บทที่ 75 มนุษย์ในนรกดาบฝังศพ(ฟรี)

บทที่ 75 มนุษย์ในนรกดาบฝังศพ(ฟรี)

หญิงสาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หลังจากออกจากป่าหินแล้ว เธอมองสำรวจรอบๆ ก่อนจะพุ่งตัวไปยังร่องน้ำที่ไม่สะดุดตาด้านหน้า เพียงแค่ผ่านร่องน้ำนั้น ไปถึงเนินเขาเล็กๆ ด้านหน้า แล้วหาอุโมงค์ลับ เข้าสู่หุบเขาทางด้านซ้าย ก็จะสามารถเข้าถึงจุดติดต่อชั่วคราวได้

ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในนรกดาบฝังศพต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา เพียงแค่ประมาทเล็กน้อย สิ่งที่รอคอยอยู่อาจเป็นคมดาบจากทาสดาบก็ได้

โชคดีที่วันเวลาเช่นนี้มีความหวังที่จะสิ้นสุดลงแล้ว เพียงแค่รายงานเรื่องนี้ให้หัวหน้าทราบ แล้วติดต่อกับผู้มาเยือนคนนั้น ทุกคนก็จะสามารถออกจากที่นี่ได้

ขณะที่หญิงสาวกำลังคิด จู่ๆ ความรู้สึกอันตรายอย่างยิ่งก็ผุดขึ้นในใจ เธอเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นขมขื่นอย่างยิ่ง จากนั้นความสิ้นหวังก็ถาโถมเข้ามาในใจ

ทาสดาบคมร่างสูงเกือบสองเมตรยืนนิ่งอยู่ที่ทางเข้าร่องน้ำ จ้องมองเธออย่างเงียบๆ ดวงตาฉายแววเยาะเย้ยและโหดร้าย

และที่ด้านหลังของหญิงสาว ไม่รู้ว่าเมื่อใดมีทาสดาบหักสามคนปรากฏตัวขึ้น ดาบหักในมือส่องประกายดาบริบหรี่ ดวงตาสีเลือดของพวกมันสว่างๆ มืดๆ จ้องมองเธอด้วยแววตาที่เผยความกระหายเลือด

ไม่มีกองทหารทาสดาบหัก ไม่มีทาสดาบหักที่เป็นด่านหน้าจำนวนมาก ทาสดาบคมตรงหน้าชำนาญการต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด พลังอย่างน้อยใกล้เคียงขั้นฝึกลมปราณระดับแปด

และบรรดาทาสดาบหักที่สามารถติดตามทาสดาบเฉียบคมคนนี้ได้ ล้วนเป็นชนชั้นยอดที่มันคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้อยู่ที่ขอบของขั้นยาว พร้อมจะฟื้นคืนสติปัญญาได้ทุกเมื่อ

กำลังพลเช่นนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าทาสดาบหลายร้อยตนที่โจวชิงหยุนเคยพบเจอครั้งแรก อย่าว่าแต่หญิงสาวตรงหน้าที่มีพลังเพียงขั้นฝึกลมปราณระดับห้าเลย แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นสร้างฐานช่วงต้นมาเจอ ภายใต้การกดทับของกลไกขอบเขตนรกดาบฝังศพ คงได้แต่หนีเตลิดเปิดเปิง

ทาสดาบหักสามคนด้านหลังส่งเสียงคำรามต่ำๆ ค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้หญิงสาว

หญิงสาวรู้สึกเครียดในใจ แต่ด้วยจิตใจอันเข้มแข็งที่หล่อหลอมจากการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่อันตรายถึงขีดสุดมาอย่างยาวนาน ทำให้เธอไม่ยอมแพ้ ชักดาบออกจากฝัก หญิงสาวรวบรวมสมาธิ ระวังตัวอย่างเงียบๆ แต่ไม่กล้าโจมตีก่อน

ทาสดาบคมที่ยืนนิ่งอยู่ที่ทางเข้าร่องน้ำ เห็นท่าทางชักดาบป้องกันตัวของหญิงสาว ดวงตาที่มีรัศมีแดงจางๆ ฉายแววเยาะเย้ย มันพลันเปล่งเสียงร้องยาว

ในบรรดาทาสดาบหักสามคนด้านหลัง ตัวที่ผอมเล็กที่สุดที่ยืนอยู่ด้านซ้ายตอบสนองทันที ขาที่แข็งทื่อกระทุ้งพื้น แล้วพุ่งตัวเข้าหาหญิงสาว ดาบหักในมือส่องประกายแดงวาววับ แสงดาบสีเลือด พุ่งแทงตรงมาที่หญิงสาวพร้อมเสียงหวีดหวิว

เร็วจริง!

หญิงสาวตกใจในใจ ดาบในมือพุ่งออก ดอกดาบสีขาวบริสุทธิ์ถูกแสงสีแดงจากเมฆเบื้องบนย้อม เปลี่ยนเป็นสีแดง เพียงแต่แสงดาบสีแดงนี้ไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย กลับแผ่รังสีความเย็นออกมา

ดอกดาบลอยขึ้น ร่อนลงใส่ทาสดาบหักที่พุ่งเข้ามา

แต่ทาสดาบตนนี้กลับไม่สนใจการโจมตีของหญิงสาวตรงหน้า ปล่อยให้ดอกดาบร่วงลงบนอก

เคร้ง!

ดาบยาวฟันลง ปะทะกับร่างของทาสดาบหัก กลับส่งเสียงโลหะกระทบกัน สุดท้ายเพียงฉีกเสื้อผ้าขาดวิ่นของมัน ทิ้งรอยดาบตื้นๆ บนตัวมัน ไม่สามารถแทงทะลุการป้องกันของอีกฝ่ายได้

ส่วนดาบหักในมือทาสดาบหัก พร้อมกลิ่นอายแห่งความตาย กวาดตรงไปที่ลำคอของหญิงสาว

ดวงตาของหญิงสาวเผยแววตกตะลึง ในชั่วขณะนี้เธอราวกับมองเห็นความตายของตัวเองแล้ว

อู้!

ขณะที่หญิงสาวกำลังจะถูกทาสดาบชำรุดสังหารในทันที ทาสดาบคมตนนั้นกลับส่งเสียงครางต่ำ ทาสดาบที่กำลังวาดดาบหักพลันเบี่ยงคมดาบ เฉือนผ่านด้านขวาศีรษะของหญิงสาว

หญิงสาวฉวยโอกาสถอยหลัง แต่ก็ไม่สามารถหลบพ้นรัศมีการโจมตีของดาบหักได้ทั้งหมด ดาบหักสีแดงฟันเฉือนไหล่ของเธอ ทันใดนั้นเลือดสีแดงสดก็พุ่งทะลักออกมา

หญิงสาวขมวดคิ้วแน่น ความเจ็บปวดทางร่างกายและความขุ่นเคืองใจทำให้แขนที่ถือดาบของเธอสั่นไม่หยุด

บ้าจริง ทำไมตัวเองถึงได้ประมาทขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ควรจะไม่ระวังตัวขนาดนี้เลย!

แต่ต่อจากนั้น เธอก็ไม่สามารถคิดเสียใจได้อีก เพราะทาสดาบเฉียบคมตรงหน้าแลบลิ้นยาวสีแดงสดน่าขยะแขยงเลียริมฝีปาก ทำให้เธอนึกถึงตำนานที่เคยได้ยินมา

พวกทาสดาบเหล่านี้ถูกดาบควบคุม สูญเสียเนื้อและเลือดในร่างกาย ดังนั้นจึงมีความกระหายอย่างยิ่งต่อเลือดเนื้อของคนเป็น ถือว่านี่เป็นอาหารเลิศรสที่สุด

ผู้มาเยือนมากมายถูกทาสดาบจับได้ แม้แต่ศพก็ไม่เหลือไว้ ถูกกินเข้าไปโดยตรง

ข้า...ข้าไม่อยากถูกกิน!

ความกลัวที่ไม่อาจระงับได้ผุดขึ้นในใจหญิงสาว แต่ทาสดาบหักสามตนด้านหลังก็โอบล้อมเข้ามา ทำให้เธอไม่มีที่ว่างให้หลบหนีแม้แต่น้อย และเธอยังสู้ทาสดาบชำรุดตนเดียวไม่ได้ แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของทาสดาบคมที่ชำนาญการรบได้อย่างไร

ความกลัวและไม่ยอมรับอย่างสุดขีดผุดขึ้นในใจหญิงสาว ทว่ามือขวาที่ถือดาบกลับถูกบาด แม้อยากต่อต้านก็ทำไม่ได้

ขณะที่ทาสดาบคมเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หญิงสาวหมดหวังจนต้องหลับตา เสียงตะโกนดังขึ้น ณ ขอบป่าหินแห่งนี้ ราวกับสายฟ้าฟาดในวันฟ้าใส สะท้านไปทั่วบริเวณ

"พวกอสูรร้าย รับความตายซะ!"

