บทที่12 ตำแหน่งหน้าที่ของสัตว์อสูรทั้ง6ประเภท
เหล่านักเรียนที่ได้ยินต่างตื่นตระหนกเล็กน้อย พวกเขาแค่คิดว่านี่คือการฝึกอบรมธรรมดาเท่านั้นไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องการเสียชีวิตเลย หลายคนต่างครุ่นคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ถึงแม้พวกเขาจะสามารถพัฒนาความสามารถของตัวเองและมีโอกาสได้เข้ารับพิจารณาในการเข้าสู่สถาบันทหารชั้นนำรุ่นเยาว์ของทางกองทัพได้โดยตรง แต่ความเสี่ยงนี่ก็คือชีวิตของพวกเขา
ทั่วทั้งบริเวณสนามต่างเงียบกริบทุกคนต่างอยู่ในความคิดของตัวเอง
“ฉันลืมบอกไปอีกอย่างหนึ่ง พวกเธอควรแจ้งผู้ปกครองเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย หากผู้ปกครองไม่อนุญาติฉันก็ไม่สามารถให้พวกเธอเข้าสู่คลาสนี้ได้”
คำพูดของอลันดังขึ้นซึ่งเป็นการเตือนสตินักเรียนหลายๆคน หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มโทรศัพท์หาครอบครัวพวกเขาเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที แน่นอนว่าริวก็ต้องจำเป็นบอกครอบครัวเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
“ ไม่มีปัญหา! พ่อมั่นใจว่าลูกสามารถผ่านมันไปได้” เสียงของทาชิดังขึ้นมาจากโทรศัพท์
“โอเคครับผม!”
“ว่าแต่ฝากทักทายทหารที่ชื่ออลันด้วยล่ะ”
“ตู๊ด!”
หลังพูดจบทาชิก็ได้ตัดสายไปทันทีซึ่งทิ้งความสงสัยให้ริว เป็นไปได้ไหมว่าพ่อของเขารู้จักกับครูฝึกอลัน!?
“เอาล่ะ! ใครที่ไม่ต้องการเข้าคลาสฝึกอบรมนี่เดินออกมาซะ”
อลันมองไปที่นาฬิกาเมื่อเห็นว่าครบ30นาทีแล้วจึงตะโกนออกไปเสียงดัง
เหล่านักเรียนมองหน้ากันด้วยความลังเล ก่อนจะมีนักเรียนคนหนึ่งเริ่มก้าวเท้าออกมาด้วยความอายเล็กน้อย หลังมีคนแรก คนที่สองที่สามก็เริ่มตามมาจนสุดท้ายมีนักเรียนทั้งสิ้น 400กว่าคนเดินออกมา
ส่วนใหญ่แล้วคนที่เดินออกมาจะเป็นคนที่มาจากครอบร่ำรวยซึ่งพ่อแม่เตรียมเส้นทางในอนาคตให้อยู่แล้วไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาเสี่ยงชีวิต อีกส่วนหนึ่งจะเป็นนักเรียนที่ผู้ปกครองไม่อนุญาติ
“ไม่ต้องอาย!พวกเธอไม่ใช่คนขี้ขลาด! แต่พวกเธอต่างตระหนักถึงปัญหาของตัวเองได้ นี่ก็เป็นทางเลือกที่ฉลาดเช่นกัน แค่พวกเธอผ่านการทดสอบแรกได้ก็ดีมากแล้วเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเสียใจไป ขอให้ทุกคนต่างพยายามเต็มที่กับเส้นทางอนาคตของตัวเอง” อลันไม่ได้ตำหนิพวกเขาแต่ให้กำลังใจด้วยรอยยิ้มซึ่งทำให้เหล่านักเรียนประหลาดใจเล็กน้อย
หลังจากนักเรียนเหล่านั้นออกไปก็เหลือคนในสนามเพียงแค่1000คนเท่านั้น อลันหันไปหาเหล่านักเรียนด้วยสายตาที่น่าเกรงขามราวกับพยัคฆ์
“สำหรับพวกเธอที่เลือกอยู่ต่อนี้ หลังจากนี้พวกเธอจะไม่สามารถออกจากคลาสนี้ได้แล้ว หากใครฝ่าฝืนหลบหนีจากการฝึกฝน ฉันจะทำให้รู้เองว่านรกที่แท้จริงมันเป็นยังไง” อลันพูดด้วยรอยยิ้มที่สยดสยองทำให้เหล่านักเรียนต่างกลัวเล็กน้อย
“ต่อจากนี้เราจะแบ่งเป็น10กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีครูฝึกแต่ละคนบอกแนวปฎิบัติต่างๆรวมถึงความรู้ที่พวกเธอจำเป็นต้องรู้สำหรับการเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูร”
หลังจากนักเรียนทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 100 คน แต่ละกลุ่มก็แยกย้ายไปยังพื้นที่ที่ครูฝึกได้กำหนดไว้ ริวและเพื่อนๆ ของเขาอยู่ในกลุ่มที่ 1 ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในห้องลานฝึกขนาดใหญ่
เมื่อริวและเพื่อนๆของเขาเข้ามาในห้องที่เป็นลานฝึกขนาดใหญ่ พวกเขาก็พบเห็นอลันที่ยืนอยู่อย่างสงบ ดูเหมือนอลันจะเป็นครูฝึกประจำกลุ่มของพวกเขา
หลังที่อลันเห็นพวกเขามาแล้วก็ไม่รอช้ารีบแนะนำเนื้อหาและแผนการฝึก ก่อนจะถ่ายทอดความรู้ให้แก่พวกเขา
“แม้ปกติแล้วจะไม่มีการกำหนดตำแหน่งหน้าที่ของสัตว์อสูรอย่างชัดเจนในการแข่งขันลีก แต่ในกองทัพเราให้ความสำคัญกับการจัดทีมที่สมดุลที่สุด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงแบ่งตำแหน่งของสัตว์อสูรออกเป็น 6 ประเภทหลัก”
“ตำแหน่งหน้าที่สัตว์อสูรทั้ง6ประเภทนั้นได้แก่ สัตว์อสูรสายโจมตีระยะใกล้ สัตว์อสูรสายความเร็ว สัตว์อสูรสายป้องกัน สัตว์อสูรโจมตีระยะไกล สัตว์อสูรสายควบคุม สัตว์อสูรสายสนับสนุน”
“สัตว์อสูรในแต่ละสายต่างมีความสามารถเฉพาะของตัวเอง สัตว์อสูรสายโจมตีระยะใกล้แน่นอนว่าย่อมเด่นเรื่องการจู่โจมคอยอยู่ด้านหน้าสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรู ”
"สายโจมตีระยะใกล้: สายนี้เป็นหัวใจสำคัญในแนวหน้า ทำหน้าที่จู่โจมและสร้างความเสียหายให้ศัตรูโดยตรง
“สายความเร็ว: สัตว์อสูรประเภทนี้ใช้ความเร็วอันเหนือชั้น ลอบโจมตีหรือสร้างความสับสนให้ศัตรู”
"สายป้องกัน: ทำหน้าที่เป็นโล่ปกป้องเพื่อนร่วมทีม ใช้ความแข็งแกร่งต้านทานการโจมตี"
“สายโจมตีระยะไกล: สัตว์อสูรประเภทนี้อยู่ด้านหลังแนวป้องกัน ยิงสนับสนุนด้วยพลังโจมตีจากระยะไกล”
“สายควบคุม: สายนี้มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ ควบคุมพื้นที่หรือศัตรูเพื่อสร้างความได้เปรียบให้ทีม”
“สายสนับสนุน: เป็นผู้ช่วยที่สำคัญ คอยฟื้นฟูหรือเพิ่มความสามารถให้เพื่อนร่วมทีม”
“นี่คือตำแหน่งสัตว์อสูรทั้ง6ประเภทสำหรับการจัดทีมในกองทัพ”
อลันเว้นช่วงให้นักเรียนซึมซับข้อมูล ก่อนจะย้ำว่า
“สัตว์อสูรแต่ละตัวมีจุดเด่นต่างกัน บางตัวอาจเด่นด้านพลังโจมตี บางตัวอาจมีพลังป้องกันสูง การเลือกสัตว์อสูรให้เหมาะกับตำแหน่งจึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกันในการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและสมดุล
“ก่อนที่จะพูดถึงแนวทางการฝึกสัตว์อสูร ฉันบอกก่อนเลยว่าการแบ่งตำแหน่งหน้าที่นี่เป็นแนวทางสำหรับกองทัพเท่านั้น เพราะฉะนั้นการฝึกจะเน้นไปที่ความสามารถในตำแหน่งหน้าที่นั้นโดยเฉพาะ เดี๋ยวฉันจะแสดงตัวอย่างพวกเธอดู”
อลันส่งสัญญาให้กับนายทหารสองคนที่อยู่ใกล้ๆ นายทหารสองคนที่เห็นก็ได้เรียกหมาป่าแห่งสายลมออกมาทั้งสองตัว นายทหารคนแรกสั่งให้หมาป่าแห่งสายลมตัวแรกเคลื่อนที่ทันที
“ไป! แสดงความสามารถของนายให้พวกเขาดู”
“ฟิ้ว!”
หมาป่าแห่งสายลมตัวแรกพุ่งออกไปทันที มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ ราวกับกลายเป็นสายลมที่แทบมองไม่เห็น มันเคลื่อนที่ซิกแซกผ่านกลุ่มนักเรียน ก่อนจะตีลังกากลับมาที่ครูฝึกอย่างสง่างาม
“เร็วมาก!” ริวอุทานออกมาในใจ
เสียงฮือฮาและสายตาเต็มไปด้วยความทึ่งของนักเรียนแสดงให้เห็นว่าพวกเขาประทับใจกับความเร็วนี้เพียงใด
ในระหว่างนั้นเองก็มีสัตว์อสูรรูปลักษณ์คล้ายลิงยกบางอย่างที่คล้ายแผ่นเหล็กมาวางไว้ด้านหน้า
“นี่คือเหล็กที่มีความหนามากกว่า20เซนติเมตร เราจะลองให้หมาป่าแห่งสายลมกัดดู ” อลันส่งสัญญาไปหานายทหารคนแรกอีกครั้งก่อนที่เขาจะสั่งการหมาป่าแห่งสายลมทันที
“แคล็ก!”
หมาป่าแห่งสายลมกัดแผ่นเหล็กอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังไปทั่วบริเวณ แต่ถึงแม้จะมีรอยบุบขนาดใหญ่ แผ่นเหล็กก็ไม่ขาดอย่างแต่อย่างใด
“คราวนี้พวกเธอดูหมาป่าแห่งสายลมตัวที่2”
หมาป่าแห่งสายลมตัวที่สองได้รับคำสั่งให้ทำเช่นเดียวกัน มันเคลื่อนที่เร็วเช่นกัน แต่ไม่อาจเทียบกับตัวแรกได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงการทดสอบกัดแผ่นเหล็ก มันสร้างความตะลึงให้กับทุกคน มันกัดแผ่นเหล็กหนา 20 เซนติเมตรจนขาดออกเป็นสองส่วนภายในครั้งเดียว
“พวกเธอเห็นถึงความแตกต่างของหมาป่าแห่งสายลม2ตัวนี้แล้ว หมาป่าแห่งสายลมตัวแรกมีความเร็วที่เร็วกว่าตัวที่สองมากเพราะมันฝึกการเคลื่อนไหวในลานฝึกทุกวัน ส่วนหมาป่าแห่งสายลมตัวที่สองถึงแม้ความเร็วจะไม่เร็วเหมือนตัวแรกแต่พลังโจมตีของมันแข็งแกร่งกว่าตัวแรกมากเพราะมันฝึกกัดหินและเหล็กทุกวัน”
“แนวทางการฝึกที่แตกต่างกันทำให้สัตว์อสูรต่างมีความสามารถที่แตกต่างมาก แม้จะเป็นสัตว์ชนิดเดียวกันก็ตาม ฉันว่าตอนนี้พวกเธอน่าจะเข้าใจความสำคัญของแนวทางในการฝึกแล้ว”
นักเรียนหลายคนพยักหน้าเพื่อเป็นการส่งสัญญาว่าเขาเข้าใจ
“ที่นี่ฉันจะพูดถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อเป็นการกำหนดแนวทางการฝึกสัตว์อสูรของพวกเธอ”
สีหน้าของอลันจริงจังมากกว่าเดิมและเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมทำให้เหล่านักเรียนพยายามตั้งใจสิ่งที่เขาจะพูดให้มากที่สุด
“พวกเธออยากเป็นนักฝึกสัตว์อสูรไปเพื่ออะไร!?”