บทที่ 276 อาคารเคราะห์ร้าย ตอนที่ 15
บทที่ 276 อาคารเคราะห์ร้าย ตอนที่ 15
เสิ่นชงหรานได้ฟังคำตอบเหล่านั้นแล้ว เธอกลับพูดน้ำเสียงเหมือนระบายความในใจว่า:
"ฉันเองก็ไม่อยากเชื่ออะไรแบบนี้หรอก แต่ตอนที่ไปถึงหน้าประตูห้องน้ำ ฉันได้ยินเสียงประตูกระแทกดัง
'ปึง ปึง' อย่างชัดเจน ตอนนั้นฉันก็รีบเปิดประตูทันที ปรากฏว่าเป่าเจี๋ยนั่งอยู่ที่มุมห้อง ซึ่งจากตรงนั้นถึงประตูยังต้องเดินอีกตั้งหลายก้าว และฉันก็เปิดประตูอย่างรวดเร็ว เธอไม่มีทางจะมีเวลาไปนั่งคุดคู้อยู่มุมนั้นได้เลย"
"ท่าทางของเสิ่นชงหราน มันไม่ได้เหมือนคนที่โกหกพ่อเลย ไม่อยากบอกอะไรหน่อยเหรอค่ะ? ฉันรู้นะว่าพ่อกับพวกคุณอาก็เชื่อเรื่องพวกนั้นเหมือนกัน"
เมื่อเห็นลูกสาวถามอย่างไม่ลดละ พ่อซวี่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า
"พ่อกับคุณอาก็เชื่อเรื่องพวกนี้จริง แต่ก่อนหน้านี้มันเป็นแค่เรื่องเอาเคล็ดเพื่อความเป็นสิริมงคลเท่านั้น แต่ตึกสุ่ยจิ้งไม่ได้สร้างโดยพ่อ ดังนั้นรายละเอียดเกี่ยวกับที่นี่พ่อไม่รู้หรอก แต่เดิมทีพื้นที่ตรงนั้นก็ไม่เหมาะที่จะสร้างตึกเลย ทางเลือกที่ดีกว่าน่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน และเป็นโรงเรียนที่มีหลายวิทยาเขตเชื่อมต่อกันด้วย เพื่อจะพัฒนาให้เป็นเสมือนเมืองมหาวิทยาลัย แต่ทำเลตรงนั้นมันดีมาก ถ้าพัฒนาขึ้นมาก็จะทำกำไรได้มหาศาล ที่สำคัญที่สุดคือ เจ้าของที่เขากับอยากสร้างศูนย์กลางการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทั้งพื้นที่นั้นแทน"
"สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าพวกเขาใช้วิธีการอะไรถึงสร้างตึกพวกนั้นขึ้นมาได้ แต่ตึกสุ่ยจิ้ง A ซึ่งอยู่ตรงจุดศูนย์กลางที่สุด เป็นอาคารที่สร้างเสร็จก่อน พอสร้างเสร็จแล้ว อาคารอื่นๆ ถึงได้เร่งการก่อสร้างขึ้นตามมา"
เมื่อได้ฟังสิ่งที่พ่อเล่า เสิ่นชงหรานก็พอจะเข้าใจว่า ทำเลตรงนั้นดีจริง แต่ก็เต็มไปด้วยวิญญาณอาฆาต
"แต่สร้างมานานขนาดนี้ก็ไม่เคยได้ยินว่าเกิดเรื่องอะไรเลย แถมยังไม่มีข่าวว่ามีใครฆ่าตัวตายด้วย"
พ่อซวี่พยักหน้า "ใช่ มันไม่เคยเกิดเรื่อง แต่ที่ไม่เคยก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ตอนนี้พ่อได้ติดต่อไปยังผู้พัฒนาโครงการแล้ว เพราะสุดท้ายตึกพวกนี้ก็เป็นของพวกเขา ถ้าจะกังวล พวกเขาก็คงกังวลมากกว่าเราอีก เธอแค่ทำงานให้ตรงเวลา แล้วพ่อก็จะวางใจ เรื่องอื่นพ่อจะจัดการเอง เด็กน้อยอย่างเธอยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะ ไปนอนได้แล้ว"
เมื่อเห็นพ่อเริ่มไล่เธอ เสิ่นชงหรานจึงทำได้แค่กลับไปโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม
ในเมื่อผู้พัฒนาโครงการทราบเรื่องนี้แล้ว พวกเขาน่าจะหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง เพียงแต่ระยะเวลาที่จะใช้ในการแก้ไขมันยังคงเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน
• ··
