บทที่18 กิ้งก่ามังกรเริงระบำ
ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ ริวก้าวเดินไปอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดถึงคุณลักษณะของอาณาจักรลับ ที่เขากำลังสำรวจอยู่
โดยทั่วไปแล้ว อาณาจักรลับแต่ละแห่งมักมีธาตุพิเศษที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จากสิ่งที่ริวสังเกตเห็น พลังธาตุพืชในอาณาจักรแห่งนี้อุดมสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด ดอกไม้บานสะพรั่ง ต้นไม้เขียวขจีเต็มไปทั่วทุกหนแห่ง พร้อมด้วยพลังงานบริสุทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา
ริวคาดการณ์ว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็น อาณาจักรลับธาตุพืช ซึ่งเป็นแหล่งรวมสัตว์อสูรธาตุพืชที่หายาก และเป็นไปได้สูงว่าสัตว์อสูรเหล่านี้จะมีคุณสมบัติและความแข็งแกร่งเหนือกว่าสัตว์อสูรในโลกภายนอก
นอกจากนี้ เขายังสัมผัสได้ถึงพลังงานธาตุไม้อันเข้มข้นที่แฝงตัวอยู่ในอากาศ ปฏิกิริยาของตั๊กแตนตำข้าวก้ามปูซึ่งเป็นสัตว์อสูรธาตุไม้สามารถยืนยันสิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อริวเรียกมันออกมา มันแสดงอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ก้ามที่แวววาวของมันขยับขึ้นลงอย่างกระตือรือร้น
ธาตุพืชและธาตุไม้ต่างมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมากต่างกันแค่เล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นพลังงานทั้งสองธาตุนี้อยู่ด้วยกันเสมอ
“ธาตุพืชและธาตุไม้…คล้ายกันมากจริงๆ” ริวพึมพำ
แต่ขณะที่ริวยังคงดื่มด่ำกับความคิด เสียงดังแว่วก็ทำให้เขาชะงัก เท้าหยุดนิ่งในทันที ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังทิศทางต้นเสียง
ที่เบื้องหน้า มีชายสองคนยืนอยู่ในทาทางตื่นเต้น ชายหนุ่มผมหยิกในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำชี้ไปข้างหน้า ขณะพูดกับชายหัวโล้นที่ยืนเคียงข้าง
“เพื่อน! เราเจอขุมทรัพย์แล้ว!”
"นี่คือ กิ้งก่ามังกรเริงระบำ สัตว์อสูรที่หาได้ยากมาก! ถ้าเราจับมันไปขาย เราจะรวย!” ชายหัวโล้นกล่าวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโล�
ริวเหลือบมองไปยังเป้าหมายของพวกเขา กิ้งก่ามังกรเริงระบำสี่ตัวกำลังยืนตัวสั่นด้วยความหวาดระแวง รูปร่างของพวกมันดูแปลกตาเล็กน้อย มันมีขาสองขา มือสองข้างคล้ายมนุษย์ แต่หัวกลับเป็นกิ้งก่า ลำตัวสีเขียวมันวาวสะท้อนแสง
ก่อนที่ริวจะได้คิดอะไรต่อ เสียงระบบภายในหัวของเขาดังขึ้น
"ติ๊ง!"
ภารกิจ
[เจ้าแห่งพงไพร]: พิชิตเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรที่เป็นผู้ปกครองในอาณาจักรลับแห่งนี้
รายละเอียด: อาณาจักรลับแห่งนี้มีผู้ปกครองอยู่สองกลุ่มใหญ่ๆคือ เผ่าพันธุ์กิ้งก่ามังกรเริงระบำและเผ่าพันธุ์เต่ามังกรไม้ ทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้ต่อสู้กันหลายครั้งเผื่อหาผู้ปกครองที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเป็นผู้ชนะ โปรดพิชิตสัตว์อสูรที่เป็นหนึ่งในสองของเผ่าพันธุ์นี้
ความต้องการ: พิชิตกิ้งก่ามังกรเริงระบำหรือเต่ามังกรไม้
รางวัล:ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติสัตว์อสูรที่พิชิต
บทลงโทษ: ลดคุณสมบัติของสัตว์อสูรหนึ่งระดับ"
ริวรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับภารกิจที่เกิดขึ้นกะทันหัน บทลงโทษของภารกิจทำให้เขาหวาดกลัว เขาจะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ริวจ้องมองไปที่กิ้งก่ามังกรเริงระบำสี่ตัวตรงหน้า มันมีคุณสมบัติระดับสูงสุดสองตัวและระดับหัวหน้าสองตัว
คุณสมบัติของสัตว์อสูรทั้งสี่ค่อนข้างดี เนื่องจากอิทธิพลของพลังงานธาตุพืชในอาณาจักรลับ คุณสมบัติจึงสูงกว่าสัตว์อสูรภายนอกมาก แต่พวกเขายังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของริวได้
ในขณะเดียวกัน ชายสองคนเรียกสัตว์อสูรของพวกเขาออกมา
【อีกาดำ】
Lv: 32
เพศ: ชาย
ธาตุ: บิน
คุณสมบัติ: สูงสุด
ความแข็งแกร่ง: สูงสุด
【แมลงเคราไฟ】
Lv: 35
เพศ: ชาย
ธาตุ: ไฟ/บิน
คุณสมบัติ: สูงสุด
ความแข็งแกร่ง: สูงสุด
ความแข็งแกร่งของทั้งคู่อยู่ในระดับสูงสุดซึ่งกล่าวได้ว่าค่อนข้างดีในเมืองเพลิงตะวัน แต่เขาไม่กลัวเลยเพราะสัตว์อสูรที่เขามีอยู่ในมืออยู่ในระดับหัวหน้า ในเมืองนี้มันเป็นพลังการต่อสู้ที่เกือบจะสูงที่สุด มากเกินพอที่จะจัดการกับพวกเขา
ริวเรียกตั๊กแตนตำข้าวก้ามปูและผีเสื้ออำพรพ่นไฟมาพร้อมกันและกระซิบสั่งพวกเขาเบาๆให้เตรียมพร้อมช่วยเหลือ ความแข็งแกร่งของกิ้งก่ามังกรเริงระบำเป็นเพียงแค่ระดับกลางเท่านั้น มันไม่สามารถสู้กับสัตว์อสูรระดับสูงสุดทั้งสองตัวได้แน่นอน
สัตว์อสูรทั้งสองตัวพยักหน้าพวกมันเห็นริวมาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นพวกมันจึงเชื่อคำสั่งของเขา
ในเวลาเดียวกันผู้ชายทั้งสองคนก็ได้สั่งให้สัตว์อสูรโจมตีแล้ว อีกาดำและแมลงเคราไฟบินพุ่งไปหากิ้งก่ามังกรระบำดาบทั้งสี่ตัวและเริ่มโจมตีทันที
อีกาดำบินอยู่ด้านบนแล้วใช้ปีกของมันโจมตี ความแตกต่างในด้านพลังการต่อสู้และควบคู่ไปกับการยับยั้งคุณลักษณะ อีกาดำสามารถจัดการมันได้ภายในครั้งเดียว
ในอีกด้านหนึ่ง แมลงเคราไฟก็ใช้ทักษะเปลวเพลิงซึ่งยับยั่งคุณลักษณะธาตุพืชจัดการได้ภายในครั้งเดียวเหมือนกัน ภายในเวลาไม่นานกิ้งก่ามังกรเริงระบำทั้งสองตัวก็ได้ล้มลงแล้ว
“อีกาดำไล่ตามต่อไป”
“แมลงเคราไฟอย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้”
ขณะที่สั่งสัตว์อสูรไปตามล่าอีกสองตัวที่เหลือ พวกเขาก็หยิบเชือกขึ้นมาเพื่อจะมัดกิ้งก่ามังกรเริงระบำที่หมดสติไปแล้ว
“ลงมือเลย! ตั๊กแตนตำข้าวก้ามปูใช้หมัดเหล็กโจมตีอีกาดำและผีเสื้ออำพรพ่นไฟใช้กระแสน้ำวนเพลิง”
ตั๊กแตนตำข้าวก้ามปูกระโดดสูงเหนืออีกาดำ ก้ามยักษ์เปล่งแสงสีเงินก่อนจะฟาดลงมาอย่างแรงจนอีกาดำดิ่งกระแทกพื้น ขณะเดียวกันผีเสื้ออำพรพ่นไฟก็พ่นกระแสน้ำวนเพลิงเข้าใส่แมลงเคราไฟจนมันได้รับบาดเจ็บหนัก
"ปัง!"
" ตู้ม
หลังฝุ่นค่อยๆจางลงก็เผยให้เห็นร่างของอีกาดำที่บาดเจ็บและหมดสติไปแล้ว ถึงแม้อีกาดำจะอยู่ในระดับสูงสุดแต่ตั๊กแตนตำข้าวก้ามปูนั้นอยู่ในระดับหัวหน้าขั้นสูงสุดและเข้าใกล้อิลิทขึ้นไปทุกทีแล้ว ความต่างชั้นระหว่างพวกมันเห็นได้อย่างชัดเจน
ส่วนแมลงเคราไฟนั้นถึงจะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังครองสติได้อยู่เนื่องจากมันเป็นสัตว์อสูรธาตุไฟดังนั้นความเสียหายจึงลดลงครึ่งหนึ่ง ไม่งั้นมันคงหมดสติเหมือนอีกาดำไปแล้ว
ชายผมหยิกและชายหัวโล้นต่างตกละลึง เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะพบกับคนอื่นอย่างรวดเร็วในอาณาจักรลับอันกว้างใหญ่แห่งนี้ พวกเขาต่างสาปแช่งอยู่ในใจ ตอนนี้สัตว์อสูรของพวกเขาตัวหนึ่งหมดสติและอีกตัวได้รับบาดเจ็บสาหัสและช่องว่างของสัตว์อสูรทั้งสองฝ่ายเห็นได้อย่างชัดเจน
“พี่ชาย พวกเรายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว สัตว์อสูรเหล่านี้เป็นของคุณ พวกเราไปกันเถอะ” ชายผมหยิกยกมือขึ้นอย่างยอมจำนน เขาได้เห็นช่องว่างความแข็งแกร่งระหว่างพวกเขาแล้ว เกรงว่าสัตว์อสูรตรงหน้าจะเป็นระดับหัวหน้า ตอนนี้ในหัวเขาไม่ได้คิดถึงกิ้งก่าเริงระบำอีกต่อไป แต่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้อย่างไง ในอาณาจักรลับเป็นเรื่องปกติที่จะมีการสังหารกันเกิดขึ้น
ดวงตาของชายหัวโล้นแดงก่ำ ความมั่งคั่งที่เขาใฝ่ฝันหายไปชั่วพริบตา เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งแต่สุดท้ายแล้วชีวิตของเขาสำคัญกว่า
“หยุดก่อน! พวกนายต้องออกจากอาณาจักรลับเท่านั้น ฉันถึงจะปล่อยพวกนายไป”
ริวมองไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยสายตาคุกคามเล็กน้อย ริวตัดสินใจที่จะปล่อยพวกเขาไป อย่างแรกเขาไม่ใช่คนกระหายเลือด และอย่างที่สองริวไม่มั่นใจว่าพวกเขามีสัตว์อสูรเหลืออยู่กี่ตัว ถึงแม้สัตว์อสูรเหล่านั้นจะไม่สามารถสู้กับเขาได้ แต่บางทีการต่อสู้ของทั้งคู่อาจดึงดูดความสนใจของคนอื่น
ชายหัวหยิกและหัวโล้นต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เต็มใจทั้งคู่ มีสมบัติอยู่ทุกหนทุกแห่งในอาณาจักรลับ พวกเขาไม่เต็มใจที่จะกลับมือเปล่า แต่เมื่อเห็นออร่าระดับหัวหน้าในตัวของตั๊กแตนตำข้าวก้ามปูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาก็หวาดกลัวและรีบเรียกสัตว์อสูรที่บินได้ออกจากจากอาณาจักรลับทันที ถึงแม้จะกลับด้วยตัวเปล่าก็ตามแต่อย่างน้อยก็สามารถรักษาชีวิตเขาได้
เมื่อมองดูทั้งคู่ออกจากอาณาจักรลับแล้ว ริวก็มองกิ้งก่ามังกรเริงระบำทั้งสองตัวที่นอนอยู่บนพื้น ก่อนจะใช้ยารักษาเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บของพวกมัน กิ้งก่ามังกรเริงระบำที่ตื่นขึ้นมาเมื่อเห็นคนแปลกหน้าช่วยตัวเองก็ส่งเสียงขอบคุณออกมา
แต่ในระหว่างนั้นเองก็มีกิ่งก่ามังกรเริงระบำจำนวนมากเดินออกมาจากพงไพร ด้านหลังสุดมีร่างใหญ่โตของ ราชากิ้งก่ามังกรเริงระบำ ยืนอยู่ มันจ้องมองมาที่ริวด้วยสายตาแข็งกร้าวและดุดัน
“พวกมันคงไม่ได้คิดว่าฉันทำร้ายเจ้าสองตัวนี้หรอกนะ…” ริวฝืนยิ้มในใจ พลางเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้…