บทที่22 ต้นไม้แห่งชีวิต
ในเวลาเดียวกันริวและพวกกิ่งกิ่ามังกรเริงระบำก็ได้เดินทางมาเข้าไปในป่าลึกที่มีขนาดใหญ่มาก หากไม่มีกิ่งก่ามังกรเริงระบำนำทางเขาคงจะหลงทางอย่างแน่นอน
รอบๆตัวของริวเต็มไปด้วยต้นไม้และพืชพรรณนาๆชีวิตที่อุดมวมบูรณ์เต็มไปด้วยพลังงานธาตุไม้ ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหรก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังงานธาตุไม้ที่มากขึ้นเท่านั้น
จนในที่สุดริวก็ได้เห็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และสูงมากราวกับป้อมปราการ มันมีลำต้นที่ใหญ่และหนามาก ใบไม้สีเขียวชอุ่มบนกิ่งไม้นอกจากจะเต็มไปด้วยพลังธาตุพืชแล้วยังเต็มไปด้วยพลังงานชีวิตอีกด้วย
“นี่มัน ต้นไม้แห่งชีวิต”
ต้นไม้แห่งชีวิต ตามชื่อของมัน มันเต็มไปด้วยพลังงานชีวิตจำนวนมหาศาสซึ่งส่งผลทำให้สิ่งมีชีวิตและบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยพลังชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ หากเขาให้สัตว์อสูรฝึกฝนบริเวณต้นไม้แห่งชีวิตพวกเขาจะพัฒนาได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่าโดยเฉพาะสัตว์อสูรธาตุพืชและไม้ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์หรับพวกเขาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ใบไม้แห่งชีวิต บนต้นไม้แห่งชีวิตนั้นยังมีพลังฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยมมาก หากสัตว์อสูรหรือแม้แต่มนุษย์ก็ตามได้ดูดซับเข้าไป พวกเขาจะรักษาอาการบาดเจ็บได้ทันทีภายในเวลาไม่กี่นาทีแม้อาการบาดเจ็บจะปางตายก็ตาม
“ไม่นึกเลยว่าจะเจอต้นไม้แห่งชีวิตที่นี่ ฉันโชคดีมาก!”
“ว่ากันว่าต้นไม้แห่งชีวิตเคยถูกพบเจอในป่าแห่งดวงดาวบริเวณใจกลางหลักของป่าเท่านั้น นอกจากนั้นก็ยังไม่เคยถูกค้นพบที่ไหนอีกเลย” ริวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างมาก
ป่าแห่งดวงดาวเป็นหนึ่งในป่าที่มีขนาดใหญ่และอันตรายที่สุดในโลก แบ่งออกเป็น3บริเวณได้แก่่ บริเวณชั้นนอก ชั้นใน และ ชั้นกลาง ตอนนี้มนุษย์สามารถสำรวจได้ถึงบริเวณชั้นในเท่านั้น เพราะยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหรสัตว์อสูรที่เจอยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
บริเวณชั้นนอกเต็มไปด้วยสัตว์อสูรตั้งแต่ระดับบต่ำถึงระดับหัวหน้า ส่วนบริเวณชั้นในเต็มไปด้วยสัตว์อสูรระดับอิลิทจนไปถึงระดับผู้นำ
นอกจากนี้สัตว์อสูรที่อยู่ป่าแห่งดาวดวงต่างแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรปกติอย่างมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่นั้นเต็มไปด้วยการแข่งขันและการล่าเหยื่อ สัตว์อสูรที่อ่อนแอเป็นได้แค่เหยื่อที่ถูกล่าโดยสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีสัตว์อสูรอ่อนแออยู่ในป่าแห่งดวงดาว
ส่วนบริเวณใจกลางหลักนั้นยังไม่มีการสำรวจ ไม่สิ! เรียกได้ว่าสำรวจไม่ได้มากกว่า ว่ากันว่าในบริเวณนั้นมีสัตว์อสูรระดับตำนานและเทพอาศัยอยู่ เพราะฉะนั้นพวกเขาไม่กล้าเข้าไปสำรวจ หรือ บางทีคนที่เข้าไปสำรวจไม่มีใครเคยรอดกลับมา
ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับบริเวณใจกลางของป่าแห่งดวงดาวเลย พวกเขาสามารถเห็นต้นไม้แห่งชีวิตที่สููงตระหง่าจนไปถึงท้องฟ้าได้จากบริเวณภายนอกได้เท่านั้น
ถึงต้นไม้แห่งชีวิตที่นี่จะด้อยกว่าต้นไม้แห่งชีวิตในป่าดวงดาวมาก แต่มันก็ยังคงเป็นต้นไม้แห่งชีวิตซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้และสามารถกระตุ้นสหพันธ์โลกอสูรให้เคลื่อนไหวได้
“ไม่แปลกใจเลยที่อาณาจักรลับแห่งนี้จะเต็มพลังงานธาตุพืชและธาตุไม้ที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ เรื่องนี้คงหนีไม่พ้นต้นไม้แห่งชีวิตอย่างแน่อน สมกับเป็นแกนกลางของอาณาจักรลับจริงๆ”
“ฉันต้องทำภารกิจให้สำเร็จและควบคุมอาณาจกัรลับให้ได้เร็วที่สุด ไม่งั้นหากมีใครค้นเข้าจะยุ่งยากมาก”
ริวรีบเร่งเดินไปต้นไม้แห่งชีวิตทันที ไม่นานเข้าก็มาถึงอาณาเขตของเผ่ากิ่งก่ามังกรเริงระบำที่อยู่ใกล้ต้นไม้แห่งชีวิต เนื่องจากที่นี่ใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตซึ่งเป็นแกนกลางของอาณาจักรลับ เผ่าพันธุ์กิ่งก่ามังกรเริงระบำจึงเลือกตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่
ในขณะเดียวกันเผ่าพันธุ์เต่ามังกรไม้ก็ตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้ๆที่นี่เช่นกัน ดังนั้นความขัดแย้งของสองเผ่าพันธุ์จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เผ่ากิ่งก่ามังกรเริงระบำสร้างรังบนต้นไม้ใหญ่ในป่าซึ่งเป็นต้นไม้โบราณที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงมาก เหมาะกับเป็นที่อยู่อาศัยและเหมาะกับพวกกิ่งก่ามังกรเริงระบำที่ชอบเคลื่อนไหวกระโดดตามต้นไม้อย่างมาก
มีกิ้งก่ามังกรเริงระบำจำนวนมากที่ออกมา จากนั้นก็มองริวด้วยความสงสัย
“เก้งก่า”
ราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำส่งเสียงคุยกับพวกของมันชั่วครู่ ก่อนจะส่งสัญญาให้ริวตามมาโดยมีกิ้งก่ามังกรเริงระบำจำนวนมากตามไปด้วย
“ทำไมถึงให้พวกกิ่งก่าเริงระบำจำนวนมากตามมาด้วย พวกมันจะไปก่อสงครามหรือไง?” ริวคิดในใจอย่างสงสัยขณะเดินตามไป
เพียงชั่วครูพวกเขาก็มาต้นไม้แห่งชีวิตแล้ว ลำต้นมันมีขนาดใหญ่กว่าที่เขามองระยะไกลมากพร้อมปลดปล่อยกลิ่นอายพลังชีวิตที่สดชื่นและอ่อนโยนราวกับมารดาของโลก
พลังชีวิตละอองสีเขียวจำนวนมากล่องลอยเข้าสู่ร่างกายของริวทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสบายอย่างมากราวกับอยู่บนสวรรค์
นอกจากนี้มันยังช่วยพัฒนาและซ่อมแซมอาการบาดเจ็บส่วนลึกของร่างกายเขาอีกด้วย ในขณะเดียวกับพื้นที่จิตวิญญาณของเขาก็ดูดซับพลังชีวิตอย่างบ้าคลั่ง เขาสัมผัสได้ว่าต้นไม้พืชพรรณในพื้นที่จิตวิญญาณกำลังเติบโตขึ้นและเต็มไปด้วยพลังชีวิต
“หากฉันฝึกฝนตรงนี้พื้นที่จิตวิญญาณของฉันคงพัฒนาเร็วขึ้นหลายเท่า แต่น่าเสียดายฉันต้องทำภารกิจให้เร็วที่สุดก่อน”
ริวระงับความคิดในการฝึกฝนแล้วเดินเข้าหาต้นไม้แห่งชีวิตทันที แต่ในขณะนั้นเองก็มีลำแสงสีเขียวพุ่งมาหาเขา
“ตู้ม!”
ริวรีบหลบหลีกทันที ก่อนจะหันไปเจอเข้ากับสัตว์อสูรสีเขียวเข้มจำนวนมากที่มีร่างกายเหมือนเต่าแต่หัวเหมือนมังกร ดวงตาของมันจ้องมองริวและพวกกิ่งก่ามังกรเริงระบำอย่างดุร้าย
“เต่ามังกรไม้!” ริวอุทานขึ้นมาและมองไปที่เต่ามังกรไม้ด้วยความระมัดระวัง
เผ่ากิ้งก่ามังกรเริงระบำที่อยู่ด้านหลังก็ปล่อยใบมีดสีเขียวออกมาและจ้องไปที่พวกเขาด้วยแววตาดุร้ายและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
ริวมองสถานการณ์รอบๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดูเหมือนเผ่าเต่ามังกรไม้ไม่ต้องการให้เขาเข้าใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตและนอกจากนี้ยังมีความขัดแย้งระหว่างเผ่ากิ้งก่ามังกรเริงระบำกับเผ่าเต่ามังกรไม้ด้วย
ในขณะที่กิ่งก่ามังกรเริงระบำและเต่ามังกรไม้กำลังจะต่อสู้กันก็มีเสียงของริวเข้ามาขัดก่อน
“เดี๋ยวก่อน!”
เสียงของริวดูดดึงความสนใจทำให้พวกมันมองมาที่เขา
“ราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำ..นายช่วยบอกเต่ามังกรไม้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่มนุษย์เข้ามาในอาณาจักรหน่อย” ริวหันไปพูดกับราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำ
ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาต่อสู้กัน ถึงแม้ริวจะสามารถสู้กับเต่ามังกรไม้ได้แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร ในอีกไม่นานอาณาจักรนี้ก็จะปิดตัวลงแล้ว เขาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหรในการหลอมรวมแกนกลางของอาณาจักรลับเพราะฉะนั้นเขาต้องเร่งรีบให้เร็วที่สุด เขาไม่สามารถมาเสียเวลาตรงนี้ได้
ราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำขมวดคิ้วเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่ามันไม่ต้องการสื่อสารกับเต่ามังกรไม้ แต่ในที่สุดมันก็ตัดสินใจก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆซึ่งทำให้พวกเต่ามังกรไม้หวาดระแวง
“เก้งก่า!”
ราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำบอกเล่าเกี่ยวกับสถานะการณ์เหมือนที่ริวบอกพวกเขา เมื่อพวกเต่ามังกรไม้ได้ยินคำพูดของราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำ พวกมันก็มีสีหน้าย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
“เต่ามังกรไม้! อย่างที่ราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำบอกหากเป็นแบบนี้ต่อไปมนุษย์จากโลกภายนอกจะมาจับพวกนาย ฉันรู้ว่ามีความขัดแย้งระหว่างพวกนายแต่ในสถานการณ์ตอนนี้พวกเราต้องร่วมมือกัน”
“ฉันสามารถควบคุมอาณาจักรลับแห่งนี้ให้ปิดตัวลงได้และขับไล่มนุษย์เหล่านั้นให้ออกไปได้เพราะฉะนั้นฉันหวังว่าพวกนายจะให้ความร่วมมือกับเรา ” ริวพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
แน่นอนว่าเขาจะไม่บอกว่าอาณาจักรลับใกล้ปิดตัวแล้วไม่งั้นเขาจะขอความร่วมมือจากเต่ามังกรไม้ได้ยังไง
เต่ามังกรไม้ตัวหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของเผ่าพันธุ์มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นและทำท่าครุ่นคิด แต่ดวงตาของเขาแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าไม่ไว้ใจพวกริว
“ฉันรู้ว่าพวกนายไม่ไว้ใจพวกเรา แต่สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง มนุษย์จากโลกภายนอกแข็งแกร่งกว่าพวกนายมาก ฉันสู้กับราชามังกรเริงระบำไปแล้วและฉันเป็นผู้ชนะ”
“ นายมีความแข็งแกร่งเท่าราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำเพราะฉะนั้นนายสู้กับมนุษย์จากโลกภายนอกที่แข็งแกร่งกว่าฉันไม่ได้แน่นอน” ริวจ้องมองไปที่หัวหน้าเต่ามังกรไม้ด้วยสีหน้าจริงจัง
“เก้งก่า”
ราชามังกรกิ้งก่าเริงระบำพยักหน้าด้วยสีหน้าอย่างไม่เต็มใจเล็กน้อย มันไม่ต้องการยอมรับว่ามันแพ้ริว
หัวหน้าเต่ามังกรไม้ที่ได้ยินก็มีท่าทีผ่อนคลายลงเล็กน้อยแต่สายตาของมันก็ยังแสดงความหวาดระแวงอยู่
ริวเมื่อเห็นพวกเต่ามังกรไม้ยังหวาดระแวงอยู่ก็หยิบอาหารระดับกลางขึ้นมา
“ถ้านายให้ความร่วมมือ ฉันจะให้อาหารเหล่านี้แก่พวกนาย”
กลิ่นอาหารที่หอมหวานทำให้พวกเต่ามังกรไม้หิวกระหายอย่างมาก หัวหน้าเต่ามังกรไม้จ้องมองอาหารด้วยแววตาหิวกระหายเล็กน้อย แต่มันก็พยายามยับยั้งชั่งใจตัวเอง
เมื่อเห็นหัวหน้าเต่ามังกรไม้ยังไม่ยอมตกลง ริวก็หยิบอาหารระดับสูงขึ้นมา กลิ่นหอมที่กระตุ้นความหิวกระหายพุ่งขึ้นมากว่าเดิมหลายเท่า จนในที่สุดพวกเต่ามังกรไม้ก็ทนไม่ไหว
หัวหน้าเต่ามังกรไม้พยักหน้าอย่างรวดเร็วทันทีพร้อมจ้องมองที่อาหารอย่างน้ำลายไหล
ริวที่เห็นหัวหน้าเต่ามังกรไม้ตกลงแล้วก็ยิ้มขึ้นมาและมอบอาหารให้แก่พวกเต่ามังกรไม้
“ง่ำๆ”
พวกเต่ามังกรไม้เข้ามากินอาหารอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีมูมมาม
“พวกนายรออยุ่ที่นี่แหละ.. เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูต้นไม้แห่งชีวิตเอง” ริวหันไปหาพวกกิ้งก่ามังกรเริงระบำที่กำลังน้ำลายไหลอยู่เช่นกันและมอบอาหารให้ก่พวกเขา
พวกกิ้งก่ามังกรเริงระบำพยักหน้าอย่างรวดเร็วและรีบกินอาหารอย่างมูมมามทันที แน่นอนว่าอาหารของริวนอกจะอร่อยมากแล้วยังส่งผลดีต่อร่างกายพวกเขาอีกด้วย
หลังจากที่ไม่มีอะไรมาขวางแล้ว ริวก็เดินเข้าไปใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตในระยะที่ยื่นมือไปสัมผัสได้
“แล้วฉันควรต้องทำยังไงต่อไป!?”
# 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาติดงานนะครับเลยไม่ได้ลง ตอนนี้ก็พยายามจะกลับมาลงให้ครบทุกวันครับ ขอบคุณที่ติดตามครับผม