บทที่ 370 แต่งงานสายฟ้าแลบเพื่อล้างแค้น
บทที่ 370 แต่งงานสายฟ้าแลบเพื่อล้างแค้น
ไต้เหิงซิน ยังไม่ได้กลับถึงบ้าน ก็โดนแม่โทรมาดุแล้ว
เห็นได้ชัดว่า เฉินลู่ ได้โทรไปฟ้องจ้าวเฉิงเฟิง
“ลูกจะแต่งงานแล้ว ทำไมยังคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอยู่ได้?”
“อีกอย่าง ท้องเขาก็ใหญ่แล้ว เขาไม่ได้สนใจลูกเลย…” เจ้าเฉิงเฟิงพูดต่อว่ารัวๆ
ไต้เหิงซินฟังด้วยใบหน้าชาๆ ราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง
จนกระทั่งเจ้าเฉิงเฟิงพูดถึงไต้เอินหนิง
“น้องสาวของลูกกลายเป็นแบบนี้ เพราะผู้หญิงคนนั้นทำเธอเสียหาย…”
ไต้เหิงซินหัวเราะเยาะ “แม่ ไม่ไปดูแลน้องหน่อยเหรอ? เธอคงต้องกินข้าวแล้วใช่ไหม?”
จ้าวเฉิงเฟิงเงียบไปทันที ราวกับไก่ที่ถูกบีบคออยู่พักหนึ่ง ก่อนพูดออกมาด้วยความขุ่นเคือง “เรื่องนี้ลูกจะสนใจทำไม…”
ใช่แล้ว ช่วงนี้เธอต้องอยู่บ้านเพื่อดูแลไต้เอินหนิง
ไต้เอินหนิงซึมเศร้าหนัก ทุกวันเธอเอาแต่ขลุกตัวในห้อง ไม่ยอมออกไปไหน เอาแต่ร้องไห้เงียบๆ
เรื่องของเธอที่ฮวงซานกลายเป็นข่าวใหญ่ ทุกคนที่เกี่ยวข้องโดนจับไปหมด เหลือแค่เธอที่รอดมาได้
แต่กลับไม่มีใครดีใจเลย
ทุกคนต่างพูดว่า: ไต้เอินหนิงทำเพื่อเงิน ถึงได้ไปพัวพันกับพวกนั้น
เพราะผู้หญิงคนอื่นๆ ก็ยอมรับกันหมดว่า พวกเธอ “ปล่อยตัว” เพื่อเงิน
จะให้ไปอธิบายกับทุกคนได้ยังไงว่า: ลูกสาวของฉันถูกมอมยา?
คนอื่นต้องเชื่อด้วยสิ…
ไต้เอินหนิงไม่ออกจากบ้าน จ้าวเฉิงเฟิงก็แทบจะไม่ออกไปไหนเหมือนกัน
เธอเองก็รู้สึกอับอาย
จ้าวเฉิงเฟิงถือถาดอาหารกลางวันเข้าไปในห้องของไต้เอินหนิง
ในห้อง ผ้าม่านถูกดึงปิดสนิท เครื่องปรับอากาศทำให้ห้องเย็นราวกับห้องเก็บศพ ไต้เอินหนิงซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่มหนาๆ สร้างความรำคาญให้จ้าวเฉิงเฟิงที่อดบ่นไม่ได้
“อากาศร้อนขนาดนี้ ยังเปิดแอร์คลุมผ้าห่มหนา…ไม่ป่วยก็ให้มันรู้ไปสิ…”
เสียง "ปัง" ดังขึ้น ไต้เอินหนิงคว้าโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างเตียงขว้างใส่ทันที
โทรศัพท์แตกเป็นเสี่ยงๆ จ้าวเฉิงเฟิงที่ตกใจกับการกระทำยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนระเบิดออกมา
“เธอจะขว้างอะไร? ฉันเรียกเธอไปเองหรือไง?”
เธอวางถาดอาหารลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วตะโกนใส่ไต้เอินหนิงด้วยความโกรธ
“ตัวเธอเองทำให้เป็นแบบนี้ ตอนนี้กลับมาโวยวายใส่ฉัน?”
“ถ้าเก่งนักก็ไปหาเหอเหลียงฉง หรือไปหาใครนั่นสิ!”
“เธอทำตัวเรียบร้อยดีต่อหน้าพวกนั้น แต่กลับเอาแต่ร้ายใส่ฉัน!”
หลังจากระเบิดอารมณ์ราวภูเขาไฟ จ้าวเฉิงเฟิงเริ่มปรับสายตาให้ชินกับความมืดในห้อง และเห็นลูกสาวที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม โดยไม่ขยับเขยื้อน
เธอรู้สึกเสียใจขึ้นมาอีก: ลูกสาวเธอถูกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก จะไปตะคอกใส่แบบนี้มีประโยชน์อะไร…จ้าเวฉิงเฟิงค่อยๆ ปรับอารมณ์ แล้วเดินไปปลอบใจ
แต่ไต้เอินหนิงที่เธอสัมผัสได้ มีเพียงความแข็งกร้าวต่อต้าน ไม่ยอมให้แตะต้อง…
จ้าวเฉิงเฟิงหมดหนทาง จึงลงมาชั้นล่างเพื่อคุยกับสามีของเธอ
“แบบนี้ไปไม่รอด—ถ้าไม่ไหวจริงๆ ส่งไปโรงพยาบาลจิตเวชดีไหม?”
จะยังไงก็ต้องทำให้เธอกลับมาเป็นปกติก่อนใช่ไหม?
ไต้จิ้งเย่ พยักหน้า “ก็ดี…”
ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เสียงจากชั้นบนก็ดังชัดเจนว่า “ฉันไม่ไปโรงพยาบาลจิตเวช”
คู่สามีภรรยาตกใจ ไต้เอินหนิงออกมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
เด็กสาวผอมแห้งคล้ายโครงกระดูกยืนอยู่ที่บันได ผมกระเซอะกระเซิง ราวกับภูติผี
ไต้จิ้งเย่ขมวดคิ้ว “ไม่อยากไปโรงพยาบาลจิตเวช ก็ทำตัวให้ปกติเสียสิ”
“ทำตัวแบบนี้ แยกกลางวันกลางคืนไม่ออก ไม่ออกจากบ้าน ไม่พูดจา ใครจะวางใจได้?”
ไม่คาดคิดว่าไต้เอินหนิงจะตอบกลับ เธอกลับ “อืม” ขึ้นมา
“เข้าใจแล้ว”