลอดภัย"