ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
"ทักษะการทำอาหารของผมใช้ได้เลยนะครับอยากให้ลองทำให้ดูสักจานไหม?"หลี่เหิงพูดอย่างมั่นใจ
ตอนแรกเขาคิดว่าการเป็นอาสาสมัครคงไม่ยุ่งยากอะไรแต่พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยโอเค
คุณซุนพยักหน้า"อืม...ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะทำอาหารอร่อย"
พูดจบคุณซุนก็มองหลี่เหิงสลับกับไป๋ลี่ฮวา
ในบ้านพักคนชราแห่งนี้คนที่กล้าพูดความจริงก็มีแค่ไป๋ลี่ฮวานี่แหละเพราะอายุน้อยที่สุด
ไป๋ลี่ฮวายิ้ม"ช่างเถอะค่ะใครๆก็หวังดีทั้งนั้นไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะอาจารย์ว่านพาคุณหลี่เหิงไปที่ครัวเลยค่ะ"
ว่านเฉียงไม่ได้คิดอะไรมากเขาแค่ลูกจ้างทำตามคำสั่งก็พอ
คุณซุนทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไป๋ลี่ฮวาก็ดึงตัวเขาออกไป
หลี่เหิงแอบพยักหน้าอย่างพอใจที่ไป๋ลี่ฮวาเชื่อใจเขา
ในโรงอาหารเหลือแค่หลี่เหิงกับว่านเฉียง
"ผมว่านเฉียงเรียกผมว่าอาจารย์ว่านก็ได้คุณชื่ออะไรครับ?"
"หลี่เหิงครับ"หลี่เหิงตอบ"ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"
ว่านเฉียงยิ้ม"คุณมาเป็นอาสาสมัครผมคงให้คุณทำงานหนักไม่ได้หรอกคุณหั่นผักเป็นมั้ยครับ?"
หลี่เหิงเข้าใจทันทีว่าว่านเฉียงอยากให้เขาช่วยหั่นผักแต่ถ้าอยากพัฒนาทักษะการทำอาหารเขาต้องทำทุกขั้นตอนไม่ใช่แค่หั่นผัก
การเป็นลูกมือในครัวแบบนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเขาเลย
"อาจารย์ว่านผมขอโชว์ฝีมือสักจานได้มั้ยครับ?ถ้าใช้ได้ผมขอทำอาหารบางส่วนเลยได้ไหม?"หลี่เหิงเสนอ
ว่านเฉียงขมวดคิ้วแต่ก็คิดว่าอีกฝ่ายเป็นอาสาสมัครคงมาช่วยวันเดียวแล้วก็ไปถ้าฝีมือดีจริงก็ให้ช่วยทำอาหารไปเลยจะได้แบ่งเบาภาระเขา
แต่อาสาสมัครไม่ได้เงินเดือนนะ...
"คุณหลี่เหิงงานครัวมันหนักนะครับ..."
ว่านเฉียงยังพูดไม่จบหลี่เหิงก็เดินดุ่มๆเข้าไปในครัวหยิบแตงกวากับมีดขึ้นมา
"ฉับๆๆ"เสียงมีดกระทบเขียงดังรัว
ไม่ถึง20วินาทีแตงกวาก็ถูกหั่นเป็นฝอยบางเฉียบสวยงามเหมือนตาข่าย
ว่านเฉียงยืนอึ้งทึ่งในฝีมือของหลี่เหิง
เขารีบเดินเข้าไปหยิบแตงกวาที่หลี่เหิงหั่นขึ้นมาดู
ถึงเขาจะหั่นแบบนี้เป็นแต่ก็ทำไม่ได้เร็วและสวยงามขนาดนี้
แตงกวาแต่ละชิ้นมีความหนาเท่ากันราวกับใช้ไม้บรรทัดวัด
ว่านเฉียงมองหลี่เหิงด้วยความทึ่ง"คุณหลี่เหิงฝีมือไม่ธรรมดาเลยนะครับงั้นลองทำอาหารสักอย่างให้ผมดูถ้าโอเคผมจะให้คุณรับผิดชอบอาหารบางส่วน"
บ้านพักคนชราแห่งนี้ไม่ได้มีคนเยอะมากถึงจะทำอาหารหม้อใหญ่แต่ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น
หลี่เหิงพยักหน้าตกลงเขาเลือกทำไข่เจียวมะเขือเทศเมนูง่ายๆที่เขาทำกินเกือบทุกวัน
หลี่เหิงลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่วไม่กี่นาทีไข่เจียวมะเขือเทศสีสันน่ารับประทานก็เสร็จเรียบร้อย
ว่านเฉียงมองหลี่เหิงทำอาหารตั้งแต่ต้นจนจบตอนนี้เขาจำฝีมือของหลี่เหิงได้แล้ว
"คุณทำอาหารพวกนี้เป็นกี่อย่าง?"ว่านเฉียงชี้ไปที่เมนูอาหารกลางวัน
จริงๆแล้วเขาตั้งใจจะให้หลี่เหิงเลือกทำอาหารที่ตัวเองถนัดส่วนที่เหลือเขาจะจัดการเองพร้อมกับพ่อครัวคนอื่นๆ
"ผมทำเป็นหมดแหละครับแต่อาหาร300ที่ผมคงทำคนเดียวไม่ไหววันนี้ผมเพิ่งมาขอทำแค่ไข่เจียวมะเขือเทศก่อนละกัน"
เมนูอาหารกลางวันมีทั้งหมด10อย่างในครัวมีพ่อครัว4คน(ไม่รวมหัวหน้าพ่อครัวที่ลาป่วย)บวกกับลูกมืออีก10คนงานค่อนข้างหนัก
แต่ตอนนี้มีหลี่เหิงมาช่วยก็เบาแรงไปได้เยอะ
จริงๆแล้วหลี่เหิงอยากช่วยทำทั้งหมดแต่ร่างกายยังไม่พร้อมคงทำงานหนักแบบนั้นไม่ไหว
การทำอาหารให้คน300คนมันเหนื่อยเอาเรื่อง
ว่านเฉียงยิ้ม"งั้นคุณทำไข่เจียวมะเขือเทศไปก่อน แต่ก่อนอื่นผมขอลองชิมฝีมือคุณก่อน"
ว่านเฉียงคีบไข่เจียวมะเขือเทศเข้าปากเคี้ยวอย่างตั้งใจ
สักพักดวงตาของเขาก็เป็นประกาย
"อร่อย!ฝีมือไม่แพ้ผมเลย"
"ขอบคุณครับ"หลี่เหิงตอบอย่างมั่นใจ
จากนั้นบรรยากาศในครัวก็คึกคักขึ้นมาทันที
การทำอาหารให้คน300คนไม่ใช่งานง่ายถึงจะช่วยกันหลายคนแต่ก็เหนื่อยเอาเรื่อง
โดยเฉพาะหลี่เหิงที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเขาเหงื่อท่วมตัวมือไม้สั่นไปหมด
แต่ทันใดนั้น...เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้นทำให้ความเหนื่อยล้าหายไปเป็นปลิดทิ้ง
[ติ๊ง!คุณทำอาหารหม้อใหญ่ค่าประสบการณ์+30]
แค่ทำอาหารครั้งเดียวก็ได้ค่าประสบการณ์เยอะขนาดนี้แถมไม่ต้องเสียเงินซื้อวัตถุดิบเองด้วย!
หลี่เหิงดีใจจนลืมเหนื่อย
แบบนี้ไม่ถึงเดือนทักษะการทำอาหารก็อัปเกรดเป็นระดับ3แล้ว!
หลี่เหิงทำงานด้วยความร่าเริงจนกระทั่งเสร็จสิ้นภารกิจอาหารกลางวันเขาก็ขอตัวกลับบ้านก่อน
หลี่เหิงเป็นอาสาสมัครไม่ได้รับเงินเดือนจะกลับก่อนก็ไม่แปลกแถมยังช่วยทำอาหารเสร็จแล้วด้วยไม่มีใครว่าอะไรเขาหรอก
หลี่เหิงขับรถกลับถึงบ้านภายใน15นาที
เขารีบไปดูโบโบเติมอาหารและน้ำให้จากนั้นก็ถ่ายรูปส่งให้จางหยิงหยิง
พักผ่อนสักครู่หลี่เหิงก็ออกไปวิ่งต่อ
ตอนนี้เขาวิ่งเช้าเย็นวันละ10กิโลเมตรได้ค่าประสบการณ์20แต้มอีกไม่ถึงเดือนทักษะการวิ่งก็อัปเกรดแล้ว
ถึงการวิ่งหนักๆจะทำให้ปวดข้อแต่ระบบก็ช่วยฟื้นฟูให้เขาไม่ต้องกลัวบาดเจ็บ
ถ้าเป็นคนอื่นวิ่งหนักแบบนี้คงพังไปนานแล้ว
ตอนบ่ายหลี่เหิงวิ่งอีก10กิโลเมตรเสร็จก็ไปทำอาหารเย็นที่บ้านพักคนชราเขาเหนื่อยแทบขาดใจแต่ก็มีความสุข
ใครมีระบบแบบนี้ก็คงรู้สึกเหมือนเขา
หลี่เหิงนั่งพักที่สวนหลังบ้านหลังจากทำอาหารเย็นเสร็จ
คุณซุนถือพัดเดินยิ้มเข้ามาหาเขา
"หนุ่มน้อยแกเก่งมาก!"คุณซุนพูดชมหลี่เหิงด้วยน้ำเสียงที่แปลกไปจนคนอื่นๆแถวนั้นพากันมองด้วยความประหลาดใจ
ก็คุณซุนขึ้นชื่อเรื่องปากร้ายไม่เคยชมใครสักที
หลี่เหิงยิ้มแห้งๆ"อย่าแซวผมเลยครับผมเหนื่อยแทบแย่"
คุณซุนยิ้ม"ไม่กี่ปีมานี้ไม่ค่อยเห็นหนุ่มๆขยันแบบแกเลยเด็กรุ่นใหม่มันสบายกันเกินไปไม่ชอบลำบาก"
หลี่เหิงยิ้มเจื่อนๆใครบ้างล่ะที่อยากลำบาก?ถ้าสบายได้ใครๆก็อยากสบาย
"ผมไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับคุณตาชมเกินไป"
คุณซุนใช้พัดใบตาลตบไหล่หลี่เหิงเบาๆ"ตั้งใจทำงานนะหนุ่มน้อยอย่างน้อยก็ทำอาหารแบบนี้ทุกวันสุขภาพจะได้ดีเผื่อน้ำหนักจะลดลงบ้าง"
พูดจบคุณซุนก็ยิ้มแล้วเดินจากไป
คนอื่นๆมองตามคุณซุนด้วยความงุนงงเพราะไม่เคยเห็นคุณซุนใจดีกับใครแบบนี้มาก่อน
หลี่เหิงหน้าม่อยอารมณ์ดีๆหายไปหมด
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังเขาหันไปมองก็เห็นซองจดหมายวางอยู่บนเก้าอี้
หลี่เหิงหยิบซองจดหมายขึ้นมาดูมีข้อความเขียนว่า"หนุ่มน้อยนี่สำหรับแก!"
ให้เขาเหรอ?อะไรล่ะ?
หลี่เหิงเปิดซองดูข้างในมีเงินสดอยู่500หยวน!
ให้เขาจริงๆเหรอ?แต่เขาเป็นอาสาสมัครนะ...
"ช่างเถอะเก็บไว้ก่อนแล้วค่อยถามไป๋ลี่ฮวา"
หลี่เหิงเดาว่าไป๋ลี่ฮวาน่าจะเป็นลูกหลานเจ้าของบ้านพักคนชราแห่งนี้
หลี่เหิงเก็บซองจดหมายไว้ ลาคนอื่นๆแล้วก็ขับรถกลับบ้าน
เขาส่งข้อความไปถามไป๋ลี่ฮวาทันทีพอรู้ว่าเป็นเงินรางวัลจากคุณซุนก็โล่งใจ
แต่เขาก็อดรู้สึกอบอุ่นใจไม่ได้ที่คุณซุนเห็นความตั้งใจของเขา