บทที่23 เฟลิน่า
ริวคิดด้วยความสงสัยเล็กน้อยว่าเขาจะหลอมรวมกับแกนกลางของอาณาจักรลับที่เป็นต้นไม้แห่งชีวิตได้ยังไง
“โฮสต์จำเป็นต้องสื่อสารกับจิตวิญญาณและได้รับการยอมรับจากต้นไม้แห่งชีวิตโดยใช้จิตสำนึกของโฮสต์” เสียงของระบบดังขึ้นมาในใจของริว
“ฉันจะลองดู”
ริวพยักหน้าก่อนจะยื่นมือสัมผัสเข้ากับต้นไม้แห่งชีวิตและส่งจิตสำนึกของเขาเข้าไปในต้นไม้
ทันใดนั้นเองสติของเขาพล่ามั่วเล็กน้อยจิตสำนึกของเขาถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในต้นไม้แห่งชีวิต
ริวค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะมองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะอยู่ห้องๆที่กว้างขวางมากและปกคลุมด้วยต้นไม้และพืชพรรณนาๆชนิดราวกับถูกสร้างในป่าลึก
ห้องนี้ล้อมรอบด้วยต้นไม้อันสูงตระหง่าน กิ่งก้านของพืชพันธุ์เลื้อยขึ้นมาปกคลุมเพดานจนกลายเป็นโดมธรรมชาติ แสงแดดสาดส่องผ่านใบไม้ให้แสงเงาสีเขียวอ่อนกระจายไปทั่วห้อง พื้นห้องทำจากหินธรรมชาติที่เต็มไปด้วยลวดลายคล้ายกับรากไม้ มีน้ำค้างเกาะตามผิวหินจนดูชื้นฉ่ำ
พื้นที่บางส่วนถูกปกคลุมด้วยมอสเขียวสดและดอกไม้ป่าที่เรืองแสงจาง ๆ ยามเมื่อแสงสลัว
ใจกลางห้องมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ดูราวกับมีชีวิตและจิตวิญญาณ เปลือกไม้มีลวดลายคล้ายอักษรโบราณที่เปล่งแสงนุ่มนวลเรืองรอง ใบไม้ของมันเป็นสีเขียวอมน้ำเงินและส่องแสงระยิบระยับราวกับอัญมณี รอบ ๆ ห้องมีพืชพันธุ์ลึกลับ เช่น เถาวัลย์ที่ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวได้เอง ดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมประหลาดชวนให้นึกถึงความทรงจำในอดีต และเห็ดเรืองแสงที่ให้แสงนวล ๆ ยามค่ำคืน
มุมหนึ่งของห้องมีธารน้ำเล็ก ๆ ที่ไหลจากรากไม้ น้ำในธารใสดุจคริสตัลและมีแสงเรืองรองอยู่ใต้น้ำ ภายในเห็นปลาตัวเล็ก ๆ เรืองแสงว่ายวนไปมา เสียงและกลิ่น ในห้องมีเสียงลมพัดอ่อน ๆ ราวกับเสียงกระซิบของธรรมชาติ และเสียงน้ำหยดลงบนพื้นหินอย่างนุ่มนวล
กลิ่นอายของห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นไม้สด น้ำค้าง และกลิ่นดอกไม้ที่ชวนผ่อนคลาย ในมุมห้องบางมุมจะเห็นแท่นหินที่ดูเหมือนแท่นบูชา มีพืชพันธุ์ลึกลับโอบล้อม เส้นสายของพืชเหล่านั้นเหมือนจะร้อยเรียงเป็นภาพหรือสัญลักษณ์โบราณที่สื่อถึงอำนาจลึกลับ
“นี่คือที่ไหนกัน” ริวอุทานพร้อมมองไปรอบๆด้วยความตกตะลึง สถานที่นี่สวยงามและดูศักดิ์สิทธ์ราวกับเทพนิยาย
“ยินดีต้อนรับสู่ห้องเทพพฤษา”
เสียงผู้หญิงเล็กๆที่ไพเราะและงดงามราวกับนางฟ้าดังขึ้นในหูของริว
“ใครกัน!?” ริวพูดพร้อมมองไปรอบๆด้วยความหวาดระแหวง แต่เขาไม่พบเห็นใครเลยในห้องแห่งนี้
“ฉันอยู่ตรงหน้าของนาย” เสียงเล็กๆดังขึ้นในจิตใจของริวอีกครั้ง
ด้านหน้า ?
