ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
"หลี่เหิง คุณสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะครับ"
เสียงเรียบๆ ของหมอยังคงก้องอยู่ในหัว ขณะที่หลี่เหิง ชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าๆ ก้าวเท้าออกจากประตูโรงพยาบาลสุดหรู
เขาเพิ่งรอดตายจากการทำงานหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันเจ็ดวันเจ็ดคืน เพราะเจ้านายจอมโหดสั่งงานแบบไร้มนุษยธรรม!
"ฉันไม่ทนอีกต่อไปแล้ว!" หลี่เหิงกัดฟันกรอด ก่อนจะคว้ามือถือขึ้นมา กดโทรหา "เจ้าปาปิ" ทันที
เสียงรอสายดังขึ้นไม่นาน ปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
"ได้ยินว่าแกออกจากโรงพยาบาลแล้วนี่ รีบมาทำงานซะ! โปรเจคต์หลิวเฉิงรอแกอยู่ รู้ไหมว่าที่แกน็อคไปเนี่ย งานมันช้าไปแค่ไหน? รีบมาเคลียร์งานให้เสร็จไวๆ ถ้าปิดจ๊อบได้ มีโบนัสพิเศษให้ด้วย"
เจ้าปาปิพูดจาหวานล้อมราวกับเป็นห่วงเป็นใย แต่หลี่เหิงทำงานที่นี่มาห้าปี รู้ไส้รู้พุงเจ้านายดีกว่าใคร
ไอ้คนนี้มันปีศาจชัดๆ! คอยแต่จะสูบเลือดเนื้อพนักงาน ห้ามเชื่อคำพูดมันเด็ดขาด!
ยิ้มหวานๆ นั่นน่ะเหรอ? มีมีดซ่อนอยู่ในรอยยิ้มทั้งนั้นแหละ!
เพิ่งฟื้นจากความตายแท้ๆ ยังไม่ทันถามไถ่ กลับเร่งให้มาทำงานอีก มนุษยธรรมอยู่ตรงไหน?!
"ไปตายซะเถอะ เจ้าปาปิ! ฉันลาออก!"
หลี่เหิงสุดจะทน ภาพวันคืนที่ตรากตรำทำงานหนัก ผุดขึ้นมาในหัว น้ำตาแทบพุ่ง เขาตะโกนลั่นใส่โทรศัพท์สุดเสียง
"#@……."
เสียงสบถดังลั่น
"หลี่เหิง แกเป็นบ้าอะไร?!" เจ้าปาปิตกใจกับปฏิกิริยาของหลี่เหิง
"เออ! กูเป็นบ้าแล้ว! ไปลงนรกซะมึง..."
เสียงด่าทอดังต่อเนื่อง
ไม่รอให้เจ้าปาปิได้ตอบโต้ หลี่เหิงก็ตัดสายทิ้ง บล็อกเบอร์ทันที
เจ้าปาปิหน้าเหวอ มองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย หน้าเขียวหน้าแดง โกรธจนควันออกหู รีบโทรกลับหาหลี่เหิง แต่เจอแต่เสียงตอบรับว่า "หมายเลขที่ท่านเรียก..." รู้ตัวทันทีว่าโดนบล็อก!
เจ้าปาปิเดือดจัด อาละวาดลั่นออฟฟิศ
"ได้! ทำได้งามหน้ามาก! ทนมาห้าปี สุดท้ายก็กล้าด่ากู สะใจมึงล่ะสิ!"
-
หลี่เหิงเงยหน้ามองฟ้า ดวงตาเป็นประกาย ความรู้สึกโล่งใจ ราวกับบปลดปล่อยพันธนาการในใจ
เขาก้าวเท้าอย่างเบาหวิว ราวกับไร้น้ำหนัก จนกระทั่งถึงบ้าน ความรู้สึกสงบจึงกลับคืนมา แต่ก็อดหม่นหมองไม่ได้
ตอนนี้สะใจแล้ว ต่อไปคงตกงานแน่ๆ
ทันใดนั้น ข้อความจากกลุ่มไลน์บริษัทก็เด้งขึ้นมา เจ้าปาปิประกาศไล่เขาออกแล้ว!
หลี่เหิงแสยะยิ้ม
ช่างหัวมัน! ไล่ออกก็ไล่ออก ยังไงก็ไม่ทำแล้ว!
ห้าปีที่ผ่านมา เขาเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ
งานหนักไม่รู้จักจบจักสิ้น OT ไม่เว้นวันหยุด ค่าคอมมิชชั่นก็น้อยนิด
ที่สำคัญ เขาเพิ่งเฉียดตายมาหยกๆ ทำให้เข้าใจคุณค่าของชีวิตมากขึ้น
ลาออก! ไปให้พ้นๆ ทั้งงานทั้งเจ้านาย!
เขายังจำได้ดี ตอนที่หมดสติ เหมือนเห็นร่างตัวเองนอนแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะทำงาน ถ้าเพื่อนร่วมงานไม่มาเจอเข้า ส่งโรงพยาบาลทัน คงตายไปแล้ว
นึกถึงภาพนั้นทีไร ขนลุกทุกที!
คนที่เคยเฉียดตาย ย่อมกลัวความตายยิ่งกว่าใคร!
"ไล่ฉันออกงั้นเหรอ? เจ้าปาปิ! เตรียมจ่ายค่าชดเชยให้ฉันหนักๆ เลย!"
หลังจากลาออกจากงาน หลี่เหิงก็ลากสังขารอันบอบช้ำไปที่บริษัทครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อทวงถามค่าชดเชยที่ควรจะได้รับ แต่ก็ไร้ผล! เขาไม่แม้แต่จะได้พบหน้าเจ้าปาปิ เจ้านายจอมโหด แถมสุดท้ายยังโดนยามกีดกันไม่ให้เข้าบริษัทอีกต่างหาก!
หลี่เหิงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า! เขาไม่ยอมถูกเอาเปรียบแบบนี้แน่! รีบรุดไปร้องเรียนที่สำนักงานแรงงานทันที
เวลาผ่านไปครึ่งเดือน อาการป่วยของหลี่เหิงก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ร่างกายยังคงอ่อนล้า เดินไม่กี่ก้าวก็หอบแฮกๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาทำงานหนัก เครียดสะสม จนติดนิสัยกินไม่เลือก น้ำหนักตัวพุ่งพรวดเกินมาตรฐานไปมาก
ตอนนี้ เขาขอพักงานยาวๆ ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงก่อน ค่อยคิดเรื่องงานใหม่
เพราะสุขภาพที่ดี คือรากฐานของชีวิต! ถ้าร่างกายพัง จะเอาแรงที่ไหนไปสู้ชีวิต?
เขาไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ไม่อยากมีชีวิตที่ไร้ค่า!
ไม่นานนัก สำนักงานแรงงานก็ติดต่อมา นัดหมายให้เขาเข้าร่วมไกล่เกลี่ยกับเจ้าปาปิ
บนโต๊ะเจรจา หลี่เหิงงัดหลักฐานทุกอย่างที่มีออกมาสู้สุดใจ ไม่ยอมลดละแม้แต่น้อย จนในที่สุด ฝ่ายบริษัทก็จนมุม ยอมจ่ายค่าชดเชยให้เขา 20,000 หยวน!
หลี่เหิงรับเงินมากอดไว้แน่น หัวใจพองโตด้วยความโล่งใจ เมื่อเห็นยอดเงินในบัญชีเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 หยวน
เงินเก็บก้อนนี้ คือหลักประกันความมั่นคงในชีวิต! ถึงจะไม่ได้มากมายอะไร แต่มันก็ทำให้เขามีเวลาพักผ่อน หายใจหายคอได้คล่องขึ้น ไม่ต้องรีบร้อนหางานใหม่
เช้าวันต่อมา 6 โมงครึ่ง หลี่เหิงยืนจ้องเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ชายร่างอ้วนฉุ น้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม คิ้วขมวดมุ่น
ห้าปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่ได้พักผ่อน วันๆ เอาแต่ทำงานล่วงเวลา เงินเดือนเริ่มต้นแค่ 3,000 หยวน กว่าจะขึ้นมาได้ 7,000 กว่าหยวน ก็เล่นเอาแทบตาย หักค่าผ่อนบ้านไป 5,000 หยวน เหลือเงินติดกระเป๋าแทบจะนับเหรียญ กว่าจะเก็บเงินได้ 20,000 หยวน ต้องอดออมอย่างหนัก
ผลพวงจากการทำงานหนัก ทำให้เขากินเยอะ น้ำหนักขึ้น นอนน้อย โทรมกว่าคนวัยเดียวกันมาก
ดวงตาของเขาดูอ่อนล้า หมองคล้ำ ไร้ประกาย
"ที่ฉันล้มป่วยคราวก่อน ก็เพราะอ้วนเกินไปนี่แหละ"
"เอาล่ะ! ถึงเวลาลดน้ำหนักแล้ว!" หลี่เหิงพูดกับตัวเองในกระจกอย่างมุ่งมั่น
"ฮึบ!"
"ไปวิ่งกันเลย!"
หลี่เหิงกำหมัดแน่น หันหลังกลับ เดินออกจากห้องไป
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า สาดส่องทั่วท้องฟ้า อากาศสดชื่นแจ่มใส
หลังจากวอร์มร่างกายเรียบร้อยแล้ว เขาก็เริ่มวิ่งเหยาะๆ ไปตามทางเท้า
ด้วยส่วนสูง 175 เซนติเมตร น้ำหนัก 110 กิโลกรัม วิ่งไปได้แค่ 5 นาที หลี่เหิงก็เหงื่อท่วมตัว หอบแฮกๆ
"ไม่เป็นไร! อีกสัก 5 นาทีละกัน!" เขาบอกกับตัวเอง
หลี่เหิงกัดฟัน สู้กับความเหนื่อยล้า วิ่งต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
5 นาทีสั้นๆ แต่เหมือนยาวนานเป็นชั่วโมง! ในที่สุด เขาก็วิ่งครบตามเป้าหมาย ร่างกายอ่อนล้า ทรุดลงกับพื้น หอบหายใจแรง เหมือนเครื่องจักรเก่าๆ ที่กำลังจะพัง
ปอดเหมือนไฟลุก หัวหมุน เขาต้องเดินพักอีกครึ่งชั่วโมง กว่าจะหายใจได้เป็นปกติ
หลี่เหิงทรุดตัวลงนั่งพักริมทาง มองรถราที่วิ่งผ่านไปมา ฟังเสียงผู้คนรอบข้าง รู้สึกสงบและผ่อนคลายอย่างประหลาด
การวิ่ง ทำให้ร่างกายของเขาเบาขึ้น ปลุกพลังในร่างกายให้กลับมา ความหดหู่ในใจหายไปจนหมดสิ้น เหลือแต่ความรู้สึกภูมิใจในตัวเอง
หลังจากพักไป 10 นาที เขาก็ลุกขึ้น เตรียมตัวกลับบ้าน
ทันใดนั้น! เสียงประหลาดก็ดังขึ้นในหัว!
เขาชะงัก มองซ้ายมองขวา มีแต่รถราวิ่งผ่าน ไม่มีคนเดินเท้าสักคน
ขณะที่เขากำลังงุนงง เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง...