บทที่ 13 การระงับพลัง?
บทที่ 13 การระงับพลัง?
เมื่อเห็นการแสดงออกของเจ้าชายเช่นนี้! เธอก็รู้สึกใจหาย! จึงรีบพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“พี่…ทะ.. ท่านพี่! ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย!”
คำพูดของเธอนั้นยังคงประหม่าและตะกุกตะกักอยู่เล็กน้อย เมื่อต้องเรียกเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนว่าท่านพี่!
หลังจากนั้นเธอก็เอาแขนเสื้อปิดปาก และกระแอมไออีกสองสามครั้งเพื่อระบายแอลกอฮอล์อันร้อนแรงออกจากลำคอที่แสบร้อน!
ทันทีที่หลิวจู่เสียนพูดจบ สีหน้าของเจ้าชายก็แสดงถึงความกังวลออกมา!
“เจ้าไม่สบายงั้นหรือ?”
ขณะที่พูดเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนก็เอื้อมมือออกไปจับมือหลิวจู่เสียนที่วางอยู่บนเข่าด้วยความเป็นห่วง!
“มือของเจ้าเย็นมาก! เจ้าปวดศีรษะหรือไม่?”
หลิวจู่เสียนไม่รู้จะพูดอย่างไร และอธิบายแบบไหนให้ผู้ชายแบบเจ้าชายเข้าใจได้ว่าเธอกำลังมีรอบเดือนเธอรู้สึกไม่สบายใจเลย! ฉะนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่นั่งก้มหน้าเงียบ!
ในขณะเดียวกันฉินเสี่ยวเทียนก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก! เขาจึงเอื้อมมือไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขนเบาๆ คล้ายกับว่ากำลังช่วยให้ความอบอุ่นกับเธอ!
หลิวจู่เสียนเองก็ไม่ทันตั้งตัว เธอรู้สึกตกตะลึงและมึนงง ตัวแข็งทื่อ ในขณะที่อยู่ในอ้อมแขนของเจ้าชาย!
กลิ่นหอมจางๆ ของหลิวจู่เสียนกระทบจมูก ของเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนทำให้ใจเขาเต้นแรง! ด้วยเลือดลมที่พลุ่งพล่านและสูบฉีด ทำให้ใบหน้าของเขานั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง!
แต่ในฉับพลัน! เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนที่กำลังอิ่มเอมอยู่กับกลิ่นหอมของหลิวจู่เสียน ก็ได้กลิ่นเลือดบางๆ ผสมกับกลิ่นหอมของหญิงสาวในอ้อมกอด
“น้องหญิง! เจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ? ใครทำร้ายเจ้า?”
น้ำเสียงของฉินเสี่ยวเทียนเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ! และสีหน้าของเขานั้นก็แสดงออกถึงความดุร้าย!
หลิวจู่เสียนขมวดคิ้วแอบรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเจ้าชายหรือไม่? บางครั้งเขาก็เหมือนหนุ่มน้อยที่ไร้เดียงสา แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทางที่น่ากลัวและเย็นชา!
คิ้วและดวงตาของเขาดูโหดเหี้ยมและใบหน้าของเขาดูดุร้าย ราวกับว่าเขาสามารถบดขยี้ให้ใครบางคนให้ถึงแก่ความตายได้ตลอดเวลา! ผู้ชายที่อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายนี้! ย่อมเป็นคนไม่แน่นอนหรือเจ้าอารมณ์ดังนั้นเธอควรต้องระมัดระวังตัว
“ข้า…ข้าไม่ได้บาดเจ็บอันใด! เพียงแค่…”
หลิวจู่เสียนตอบอย่างอ่ำๆอึ้งๆ ด้วยความเขินและกระดากอาย เธอจึงไม่รู้จะพูดอธิบายอย่างไรดี?
ก๊อกๆๆ!!
แต่อย่างไรก็ตามในขณะนั้นเอง! ก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก จากนั้นเธอก็เหลือบมองเจ้าชายที่อยู่ข้างๆ เธอซึ่งมีสีหน้าดุร้ายยิ่งขึ้นราวกับว่าเขาต้องการจะฆ่าผู้เคาะประตูและกล้ามารบกวนเธอ!
แต่ในทางกลับกัน! เขากลับพยายามฝืนยิ้มเมื่อหันมามองหน้าและจับมือของเธอ! มันจึงดูย้อนแย้งอย่างน่าตลก!
และในขณะเดียวกันที่เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนจับมือของเธอนั้น! เขาก็พยายามใช้นิ้วลูบไล้ฝ่ามือและนิ้วของเธออยู่ตลอดเวลา!
เธอแอบย่นคิ้วเล็กน้อย! แต่ก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจหรือการขัดขืนใดๆ เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเสียเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนก็คือสามีของเธอ ต่อให้เขาจะซุกซนแค่ไหนเธอก็ต้องยอมรับและทำหน้าที่ของภรรยาให้ดีที่สุด!
เสียงเคาะประตูยังดังอยู่อีก 2-3 ครั้ง เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียน ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์! แล้วตวาดถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดุ!
“ผู้ใดกัน! ช่างไร้มารยาทยิ่งนัก!”
“ขออภัยด้วยเจ้าค่ะเจ้าชาย! บ่าวโม่จูเองเจ้าค่ะ!”
หลังจากทิ้งช่วงจังหวะรออยู่ครู่หนึ่ง โม่จูก็เปิดประตูและเดินเข้ามาหยุดยืนรอที่หน้าประตูด้านใน ขณะที่ในมือยกถาดที่มีถุงน้ำร้อนวางอยู่!
(กระเป๋าหรือถุงน้ำร้อนของจีนโบราณจะเย็บและทำมาจากกระเพาะสัตว์เช่นแพะหรือแกะ)
เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนรู้สึกงงและสับสนเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไมสาวใช้ผู้นี้ถึงยกของที่มีลักษณะคล้ายกับถุงน้ำร้อนเข้ามาด้วย! ยิ่งไปกว่านั้นน้ำเสียงของสาวใช้ผู้นี้ค่อนข้างจะเรียบเฉยอย่างแปลกประหลาด
“นางเป็นสาวใช้ของเจ้าเช่นนั้นรึ! น้องหญิง?”
หลิวจู่เสียนพยักหน้าแล้วรีบโบกแขนเสื้อแล้วพูดว่า “เข้ามาเถอะพี่โม่จู!”
หลิวจู่เสียนพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อโม่จูเดินเข้ามาเธอก็เหลือบมองเจ้าชายที่อยู่ข้างๆคุณหนูของเธอ
เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและจ้องมองไปยังของที่อยู่บนถาด ก่อนจะถามออกไปว่า!
“เจ้านำสิ่งใดมา? เจ้าไม่รู้หรือว่าเวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนและเจ้ากำลังรบกวนนายหญิงของเจ้า!”
เมื่อเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนรู้ว่านางเป็นสาวใช้คนสนิทของหลิวจู่เสียน น้ำเสียงของเขาก็อ่อนและเบาลงกว่าเดิมมาก! ทำให้ฟังดูไม่น่ากลัวเหมือนกลับเมื่อครู่นี้
แต่หลิวจู่เสียนกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น! เธอกลับคิดที่น้ำเสียงของเจ้าชายอ่อนลงนั้นเป็นเพราะเห็นว่าโม่จูสวยงาม! เขาจึงแสดงนิสัยความเจ้าชู้ของเขาออกมา! ทำให้เธอนึกอยากจะเตะเขาให้กระเด็นออกจากห้อง!
“มีเหตุอันใดหรือไม่! เจ้าจึงได้ถือของพะรุงพะลังและรีบเข้ามาในเวลานี้?”
เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียน ถามออกไปด้วยความอยากรู้?
“บ่าวนำถุงน้ำร้อนมาให้กับคุณหนูเจ้าค่ะ! นายหญิงปวดท้องไม่ค่อยสบายเนื่องจากมีรอบเดือน! จึงต้องใช้ถุงน้ำร้อนประคบไว้เพื่อบรรเทาอาการปวดเจ้าค่ะ!”
ใบหน้าของเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนที่แต่เดิม ยังยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีต่อหน้าหลิวจู่เสียน! เปลี่ยนกับกลายเป็นแข็งค้างในทันที!
ไม่เพียงแต่แปลกใจต่อเสียงอันแปลกประหลาดที่เรียบเฉยและยืดยานจนคล้ายกับเสียงของนางมารกระดูกขาว แต่เขายังรู้สึกแปลกใจกับคำบอกเล่าของสาวใช้ผู้นี้ด้วย จนถึงกับต้องถามซ้ำด้วยความไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรือไม่?
“เจ้าว่าอะไรนะ?!”
โม่จูตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยและยืดยานเช่นเดิมว่า “คุณหนูปวดท้องเพราะเป็นรอบเดือนเจ้าค่ะ!”
เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนตกตะลึงจนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ราวกับท่อนไม้!
แม้ว่าหลิวจู่เสียนจะปวดท้องอย่างมาก แต่เธอก็ยังกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่น! เธอรู้สึกว่าท่าทางตื่นตกใจจนตัวแข็งทื่อของเจ้าชาย และคำพูดอันเรียบเฉยของโม่จูนั้นดูน่าตลกเป็นอย่างยิ่ง!
“คุณหนูได้ดื่มสุราไปแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
โม่จูมองไปที่จอกสุราที่วางอยู่ แล้วถามคุณหนูของเธอด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเบา
“ใช่! พี่โม่จูช่วยรินสุราเพิ่มให้ข้าอีกหน่อย!” หลิวจู่เสียนพยักหน้า และบอกให้โม่จู รินสุราให้กับเธออีก 1 จอก!
“เจ้าค่ะคุณหนู!”
โม่จูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วรินสุราใส่จอกส่งให้กับคุณหนูของเธอ! ก่อนจะหันชำเลืองมองไปทางเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียน ที่ยังคงยืนอึ้งตะลึงงันอยู่กับที่!
การที่โม่จูรู้สึกโล่งใจที่คุณหนูของเธอดื่มสุรานั่นก็เป็นเพราะว่า เมื่อหลิวจู่เสียนดื่มสุราหรือของมึนเมาที่มีแอลกอฮอล์เข้าไป พลังอันแข็งแกร่งที่เหนือมนุษย์ของเธอนั้นจะถูกระงับไว้ชั่วคราว และเธอจะมีพลังเท่ากับคนปกติทั่วๆไป! แต่การถูกระงับพลังก็เป็นเพียงชั่วคราว เพราะมันอยู่ภายใต้เงื่อนไขในระยะเวลาที่แอลกอฮอล์ยังคงออกฤทธิ์อยู่เท่านั้น?
เนื่องจากว่าโม่จูกลัวว่าคุณหนูของเธอจะเผลอไปทุบตีและทำร้ายเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนจนบาดเจ็บสาหัส! ก่อนวันแต่งงานเธอจึงพยายามบอกให้คุณหนูของเธอดื่มสุราสักเล็กน้อยในคืนส่งตัว เพื่อระงับพลังของเธอ!
ฉะนั้นเมื่อเธอเห็นว่าคุณหนูของเธอได้ดื่มสุราเข้าไปแล้ว! เธอจึงรู้สึกโล่งใจมาก เพราะว่าในคืนส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ คงจะไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น!
“เจ้าชายเจ้าค่ะ! ตอนนี้บ่าวเสร็จธุระแล้ว! ขออนุญาตทูลลาเจ้าค่ะ!”
หลังจากที่สาวใช้โม่จูออกไปแล้วบรรยากาศภายในห้อง ก็ตกอยู่ในความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง!
หลิวจู่เสียนมีอาการปวดท้องและไม่สนใจสิ่งอื่นใด! เธอแค่กอดถุงน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิอุ่นๆกำลังพอเหมาะไว้บริเวณท้องน้อยของเธอ!
ความอบอุ่นที่แผ่กระจายไปทั่วผ่านเสื้อผ้าของเธอทำให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้นและในที่สุดความเจ็บปวดก็บรรเทาได้บางส่วนทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย!
หลังจากนั้นเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนก็รู้สึกตัวและหันไปมองหลิวจู่เสียนโดยไม่ได้พูดอะไร
เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนนั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนที่เขายิ้ม หากสาวแก่แม่หม้ายได้มาเห็น เชื่อได้ว่าพวกเธอนั้นคงจะแข้งขาอ่อน ทรุดลงไปกองกับพื้นอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งที่ถูกไฟลน!
แต่หากเขาโกรธและแสดงสีหน้าที่ดุร้าย ก็จะดูน่ากลัวมากราวกับเทพสังหารเลยทีเดียว!
“ผู้ใดก็ได้! เข้ามาที่นี่หน่อย” เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียนตะโกน เพื่อเรียกคนรับใช้ให้เข้ามา
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะอ่อนไปมากแล้ว! แต่ก็ยังมีความเร่งด่วนอยู่ในนั้นด้วย!
ฉะนั้นเหล่าสาวรับใช้ที่อยู่ทางด้านนอก จึงรีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว และไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงหายใจแรงๆ ต่อหน้าเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียน
“ไปนำอ่างน้ำร้อนเข้ามา! และจัดเตรียมอาหารพร้อมกับซุปร้อนๆมาด้วย!”
เจ้าชายฉินเสี่ยวเทียน สั่งงานกลุ่มสาวรับใช้ทันทีที่พวกเธอเข้ามา!
“อ่างอาบน้ำร้อน และจัดเตรียมสำรับอาหารในเวลานี้งั้นหรือเจ้าคะ?….”
เหล่าสาวใช้และนางกำนัล รู้สึกงงงวยกันเล็กน้อย พวกเธอแอบดูชำเลืองมองเจ้าชายด้วยสีหน้าแปลกๆ!
ในคืนของแต่งงานเช่นนี้! เจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ควรอยู่กันเป็นการส่วนตัวหรอกหรือ? ไฉนจึงต้องการอาบน้ำและทานอาหารล่ะ? ทำไมถึงไม่พลอดรักกันเป็นการส่วนตัวระหว่างคู่บ่าวสาว?
ถ้ามีข่าวแพร่กระจายออกไปว่าคู่บ่าวสาว มัวแต่กังวลเกี่ยวกับการอาบน้ำและทานอาหาร มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกที่คนในเมืองหลวงต้องเอามาพูดคุยล้อเลียนกันอย่างสนุกสนานแน่น
อน!
อย่างไรก็ตามภายใต้สายตาอันดุร้ายราวกับพยัคฆ์ของเจ้าชายฉินเสี่ยวเทียน เหล่าสาวใช้จึงรีบดำเนินการอย่างรวดเร็วในทันที!
…. ….
จบบท