ในขณะที่เสิ่นชงหรานกำลังรวบรวมเบาะแส เฟิงอี้เฉินและคนอื่นๆ ก็อาศัยช่วงที่จำนวนคนในอาคารลดลง เข้าสู่ตึกและมุ่งตรงไปยังชั้นดาดฟ้า
เฟิงอี้เฉินจำตำแหน่งกล้องวงจรปิดได้แล้ว เมื่อพวกเขามาถึงชั้นดาดฟ้า เขาให้กู่เถียนเถียนใช้ยันต์ปกปิดกล้องวงจรปิดไว้
แต่ไม่ใช่พวกเขากลุ่มเดียวที่ต้องการค้นหาสิ่งต่างๆ ในตึกนี้ กลุ่มของหลี่เอ่อก็มาที่นี่เช่นกัน
แต่พวกเขาไม่ได้มาที่ชั้นดาดฟ้า หากมุ่งหน้าไปยังบริษัทที่เกิดเหตุ
หลี่เอ่อเป็นผู้วาดยันต์มานานกว่ากู่เถียนเถียนมาก อีกทั้งเขายังเป็นผู้มีพลังพิเศษที่สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ ในหมู่ผู้ทำภารกิจ ชายที่มีพลังแบบเขานั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา
เขาชำนาญการวาดยันต์ล่องหน และในภารกิจขั้นสูงยันต์นี้ถูกใช้อยู่บ่อยครั้ง
ซ่งฉี่เหมยและคนอื่นๆ มาถึงบริษัทที่หลี่เอ่ออยู่ก่อน ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุครั้งแรก
หลี่เอ่อเคยสำรวจที่นี่มาก่อน ห้องทำงานที่ถูกปิดกั้นเต็มไปด้วยพลังงานอาฆาต เมื่อวานนี้ หลังจากตรวจสอบพบว่าซวี่ซุ่นเปิดก๊อกน้ำและจมน้ำเสียชีวิตด้วยตัวเอง ตำรวจก็ถอนตัวออกไป แต่ห้องทำงานนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้ามาใช้งานจนถึงตอนนี้
หลี่เอ่อใช้บัตรผ่านของตัวเองเปิดประตูห้องทำงาน อีกสามคนเดินเข้าไปพร้อมกัน
"พลังวิญญาณแรงมาก แต่เพราะที่นี่ถูกปิดไว้ไม่มีใครเข้ามา ไม่อย่างนั้นคงมีคนตายเพิ่ม"
หลี่เอ่อกล่าวพลางยืนอยู่ใกล้ประตู
ซ่งฉี่เหมยมองสำรวจรอบๆ อย่างระมัดระวัง เธออยู่ใกล้หลี่เอ่อที่สุด เพราะในทีมนี้กัปตันของพวกเขามียันต์วิญญาณมากที่สุด ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณร้ายก็ยังมีโอกาสรอดชีวิต
"กัปตัน นี่เป็นครั้งแรกที่คุณเข้ามาหลังจากตำรวจถอนตัวใช่ไหม?"
เมื่อได้ยินคำถามของลี่เมิ่งชิว หลี่เอ่อพยักหน้า "ใช่ เพราะกลัวจะไปรบกวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนที่ทำงานในสายนี้มีความรู้สึกไวมาก"
อวี๋เหมี่ยวมองไปรอบๆ ห้องทำงานที่ดูแค่อึมครึมเล็กน้อย แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ "ดูเหมือนจะไม่มีอะไรนะตอนนี้"
พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงน้ำไหลก็พลันดังขึ้น อวี๋เหมี่ยวรีบหยิบอุปกรณ์ออกมาทันที
ห้องทำงานนี้ไม่ได้เปิดไฟ หลี่เอ่อตั้งใจไม่เปิดไฟเพื่อให้มองเห็นพลังวิญญาณในความมืดได้ชัดขึ้น
ตอนนี้ก๊อกน้ำเปิดเอง ทำให้ทุกคนนึกถึงซวี่ซุ่นที่จมน้ำเสียชีวิตด้วยตัวเอง
เพราะผ่านภารกิจมาหลายครั้ง พวกเขาจึงไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรมากนัก เพียงแต่ระวังตัวเพิ่มขึ้น
ซ่งฉี่เหมยชี้ไปที่มุมหนึ่งทันที "ดูตรงนั้นสิ"
อีกสามคนมองไปตามทิศทางที่เธอชี้ และเห็นเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงจุดที่มีน้ำไหล ร่างนั้นแทบจะกลืนไปกับความมืด แต่ก็ยังพอมองเห็นเค้าโครง
อวี๋เหมี่ยวกระพริบตาอยู่หลายครั้งจนเห็นชัดเจน "มีแค่ตัวเดียว คงจัดการได้"
แต่ลี่เมิ่งชิวที่กำลังสอดส่องรอบตัวกลับพบว่า เมื่อเธอกวาดสายตาจากซ้ายไปขวาแล้วหันกลับมาดูอีกครั้ง ห้องทำงานอันกว้างใหญ่แห่งนี้กลับมีเงาร่างเพิ่มขึ้นหลายตัว
เธอจับแขนซ่งฉี่เหมยแน่น "เพิ่มมาอีกหลายตัว พวกนายระวังด้วย"
หลี่เอ่อมองไปบ้าง พบว่ามีเงาร่างเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยสามถึงสี่ตัว และดูเหมือนจำนวนจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่อยู่ต่อไม่ได้แล้ว ถ้าจำนวนมากขนาดนี้เราคงจัดการไม่ไหว"
ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เอ่อสำรวจรอบตัวและพบว่าที่นี่มีเพียงจำนวนวิญญาณร้ายมาก แต่ไม่มีสิ่งผิดปกติอื่นๆ ที่ชัดเจน พวกเขากำลังตามหาต้นตอ และที่นี่ก็ไม่น่าจะใช่
ประตูกระจกที่เปิดอยู่จู่ๆ ก็ปิดลงกะทันหัน โชคดีที่ลี่เมิ่งชิวอยู่ใกล้ประตูจึงใช้ร่างกายขวางไว้ได้ทัน
"สิ่งพวกนี้พยายามกักเราไว้ ถ้ายังหาไม่เจอก็รีบออกไปก่อน"
อีกสองคนมองหลี่เอ่อ เมื่อเขาพยักหน้า ทั้งสามจึงออกจากห้องทำงานทันที หลังจากลี่เมิ่งชิวออกมาแล้ว ประตูกระจกก็ปิดลงอย่างรวดเร็ว แม้จะมีประตูกั้น พวกเขาก็ยังรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากด้านใน
• ··
ในเวลาเดียวกัน เวินซวีและคนอื่นๆ เพิ่งมาถึงชั้นดาดฟ้า กู่เถียนเถียนเริ่มใช้พลังตรวจสอบทั่วทั้งดาดฟ้า แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน
เฟิงอี้เฉินมองดูการกระทำของเธอ เมื่อกู่เถียนเถียนหยุด เขาจึงถามว่า "เป็นยังไงบ้าง มีอะไรไหม?"
กู่เถียนเถียนขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงความลำบากใจเล็กน้อย "จะว่าไงดีล่ะ ไม่มีอะไรชัดเจน แต่สถานที่นี้ให้ความรู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ แต่ฉันยังสัมผัสไม่ได้"
เวินซวีที่พิงกำแพงอยู่พูดขึ้น "นั่นหมายความว่า ที่นี่อาจเป็นต้นตอ"
กู่เถียนเถียนตอบ "อาจจะใช่ หรืออาจจะเป็นแค่ใกล้กับต้นตอ สรุปแล้วยังไม่แน่ชัด"
คำตอบนี้ทำให้คนอื่นๆ คิดว่านี่เป็นการค้นพบครั้งใหญ่แล้ว
เฟิงอี้เฉินพูดว่า "ดีมากแล้ว ลองสังเกตต่ออีกหน่อย ถ้ายังไม่เจออะไรเพิ่ม เราจะกลับ"
กู่เถียนเถียนพยักหน้า พร้อมกับเอามือแตะกำแพง "ตกลง ฉันจะลองอีกครั้ง"
เธอสัมผัสกำแพงจนเต็มไปด้วยฝุ่น แต่สุดท้ายก็ยังไม่พบสิ่งใด กู่เถียนเถียนเกาหัวก่อนลุกขึ้นยืน "ยังไม่รู้สึกถึงอะไรที่ผิดปกติ ตรงกันข้าม ที่นี่ดีมาก ไม่มีพลังวิญญาณเลย แถมอยู่ที่นี่รู้สึกเย็นสบายเหมาะกับพักผ่อนช่วงฤดูร้อน"
เมื่อผู้มีพลังพิเศษที่ไวต่อวิญญาณร้ายที่สุดยังไม่พบอะไร การอยู่ต่อไปก็คงเสียเวลา อีกทั้งตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
เฟิงอี้เฉินดูนาฬิกาข้อมือก่อนกล่าว "กลับกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยดูสถานการณ์อีกที"
..........