หญิงสาวเบิกตาขึ้นทันที เห็นร่างสูงตระหง่านร่างหนึ่งลงมาจากฟ้า ราวกับเทพเจ้าเสด็จลงมา พุ่งตรงไปที่ทาสดาบคมด้านหน้า

จากนั้นแสงดาบที่พุ่งขึ้นก็สว่างจ้าจนเธอต้องหลับตาอีกครั้ง

พลังของดาบยาวที่เติมพลังลมปราณ ไม่อาจเทียบได้กับดาบยาวในมือหญิงสาว ทาสดาบเฉียบคมที่เมื่อครู่ยังจะเพลิดเพลินกับอาหารมื้อเลิศรส ดวงตาฉายแววประหลาดใจ แล้วรีบถอยร่างอย่างรวดเร็ว หลบการโจมตีเต็มกำลังของผู้มาใหม่

ขณะเดียวกันทาสดาบหักสามตนก็ถอยหลังไปหลายก้าว ถ่างระยะห่างระหว่างกัน เพียงแต่วงล้อมที่พวกมันสร้างขึ้นก็ยังไม่แตก

ผู้ที่มาทันเวลาย่อมเป็นโจวชิงหยุน แต่เดิมเขาไม่ได้รู้สึกถึงการมีอยู่ของหญิงสาว กลับเป็นดาบยาวในมือที่ยึดมาจากทาสดาบคมที่ส่งเสียงสั่นเบาๆ เป็นระยะ ราวกับกำลังบอกใบ้บางอย่าง

ภายหลังเขาตามเสียงดาบมา กลับพบว่าในนรกดาบฝังศพที่ว่ากันว่ามีแต่ทาสดาบนี้ กลับยังมีคนเป็นอื่นอยู่

ดังนั้นทันทีที่เขาเห็นหญิงสาว เขาก็กดความสงสัยในใจทั้งหมดลง ช่วยหญิงสาวที่เกือบตายรอดมาได้

โจวชิงหยุนมองดูหญิงสาวที่บาดเจ็บแค่ที่ไหล่ ถอนหายใจโล่งอกพลางกล่าว "ข้าชื่อโจวชิงหยุน เจ้าล่ะ?"

ดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ผู้มาเยือนคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ ถึงกับใช้ดาบเพียงครั้งเดียวก็บีบให้ทาสดาบคมต้องถอย และการปรากฏตัวเมื่อครู่ก็เท่มาก ได้ตามคนแบบนี้ออกไปจากที่นี่ ไปเห็นโลกภายนอก ช่างเป็นความสุขจริงๆ

โจวชิงหยุนเห็นท่าทางเหม่อลอยของหญิงสาว ชะงักเล็กน้อย พึมพำว่า "ไม่จริงกระมัง เป็นคนโง่หรือ?"

"หา?" คำพูดนี้ทำร้ายจิตใจเกินไป หญิงสาวเบิกตาโต แล้วรีบพูดว่า "ข้า...ข้าไม่ใช่คนโง่ ข้าชื่อหลิวลี่ อายุสิบสี่ปี ยัง...ยังไม่มีแฟน"

พูดแบบนี้น่าจะถูกนะ ในหนังสือเกี่ยวกับโลกภายนอกที่หัวหน้าเก็บรักษาไว้ก็แนะนำตัวแบบนี้ หลิวลี่คิดอย่างประหม่า

แต่โจวชิงหยุนไม่ได้ตอบคำพูดของเธอ สายตาของเขาตกอยู่ที่ทาสดาบคมฝั่งตรงข้าม

ทาสดาบเฉียบคมตรงหน้านี้แม้จะไม่มีทาสดาบใต้บังคับบัญชามากนัก แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่าง ชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่าทาสดาบคมคนก่อนมากนัก