ตอนที่แล้วบทที่ 63 : เซียว​ซิง​หยู​กำลังจะจากไป?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 65 : สร้างคอนเนคชั่น​อีกครั้ง!

บทที่ 64 : โจวซงกับจักรพรรดิแรดยักษ์สงคราม


บทที่ 64 : โจวซงกับจักรพรรดิแรดยักษ์สงคราม!

ณ เมืองสี่วิญญาณ​ ถนนเยว่ถิง

ถนนสายนี้เป็นตลาดที่คึกคักที่สุดของเมือง ร้านค้าสองข้างทางส่วนใหญ่เป็นร้านขายของเกี่ยวกับอสูรและโรงพยาบาลอสูร

ตอนนี้ถนนเต็มไปด้วยผู้คน เเละพวกเขากำลังโห่ร้อง เฉลิมฉลอง ราวกับกำลังต้อนรับบุคคลสำคัญ

“ขอทางหน่อย!”

“เฮ้! นายเหยียบเท้าฉัน!”

“ขอโทษที ขอทางหน่อยครับ!”

เซียวซิงหยูเคลื่อนตัวผ่านฝูงชนอย่างรวดเร็วราวกับภูตผี จนไปถึงแถวหน้าสุดได้สำเร็​จ

ตรงกลางถนนมีกองทัพปรมาจารย์อสูรกลุ่มหนึ่งกำลังเคลื่อนผ่าน ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าๆที่นำขบวนมีหนวดเครา มีใบหน้าที่ดูแข็งกร้าว มีผิวที่หยาบกร้านซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากมามากขนาดใหน

“ดูจากเสื้อผ้าและสีผิวของพวกเขาแล้ว กองทัพนี้ต้องมาจากชายแดนตะวันตกของประเทศมังกรแน่ๆ”

ข้างกายชายคนนั้นมีอสูรขนาดมหึมาตัวหนึ่ง เเละมันคือแรดตัวสีน้ำเงินเข้ม

มันตัวใหญ่เท่าช้างเอเชียสองตัวรวมกัน​ เขาบนหัวของมันเปล่งประกายสีทองอร่าม ร่างกายถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีน้ำเงินที่หนาและแข็งแกร่ง

เซียวซิงหยูเปิดใช้งานดวงตาเทพอสูรโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้น, ข้อมูลของเเรดตัวนี้ก็ปรากฏขึ้นทันที​

…….

[ชื่อ]: แรดยักษ์สงคราม

[ระดับ]: ระดับจักรพรรดิ​ (ขั้นที่ 2)

[สายเลือด]: เผ่าอสูรยักษ์สงคราม (สายเลือดคุณภาพระดับเทพเจ้า​)

[พรสวรรค์​]: เสียงคำรามเเห่งสงคราม (เสียงคำรามสามารถเพิ่มขวัญกำลังใจของกองกำลังฝ่ายเดียวกันและยังเพิ่มพลังพลังโจมตีและป้องกันของพวกเขาได้, ในขณะเดียวกัน​ก็สามารถ​ทำให้​เกราะของศัตรูอ่อนลงได้บางส่วน​)

[คุณสมบัติ]: สายพลัง​จิต (พลังยักษ์ทำลายล้าง)

[ความภักดี]: 150

……

โดยปกติแล้ว ความภักดีของอสูรจะมีคะแนนเต็มที่ 100 แต่ถ้าอสูรและปรมาจารย์อสูรต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมานาน ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาด้วยกันหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน…คะแนนความภักดีก็จะเกิน 100 และสามารถ​เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความผูกพันที่มีต่อกัน

“เหอะๆ...”

หลังจากที่เซียวซิงหยูดูข้อมูลแล้ว เขาก็อดสูดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้

“เจ้าเเรดตัวใหญ่นี่เป็นอสูรรระดับจักรพรรดิ​นี่เอง ถึงว่าทำไมออร่าถึงได้แข็งแกร่งคล้าย​กัน​กับออร่าของลูลู่”

ทันใดนั้น​ ในหัวของเซียวซิงหยูมีเสียงของเดลลูดังขึ้น

“จักรพรรดิแรดยักษ์สงครามเป็นเผ่ายักษ์สงคราม พวกนี้ชอบการต่อสู้เป็นชีวิต​จิตใจ​ เมื่อก่อนเผ่าของพวกเขากับเผ่าจิ้งจอกเก้าหางก็เคยมีเรื่องบาดหมางกันอยู่​บ่อยๆ”

เดลลูไม่ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องบาดหมางในอดีต, เพราะข้อมูล​เหล่านั้นมันไม่มีประโยชน์​อะไรสำหรับ​เซียว​ซิง​หยู​

หลังจาก​ที่เซียวซิงหยูละสายตาจากจักรพรรดิแรดยักษ์สงคราม เขาก็มองไปที่ชายมีหนวดเครา

บนหน้าอกของชายคนนั้นมีตราสัญลักษณ์รูปดาวแปดดวง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปรมาจารย์อสูรระดับแปดดาว

“ปรมาจารย์อสูรระดับแปดดาวที่ประจำการอยู่ชายแดนตะวันตก ต้องเป็นพลโท หรือไม่ก็...”

ขณะที่​เซียวซิงหยูกำลังเดาอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงผู้คนรอบข้างตะโกนอย่างตื่นเต้น​

“ยินดีต้อนรับท่านเจ้าเมืองโจวกลับบ้าน!”

“ท่านเจ้าเมืองโจว ท่านลำบากตรากตรำเฝ้าชายแดนทุกวันทุกคืน พวกเราขอขอบคุณท่านมาก!”

“นี่คือไข่ไก่สดที่แม่ไก่ของฉันออกไข่ โปรดรับไว้ด้วย!”

“ท่านอย่าปฏิเสธน้ำใจของพวกเราเลย ท่านเป็นวีรบุรุษของประเทศมังกร เป็นความภาคภูมิใจของเมืองสี่วิญญาณ​ของเรา!”

“เจ้าเมืองโจว?” เซียวซิงยูตกตะลึงแล้วพึมพำกับตัวเอง

“คนที่ถูกเรียกว่าเจ้าเมือง มีเพียงแค่เจ้าเมืองทั้งสี่ที่ประจำการอยู่ตามเมืองปราการทั้งสี่ทิศของประเทศมังกร”

“เจ้าเมืองโจวคนนี้มาจากชายแดนตะวันตก เมืองที่เขาประจำการอยู่ก็คือหวางเยียนเชิง... แซ่โจว...”

ทันใดนั้น เซียวซิงหยูก็นึกขึ้นได้

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นพ่อของโจวเย่นี่เอง”

โจวซง เจ้าเมืองหวางเยียนเชิง

ปกติเเล้วเขาจะประจำการอยู่ที่ชายแดนตะวันตก คอยปกป้องดินแดนของประเทศมังกรจากการรุกรานของอสูรป่าจากต่างแดน

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของชายคนนี้ และรอยแผลเป็นมากมายบนตัวของจักรพรรดิแรดยักษ์สงคราม แสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยยากและความเสียสละที่พวกเขาทำเพื่อประเทศชาติ

….

“กลิ่นของหญ้าหางนกฟีนิกซ์มาจากกระเป๋าของเขา!”

ทันใดนั้น เสียงของเดลลูก็ดังขึ้นในหัวของเซียวซิงหยูอีกครั้ง

“หญ้าหางนกฟีนิกซ์จะขึ้นที่ธารน้ำแข็งไล่กู่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของอสูรป่าจำนวนมาก…อย่าง​ไรก็ตามธารน้ำแข็งไล่กู่อยู่ห่างจากเมืองหวางเยียนเชิงไม่กี่กิโลเมตร ข้าไม่แปลกใจเลยที่โจวซงจะหาหญ้าหางนกฟีนิกซ์มาได้”

เมื่ออธิบาย​เสร็จ​ เดลลูก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือน

“ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ เจ้าย่อมไม่สามารถเข้าไปในธารน้ำแข็งไล่กู่ซึ่งมีอสูรระดับสูงมากมายอาศัย​อยู่​ได้…ถ้าเจ้าอยากได้หญ้าหางนกฟีนิกซ์ นี่เป็นโอกาสเดียวเท่านั้​น”

“ลูลู่…เธอพูดเหมือน​มันง่ายนะ ฉันกับโจวซงไม่ได้เป็นญาติกันสักหน่อย เเบบนี้จะให้ฉันไปขโมยของจากเขางั้นเหรอ?” เซียวซิงหยูได้เเต่ยิ้มแห้งๆ

“เจ้าน่ะฉลาด​จะตาย ลองหาวิธีดูเอาสิ…เเต่ตอนนี้ข้าง่วงแล้ว ขอนอนก่อนนะ”

“ลูลู่...” ตราอสูรบนมือของเซียวซิงหยูหรี่แสงลง ราวกับว่าเดลลูปิดการติดต่อสื่อสาร​ไปแล้ว

เซียวซิงหยูหันกลับไปร่วมโห่ร้องกับฝูงชนเพื่อต้อนรับการกลับมาของโจวซง…ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดหาทางที่จะได้หญ้าหางนกฟีนิกซ์มาจากโจวซง

“หรือว่าจะต้องขโมยจริงๆ?”

“เหอะๆ ฉันเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับสองดาว จะไปขโมยของจากปรมาจารย์อสูรระดับแปดดาวได้ยังไงฟะ!”

“ต้องหาวิธีที่ฉลาดกว่านี้...”

เเละทันใดนั้นเอง เซียวซิงหยูก็สังเกตเห็นบางอย่าง

จักรพรรดิแรดยักษ์สงครามที่อยู่ข้างกายโจวซงดูเหมือนจะกระสับกระส่าย พร้อมส่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวดออกมาเบาๆ

เซียวซิงหยูมีดวงตาเทพอสูร ซึ่งมันทำให้การมองเห็นของต่างจากคนอื่น…รูม่านตาสีแดงของเขาเปรียบเสมือนกล้องจุลทรรศน์ที่สามารถมองเห็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปมองไม่เห็น

ณ ขณะนี้…ในรูหู ใต้ผิวหนังรักแร้ และตามขนของจักรพรรดิแรดยักษ์สงคราม มีไข่แมลงสีน้ำตาลอมเหลืองเกาะอยู่เต็มไปหมด

ไข่แต่ละฟองกำลังดูดไขมันและเลือดใต้ผิวหนังของจักรพรรดิเเรดยักษ์​สงคราม, ไข่บางฟองฟักออกมาเป็นตัวคล้ายมด กำลังกัดกินผิวหนังของจักรพรรดิแรดยักษ์สงคราม

แมลงตัวเล็กๆเหล่านี้ที่คนทั่วไปมองไม่เห็น เเละคือสาเหตุที่ทำให้จักรพรรดิ​เเรดยักษ์​สงคราม​รู้สึกไม่สบายตัว

ด้วยดวงตาเทพอสูร เซียวซิงหยูจึงเป็นคนเดียว​ที่สามารถมองเห็นความผิดปกตินี้ได้

“มีวิธีแล้ว...” เซียวซิงหยูนึกแผนการได้ทันที​

“เด็กน้อย อย่ามาเบียดสิ!”

“โอ๊ย!”

เซียวซิงหยูเซถลาออกจากฝูงชน เเละขณะที่เขากำลังจะล้ม มือใหญ่ที่ทรงพลังก็ยื่นมาจับไหล่เขาไว้ได้เสียก่อน

“น้องชาย ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เสียงของโจวซงทรงพลังสมชื่อของเขา

“ขอบคุณท่านเจ้าเมืองโจวครับ”

เสื้อผ้าของเซียวซิงหยูทำให้โจวซงสนใจทันที​

“เธอเป็นนักเรียนของวิทยาลัยชิงหลงงั้นเหรอ?”

เมื่อเซียวซิงหยูพยักหน้ารับ โจวซงก็มองเขาด้วยความชื่นชมแล้วตบไหล่เซียว​ซิง​หยู​

“วีรบุรุษมักเกิดในหมู่คนหนุ่มสาว การที่เธอสอบเข้าวิทยาลัยชั้นยอดทั้งสี่ได้ แสดงว่าเธอต้องมีพรสวรรค์ไม่น้อย หวังว่าในอนาคต…เธอจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศนะ”

โจวซงมองเซียวซิงหยูอีกครั้ง, รอบนี้แววตาของชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ดูอ่อนโยนลง

“อายุเธอเท่าๆกับลูกชายฉันเลย ลูกชายฉันก็สอบเข้าวิทยาลัยทั้งสี่ได้เหมือนกัน แต่เขาไม่ได้อยู่วิทยาลัยชิงหลง เขาอยู่วิทยาลัยไป๋หู่”

ลูกชายของโจวซงก็คือโจวเย่นั่นเอง

เเละในขณะนี้ ที่เวทีการแข่งขันซูเปอร์โนว่า…โจวเย่ก็กำลังต่อสู้กับมู่หรงซินซินอยู่​

เมื่อเซียวซิงหยูสามารถดึงดูดความสนใจของโจวซงได้แล้ว เขาก็รีบเข้าเรื่องทันที

“ท่านเจ้าเมืองโจว อสูรของท่าน…ดูเหมือนจะป่วยนะครับ”

โจวซงขมวดคิ้ว “ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้น?”

“มันดูเหมือนจะเจ็บปวดอยู่​ตลอดเวลา, ดวงตามันแดงก่ำ แสดงว่าเส้นประสาทอ่อนแอ…ขนก็ไม่เงางาม ดูเหมือนจะกินอะไรไม่ค่อยได้หรือนอนไม่หลับมานาน”

“เเล้วถ้าผมเดาไม่ผิด พอฝนตก มันจะมีผื่นแดงขึ้นเต็มตัว หรือแม้แต่ผิวหนังเป็นหนอง”

คำพูดนี้ทำให้โจวซงตกตะลึง จากนั้นก็มองมาที่เซียว​ซิ​ง​หยู​ด้วยความสงสัย​

“เธอรู้ได้ยังไง?”

“เพราะผมเป็นเเพทย์​อสูรครับ”

…………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด