ตอนที่ 753 งานแต่งงานแห่งศตวรรษที่ยิ่งใหญ่ และโรแมนติกที่สุดในโลก
“เรื่องแต่งงานก็มีปัญหาแค่เรื่องเงินใช่ไหมล่ะ? พี่เขยของพี่สาวไม่ขาดเงินอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินคำถามของ ซู หนิงซวง ซู หลิงเอ๋อร์ ก็พยักหน้า เธอไม่ได้รู้เรื่องนี้มากนัก
“พี่เขยไม่ใช่แค่จัดงานแต่งงานได้งานเดียวนะ ต่อให้จัดสิบครั้ง แปดครั้ง หรือแม้แต่ร้อยครั้ง ก็ยังถือว่าเล็กน้อยมาก”
หลังจากได้เห็นความฟุ่มเฟือยของพี่เขยมาหลายครั้ง ซู หลิงเอ๋อร์ ก็มีภาพรวมคร่าวๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของเขา
พี่เขยของเธอนั้นเป็นคนที่เรียกได้ว่า : บ้านมีแค่สี่กำแพง ‘ในบ้านไม่มีอะไรเลยนอกจากเงิน’
“ถ้างั้น ทำไมไม่จัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ไปเลยล่ะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เฉิน ก็ส่ายหัว เพราะสิ่งที่เธอคิดนั้นง่ายเกินไป
การแต่งงานมีเงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่ง และน่าเสียดายที่ในตอนนี้ เย่เฉิน และซู หนิงซวง ยังไม่สามารถผ่านเงื่อนไขเบื้องต้นนี้ได้
เย่เฉิน จึงพูดขึ้นว่า :
“หลิงเอ๋อร์ เธอน่าจะรู้ว่าการแต่งงานต้องจดทะเบียนสมรสใช่ไหม?”
“รู้สิ การจดทะเบียนสมรสมันง่ายมาก ไม่ได้ใช้เวลานานอะไรเลย”
ซู หลิงเอ๋อร์ ตอบพร้อมพยักหน้า
“แต่เธอรู้ไหมว่าการแต่งงานมีข้อจำกัดด้านอายุด้วย? อายุที่กฎหมายกำหนดไว้?”
“ข้อจำกัดด้านอายุ?”
ซู หลิงเอ๋อร์ ดูเหมือนจะเคยได้ยิน แต่ไม่ค่อยเข้าใจนัก
“อายุขั้นต่ำตามกฎหมายสำหรับการแต่งงานคือ ผู้ชายต้องอายุ 22 ปี และผู้หญิงต้องอายุ 20 ปี”
เย่เฉิน อธิบายต่อ
“พี่ยังไม่ถึงเกณฑ์ และหนิงซวง เองก็ต้องรอจนถึงวันเกิดของเธอถึงจะครบ 20 ปี”
ถึงแม้ เย่เฉิน จะมีฐานะ และสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎข้อนี้ได้
น่าเสียดายจริงๆ..
“โธ่...ผู้ชายต้อง 22 ปีเลยเหรอ?”
หลังจากรู้ข้อกำหนดนี้ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็อึ้งไป เพราะเธอไม่เคยคิดว่าการแต่งงานจะซับซ้อนขนาดนี้
“จริงๆ แล้ว เวลามันผ่านไปเร็วมาก แค่พริบตาก็ถึงแล้ว”
เย่เฉิน กล่าว
ในใจของ เย่เฉิน เขาเคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เขารู้ว่างานแต่งงานมีความหมายอย่างไรสำหรับผู้หญิง
สำหรับผู้หญิง งานแต่งงานอาจเป็นสิ่งที่โรแมนติกที่สุด เป็นสิ่งที่เธอคาดหวังที่สุด และเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน
เย่เฉิน ไม่อยากแต่งงานกับ หนิงซวง แบบง่ายๆ ธรรมดาๆ
ซึ่งเขาต้องการจะมอบงานแต่งงานแห่งศตวรรษที่ยิ่งใหญ่ และโรแมนติกที่สุดในโลกให้กับ หนิงซวง!
ไม่ใช่แค่นั้น แต่จะต้องไม่มีงานแต่งงานไหนเทียบได้!
เย่เฉิน จะทำให้ หนิงซวง เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลก
และเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเช่นกัน!
นี่คือสิ่งที่ เย่เฉิน ในฐานะผู้ชายควรทำ
หากไม่มีตัวช่วยจากเกม การจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นจนเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกแทบจะเป็นไปไม่ได้
แต่ปัญหาคือ เย่เฉิน มีตัวช่วยจากเกม และเขาสามารถทำสิ่งนี้ในอนาคตได้ภายในเวลาไม่นาน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมจะไม่ทำล่ะ?
เย่เฉิน มั่นใจว่าเขาจะไปถึงจุดนั้นได้
เมื่อถึงอายุที่กำหนด เขาจะรีบจดทะเบียนสมรสกับ หนิงซวง
จากนั้นก็จัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษที่เตรียมไว้เป็นอย่างดีทันที!
เวลาผ่านไปเร็วมากจริงๆ ตอนนี้ให้ เย่เฉิน ลองนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่ง หรือสองปีก่อน มันก็เหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
พอดีกับที่ถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขา พวกเขาทั้งสามคนจึงไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้ต่อ และพากันลงจากรถ
เนื่องจากอากาศวันนี้ร้อนเกินไป พวกเขาเที่ยวเล่นได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็ต้องกลับเข้าบ้าน เพราะโดนแดดเผาจนทนไม่ไหว
ที่บ้าน แม่ของ เย่เฉิน กำลังอยู่ในครัว และกำลังคิดอยู่ว่ามื้อเย็นวันนี้จะทำอะไรดี
ติ๊งต่อง!
เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น
แม่ของ เย่เฉิน เดินออกไปเปิดประตู และพบว่าเป็น หลิน เยว่เจวียน เพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน
เนื่องจากเป็นเพื่อนบ้าน และอายุใกล้เคียงกัน นับตั้งแต่รู้จักกันมา แม่ของ เย่เฉิน และหลิน เยว่เจวียน ก็มักจะไปมาหาสู่กัน
“เสี่ยวเฉิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เมื่อเห็น เย่เฉิน ในห้องนั่งเล่น หลิน เยว่เจวียน ก็ถามด้วยความแปลกใจ
“เพิ่งกลับมาพร้อมแฟนไม่นานมานี่เองครับ”
เย่เฉิน ตอบอย่างสุภาพ
แม่ของ เย่เฉิน เชิญ หลิน เยว่เจวียน นั่งลง
ทันทีที่ หลิน เยว่เจวียน นั่ง เธอก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เธอเปิดรูปภาพรูปหนึ่ง และยื่นให้แม่ของ เย่เฉิน ดู
“นี่คือ ‘ตี้หวังเฟย(帝王妃)’ ที่ลูกชายฉันซื้อมาให้ สวยไหมคะ? ต้นนี้ต้นละสองแสนเลยนะ”
หลิน เยว่เจวียน พูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวด
ทั้งสองคนชอบดอกไม้เหมือนกัน และเพราะไปมาหาสู่กันบ่อย ต่างก็รู้ว่าต่างฝ่ายปลูกอะไรบ้าง
ดอกไม้ที่แม่ของ เย่เฉิน ปลูก ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ธรรมดาๆ ที่ขนมาจากบ้านเก่า ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีมูลค่านัก
เรื่องนี้ทำให้ หลิน เยว่เจวียน รู้สึกดูถูกอยู่ในใจ แต่ก็ภูมิใจในดอกไม้ของตัวเองที่ต้นหนึ่งราคาหลายหมื่น บางต้นสูงถึงหลักแสนด้วยซ้ำ
แม้ว่าพื้นที่คฤหาสน์ของพวกเขาจะไม่ใหญ่เท่ากับครอบครัวของ เย่เฉิน แต่มูลค่าของดอกไม้ของพวกเขานั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวของ เย่เฉิน สามารถเทียบได้เลย
ดังนั้นทุกครั้งที่มา หลิน เยว่เจวียน จึงไม่ลืมที่จะอวดดอกไม้ราคาแพงของตัวเองให้แม่ของ เย่เฉิน ดู
“สวยดีนะ”
แม่ของ เย่เฉิน มองดูแวบหนึ่งแล้วตอบแบบส่งๆ
“ว่าแต่คุณมีดอกไม้ใหม่ๆ มาปลูกบ้างไหมช่วงนี้?”
หลิน เยว่เจวียน ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“จริงๆ แล้วลูกชายฉันเพิ่งให้คนส่งมาให้ฉันไม่กี่ต้น”
แม่ของ เย่เฉิน พยักหน้าแล้วพา หลิน เยว่เจวียน ไปยังระเบียงที่เธอปลูกดอกไม้ไว้
“ต้นนี้คือต้น ต้าถังเฟิ่งอวี่ ที่ลูกชายฉันเพิ่งส่งมาให้เมื่อสองสามวันก่อน”
แม่ของ เย่เฉิน ชี้ไปที่ต้น ต้าถังเฟิ่งอวี่ แล้วอธิบาย
“ว้าว...กล้วยไม้ต้นนี้ของคุณสวยมากเลย ดูเหมือนจะดีกว่าต้นของฉันอีกนะ”
หลิน เยว่เจวียน อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็น ต้าถังเฟิ่งอวี่ ที่กำลังเบ่งบาน
พูดจบเธอก็รู้สึกเสียใจ เพราะเผลอพูดผิดไป
“ถึงจะสวย แต่ราคาคงไม่แพงเท่าต้นของฉันแน่”
หลิน เยว่เจวียน พูดเสริมอีกประโยคหนึ่งเพื่อรักษาหน้า
“ว่าแต่ต้น ต้าถังเฟิ่งอวี่ นี้ซื้อมาเท่าไหร่เหรอ? ฉันจะได้ซื้อมาปลูกบ้าง”
หลิน เยว่เจวียน ไม่อยากแพ้แม่ของ เย่เฉิน
“ราคาเท่าไหร่ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
แม่ของ เย่เฉิน ส่ายหน้า ก่อนจะเรียก เย่เฉิน เข้ามา
“มีอะไรเหรอครับ แม่?”
เย่เฉิน ถามกลับ
“เสี่ยวเฉิน ป้าหลิน อยากรู้ว่าต้น ต้าถังเฟิ่งอวี่ นี้ราคาเท่าไหร่”
แม่ของ เย่เฉิน อธิบาย
เมื่อได้ยินแม่ของเขาเรียก เย่เฉิน ก็วางโทรศัพท์ลงแล้วเดินเข้ามา