ริวมองไปที่ต้นไม้ที่ดูศักดิ์สิทธิ์ราวกับมีชีวิตที่อยู่ด้านหน้าของเขา
“คุณคือต้นไม้ต้นนั้นงั้นเหรอ!?”
“ใช่!”
ทันใดนั้นก็มีแสงเล็กสีเหลืองที่ดูอ่อนโยนและศักดิ์สิทธิ์ปรากฎออกมาจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนแสงจะค่อยๆจางหายไปและเห็นรูปลักษณ์ของมัน
รูปลักษณ์ที่บางเบาและเปล่งประกายราวกับแสงจันทร์ที่สะท้อนน้ำ มีปีกบางใสคล้ายปีกผีเสื้อที่สะท้อนแสงสีรุ้ง ส่องประกายระยิบระยับเมื่อเธอเคลื่อนไหว ปีกของเธอมีลวดลายเหมือนใบไม้และดอกไม้ที่เติบโตในป่าลึก
ผมของเธอเป็นสีเขียวที่สละสลวยและยาวลงถึงกลางหลัง มีความเป็นประกายเหมือนสายลมที่พัดผ่านน้ำ ทุกย่างก้าวของเธอสร้างความรู้สึกสงบและมีเสน่ห์เหมือนสายลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านในยามเช้า ดวงตาของเธอเป็นสีเขียวมรกต ส่องประกายราวกับจะมองเห็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ เธอสวมเสื้อผ้าที่ทำจากกลีบดอกไม้และใบไม้ที่พันรอบตัวเหมือนเครื่องประดับจากธรรมชาติ
“สวัสดีมนุษย์ ฉันชื่อ เฟลิน่า เป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของต้นไม้แห่งชีวิต” เฟลิน่าพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับนางฟ้าที่เพิ่งลืมตาขึ้นในดินแดนแห่งความฝัน
“คุณคือ แฟรี่ หรือเปล่า?” ริวถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ เขามองไปยังตัวเธอที่ดูเหมือนแฟรี่ในนิยายที่เขาเคยอ่านจากโลกดั่งเดิมของเขา
“สิ่งที่นายพูดก็ไม่ผิดนักหรอก” เฟลิน่าตอบ พลางยิ้มอีกครั้ง “แต่ถ้าจะให้พูดให้ถูก ฉันคือ นางฟ้า มากกว่า”
ริวกะพริบตาไปชั่วขณะ ก่อนจะถามต่อไปด้วยความสงสัย “ จากคำพูดของคุณแปลว่าคุณเป็นทั้งนางฟ้าและแฟรี่เหรอ ?”
“อืม... จริงๆ แล้วฉันเคยเป็นนางฟ้ามาก่อน แต่ตอนนี้ลดระดับลงมาเป็นแฟรี่แล้ว ถึงจะเป็นแบบนั้น… ฉันก็ยังคงมีพลังมากกว่ากลุ่มแฟรี่ทั่วไปหลายสิบเท่า” เฟลิน่าตอบกลับอย่างมีเสน่ห์ พร้อมรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตร
ริวจึงถามต่ออย่างสงสัย “แฟรี่กับนางฟ้า… ไม่เหมือนกันเหรอ?”
“ใช่! นางฟ้าจะมีเชื้อสายพันธุ์และพลังที่สูงกว่าแฟรี่หนึ่งระดับ” เฟลิน่าตอบอย่างนุ่มนวล น้ำเสียงของเธอดูมีความลึกลับและทรงพลังในตัวเอง
ริวที่ได้ยินก็ยังคงรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนจากนางฟ้ามาเป็นแฟรี่ได้ แต่เมื่อนึกถึงว่านี่เป็นการพบครั้งแรกของทั้งสองคนจึงไม่ได้ถามอีกต่อไป
“ทำไมนายถึงต้องการสื่อสารกับฉัน!?” เฟลิน่าถามอย่างสงสัย เพราะเธอสัมผัสได้ถึงจิตสำนึกของริวที่ต้องการสื่อสารกับเธอ
“ที่จริงแล้วฉันต้องการหลอมรวมกับแกนกลางของอาณาจักรลับแห่งนี้เพื่อควบคุมอาณาจักรลับ….”
จากนั้นริวก็อธิบายสิ่งที่เขาต้องการทั้งหมดให้เฟลิน่าฟังโดยไม่ปกปิดอะไรเพราะการที่เขาจะหลอมรวมแกนกลางกับกุญแจแห่งอาณาจักรลับต้องอาศัยการยินยอมของเฟลิน่า ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ความจริงจังเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเฟลิน่า
“อย่างนี้นี่เอง….ฉันขอดูกุญแจที่ว่าหน่อยได้ไหม” เฟลิน่าทำท่าครุนคิดเล็กน้อยก่อนจะหันมาถามริวด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น
“ได้แน่นอน !”
ริวตอบกลับและหยิบกุญแจสีม่วงเข้มที่ปล่อยกลิ่นอายที่ลึกลับและทรงพลังออกมา เฟลิน่าหยิบกุญแจจากริวขึ้นมาและสำรวจด้วยความสนใจ
หลังจากใช้เวลาสำรวจสักพักเฟลิน่าก็ยื่นกุญแจกลับมาให้ริวพร้อมพูดว่า
“ดูเหมือนในกุญแจนี้จะเต็มไปด้วยพลังกฎเกณฑ์แห่งมิติและอวกาศอยู่ มันสามารถเชื่อมโยงและควบคุมอาณาจักรลับได้จริงแต่ต้องใช้พลังงานและตัวกลางในการควบคุม หากกุญแจนี้ได้หลอมรวมกับแก่นพลังงานของต้นไม้แห่งชีวิต มันจะสามารถควบคุมอาณาจักรลับแห่งนี้ได้”
“ถ้างั้นคุณสามารถให้แก่นพลังงานนั้นกับฉันได้ไหม” ริวพูดด้วยน้ำเสียงกังวล หากเฟลิน่าปฎิเสธเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
“ฉันสามารถให้แก่นพลังงานต้นไม้แห่งชีวิตแก่นายได้ แต่ฉันมีเงื่อนไขบางอย่าง” เฟลิน่าพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูลึกลับและซุกซน
“เงื่อนไขคืออะไร!?” ริวถามออกมาอย่างสงบ เขารู้อยู่แล้วว่าไม่มีของฟรีบนโลก
“คุณรู้จักป่าแห่งดวงดาวไหม ”
“แน่นอน! มันเป็นหนึ่งในป่าที่อันตรายและขนาดใหญ่ที่สุดในโลก”
“บริเวณใจกลางของป่าแห่งดวงดาวมีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ซึ่งใต้ก้นทะเลจะมีทองคำแห่งชีวิตอยู่ ฉันต้องการให้นายนำทองคำแห่งชีวิตมาให้ฉัน”
ริวที่ได้ยินถึงกลับคิ้วกระตุกทันที ใจกลางป่าแห่งดวงดาวว่ากันว่ามีสัตว์อสูรระดับตำนานและเทพอยู่ นี่ไม่ได้เป็นการสั่งให้เขาไปตายเหรอ
“เอ่อ..ฉันเกรงว่าเงื่อนไขนี้น่าจะยากเกินไป ว่ากันว่าใจกลางป่าแห่งดางดาวมีสัตว์อสูรระดับตำนานและเทพอยู่ ” ริวพูดด้วยรอยยิ้มฝืนๆ
“ใช่! บริเวณใจกลางหลักมีมีสัตว์อสูรระดับตำนานและเทพอาศัยอยู่จริงๆ”
“คุณรู้อยู่แล้วนื! นี่ไม่ได้หมายความว่าสั่งให้ฉันไปตายหรอกเหรอ”
“ใจเย็นก่อน… บางทีสัตว์พวกนั้นอาจไม่โจมตีนายก็ได้ อีกอย่างฉันไม่ได้บอกให้นายไปเอามาตอนนี้เลยซะหน่อย รอให้นายมีพลังมากพอและค่อยเอามาให้ฉันก็ได้”
“ยังไงซะฉันก็มีชีวิตอยู่มานานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป” เฟลิน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูลึกลับและผ่อนคลาย
ริวมองเฟลิน่าด้วยดวงตาที่สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ เขาอยากรู้ว่าเธอคือใครกันแน่ ทำไมถึงรู้เรื่องเกี่ยวกับป่าแห่งดวงดาวได้
เธอเปรียบเสมือนหมอกที่ไม่สามารถมองผ่านได้
“คุณอายุเท่าระ…”
ในขณะที่ริวกำลังถามเฟลิน่าก็ยื่นมือมาประทับปากของริว
“นายรู้ไหมว่าการถามอายุของผู้หญิงเป็นสิ่งต้องห้าม” เฟลิน่าพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นแต่ดวงตาของเธอกลับดูจริงจัง ก่อนจะพูดต่อว่า
“นายจะยอมรับเงื่อนไขของฉันไหม!?”
ริวที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่าธุรกรรมนี้เขาเสียเปรียบจริงๆ แต่ตอนนี้เขาต้องการพัฒนาทั้งความแข็งแกร่งของเขาและสัตว์อสูรให้เร็วที่สุดซึ่งต้นไม้แห่งชีวิตช่วยในจุดนี้ได้อย่างมาก รวมถึงยังมีสมบัติมากมายในอาณาจักรแห่งนี้ด้วย
“ฉันยอมรับเงื่อนไขของคุณ ”
หลังจากคิดอยู่นานริวก็ตอบตกลง อย่างไงความฝันของเขาก็คือการสำรวจสถานที่ต่างๆทั่วมุกมุมโลกอยู่แล้ว ป่าแห่งดวงดาวก็คือหนึ่งในนั้น ถึงตอนนี้เขายังไม่มีความแข็งแกร่งพอ แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเขาจะไม่มี
“ดีมาก! นี่คือแก่นพลังงานของต้นไม้แห่งชีวิต ” เฟลิน่าหยิบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคริสตัลสีเขียวออกมาจากต้นไม้แห่งชีวิต แล้วยื่นให้ริวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนราวกับนางฟ้า
ทันทีแก่นพลังงานปรากฎทั่วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยพลังงานชีวิตมหาศาล รูขมขุนของริวเปิดกว้างเขารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายกับพลังชีวิตที่ปรากฎขึ้นอย่างมาก
""คุณไม่ต้องการทำสัญญาอะไรประมาณนั้นเหรอ!? " ริวถามอย่างสงสัย เขานึกว่าเฟลิน่าจะให้เขาทำสัญญาเพื่อรักษาคำพูดอะไรแบบนั้นซะอีก
“ตอนแรกฉันมีความคิดนั้นเช่นกัน แต่ภายหลังฉันไม่มีความคิดนั้นแล้ว ” เฟลิน่าตอบกลับ
“ทำไม!? คุณไม่กลัวว่าฉันจะผิดคำพูดเหรอ” ริวถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้สิ.. แต่ถ้านายผิดสัญญาณจริงๆฉันจะไม่ฆ่านายหรอกแค่จะทำให้สูญพันธุ์เท่านั้นเอง” เฟลิน่าพูดด้วยรอยยิ้มที่ซุกซนแต่หากมองลึกเข้าไปในดวงตาจะเห็นประกายความเย็นชาของเธออยู่
“⊙▂⊙”
ริวที่ได้ยินร่างกายส่วนล่างของเขาก็รู้สึกสั่นเทาทันที
" ให้ตายเถอะ! เธอมีรูปลักษณ์และนิสัยภายนอกราวกับนางฟ้าที่อ่อนโยน แต่ทำไมความคิดภายในของเธอถึงดูดุร้ายและน่ากลัวแบบนี้ บางทีนี่อาจะเป็นหนึ่งเหตุผลที่เธอถูกลดระดับมากเป็นแฟรี่ " ริวคิดในใจด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย
“ตกลง! ฉันไม่มีวันผิดคำพูดตัวเองเด็ดขาด” ริวระงับความคิดในใจของเขาและหยิบคริสตัลสีเขียวขึ้นมาจากมือของเฟลิน่า
“งั้นก็ดี..” ประกายความเย็นชาในส่วนลึกดวงตาของเฟลิน่าหายไปและเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเหมือนเดิม
หลังจากนั้นริวไม่รอช้ารีบนำกุญแจแห่งอาณาจักรลับออกมาเพื่อจะทำการหลอมรวมทันที เมื่อกุญแจสัมผัสกับแก่นพลังต้นไม้แห่งชีวิตมันก็เปล่งแสงสีม่วงออกมาทั่วห้อง
“….”