ตอนที่ 1 อาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล!
ตอนที่ 1 อาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล!
“เอริค คุณแน่ใจใช่ไหมว่าอัญมณีอินฟินิตี้ถูกซ่อนอยู่ที่นี่? ทำไมที่นี่ถึงดูเหมือนไม่มีอะไรเลย?”
บนพื้นผิวดวงจันทร์ที่มืดมิด แห้งแล้ง และเงียบสงัด มิสทีคควบคุมยานบินลดระดับลงและถามเอริคด้วยน้ำเสียงที่เจือความไม่แน่ใจอีกครั้ง
เอริคเพียงยิ้มเย็น ๆ และลูบแหวนที่นิ้วนางของเขาอย่างเป็นนิสัย ภายใต้หมวกกันน็อคดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาจ้องมองไปที่พื้นผิวของดวงตาอย่างเงียบ ๆ “เรเวน อย่าถูกหลอกด้วยสิ่งที่มองเห็น เพราะแก่นแท้ของทุกสิ่งนั้นอยู่ลึกกว่ารูปลักษณ์ภายนอก”
มิสทีคยักไหล่เบา ๆ พลางพูดหยอกล้อว่า “ฉันควรเป็นคนที่ทำให้คนอื่นสับสนสิ ไปกันเถอะ! รีบทำธุระของเราให้เสร็จก่อนที่ชาร์ลส์จะรู้ตัว”
เอริคโบกมือเรียกสนามแม่เหล็กขึ้นมาปกป้องรอบตัวพวกเขาทั้งคู่ พร้อมกับร่างของพวกเขาที่ลอยขึ้นจากพื้นบินไปข้างหน้า
นี่เป็นหนึ่งในการควบคุมสนามแม่เหล็กที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุด เพราะไม่เพียงมันจะสามารถทนต่อการโจมตีและรังสีคอสมิกต่าง ๆ ได้เท่านั้น แต่มันยังปิดผนึกอากาศรอบตัวให้คงอยู่ในสนามแม่เหล็ก ทำให เขาสามารถอยู่รอดในอวกาศได้ชั่วคราว
พวกเขาทั้งสองคนเปิดประตูยานออกและบินสำรวจไปทั่วดวงจันทร์ แต่นอกจากความรกร้างบนดวงจันทร์แล้วพวกเขาก็ไม่พบอะไรเลย
ทำให้ตอนนี้มิสทีคเริ่มสงสัยในการตัดสินของเอริคอีกครั้ง ทว่าทันใดนั้นเองเอริคกลับหยุดกะทันหัน และชี้นิ้วไปที่หลุมอุกกาบาตเล็ก ๆ ข้างหน้า
“มันอยู่ตรงนั้น”
หลังจากนั้นเอริคก็ยกฝ่ามือขึ้นเล็กน้อยและเริ่มทำการควบคุมสนามแม่เหล็ก ทันใดนั้นผืนดินเบื้องล่างก็สั่นเล็กน้อย และประตูที่ซ่อนอยู่ก็ปรากฏขึ้น
ในขณะเดียวกันมิสทีคก็เข้าใจทันทีว่าหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของเธอต่อ ดังนั้นร่างกายของเธอจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นชายวัยกลางคนในเครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มที่มีสัญลักษณ์เลขสี่เด่นอยู่บนหน้าอก
“ทำไมต้องเป็นรีดด้วย? เปลี่ยนเป็นชาร์ลส์ไม่ได้เลยหรอ? ฉันอุส่าใช้ความพยายามตั้งนานกว่าจะเอาม่านตาของเขามาได้”
“รีดเป็นคนสร้างฐานนี้ ดังนั้นมันจึงมีบางจุดที่ต้องการไบโอเมตริกซ์ของเขาเพื่อเข้าไปด้านใน”
เอริคตอบเบา ๆ ก่อนจะโบกมือส่งร่างของมิสทีคไปยังแผงควบคุมตรงประตู ทันใดนั้นแสงเลเซอร์สีแดงก็เริ่มส่องผ่านร่างของเธอ และวินาทีต่อมาประตูก็เปิดออกอย่างช้า ๆ
พวกเขาก้าวเข้าสู่ภายในฐานทันที พร้อมกับเสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ที่ดังขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ยินดีต้อนรับกลับมา คุณรีด”
มิสทีคเหลือบตามองเอริคเล็กน้อย และถามกับเอไอว่า “ชาร์ลส์กับสตาร์คเคยมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหม?”
“ใช่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กับคุณสตาร์คมาที่นี่เมื่อสิบเอ็ดวันก่อน”
“แล้วคนอื่นล่ะ?”
“ด็อกเตอร์สเตรนจ์ก็มาที่นี่เมื่อเจ็ดวันก่อน ส่วนคุณแบล็คโบลค์กับนามอร์ไม่ได้มาที่นี่ตั้งแต่การประชุมครั้งล่าสุด” เสียงเครื่องจักรตอบกลับอย่างเย็นชา
ด็อกเตอร์สเตรนจ์, แบล็คโบลท์, นามอร์, ศาสตราจารย์เอ็กซ์, ไอรอนแมน, มิสเตอร์แฟนแทสติก?
สถานที่แห่งนี้มันคือบ้าอะไรกันเนี้ย?
ตอนนี้มิสทีครู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เอริคบอกว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงแค่ฐานลับของรีดและชาร์ลส์เท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ เขาไม่ได้เล่ารายละเอียดมากนัก
ดูเหมือนว่าสถานการณ์ตอนนี้มันจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดอีกต่อไปแล้ว เพราะสถานที่แห่งนี้มันเป็นสถานที่ที่รวมเหล่าฮีโร่ชั้นแนวหน้าของโลกเข้าด้วยกัน มีแม้กระทั่งคนที่อยู่กันคนละฝ่าย . . .
พวกเขากำลังกำลังวางแผนอะไรกันแน่?
“นี่คืออิลลูมินาติ!” เอริคค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องโถงหกเหลี่ยม พร้อมกับกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “กลุ่มคนเสแสร้งที่ตั้งตัวขึ้นมารวมกลุ่มแก้ปัญหาวิกฤตระดับโลกและจักรวาล โดยที่ไม่มีใครรู้การมีอยู่ของพวกเขา”
“แล้วคุณรู้ได้ยังไง?” มิสทีถามด้วยความสงสัย
“นั่นก็คือสิ่งที่ฉันอย่างรู้เช่นกัน!”
ทันใดนั้นก่อนที่เอริคจะได้ตอบคำถามของมิสทีค มันก็มีวงแหวนเวทย์ปรากฏอย่างกะทันหันที่ด้านหลัง พร้อมกับโทนี่ สตาร์คที่ปรากฏตัวในชุดเกราะ ศาสตราจารย์เอ็กซ์และด็อกเตอร์สเตรนจ์อยู่ด้านหลังของเขา
มิสทีคเอามือตบหน้าผากของเธอด้วยความเหนื่อใจทันที ดูเหมือนว่าแผนการนี้มันจะล้มเหลวก่อนเริ่มดำซ้ำ!
“โอ้ พระเจ้า ฉันอยากให้ซูซานเห็นสิ่งนี้จริง ๆ สามีของเธอมิสเตอร์แฟนแทสติกกำลังเดินด้วยท่าเหมือนบนแคทวอล์ค!” สตาร์คหัวเราะเยาะขณะชี้นิ้วไปที่มิสทีคที่ปลอมตัวเป็นรีด ก่อนที่จะรีบใช้ชุดเกราะรีบอัดวิดีโอไว้ทันที
“ใช่ แบบนั้นแหละ!!” สตาร์คตะโกนอย่างตื่นเต้น และรีบนำคลิปของมิสทีคไปตัดต่อเดินบนแคทวอล์ค ทำเป็นลูป และใส่เข้ากับเพลงแปลก ๆ เพื่อสร้างคลิปสั้น ๆ เตรียมส่งให้ซูซานดู
“สตาร์ค!”
เสียงเตือนของศาสตราจารย์เอ็กซ์ดังขึ้นทำให้สตาร์คกลับมาจริงจังอีกครั้งทันที
“โอเค ๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้ ฉันแค่อยากทำให้บรรยากาศมันตึงเครียดน้อยลง ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า!” สตาร์คหยุดบันทึกวิดีโอ และยกฝ่ามือเล็งไปที่เอริค “เอาล่ะ แม็กนีโต เอริค แลนเชอร์ นายรู้เรื่องอิลลูมินาติได้ยังไง?”
“ทำไมไม่ถามว่าเราถึงมาอยู่ที่นี่ก่อนล่ะ?” มิสทีคมองไปที่ศาสตราจารย์เอ็กซ์บนรถเข็นด้วยสีหน้าซับซ้อน
“อัญมณีอินฟินิตี้!” ด็อกเตอร์สเตรนจ์วาดอักษรรูนเวทมนตร์ลึกลับด้วยมือของเขาและมองไปที่เอริคด้วยความระมัดระวัง
“นี่เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถ้าหากมีไอคิวสักหน่อยก็จะรู้ทันทีว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจจากแม็กนีโตผู้มีชื่อเสียงโด่งดังได้มันก็มีแค่อัญมณีอินฟินิตี้เท่านั้นแหละ” น้ำเสียงของสตาร์คยังคงฟังดูหยิ่งผยองไม่เปลี่ยนแปลง
เอริคหันไปสบตาศาสตราจารย์เอ็กซ์เพื่อนเก่าด้วยรอยยิ้ม โดยไม่สนใจคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้าง “ชาร์ลส์ ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“เอริค! นายกำลังวางแผนอะไรกันแน่? หรือนายค้นพบอะไรบางอย่าง?”
“สามปีแล้วสินะ? เวลามันผ่านไปเร็วจริง ๆ เหมือนกับสายลมในยามค่ำคืน” เอริคยกมือซ้ายขึ้นและหมุนช้า ๆ ราวกับว่ามีสายลมพัดมาจริง ๆ “ชาร์ลส์ เราต่อสู้กับอโพคาลิปส์ด้วยกันเมื่อไหร่นะ? ห้าสิบปีที่แล้ว? หรือหกสิบปีที่แล้ว?”
“ห้าสิบหกปีที่แล้ว! เอริค มันผ่านมาตั้งห้าสิบหกปีแล้ว และตอนนี้เราทุกคนก็แก่กันหมดแล้ว!” ศาสตราจารย์เอ็กซ์กล่าวพูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ “นายต้องการทำอะไรกับอัญมณีอินฟินิตี้?”
“ห้าสิบหกปี!!” เอริคไม่ได้ตอบคำถามของชาร์ลส์ราวกับว่าเขากำลังหวนระลึกความหลังอยู่ “เราเอาชนะอโพคาลิปส์ด้วยกัน สร้างสถาบันฝึกสอนสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษเซเวียร์ขึ้นมาใหม่ด้วยกัน เอาชนะดาร์กฟีนิกซ์ด้วยกัน และนาย . . . อยากมาสร้างอนาคตใหม่ด้วยกันไหม?!”
“ย้อนเวลาแก้ไขอดีตอย่างนั้นหรอ!” ทันใดนั้นดวงตาของชาร์ลส์ก็เบิกกว้างขึ้นทันที “เป็นไปไม่ได้! นายจำไม่ได้หรอว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น!”
“เฮ้! เดี๋ยวก่อน เกิดอะไรขึ้นกับ ‘ย้อนเวลาแก้ไขอดีต’ หรือว่าฉันจะพลาดงานใหญ่นั้นไป?” ทันใดนั้นสตาร์คก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ในขณะเดียวกันสีหน้าของด็อกเตอร์สเตรนจ์ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเช่นกัน ก่อนที่มือของเขาจะเริ่มขยับอีกครั้งพร้อมกับดวงตาอากาโมโต้ที่เปิดขึ้น ทำให้ดวงตาของเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเขียวและเริ่มตรวจสอบไทม์ไลน์อย่างรวดเร็ว
ส่วนมิสทีคที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากเช่นกัน ทำให้ดวงตาของเธอมองสลับไปมาระหว่างพวกเขาทั้งสอง
“แน่นอนว่าฉันจำได้ เพราะฉันไม่เพียงแต่จะจำ ‘ย้อนเวลาแก้ไขอดีต’ ได้เท่านั้น แต่ฉันยังจำ ‘การประชุมสุดยอดของชาติ’, ‘สะพานโกลเดนเกต’ และ . . . โอ้! เด็กคนนั้นชื่อ จิมมี่ ใช่ไหม?”
ศาสตราจารย์เอ็กซ์จำได้ว่าเขาลบความทรงจำพวกนี้ของเอริคไปแล้ว เพราะงั้นเอริคน่าจะไม่รู้เรื่องพวกนี้สิ!
“เอาล่ะ การพูดคุยจบลงแค่นี้ เรเวนได้เวลาทำงานแล้ว!” เอริคทิ้งสายตารำลึกความหลังทิ้งไปในพริบตา และยกมือโบกเบา ๆ ส่งผลให้กำแพงรอบตัวพังทลาย เผยให้เห็นตู้เซฟเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านใน
“อย่าขยับ แม็กนีโต! อยู่ให้ห่างจากกล่องนั่นซะ!” เสียงของสตาร์คกล่าวเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง พร้อมกับปืนใหญ่พลาสม่าของเขาที่ส่องแสงสว่างเตรียมพร้อมจะยิงได้ทุกเมื่อ
“อย่ากังวลไปเลย สตาร์ค เราทั้งคู่รู้ดีว่า ‘อัญมณีอินฟินิตี้’ ไม่ได้อยู่ที่นี่ ข่าวที่นายเผยแพร่ออกไปเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า” เอริคโบกมือโดยไม่สนใจคำขู่ของสตาร์ค
“อิลลูมินาติได้เก็บรวบรวมอัญมณีอินฟินิตี้ไว้แล้วถึงสามก้อน ทั้งอัญมณีแห่งพลัง อัญมณีแห่งกาลเวลาที่อยู่กับด็อกเตอร์สเตรนจ์ และอัญมณีแห่งความเป็นจริงที่ซ่อนอยู่ในแกนดวงอาทิตย์โดยฝีมือของนาย ส่วนอัญมณีแห่งจิตใจก็ส่งออกไปยังมิติอันไกลโพ้นด้วยการกระโดดข้ามมิติอวกาศแบบสุ่ม เรียกได้ว่าความคิดนี้ฉลาดมากเลยทีเดียว”
“คุณโกหกฉันหรอ เอริค? อัญมณีอินฟินิตี้ไมได้อยู่ที่นี่อย่างนั้นหรอ? คุณโกหกฉัน!!” มิสทีคฟังคำพูดของเอริคด้วยความตกตะลึง ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนร่างกลับสู่ร่างจริงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“สตาร์ค นายไม่สงสัยเลยหรอว่าที่นี่ซ่อนอะไรอยู่?” เอริคไม่ได้ตอบคำถามของมิสทีค และหันไปเกลี่ยกล่อมสตาร์คต่อ “นายเคยมาที่นี่กี่ครั้งแล้ว? และทุกครั้งก็ไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่รีดซ่อนไว้จริง ๆ มันคืออะไรกันแน่จริงไหม . . .”
“ฉันไม่สนใจความลับของเขาหรอก!” สตาร์คทำเป็นเมินเฉย แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น สตาร์คกลับค่อย ๆ ลดปืนพลาสม่าในมือลงเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
เอริครู้ดีว่าภายในใจลึก ๆ ของสตาร์คนั้น เขาภูมิใจในความเป็นอัจฉริยะของตัวเอง และเขาก็ไม่ค่อยพอใจกับการที่รีด ฉลาดกว่าเขาในหลาย ๆ ด้านอยู่เสมอ!
ดังนั้นสตาร์คจะไม่สนใจความลับของคนที่เก่งกว่าเขาได้อย่างไรจริงไหม?
“เอริค มีอะไรอยู่ข้างในกันแน่? อาวุธที่จะทำลายล้างมนุษยชาติ?” ศาสตราจารย์เอ็กซ์รู้จักเพื่อนเก่าของเขาดี ดังนั้นเอริคจะต้องไม่มีที่นี่โดยไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน
“ชาร์ลส์ ฉันขอสัญญาว่าจะไม่มีใครต้องเจ็บเพราะสิ่งนี้ เพราะฉันจะใช้มันกับตัวเอง . . . และจากนี้ไป ตำนานของแม็กนีโตจะกลายเป็นอดีต” เอริคจ้องมองเพื่อนเก่าของเขาและค่อย ๆ พูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ
“นายจะทำอะไรกันแน่?” ศาสตราจารย์เอ็กซ์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ในขณะเดียวกันด็อกเตอร์สเตรนจ์ที่กำลังร่ายมนตร์จากดวงตาอากาโมโต้ก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง และพูดขึ้นมาด้วยเสียงเข้มว่า “ฉันมองอนาคตและอดีตไม่เห็นเลย เหมือนว่ามีบางอย่างปิดกั้นเวลาเอาไว้ . . .”
“เรเวน เปิดมันออก” ศาสตราจารย์เอ็กซ์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปบอกกับมิสทีค
มิสทีคนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ และแปลงกายเป็นรีดอีกครั้ง ก่อนที่จะใช้ลายนิ้วมือ ม่านตา และเสียงเพื่อปลดล็อกตู้เซฟ . . .
“รีดนี่สุดยอดจริง ๆ วัสดุที่ใช้สร้างกล่องนี้เก็บซ่อนสนามแม่เหล็กได้อย่างสมบูรณ์แบบ!” เอริคมองตู้เซฟที่กำลังเปิดออกอย่างชื่นชม
ในขณะเดียวกันทุกคนต่างก็มองดูในตู้เซฟด้วยความสงสัย ก่อนที่พวกเขาจะเห็นว่าด้านนั้นมีวัตถุโลหะรูปร่างคล้ายไฟแช็กที่เปล่งแสงแวววาวออกมาตลอดเวลาถูกวางเอาไว้อยู่
“นี่อะไร? ไฟแช็กงั้นหรอ?” สตาร์คมองเอริคเหมือนเขาเป็นคนโง่
“ไม่ใช่ไฟแช็กหรอก แต่เป็นอาวุธทำลายล้างขั้นสุดยอดของจักรวาล!”
โปรดติดตามตอนต่อไป …