บทที่ 403 กลับบ้าน
บทที่ 403 กลับบ้าน
“พอแล้ว แบกมาถึงตรงนี้ก็พอเถอะ ตอนนี้ขาฉันหายชาแล้ว” เจียงลู่ซีกล่าว
จากศาลาเดินไปตามทางเลียบแม่น้ำยังมีคนไม่มากนัก แต่บริเวณที่จอดรถกลับเต็มไปด้วยผู้คน
เจียงลู่ซีรู้สึกอาย หากมีคนเห็นเธอถูกแบก เธอคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และที่สำคัญ ขาเธอก็ไม่ได้ชาแล้ว
“เขาว่ากันว่า เมื่อจะช่วยพระก็ต้องส่งให้ถึงวัด ระยะทางแค่นี้จะหยุดกลางทางได้ยังไง” เฉินเฉิงพูดพร้อมขยับอุ้มขาของเธอให้มั่นคงขึ้น
“ฉันไม่ใช่พระนะ! วางฉันลงตรงนี้เลย” เจียงลู่ซีพูดพลางมองไปยังบริเวณที่จอดรถซึ่งมีคนอยู่ไม่น้อย
“ในใจฉัน เธอคือพระของฉัน” เฉินเฉิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม และไม่ได้วางเธอลง แต่เร่งความเร็วแทน
การเร่งจังหวะของเขาทำให้เจียงลู่ซีร้องอุทาน มือที่เคยโอบคอเขาไว้หลวม ๆ ก็กลับรัดแน่นขึ้น
“ครั้งหน้าไม่มีทางให้เธอแบกอีกแล้ว!” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงทั้งเขินทั้งโมโห
“ใกล้ถึงแล้ว” เฉินเฉิงตอบ
เมื่อเดินมาถึงที่จอดรถ ซึ่งมีผู้คนมากมายอยู่รอบ ๆ เจียงลู่ซียิ่งรู้สึกอายมากขึ้น เธอจึงซบหน้าลงกับหลังของเขา เพื่อไม่ให้ใครเห็นหน้าเธอ
แต่ความอายของเธอยังคงเผยให้เห็นผ่านใบหูเล็ก ๆ ที่แดงก่ำ
เฉินเฉิงแบกเธอมาถึงรถ ก่อนจะค่อย ๆ วางเธอลง เขามองดูเธอที่ยังคงหลับตาปี๋ พลางพูดติดตลก
“ถึงแล้ว ลงได้แล้ว”
เจียงลู่ซีลืมตาขึ้น ก่อนจะจ้องมองเขาด้วยสายตาดุ จากนั้นเปิดประตูรถและเข้าไปนั่ง
เมื่อเฉินเฉิงเข้ามานั่งฝั่งคนขับ เขาก็ช่วยคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ
“ฉันทำเองก็ได้” เจียงลู่ซีกล่าวเมื่อเขาหยิบเข็มขัดจากมือของเธอไป
แต่เฉินเฉิงไม่ได้ตอบอะไร เพียงคาดเข็มขัดให้เธอจนเรียบร้อย ก่อนจะคาดเข็มขัดของตัวเองและเริ่มขับรถกลับบ้าน
ไม่กี่นาทีหลังจากออกเดินทาง ฝนก็เริ่มตกลงมาอย่างหนัก
“ดีนะที่เมื่อกี้ฉันไม่ปล่อยให้เธอเดินเอง ไม่งั้นตอนนี้พวกเราคงเปียกโชกไปแล้ว” เฉินเฉิงพูดพร้อมเปิดที่ปัดน้ำฝน
เจียงลู่ซีไม่มีคำตอบโต้ เพราะเธอเองก็รู้ว่าฝนตกเร็วและหนักมาก หากเดินเองคงเปียกไปแล้ว
“ยังไงวันนี้ก็เป็นกรณีพิเศษ ครั้งหน้าจะไม่ให้เธอแบกอีกแน่นอน” เธอกล่าว
เฉินเฉิงยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไร เขาคิดถึงครั้งแรกที่จับมือเธอและเธอเคยบอกว่าจะไม่มีวันให้จับอีก แต่ทุกวันนี้เขาจับมือเธอได้ตลอด
ระยะทางจากท่าเรือเลียบแม่น้ำเฉียนถังถึงบ้านค่อนข้างไกล ประกอบกับฝนตกหนักและการจราจรช่วงเย็น ทำให้กว่าจะถึงบ้านก็เป็นเวลาสามทุ่ม
หลังจากขับรถเข้าที่จอดรถใต้ดิน ซึ่งแทบไม่มีที่ว่างเหลืออยู่ เฉินเฉิงจอดในช่องว่างที่ทั้งสองด้านมีรถจอดอยู่ ทำให้การจอดค่อนข้างยาก
เจียงลู่ซีมองแล้วพูดขึ้น
“รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวฉันลงไปช่วยดูทางให้”
แม้เธอจะขับรถไม่เป็น แต่ก็รู้ว่าการจอดรถในช่องนี้ค่อนข้างลำบาก
แต่เฉินเฉิงที่มีประสบการณ์ขับรถมาก่อนหน้านี้ไม่คิดว่ามันจะยากอะไร เขาจึงจอดรถได้อย่างง่ายดาย
เมื่อจอดเสร็จ เฉินเฉิงเดินมาหาเธอพร้อมยิ้มและบีบแก้มของเธอเบา ๆ
“ไปเถอะ เจ้าผู้บังคับการตัวน้อย”
เจียงลู่ซีจ้องเขาด้วยความไม่พอใจ
“ทำได้อยู่แล้ว ยังให้ฉันลงไปช่วยอีก”
“ฉันไม่เคยขอให้เธอช่วยนะ” เฉินเฉิงตอบพร้อมหัวเราะ
“พูดแบบนี้อีกแล้ว” เจียงลู่ซีตอบพร้อมพองแก้มด้วยความโมโห
เฉินเฉิงยิ้ม ก่อนจะบีบแก้มเธออีกครั้ง
“ครั้งหน้าเธอต้องช่วยนะ ถ้าที่จอดรถมีคนเยอะ การช่วยดูจะปลอดภัยกว่า”
แม้เธอจะทำเสียงฮึดฮัด แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของเขา
“ดึกป่านนี้แล้ว พวกเราคงต้องไปหาอะไรกินง่าย ๆ ข้างนอกแทนจะดีกว่า” เฉินเฉิงพูดขณะที่มองดูเวลา
“ไม่ต้องไปถึงร้านอาหารใหญ่ ๆ หรอก แค่ร้านริมทางแถวนี้ก็น่าจะพอ”
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสามทุ่มครึ่ง หากให้เจียงลู่ซีกลับมาทำอาหารเอง น่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 โมงกว่าจะทำเสร็จ กินข้าว ล้างจาน และยังต้องอาบน้ำอีก คงไม่ได้นอนก่อนเที่ยงคืนแน่
“ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าไม่ไปกินข้างนอกไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่จะเปลี่ยนคำพูดหรือไง?” เจียงลู่ซีถาม
“ฉันไม่ได้เปลี่ยนคำพูด แต่ฉันไม่อยากให้เธอลำบาก” เฉินเฉิงอธิบาย
“เธอให้ฉันหนุนตักนอนตั้งหลายชั่วโมง แค่นั้นก็เหนื่อยพอแล้ว ไม่ต้องมาลำบากทำอาหารอีกหรอก”
เจียงลู่ซีส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร ฉันไม่เหนื่อย อีกอย่างพรุ่งนี้ฝนตกทั้งวันอยู่แล้ว ถ้านอนดึกหน่อยก็ไม่เป็นไร”
“ทำไมฝนตกแล้วถึงออกไปไม่ได้?” เฉินเฉิงถามด้วยความสงสัย
เจียงลู่ซีจ้องมองเขา เหมือนจะเข้าใจความแกล้งซื่อของเขา เธออยากจะบีบแก้มเขาเหมือนที่เขาทำกับเธอเมื่อครู่ แต่ก็ไม่ได้ทำ
“ฝนตกอากาศเย็น ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้าหนา ๆ มาด้วย จะหนาวจนเป็นหวัด” เธอตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
เฉินเฉิงฟังแล้วหัวเราะเบา ๆ จับมือเธอแล้วพาขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักบนชั้น 31
เมื่อถึงห้อง เจียงลู่ซีเปิดประตูเข้าไป เฉินเฉิงเดินไปเปิดไฟในบ้าน และขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าครัว เฉินเฉิงก็พูดขึ้น
“เพิ่งกลับถึงบ้าน พักก่อนเถอะ ค่อยทำอาหาร”
“ตอนอยู่ในรถฉันพักมาแล้วหลายชั่วโมง ไม่เหนื่อยเลย” เธอกล่าวพร้อมเดินเข้าครัวไป
แต่ไม่ทันไร เธอก็เดินออกมาอีกครั้ง เมื่อสังเกตว่าชุดกระโปรงยาวสีขาวที่ใส่อยู่อาจเลอะง่ายแม้จะสวมผ้ากันเปื้อน
เธอจึงกลับเข้าห้องนอนเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์คู่เดิม ก่อนจะกลับมาสวมผ้ากันเปื้อนและเดินเข้าครัวใหม่
เธอเปิดตู้เย็นเพื่อตรวจดูวัตถุดิบ แต่พบว่าในตู้เย็นเหลือเพียงแค่ผักกาดขาวครึ่งหัว
“ของในตู้เย็นหมดแล้ว ฉันจะออกไปซื้อผักเพิ่ม” เจียงลู่ซีกล่าวพร้อมหยิบร่ม
เฉินเฉิงเห็นดังนั้นจึงหยุดเธอ
“จะไปทำไม ตอนนี้ดึกแล้ว ไม่มีร้านไหนเปิดหรอก”
“แล้วจะทำยังไง? ฉันไม่อยากกินอาหารข้างนอก มันแพงเกินไป” เจียงลู่ซีตอบ
เฉินเฉิงถอนหายใจ ก่อนเปิดตู้เย็นแล้วมองดูผักกาดขาว
“เรายังมีผักกาดขาวอยู่ เอาแบบนี้ ฉันจะลงไปซื้อบะหมี่ที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างมาทำซุปบะหมี่ผักกาดขาว กินง่าย ๆ”
“จะกินแค่นี้เหรอ? มันดูเรียบง่ายเกินไป เธอจะกินได้เหรอ?” เจียงลู่ซีถามด้วยความกังวล
“ฉันกินได้ ถ้าเธอกินได้ ฉันก็กินได้” เฉินเฉิงตอบ
เขาหยิบร่มแล้วเดินลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ขณะนั้นเจียงลู่ซียืนมองตามเขา พร้อมยิ้มบาง ๆ